ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่13

ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่13

เดทแรกในแวนคูเวอร์ 2 ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่13 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง

ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่13

รถไฟฟ้าจากเซอร์รี่เซ็นทัล (Surry Central) ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ดาวทาวน์ที่ละสถานี เมื่ออยู่เพียงลำพังในหัวของผมก็เกิดคำถามขึ้นมากมาย นางฟ้าตัวกลมกับเด็กหญิงวัย 12 จะย่างเข้า 13 ร่างป้อมๆ นุ่งผ้าซิ่นเก่าลายแดงดำที่คอยเช็ดขี้มูก เช็ดน้ำตาให้เด็กชายอายุน้อยกว่าตัวเองแค่ 4 ปีที่พ่อซึ่งเป็นนายฮ้อยซึ่งออกตระเวนหาซื้อควายแถบบ้านนาโพธิ์ได้นำมาฝากไว้กับเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าในตลาดซึ่งเป็นเพื่อนกับแม่จริงรึ

(บักหล่าคำแพงก้อนเท่าแคงเอื้อย บ่ต้องฮ่องไห่ดอก เดี๋ยวอีพ่อกะกลับมา) สำเนียงสาวเวียงจันทร์แหลมเล็กๆ ปลอบด้วยถ้อยคำที่ผมต้องร้องไห้ออกมาอีก 30 กว่าปียังก้องอยู่ในหัว และเป็น 30 กว่าปีที่เธอย้ายมาอยู่ประเทศแคนาดาพร้อมกับครอบครัว แม่ต้อยเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่จ้างเธอวันละ 20 บาทสมัยนั้น ก็ไปทำงานกับพี่สาวที่เมืองซิดนี่ย์ประเทศออสเตรเลีย เรื่องราวของพวกเราน่าจะจบตั้งแต่ปีฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2525 ไปแล้ว ซึ่งผมเองก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จนเข้าใจว่ามันสาบสูญชั่วนิรันดร แต่อยู่ๆ คำพูดประโยคเดิมก็หลุดออกมาจากปากของ “นางฟ้าตัวกลม” มันเป็นยิ่งกว่านิยายและตอกย้ำให้ผมมั่นใจมากขึ้นว่านางฟ้าตัวกลมกับเด็กหญิงในปี พ.ศ. 2525 เป็นคนๆเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย ครับผมนั่งคิดเรื่องนี้เพลินๆอยู่บนรถไฟฟ้าสายเอ็กโปร์ (Expo Line) ในแวนคูเวอร์ยังอดคิดไม่ได้ว่ามันนี้คือความจริงหรือความฝัน แต่เมื่อเสียงแจ้งเตือนผู้โดยสารเป็นภาษาอังกฤษบอกสถานีต่อไปคือ Metro town Station ก็ปลุกให้ผมตื่น ตอนแรกผมตั้งใจจะเฉลยเรื่องราวของเราทั้ง 3 โดยละเอียดในตอนสุดท้าย ซึ่งมันจะเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะส่งมอบให้นางฟ้าตัวกลมและแม่ต้อยเก็บไว้เป็นที่ระลึก เผื่อว่าเราทั้ง 3 คนจะต้องจากกันอีกในอนาคต

เดทแรกในแวนคูเวอร์ 2

คืนนี้ “แก๊บบี้” เพื่อนนางฟ้าตัวกลมอาสานำเที่ยวในดาวทาวน์ บาร์ ไนต์คลับ และชีวิตกลางคืน แสง สี เสียงของแวนคูเวอร์ เรานัดกันที่ร้านเฝออาหารเวียดนามเลย Metropolis Shopping Complexไป 3 บล็อก 3 ทุ่มในช่วงซัมเมอร์แสงสุดท้ายไม่ต่างจาก 4 โมงเย็นของกรุงเทพฯ เท่าไร จึงเป็นอีกสาเหตุที่ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือกลัวในเมืองใหญ่แม้จะมาเยือนเป็นครั้งแรกก็ตาม คุณจำเด็กมหาลัยโตเกียวที่ชื่อ “ฮิเดะ” ลูกชายคนเดียวของลูกค้าสมัยที่ผมยังทำงานอยู่เซ็นทรัลฯ ได้หรือเปล่าครับ จำได้ว่าผมเคยโพสต์เรื่องราวของเขาใน Facebook หลายครั้ง พ่อแม่ของฮิเดะเป็นคนญี่ปุ่นได้มอบหมายให้ทีมงานผมออกแบบและก่อสร้างโรงงานอาหารกระป๋องที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูฯ ปิดภาคเรียนพ่อแม่ของฮิเดะจะปล่อยให้เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกเพียงลำพัง เพื่อฝึกการใช้ชีวิต ช่วงที่ฮิเดะแวะมาประเทศไทยปรากฏว่า พ่อกับแม่ของเขาต้องบินกลับญี่ปุ่นด่วน บริษัทเลยมอบหมายให้ผมเป็นคนดูแลแทนตลอด 1 อาทิตย์ ภาษาอังกฤษของมันห่วยแตกมากๆ ภาษาอังกฤษของผมในเวลานั้นก็ห่วยแตกพอๆ กัน

