อนุชาย2 บทที่31

ตื่นเพื่อเป็นเมียน้อย

อนุชาย2 บทที่31 ตื่นเพื่อเป็นเมียน้อย

ตื่นเพื่อเป็นเมียน้อย… เกือบจะสว่างของอีก 2 วันต่อมา  แสงจากโคมไฟบนฝ้าเพดานสีขาวอาบร่างหนุ่มญี่ปุ่นหุ่นฝรั่งวัย 17 กำลังจะย่างเข้า 18 ปีที่เพิ่งมาถึง เขาขยับขาไปมาอยู่ในรัศมีไม่เกิน 2 เมตรหน้าห้อง ICU. ราวกับนกเมจิโระแว่นตาขาวถูกจองจำอยู่ภายในกรงแคบๆ ใบหน้าหมองแต่ยังคงขาวใส ดวงตาและแววตาจมอยู่ในภวังค์กังวล ริมฝีปากสีแดงฉ่ำๆ ก็เทียวภาวนาสลับบีบเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงเกือบจะเบะสะอื้นหลายครั้ง

ตื่นเพื่อเป็นเมียน้อย

“到着しました… Arty 起きて(Tōchaku shimashita Arty Okite)” (ฉันมาถึงแล้วนะอาตี้….ตื่นซะที) เขาพึมพำเป็นภาษาญี่ปุ่นในลำคอหลายรอบจนคล้ายกำลังสวดมนต์กระทั้งดร.ชานนท์เดินเข้าไปตบไหล่ เขาจึงหมุนตัวไปซบสะอื้นจนตัวโคลงในอ้อมแขนของเขา

“彼は元気でなければなりません。(Kare wa genkidenakereba narimasen.) เขาต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพ่อซิ” ดร.ชานนท์ปลอบ กระทั้งนำเด็กหนุ่มญี่ปุ่นคนดังกล่าวกลับเข้าสู่ห้องพักได้สำเร็จ

“ยูจิ กลับไปพักผ่อนที่บ้าน Loft Love ก่อนก็ได้นะ ถ้าอาตี้ตื่นอาจะโทรบอก” หญิงรัดดาที่นั่งอยู่ภายในห้องกับดร.ชานนท์พูด พลางขยับเข้าไปโอบไหล่หนุ่มญี่ปุ่นอีกคนอนุชาย2 บทที่31

ยูจิ ยามาซาดะ เงยใบหน้าชวนฝันแต่ฉาบไปด้วยความเศร้าจ้องกลับทีละคน “ไม่ เป็น ไร กะ….ผม อยู่ จน จะ ได้ คุย กับ Arty ก่อน” เขายืนยันด้วยภาษาไทยที่ไม่ค่อยแข็งแรง ก่อนจะมองหน้าดร.ชานนท์เชิงขอร้อง

ดร.ชานนท์อ่านความคิดจากดวงตา “父を理解する(Chichi o rikai suru) พ่อเข้าใจ….ถ้าอย่างนั้นเราก็อยู่ด้วยกันซะที่นี่ทุกคนเลยแล้วกัน”

“ขอบ คุ มาก ๆ กะ”

ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลต้องทำงานอย่างหนักอยู่หลายวัน อวัยวะภายในของ 2 พ่อ-ลูก ถูกปลูกถ่ายกันไปมาจนคล้ายจะเป็นคนๆ เดียว โชคดีที่ร่างกายเข้ากันได้ดีในทุกมิติ งานในส่วนที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนจึงราบรื่น ถึงจะสะดุดบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

และอีก 1 วันต่อจากนั้น อาตี้ หรืออานนท์ สายสกุล ก็ตื่น ร่างกายในวัยหนุ่มที่แข็งแรงเป็นต้นทุนอยู่แล้วช่วยเขาในเรื่องนี้ ดร.ชานนท์นั่งกุมมือลูกชายกระทั้งอาตี้ค่อยๆ ลืมตามัวๆ ส่ายสำรวจไปรอบตัว มีช่วงสั้นๆ ที่แววตาสว่างวาบก่อนจะค่อยๆ จมขุ่นมัวจนคล้ายกับคนเมาค้างแบบเดิม

“อาตี้….” ดร.ชานนท์เรียก แต่เสียงยูจิที่ยืนอยู่ด้านหลังก็แทรกแบบคนเสียมารยาท

“Arty ถาม หา พ่อ Nu กะ”

