ผอม เด็ก ดูดี ตอน กินเพื่อผอม
ผอม เด็ก ดูดี ตอน กินเพื่อผอม
ก่อนจะเริ่มต้น ผอม-เด็ก-ดูดี เริ่มต้นที่สมอง ตอน : กินเพื่อผอม ผมอยากจะทบทวนความจำเกี่ยวกับอาหารแต่ละหมู่ที่ร่างกายหรือเพื่อนตายควรได้รับในแต่ละวันอีกครั้ง ก็อย่างที่รู้ๆ อาหารของมวลมนุษยชาติแบ่งออกเป็น 5 หมู่หลักๆ คือ โปรตีน-คาร์โบไฮเดรต-วิตามิน-เกลือแร่-ไขมัน….นกแก้วนกขุนทองก็ขับขานไปตามเรื่อง….ไอ้ฉิบหายท่องเป็นสูตรคูณแต่ไม่เข้าใจ-เข้าถึงเลยสักนิด ไม่เอา ยกเลิกความรู้ที่ไม่นำพาพวกนี้ให้หมด
ครับ….จากอาหารหลัก 5 หมู่ ผมจะแบ่งใหม่เป็น 2 กลุ่มหลักๆ เพื่อความสมดุลของร่างกายเทียบกับตาชั่งความยุติธรรมไปเลยชัดเจนกว่า…หาเรื่องเข้าคุกอีกแล้ว….อ้าวๆ วกมาที่อาหาร 2 กลุ่มนั้นก็คือ
- อาหารที่ให้พลังงานต่อร่างกายประกอบไปด้วย
1.1 คาร์โบไฮเดรต หรือข้าวแป้งน้ำตาล…เป็นต้น
1.2 โปรตีน ก็ประมาณเนื้อ-นม-ไข่…อันนี้เป็นเต้า
1.3 ไขมัน เฉพาะไขมันดีนะครับ เช่น น้ำมันมะพร้าว-น้ำมันมะกอก-ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ทุกชนิด…อันนี้เป็นตัว ๆ
- อาหารที่ไม่ให้พลังงานแต่ร่างกายขาดไม่ได้…ได้แก่
2.1 ผักใบเขียว
2.2 วิตามิน
2.3 เกลือแร่ กลุ่มนี้ไม่เป็นต้น ไม่เป็นเต้า และไม่เป็นตัว แต่มักจะปะปนมากับอาหารประเภทอื่น ก็ตลกบ้างบทความจะได้ไม่เครียด…เข้าใจนะครับ
คราวนี้มาขยายข้อมูลอาหารในกลุ่มที่ให้พลังงานเพื่อปูทางสู่เมนูอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้อกันสักหน่อย อาหารในกลุ่มให้พลังงานประกอบไปด้วย 3 กลุ่มตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ผมจะไล่ตั้งแต่กลุ่มที่ให้พลังงานสูง-เร็ว-เมื่อเข้าสู่ร่างกายสามารถกระตุ้นไอ้หนูอินซูลินทันทีแบบเสียบปุ๊บติดปั๊บ…นั้นก็คือ คาร์โบไฮเดรต ข้าว-แป้ง-น้ำตาล เมื่อรู้ว่าอาหารกลุ่มนี้ให้พลังงานเร็ว-แรง-สูง สูตรการกินเพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนก็ควรจะมีในมื้อเช้าหรือมื้อแรก เพราะเมื่อ ข้าว-แป้ง-น้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย กิจกรรมทั้งวันจะส่งต่อให้เพื่อนตายนำพลังงานไปใช้ได้หมดพอดี เพราะฉะนั้น สูตรการคำนวณหาค่า BMR ในตอนที่ 2 จึงสำคัญ
สำหรับมื้อที่ 2 เมื่อรู้เวลากิจกรรมเหลือน้อยลง ปริมาณการกินอาหารกลุ่มนี้จึงต้องลดลงตามกิจกรรมหรืองานนั้นๆ ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ผมเน้นหลายๆ ครั้งว่างานลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนของแต่ละคนขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะฉะนั้น คุณจะต้องออกแบบด้วยตัวเองเพื่อตัวเอง-ใช้สมองครับใช้สมองแล้วคุณจะผอม-เด็ก-ดูดี….แน่นอน
