อาคารที่ก่อสร้างด้วยไม้ ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่21 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่21
ในที่สุดนางฟ้าตาก-ลม เอ้ยยย!…ตา-กลม เอ้ยยย! ตัวกลม เอ้ยยย! ถูกแล้ว ก็ได้แต่ทำตากลมอยู่หลังพวงมาลัยตามระเบียบ นางไม่อนุญาตให้ผมลงไปเดินถนนอย่างที่ปรารถนาและตั้งใจมาที่นี้ตั้งแต่แรก กระนั้นนางก็เอาแต่บ่น บ่น บ่น และบ่นไม่หยุดปาก
“ถ้าปีหน้าเธอไม่ทำใบขับขี่สากลให้เรียบร้อย…ลงไปเดินถนนเลยนะ” ราวกับนางต้องการใช้สิ่งนี้แทนคาเฟอินในกาแฟ “ฉานง่วงนอนจังเลย”
นั้นไง นั้นไง…ชัว! เชื่อผมรึยังละ
“บักหล่าคำแพงก้อนเท่าแคงเอื้อย…..” นางฟ้าตัวกลมพูด
แต่ผมรู้ทันเลยสวนขึ้นดักหน้าซะก่อน “…..ขาทิมมี่ใหญ่ไหม”
“อีบ้า!……ฮาๆๆๆ ฉานเลยหายง่วงเลยเธอ” เธอหัวเราะจนหนำใจ “ขาฉานใหญ่ไหม”
(เล่นกูจนได้) ผมเครียดกับนางจริงๆ “OK OK…Sister you are Angel so Beautiful OK” วันนี้กูขอกระแดะให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ขณะที่สายตากับนิ้วกำลังตั้งระดับกล้องจากมือถือถ่ายรูปอาคารพาณิชย์ อาคารพักอาศัยที่กำลังก่อสร้างตลอด 2 ข้างทางอย่างกระหายใคร่รู้ ผมแปลกใจและพยายามจะเข้าใจเทคโนโลยีการก่อสร้างของประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรป่าไม้แห่งนี้ไปพร้อมกัน
“ป่าไม้ในประเทศแคนาดาส่วนใหญ่จะเป็นป่าสนนะเธอ ที่นี้ทำอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นเรื่องเป็นราว จะมีโควตาในการตัด ปลูก และดูแลครบวงจรเพื่อไม่ให้ป่าไม้หมด คนที่นี้เขาชอบต้นไม้มาก ” นางฟ้าตัวกลมพูดไปหาวไป “แต่ไม้สนเป็นไม้เนื้ออ่อน เขาจึงนำมาอัดขึ้นรูปเป็นแผ่น ใช้เป็นผนัง-พื้น-เสา-คาน เธอดูซินั้นนะ อาคาร 2 ชั้น 3 ชั้น หรือ 4 5 ชั้นของที่นี้ส่วนใหญ่จะทำด้วยไม้ทั้งนั้นเลยนะ เพราะค่าก่อสร้างถูกกว่าคอนกรีต ก่อสร้างได้เร็ว บ้านหลังใหญ่ๆก่อสร้างพร้อมตกแต่งภายในประมาณ 6-7 เดือนก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้แล้วนะเธอ” นางฟ้าตัวกลมอธิบายเร็วๆ “อ้ายยยย ฉานง่วง” …ผมจะหยุดให้นางขับรถสักพักนะครับ ถ้าง่วงจริงผมคงต้องเสี่ยงขับเองละงานนี้เป็นไงเป็นกัน
ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย 2 วัน น้องชายของนางฟ้าตัวกลมจากรัฐทางภาคเหนือของแคนาดามาเยี่ยมเราได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้แล้วยังอาสาขับรถพาผมตระเวนดูงานก่อสร้างรอบๆ แวนคูเวอร์จนสรุปได้ตามที่นางฟ้าพูดเอาไว้ไม่น่าจะผิด อาคารที่ก่อสร้างด้วยไม้ที่นี้ถูกกว่าอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างแน่นอนครับ โดยขบวนการก่อสร้าง งานโครงสร้างใต้ดินไม่แตกต่างจากประเทศไทยมากนัก ส่วนโครงสร้างหลักเสา-คานใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง ผนัง-พื้นเป็นไม้อัดขึ้นรูปแล้วฉีดพ่นคอนกรีตเหลวฉาบปูนเรียบทาสีทับ งาน Finish หรืองานตกแต่ง พื้นผิว-ผนัง-ฝ้าเพดานแทบจะไม่แตกต่างกัน
อาคารสูงที่อยู่บนโลกส่วนใหญ่จะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กและอาคารเหล็กเป็นหลัก ส่วนอาคารสูงที่ก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังนั้นมีอยู่หรือเปล่าและอยู่ที่ไหนกันบ้าง เท่าที่ผมรู้มา ก็มีอยู่หลายประเทศนะครับ แต่สำหรับตอนนี้ผมจะขอหยิบยกเฉพาะอาคารสูงก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังที่สูงที่สุดในโลก อันดับ 1 และอันดับ 2 พอเป็นข้อมูลเรียกน้ำย่อยเสริมให้หนังสือมีอะไรบ้างนิดหน่อยนะครับ เรียนรู้ไปพร้อมกันอย่างพึ่งเบื่อนะครับ…..