คำถาม : “เราทั้งคู่จะคุยกันรู้เรื่องไหม ผมก็เหมาๆ ทุกภาษานั้นแหละครับ ทั้งมือ ทั้งเท้าเราสื่อสารกันได้หมด เราสนุกกันมากๆ บางครั้งแค่มองหน้าเราก็หัวเราะกันได้ Trip เกาะ พีพี ผมไม่มีวันลืมกับความโง่ของตัวเอง ครั้งนั้นเราเหมาเรื่อหางยาวเที่ยวรอบเกาะ ดำน้ำ ดูปลา ดูปะการังไปตามเรื่อง ช่วงหนึ่งขณะที่เราเดินเข้าไปในถ้ำนกนางแอ่นที่มีภาพเขียนรูปเรือสำเภาโบราณ ไอ้เราก็อุตส่าเตรียมเรื่องราวนี้ไปพรีเซ้นท์ซะเต็มที่ มันไม่ถามสักแอะ! แต่ดันชี้นิ้วขึ้นข้างบนที่มีลำไผ่มัดรวบแทนบันไดสำหรับปีนขึ้นไปเก็บรังนก…ผมนึกไม่ออก และพยายามนึกว่าไอ้รังนกภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร เลยตอบมันไปแบบสุ่มๆว่า “Home Bird” มันพยักหน้าเข้าใจ แล้วเราก็หัวเราะกัน เรื่องอาหารผมเห็นมันชอบน้ำซุปข้าวมันไก่ ผมก็สั่งให้มันกินได้ทุกวัน เออมึงแดกน้ำซุป เอาไก่กูมา มันไม่เบื่อ ผมมีรึจะเบื่อ…(แต่กูโคตรเบื่อเข็ดกับข้าวมันไก่ไปหลายเดือน) เราก็อยู่ด้วยกับแบบเนี่ยจนกระทั่งมันขึ้นเครื่องกลับญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษมันไม่ดีแต่มันก็เดินทางได้รอบโลก โดยอาศัยความกล้าและลูกบ้าเข้าช่วยและขณะที่ผมเดินลงมาจากสถานี Metro Town กำลังจะข้ามถนน ผมก็อดคิดความกล้าและลูกบ้าของไอ้ฮิเดะไม่ได้ ใช่ครับเวลานี้ผมคิดถึงมันมากๆ…มันอยู่รอดในนิวยอร์ก 2 อาทิตย์ ผมก็ต้องอยู่รอดในแวนคูเวอร์เพียงลำพังในคืนหนาวเช่นนี้ให้ได้เช่นกัน

ผมเดินผ่าน Metropolis Complex ไปอีกมุมถนนก็จะถึงร้านเฝอที่นัดกันไว้แล้ว หวังว่าโพสต์ต่อไปชีวิตยามค่ำคืนในแวนคูเวอร์จะทำให้คุณหลงใหล จนเผลอแดนซ์ตามนะครับ ตอนนี้ยาวไปอีกละ

ผม Timmy Buto รายงานบนถนนคิงส์เวย์ (Kings way ST.) มองเห็นร้านอาหารเวียดนามที่นัดแก๊บบี้ไว้ละ เวลาสำหรับเดทแรกก็เปะพอดี…เจอกัน ตอนที่ 14 “เดทแรกในแวนคูเวอร์ 3” สวัสดีครับ