ดร.ชานนท์หันไปมองหน้าเขา กระทั้งยูจิต้องพูดขึ้นมาอีก

“เสียง ของ Arty ดัง ขึ้น ใน….” ยูจิ ยามาซาดะชี้นิ้วไปที่หัวตัวเอง “เรา เรียน จิตวิทยา จึง มัก ใช้ ภาษา นี้ สื่อสาร กัน จนชิน นะกะ”

ดร.ชานนท์ยิ้มรื่นๆ แล้วหันไปมองหน้าอาตี้ “อาตี้ได้ยินเสียงพ่อไหมลูก” เขากระซิบ เด็กหนุ่มที่มีสายระโยงระยางไปทั้งตัวพยักหน้า “พ่อนุ OK…ลูกคงอยากคุยกับยูจิเพียงลำพังซินะ” ดร.ชานนท์พูดขณะอ่านกิริยาลูกชาย อาตี้พยักหน้าอีก ดร.ชานนท์จึงเปิดทางให้ยูจิเข้าไปนั่งแทนที่ เมื่อฝ่ามืออุ่นๆ ของอาตี้มาอยู่ในมือ ยูจิ ยามาซาดะก็ร้องไห้ไร้เสียง มีเพียงแผ่นหลังเท่านั้นที่สะเทือนไม่หยุด

“นาย ไม่ ต้อง พูดแล้ว…” ยูจิเงียบ แล้วก็พูดขึ้นมาเองอีก “สบาย มาก”

“……….”

“ซาร่า ฝาก กอด นาย ด้วย”

“……….”

“เพื่อน ทุก คน ด้วย”

“……….”

“ฉัน จะ ไม่ ไป ไหน จน กว่า นาย จะ OK”

“………..”

“อื้อ อื้อ….” และยูจิก็หันหน้ามาหา ดร.ชานนท์ที่มองทั้งคู่แบบคนไม่เข้าใจ “อาตี้ ให้ เรา ไปอาบ น้ำ นะ กะ บอก ว่า ตัว เหม็น มาก”

ดร.ชานนท์ ปิดปากคล้ายจะหัวเราะและร้องไห้อย่างละ 50 เปอร์เซ็นต์ “ยูจิ ได้ยินเสียงอาตี้ด้วยเหรอ”

ยูจิ ยามาซาดะ บีบริมฝีปากแดงๆ เป็นเส้นตรง “สำหรับ อาตี้ แค่ สายตา ก็ รู้ ว่า เขา กำลัง  คิด อะไร แล้ว ละกะ”

ดร.ชานนท์นิ่งช็อกจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อยูจิหันกลับไปมองอาตี้อีกครั้ง “ฉัน ไม่ ได้ กอด ซาร่า….แต่ ฉัน จะ กอด นาย เพื่อ นำ กลับ ไป ให้ เธอ ภาย หลัง หึ หึ” เสียงหัวเราะในลำคอของยูจิทำให้ใบหน้าดร.ชานนท์ดูดีขึ้น “อาตี้ บอก ให้ คุณ พ่อ ไป ดู พ่อ นุ กะ”

ดร.ชานนท์เกือบจะร้องไห้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลึกซึ้งกว่าที่เขาประเมินเอาไว้มากเหลือเกิน อาจจะมากกว่าสมัยที่ตัวเองจีบอนุชัยใหม่ๆ ด้วยซ้ำ แต่จะเป็นอย่างที่กำลังคิดหรือไม่ เขาไม่เป็นกังวลในเรื่องนี้ขอเพียงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สะดุดจนทำให้คนใดคนหนึ่งไปต่อไม่ได้เป็นพอ…..

(พ่อเข้าใจ) ดร.ชานนท์พยักหน้าบอกก่อนจะอ้อมหลังยูจิเข้าไปสัมผัสหลังมืออาตี้ “ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อนุนะ อาตี้พักผ่อนให้มาก อีกไม่นานพ่อนุก็คงตื่นเช่นกัน”

“อาตี้ นาย ต้อง พัก แล้ว นะ”

“………….” อาตี้นิ่ง ปากที่เต็มไปด้วยท่อช่วยหายใจไม่ขยับเขยื้อน

“คุณพ่อ ครับ อาตี้ ยัง อยาก รู้ เรื่อง แฟน เขา” ยูจิบอกจากอ่านกิริยาเพื่อน

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบาย พ่อจะแวะไปดูพ่อนุก่อน” ดร.ชานนท์บอก เขาตบหลังมืออาตี้เบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไปเงียบๆ

“……….”