เริ่มจาก….อาคารสูงที่ก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังอันดับ 2 ของโลกได้แก่….แต่น แตน แต้น… “อาคาร Treet หรือ เทรเอต์ ที่แปลตรงตัวว่า “ต้นไม้” นั้นแหละครับ เป็นอาคาร 14 ชั้น สูง 52.8 เมตร ตั้งตระหง่านเหนือท่าเรือแบร์เกนในประเทศนอร์เวย์ อาคารมีโครงสร้างรับน้ำหนักจากไม้ประสานอัดกาว ผนังเป็นไม้แปรรูปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี CLT ครับผม ประมาณนี้ก่อนนะครับ
และอาคารก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังที่สูงที่สุดในโลกอันดับ 1 ได้แก่….แต่น แตน แต้น….อาคารจากโครงการของมหาวิทยาลัยยูบีซี ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา…..เย้ เย้….เป็นอาคาร 18 ชั้น สูง 53 เมตร ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 51.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จุดประสงค์เพื่อที่จะใช้เป็นที่พักสำหรับนักศึกษาประมาณ 404 คน พร้อมจัดให้เป็นสตูดิโอและพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยลัยนั้นเอง
เชื่อหรือยังละครับไม้และป่าไม้ทั่วทุกมุมโลก หากเราวางแผนดีๆ ควบคุมการตัดทำลาย เร่งฟื้นฟูส่วนรกร้างให้กลับไปเป็นป่า มันจะก่อประโยชน์มหาศาลเพียงใด ตรงข้ามหากเราเอาแต่กอบโกยเห็นประโยชน์ส่วนตัว ป่าไม้หมด เราก็ไม่สามารถอยู่ได้ คนไม่รอด สัตว์ไม่รอด คงเหลือทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ให้ความว่างเปล่าได้รำลึกก็เพียงแค่ “อะมีบาและพารามีเซียมเท่านั้นเอง” อาจจะเหลือปลวกและแมงสาบอย่างละตัวอะนะ…ปลวกเป็นตัวผู้ แมงสาบเป็นตัวเมีย ออกลูกมาเป็นกระต่ายฮิตเตอร์…แค่ขำๆ ใครไม่ขำทิมมี่ขอโทษนะครับ…
ในตอนนี้ผมต้องขอบอกเลยว่าภาพประกอบอาคารสูงทั้ง 2 แห่ง ผมไม่มีโอกาสไปถ่ายมาลงให้ดู ส่วนภาพในอินเตอร์เนตส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่มีลิขสิทธิ์ ผมจึงขอแนะสำหรับท่านที่สนใจใคร่รู้ค้นหาด้วยตัวเอง หากไม่ทราบกรุณาสอบถามที่ “ลุงกู (Google)” ท่านใจดีครับ ถามท่านได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ทุกสถานที่
OK กลับเข้าเรื่องอีกครั้ง นางฟ้าตัวกลมขอแวะร้านสะดวกซื้อที่ชื่อ “Everything 1 Dollar” หมายถึงของที่มีขายในร้านมีราคา 1 ดอลล่า คล้ายๆร้าน 20 บาททุกชิ้นของบ้านเรานั้นแหละครับ ผมเลือกซื้อลูกโลกพลาสติกสำหรับหลาน 3 คน ส่วนนางฟ้าตาก-ลมซื้อสติกเกอร์รูปการ์ตูนให้ลูกชายคนเล็ก 2-3 แผ่น แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่บ้านพ่อ-แม่เฮียจัส ท่านแก่มากแล้วไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร พอรถจอดหน้าบ้านสีอิฐครีมชั้นครึ่งหลังใหญ่ ผมก็ยกลังบลูเบอร์รี่ที่ได้มาจากฟาร์มพ่อไอ้เบ๊บ (ลังนี้ผมแอบขอพ่อไอ้เบ๊บ เขาใจดีครับ Confirm) เข้าไปยืนเคาะประตู ไม่นานชายสูงอายุก็เปิดประตูต้อนรับ ท่านใจดีมากๆ ครับ ผมวางบลูเบอร์รี่ไว้ในครัวและขอตัวเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ ก่อนจะกลับมาจับมือทักทายท่านอย่างเป็นทางการ แม่ของเฮียจัสก็ใจดีพอๆกัน ท่านทั้ง 2 ใคร่รู้เรื่องราวของประเทศไทยเอามากๆ ภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยดี แต่ก็พออธิบายกว้างๆ ได้ โดยมีนางฟ้าตัวกลมคอยเสริมรายละเอียดให้ชัดเจนมากขึ้น ก่อนกลับท่านสวมกอดผมและพูดประโยคสั้นๆแต่กินใจว่า “I hope to see you again next year” ฉันหวังว่าปีหน้าจะได้เจอคุณอีก
….ครับผม Timmy Buto ต้องเดินทางต่อแล้ว สำหรับตอนต่อไปผมจะพาไปเที่ยวเกาะวิกตอเรีย (Victoria) ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าใครพลาดจะเสียดายมากๆเพราะผมจะพาลงเรือเฟอร์รี่ ชมความงามของสวนดอกไม้ ไปเที่ยวชนบทของแคนาดา ติดตามต่อเลยบอกคำเดียวว่าภาพสวยมากๆ แล้วเจอกันครับ บาย บาย