ต่อมาก็จะเป็นมื้อสุดท้าย เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลานอน เพราะฉะนั้น กลุ่มอาหารที่ให้พลังงานสูงจึงควรงด…แต่ยังสามารถกินอาหารในกลุ่มที่ให้พลังงานรองๆ ลงมานั้นก็คือ โปรตีน-ไขมันผนวกเข้ากับอาหารกลุ่มที่ไม่ให้พลังงาน….ผักใบเขียวจึงเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างเพอร์เฟคสำหรับคนรักสุขภาพ หนำซ้ำในผักใบเขียวยังมีวิตามินเกลือแร่สำคัญๆ มากมายที่ร่างกายต้องการนำไปปรุงแต่งส่วนต่างๆ ให้เพื่อนตายดูดีขึ้น มีน้ำมีนวลขึ้น ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว เอาไม่เอา…แต่หากสาวๆ หนุ่มๆ ท่านใดไม่ชอบรับประทานผักเป็นการส่วนตัว การเลือกซื้อวิตามินหรืออาหารเสริมสำเร็จรูปมาใช้กับมื้อเย็นจึงเป็นงานออกแบบหน้าตาอาหารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณได้เช่นกัน….ตามสะดวกเลยนะครับ
คราวนี้เรามาลงลึกที่หน้าตาอาหารในแต่ละมื้อกันบ้าง ก่อนอื่นผมจะยึดมาตรฐานหรือไลฟ์สไตล์ของคนส่วนใหญ่ดังนี้นะครับ
ตื่นนอน>>>มื้อแรกประมาณ 07.00 น.-08.00 น.>>>เริ่มทำงาน 08.00 น.-12.00 น.>>>มื้อที่ 2 หรือมื้อเที่ยง 12.00 น.-13.00 น.>>>ทำงานช่วงบ่าย เวลา 13.00 น.-17.00 น.>>>มื้อค่ำ 17.00 น.-20.00 น. มื้อค่ำหรือมื้อที่ 3 ผมอยากขอแบบนี้ครับ จะเริ่มกินกี่โมงก็ได้แต่ขอให้จบก่อน 20.00 น. หรือก่อนเข้านอนสัก 3 ชั่วโมง
โอเคร! เมื่อแผนที่ชีวิตในรอบ 1 วันของคนส่วนใหญ่เป็นดังที่กล่าวมา
มื้อเช้าหรือมื้อแรก คุณอยากกินอะไร…กิน ข้าวจะตามสูตรคาร์บต่ำก็ไม่ว่ากัน กับข้าวจะกี่อย่าง โปรตีน-ไขมัน-ผัก-ผัด-ทอด-นึ่ง-แกง-ปิ้ง-ย่าง-จัดไป ของหวาน-ผลไม้-น้ำอัดลม-กาแฟเย็น-กาแฟร้อนใส่ครีมใส่น้ำตาล-ขนมปัง-เค้ก-จัดให้ครบ แต่ แต่….ขอเน้นกรุณาอย่ายืดเยื้อ-กินทุกอย่างจบภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น Fasting ยาวๆ น้ำเปล่า-ชาเขียวไม่ใส่ครีมหรือน้ำตาล-น้ำมะนาว+น้ำอุ่น เท่านั้น เน้นต้องเท่านี้.
โอเคร!…เมื่อนาฬิกาบอกเวลาพักเที่ยง 12.00 น.-อาหารมื้อที่ 2 ใครกินคาร์บต่ำก็ตามกติกา แต่หากใครใช้สูตร IF ให้ลดปริมาณข้าว-แป้ง-เส้น-ลงครึ่งหนึ่งของมื้อแรกหรือมื้อเช้า อาหารหรือกับข้าวจัดให้อิ่ม-แต่น้ำหวาน-น้ำอัดลมนานาชนิด-ของหวาน-กาแฟเย็น-ชาไข่มุก ถือว่าขอร้อง…ไม่เชิงห้าม หากเกินห้ามใจเอาแค่จิบๆ พอนะครับ กาแฟเปลี่ยนเป็นกาแฟดำจะดีมาก ผลไม้รสหวานได้นิดหน่อย แต่กินให้จบภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น Fasting ด้วยน้ำเปล่า-ชาเขียวไม่ใส่ครีมหรือน้ำตาล-น้ำมะนาว+น้ำอุ่นตามระเบียบ
และมื้อสุดท้ายไม่ควรกินหลัง 20.00 น. แต่หากท่านใดกินได้เร็ว-จบเร็วก็จะยิ่งได้เปรียบ ใครเลือกกินคาร์บต่ำจัดไป แต่หากใครเลือกสูตร IF มื้อสุดท้ายถ้าไม่หิว ไม่ต้องกิน Fasting สนุกๆ เล่นเกมเพลินๆ ยาวๆ แต่หากทนไม่ไหว อาหารในกลุ่ม ข้าว-แป้ง-น้ำตาล ตัดทิ้ง โปรตีน-ผัก จิ้มจุ่ม หมูย่าง หมูกระทะ ปลานึ่ง น้ำพริก-ผักลวก จัดไปอย่าให้เสีย ของหวาน-น้ำหวาน-น้ำอัดลม ห้ามเด็ดขาด สำหรับใครที่มีความเชื่อโบราณ-เก่าคร่ำครึที่ว่า ผลไม้ไม่ทำให้อ้วน กรุณาอย่างแรง-แข็งขัน-ด่วนๆ ตัดความเชื่อบ้าๆ พวกนี้ออกจากสมองให้เร็ว-ให้ด่วนๆ….
