ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่ 19

ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่19

Stanley Park 4 ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่19 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง

ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่19

เดือนธันวาคม 2525

เช้าวันเสาร์พ่อขับรถอีแต๋นพาผมไปหาซื้อควายเช่นเดิม คราวนี้เรากลับมาเยือนบ้านนาโพธิ์อีกครั้ง แต่หากนับตั้งแต่พ่อกลับมาจากประเทศซาอุดิอาระเบียก็ถือว่าหลายครั้งแล้ว เวลาลงทุ่งพ่อมักจะนำผมมาทิ้งไว้ในตลาด จนผมเริ่มคุ้นเคยกับร้านขายเสื้อผ้าของแม่ต้อยกับพี่สาวร่างป้อมๆ ที่เป็นพนักงานชื่อ “พี่หมอน” ซึ่งเวลานั้นผมเรียกเธอว่าเอื้อยหมอนเป็นอย่างดี

ตะวันใกล้จะค่ำแล้วพ่อก็ยังไม่กลับมารับ ผมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เอื้อยหมอนเร่งเก็บแผงเสื้อผ้าเข้าไปเก็บข้างใน หน้าบ้านยิ่งโล่งเท่าไรใจคอผมก็ไม่ค่อยดีเท่านั้น

“บักหล่าคำแพงก้อนเท่าแคงเอื้อย….อย่าวิ่งออกไปนอกถนนบ่อยหลาย เดี๋ยวอีพ่อก็กลับมาเองนั้นละ” เอื้อยหมอนตะโกนจากด้านในสุด กระนั้นผมก็ยังอดวิ่งออกไปส่องทางที่มุมโค้งของถนนสีแดงไม่ได้ “มานี้ มานี้ เอื้อยมีเรื่องจะบอก”

“อะไรครับ” เด็กชายวัยจะ 10 ขวบอีกไม่กี่วันถามแต่สายตาก็ยังไม่ละไปจากมุมโค้งนั้น

“มา มา มานั่งข้างๆ เอื้อย” เอื้อยหมอนดึงมือพร้อมกับฉุดให้นั่งหย่อนขาลงกับพื้นปูนหน้าร้านกับผิวทางเท้าที่ได้ระดับพอดี แดดสุดท้ายกำลังเร่งเฉดสีอำพันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ที่มุมโค้งของถนนก็ยังไม่ปรากฏรถอีแต๋นอย่างที่โหยหา

“เอื้อยมีเรื่องซิบอก” เธอพูดคำเดิมอีก ผมจึงหันไปสบสายตาเธอแวบเดียว แต่ก็ซึมซับความอาลัยอาวอนไว้ได้จนก่อความสงสัยขึ้นมาเงียบๆ แสงสุดท้ายสีอำพันเข้มขึ้นอีกระดับ แววตาอาลัยอาวอนเมื่อครู่ทำให้ผมหวนกลับไปสนใจเธอแบบจริงๆ จังๆ “บักหล่าคำแพงก้อนเท่าแคงเอื้อย ฟังดีๆ นะ…เดือนหน้าเอื้อยจะไปอยู่ประเทศแคนาดากับพ่อ” เธอบอกเสียงเบาต่ำ ผมตกภวังค์ ในหัวก็นึกถึงแผนที่โลกแปะไว้ข้างกระดานดำหน้าห้องเรียนแต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดี ว่า…

“ประเทศแคนาดาอยู่ที่ไหน” ผมถามซื่อๆ

“เอื้อยก็ไม่รู้…พี่วรกับพี่วันจะพาไป” เอื้อยหมอนพูด…. “มันน่าจะไกลแสนไกลจากที่นี้นั้นแหละ…พ่อบอกหน้าหนาวจะมีหิมะด้วย”

“หิมะคืออะไรอีกละ” ผมถามต่อ สายตากระหายใคร่รู้เร่งเร่า จนลืมรถอีแต๋นกับพ่อไปชั่วขณะ

“พ่อเอื้อยบอกคล้ายๆ น้ำแข็งใสที่บักหล่าชอบกินนั้นละ”

ผมสะดุ้งจนร่างกายที่นั่งเกือบชิดกระเด็นห่างจากเธอเกือบศอก “ฮู้….มันเยอะมากไหมหิมะนะ”

“เต็มถนน เต็มพื้น ขาวไปทั้งต้นไม้ ขาวไปทั้งภูเขาเลยละ” เธอบอกแบบคนคาดเดา

“ถ้าแบบนั้นเอื้อยหมอนคงจะอิ่มอร่อยมากๆ เลยนะ”

“เอื้อยจะเอาลูกชิด น้ำแดง และนมแมวไปด้วย”

“ฮู้…คือจะอร่อย อย่าลืมส่งกลับมาให้บักหล่าแน่เด้อ”

“ฮาๆ ฮาๆ ฮาๆ….ถ้าไม่ละลายซะก่อนนะ” เอื้อยหมอนหัวเราะรัวลั่น จนผมอดหัวเราะตามเธอไปไม่ได้อีกคน