“ใช่ ฉัน ฉัน ได้ ยิน เสียง นาย ได้ ยิน เสียง ปืน ดัง ขึ้น ใน หัว และ เวลา นี้ ทำ ไม ฉัน อยาก จะ กอด นาย มาก กว่า แฟน ฉัน ซะ อีก ”

“………..”

“หา!…..จริง เหรอ….นาย นาย Arty Arty” ยูจิคล้ายจะแปลกใจสุดขีด หมอและพยาบาลที่คอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน แต่แววตาชุ่มชื้นของอาตี้ค่อยๆ กระจ่างจากจุดที่ขุนมัวก็บอกความนัยที่ปิดไม่มิด

“………….”

“นาย นาย อยาก ให้ ฉัน กอด เหรอ  ありがとう(Arigatō) ขอบคุณ Arty ขอบคุณ) ยูจิพูดจากจุดสะอื้นที่ลึกสุด เขาล้มตัวโอบรอบเอวไว้หลวมๆ จนเห็นอาตี้ยกมือข้างที่ว่างลูบหัวยูจิไปมา

“………..”

“ใช่ ฉัน จะ เป็น นก เม จิ โระ แว่น ตา ขาว ให้ นาย เอง”

ดร.ชานนท์ยืนแอบมองจากจุดที่ทั้งคู่ไม่เห็นก็ยกกำปั้นขึ้นปิดปาก “อนุชาย….ฉันคิดถึงวันแรกของเราเหลือเกินที่รัก”

วันต่อมาอนุชัยก็ตื่น…

ทันทีที่แข็งแรง ดร.ชานนท์จึงขอให้แพทย์หญิงคุณหญิงพวงพรย้ายคนทั้ง 2 มารวมอยู่ในห้องเดียวกันเพราะทุกเช้าเมื่ออาตี้ตื่นก็จะถามหาอนุชัยและเมื่ออนุชัยตื่นก็จะถามหาลูกชายปัญหาดังกล่าวจึงจบไป

เมื่อสติฟื้นตัวกลับมาเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ อนุชัยและอาตี้สามารถกินข้าวได้ด้วยตัวเอง แพทย์หญิงคุณหญิงพวงพรก็เข้ามาอธิบายรายละเอียดถึงการปลุกถ่ายอวัยวะของคนทั้ง 2 ให้ได้รู้ อนุชัยกับอาตี้ได้แต่มองหน้ากันไปมาขณะที่ดร.ชานนท์เองถึงกับทึ่งและอิ่มเอมในบริบทเดียวกัน สายๆ ยูริ ยามาซาดะ แม่ของยูจิก็บินจากญี่ปุ่นถึงเมืองไทย เธอร้องห่มร้องไห้ตั้งแต่หญิงรัดดาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวัดให้ฟัง กระทั้งพวกเธอผ่านประตูเข้ามาในห้อง ยูริ ยามาซาดะชะงักไม่รู้จะเดินเข้าไปหาใครก่อนดีจนยูจิที่นั่งอยู่ก่อนแล้วต้องฉุดแขนไปหยุดตรงกลางระหว่าง 2 เตียง อนุชัยยิ้มทักทายก่อนจะเห็นเธอเบะปากพุ่งเข้าหา ยูจิจึงได้โอกาสหมุนตัวไปคุยกับเพื่อนราวกับมด 2 ตัวอีกคราหนึ่ง

“เกือบ 20 ปีเลยนะ บูโตะซัง…เป็นอย่างไรบ้าง เออฉันไม่น่าถามคำนี้เลยจริงๆ” ยูริ ยามาซาดะทัก เธอท้วมขึ้นกว่าแต่ก่อนเพียงเล็กน้อย แต่รูปร่างโดยรวมก็ดูยังสมบูรณ์แข็งแรงมากๆ

“สบายดีนะ ยามาซาดะซัง” อนุชัยถามกลับไม่เต็มเสียง แต่ก็เห็นเธอยิ้มจนมีน้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมกับพยักหน้าตอบ

“บูโตะซังยังเหมือนเดิม ฉันหมายถึงยังหล่อเหมือนเดิมนะ หึ หึ หึ”

ดร.ชานนท์ที่นั่งใกล้ๆหัวเราะตาม พลางใช้หางตาชี้นำคนทั้ง 2 ไปยังเตียงข้างๆ

“………”

“No way”

“……….”

“นาย ว่า ฉัน เหมือน นก เม จิโ ระ ฉัน เลย เลือก ใส่ คอน แทค เลนส์ แทน”

“……….”