“อีบ้า!….น้ำตาลจากผลไม้เรียกว่าน้ำตาลฟลุกโตสยะ! ไม่ทำให้อ้วนหรอก…” ยัยธนาคารดอกเบี้ยต่ำยืนเถียงฉอดๆ ที่เคาน์เตอร์ครัว แม่ง! จริงๆ ถ้าไม่ติดว่าตัวใหญ่กว่าจะตบให้คว่ำ….
“น้ำตาลไม่ว่าจะเป็น-กลูโคส-ฟรุกโตส-ซูโครส-จะโมเลกุลเดี่ยวหรือคู่ล้วนมีผลกระตุ้นไอ้หนูอินซูลินทั้งนั้น….ใจเย็นๆ มีเวลาฉันจะอธิบายในตอนต่อไปให้ได้อ่าน โอเคร!”
“จริงเหรอแก….”
“คิดดู…แกแดกผลไม้มื้อเย็นมากี่ปี น้ำหนักเคยลดไหม?….คิด คิด…แล้วตอบฉันมา….”
“เออ….ใช่ ใช่ มิน่าละ”
“ฟังต่อ….ฉันมีเกร็ดความรู้ดีๆ มาฝาก”
“โอเครๆ จ้าๆ”
ส่วนผลไม้ไม่หวานจำพวกฝรั่ง ชมพู่ ถึงวิตามิน C สูงแต่ปริมาณคาร์โบไฮเดรตก็น่าตกใจเช่นกัน……
“นี้…แก ฉันขอขัดจังหวะอีกหน่อย….แตงโมละแก….ฉันว่ามีแต่น้ำนะ…”
“น้ำหวานสิไม่ว่า….แตงโมนี้แหละตัวดี….ถึงคาร์โบไฮเดรตจะต่ำแต่กลูโคส-ฟรุกโตสพุ่งปี๊ด! ปรอดแตกเชียวละแกเอ้ย”
โอเครนะครับ…..สำหรับแอบเปิ้ล 1 ผลเท่ากับ 1 คาร์บพอกินได้ ถ้าเป็นแอบเปิ้ลเขียวดีกว่า…..
“แกๆ ขออีกข้อหนึ่ง” (บอกตรงอยากตบยัยชลิตาจริง ๆ….)
“หึ!…..”
“กล้วยละแก กล้วยหอมที่มีขายในร้านสะดวกซื้อกินได้ไหม”
“ข้อมูลกล้วยหอมคร่าวๆ นะ… 1 ใบให้น้ำตาล 10 g หรือ 2 ช้อนชา ถึงไฟเบอร์จะสูง แต่สำหรับมื้อก่อนนอนแกยังจะแดกลงไหมละ….”
“ฮู้! ตั้ง 2 ช้อนชาเลยเหรอ”
“ถ้าแกจะแดกกล้วยหอมให้เลือกเค้กสักก้อนเพลินกว่า….” ผมแดกดันบวกประชดอีก 50%
“เออวะ!…น่าคิด….”
“หา!….นั้นๆ แก แก จะไปไหน”
“ไปซื้อเค้กไง แกจะรับสักก้อนไหม”
“Stop Now!……Oh my god” กูขอกระแดะหน่อยเถอะ….
ครับผมเหนื่อยกับยัยช้างน้ำสีตาลไหม้จริงๆ สุดท้ายผมมีข้อคิดจากคุณหมอท่านหนึ่งมาฝาก อันนี้สำคัญอยากให้จำใส่สมองเลยนะครับ สั้นๆ ว่า—-“น้ำตาลทำให้แก่เร็ว-จบข่าว” และอีกอย่าง ถึงผัก-ผลไม้บางชนิดที่ไม่หวาน-ข้าวบางสายพันธุ์-จะไม่ทำให้อ้วน แต่ แต่ เน้นนะครับ… เมื่อไรที่กินพร้อมกับข้าวหรือคาร์โบไฮเดรตถึงจะมีปริมาณไม่มาก เมื่อทั้งหมดเข้าไปกองรวมกันในกระเพาะ คุณก็อย่าคิดนะว่าจะไม่ทำให้อ้วน เพราะฉะนั้นสูตรการกิน-ปริมาณ-ประเภท-ชนิดและ Timing จะต้องอิงกับค่า BMR ของแต่ละคนแต่ละท่านเป็นสำคัญ…
“แก ตกลงฉันกินเค้กได้ไหมอะ…..”
“กลับไปทำงานให้วุ่นเข้าไว้ สมองจะได้ลืมหิวโอเคร!…..”
“ตกลง…ได้ หรือ ไม่ได้”
“ไม่ได้โว้ย!…..”