แสงอำพันหมดไปแล้ว แสงนีออนสีขาวหยวกกล้วยเข้ามาแทนที่ ผมลืมมุมโค้งของถนนสีแดง ลืมเสียงรถอีแต๋นขณะที่เอื้อยหมอนพูดไม่หยุด “พ่อเปลี่ยนชื่อให้เอื้อยเป็นภาษาฝรั่งด้วยนะ…แกบอกว่าชื่อหมอนในภาษาฝรั่งมันเขียนยาก อ่านยาก ฝรั่งเรียกก็ยาก”

“เปลี่ยนเป็นชื่ออะไรจ๊ะหมอนนนนนนนน” อยู่ๆ แม่ต้อยไม่รู้มายืนฟังเราตั้งแต่เมื่อไร แต่เสียงแทรกแหลมๆของเธอแสบจนเอื้อยหมอนต้องยกมือขึ้นไปทาบหน้าอก “ฮาๆๆๆ ฮาๆๆ…”

“อู้ย ป้าตกใจหมด ขวัญเอ้ยขวัญมา”

“อะไรวะ! แค่นี้เอง….ว่าแต่พ่อเอ็งตั้งชื่อให้ว่าอะไร” แม่ต้อยตวาดแต่เธอก็นั่งข้างๆ แบบนี้ผมเลยกลายเป็นไส้แซนวิสไปโดยปริยาย

“พ่อตั้งชื่อเป็นภาษาฝรั่งให้ว่า โมน่า จ๊ะป้า”

“ฮาๆๆ ฮาๆๆ ต้าย ตาย โมน่า ฮาๆ ฮาๆ เออ…แต่น่ารักสมกับเอ็งดีเนาะ” แม่ต้อยหัวเราะไม่หยุด จนเรา 2 คนหันมามองหน้ากันก็เลยพลอยหัวเราะตามแกไปอีก

“โมนา…..” ผมทวน

“ไม่ใช่ๆ….โมน่า…คำสุดท้ายขึ้นเสียงสูงๆ….”

“โมน่า…ออกเสียงแบบใบหน้าไงบักทิมมี่น้อย” แม่ต้อยแนะ

“โมนา โมน๋า โมน่า โมน่า โมน่า ใช่ไหม” ผมทวนเบาๆ ก่อน

“ใช่….ออกเสียงแบบนั้นละ บักหล่าลองเรียกชื่อเอื้อยใหม่ซิ”

“โมน่า….โมน่า….โมน่า”

กลางเดือนกรกฎาคม 2560

สแตนเลย์ปาร์ค

สแตนเลย์ปาร์ค

ณ อุทยาน สแตนเลย์ปาร์ค เอื้อยหมอน โมน่า หรือนางฟ้าตัวกลมนั่งพักหลังจากจบอาหารกลางวัน เบื้องหลังคือสะพานสิงโต หรือ Lions Gate Bridge ผมมองครอบครัวของเธอด้วยหัวใจอิ่มสุข จนอดขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่ได้ เธอไม่ยิ้มเพราะเธอเหนื่อย เธอเหนื่อยแต่ผมก็รู้ว่าเธอมีความสุข เธอมีทุกสิ่งที่นี้และเธอเป็นทุกอย่างสำหรับที่นี้ ถึงจะเปลี่ยนชื่อเป็นโมน่า แต่ก็ยังเป็นนางฟ้าตัวกลมของผมมาโดยตลอด แม้แต่ช่วงเวลาที่หายไปกว่า 30 ปี ซึ่งเป็น 30 ปีที่ผมเข้าใจว่านางฟ้าตัวกลมได้หายจากชีวิตชั่วนิรันดร แต่สุดท้ายสวรรค์ก็ส่งเธอกลับมาหาผมอีก

“I love you Mona Thanks everything, you are my Big Angels” ผมขอบคุณเธอสำหรับทุกๆ สิ่ง และขอบคุณที่ไม่เคยลืม “บักหล่าคำแพง” ที่เป็นอดีตและ Timmy Buto ที่เป็นปัจจุบันและอนาคต ขอบคุณโมน่า

ครับ Stanley Park ก็จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว โพสต์ต่อไปผมจะขับรถพาทุกท่านไปดูงานก่อสร้างที่นี้ แล้วคุณจะอดแปลกใจว่าบ้านหลังใหญ่ๆ ที่เมืองไทยใช้เวลาก่อสร้างรวมงานตกแต่ง 1-2 ปีนั้น แต่ที่นี้ใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนเข้าอยู่ได้แบบสบายๆ เขาทำกันอย่างไร… เร็วๆ นี้ครับ

ผม Timmy Buto รายงานจากสะพาน Lions Gate Bridge อุทยานสแตนเลย์ปาร์ค แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ครับผม…บาย บาย

(Visited 83 times, 1 visits today)