“แล้ว ฉัน หล่อ กว่า เดิม ไหม ละ”

“誰と話しているの(Dare to hanashite iru no)” ยูริ ยามาซาดะหันไปถามลูกชายว่า คุณกำลังพูดกับใคร และเธอก็ฟาดมือลงกลางหลังยูจิแรงๆ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แค่จ้องตาพวกเขาก็คุยกันรู้เรื่องแล้วละ” ดร.ชานนท์บอก ยิ่งทำให้ยูริกับอนุชัยแปลกใจมากขึ้นไปอีก

“เป็นภาษาเฉพาะของพวกเขานะค่ะ อายูริอย่าใส่ใจเลยหญิงเฉยๆกับ 2 คนนี้มาปีกว่าละ” หญิงรัดดาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่มุมห้องบอก  “แต่อาก็อดสงสัยพวก You ไม่หายนะ…..” หญิงรัดดาพูดแล้วเงียบก่อนจะลุกเดินเข้ามสมทบพร้อมกับจ้องหน้ายูจิกับอาตี้สลับกันไปมา “ตกลงที่พวก You บอกว่ามีแฟนเป็นผู้หญิงกันทั้งคู่แล้วเนี่ย อันที่จริงคบเพื่อตบตาฉันหรือเปล่ายะ!…ยูจิ อาตี้ สารภาพมาซะดี ๆ” หญิงรัดดาเอาจริงถึงขนาดชี้นิ้วจี้ไปทีละคน ทั้งอาตี้และยูจิต่างคนต่างเงียบ ยูริจึงเดินอ้อมไปลากแขนหญิงรัดดากลับไปโซฟาที่เดิม ปล่อยให้ยูจิกับอาตี้หนักใจกับสายตาของอนุชัยและดร.ชานนท์เพียงลำพัง อาตี้ซี๊ด!ปากขณะที่ยูจิยืดตัวหันไปทางอื่น

“ไม่แปลกหรอกถ้าเรา 2 คนจะชอบกัน” อยู่ๆ เสียงอนุชัยก็ดังขึ้น

“คุณพ่อ…./คุณ พ่อ” ทั้งยูจิและอาตี้อุทานพร้อมกัน จนยูริกับหญิงรัดดาหันมารอคำตอบด้วยคน “ไปกันใหญ่แล้วฮะ….” อาตี้เสียงดังขณะที่ใบหน้าก็เก็บอาการไม่อยู่

“ใช่ ไป กัน ใหญ่ แล้ว ครับ…”

“จะให้อาตี้ชอบไอ้นกเมจิโระแว่นตาขาวนี้นะฮะ ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด” อาตี้พูดเสียงดังเท่าที่จะเปล่งออกมาไหว

“ใช่ๆ….เรา มี แฟน เป็น ผู้หญิง แล้ว ด้วย” และยูจิก็สมทบตามติดๆ

“ไม่มีใครว่าอะไรหรอกจ้า….เพียงแต่แม่กับทุกคนแปลกใจในวิธีสื่อสารของเราก็เท่านั้นเอง” ยูริ ยามาซาดะ บอกพร้อมกับยิ้มหวานๆ ให้

“ใช่!…ดูอย่างพ่อนุซิ มีแฟนเป็นผู้หญิงเป็นตัวเป็นตน ถึงขั้นเกือบจะมีลูกแล้วด้วยซ้ำยังกลับมารักพ่อได้เลย หึ หึ” ดร.ชานนท์พูดจนทำให้อนุชัยที่นอนบนเตียงทำตาเขียวใส่ “ฉัน ฉัน ก็แค่อธิบาย”

“นั้นซิฮะ…..”

“โอ้!….เป็น ไป ได้ ไง ช่วย เล่า ให้ ฟัง หน่อย ได้ ไหม กะ” ยูจิได้โอกาสตามอาตี้ขึ้น จนเห็นอนุชัยอึดอัด เขาจ้องหน้าดร.ชานนท์อยู่นานก่อนจะพูดเสียเอง

“พ่อคือนกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้ แต่ช่วยเล่าเรื่องนกเมจิโระแว่นตาขาวของยูจิให้พ่อฟังเพื่อแลกเปลี่ยนกันดีไหม”

“เออ…นั้นดิ….” คราวนี้ดร.ชานนท์ตาลุกวาวขึ้นมาจริงๆ จังๆ จนได้ยินเสียงหัวเราะของ ยูริ ยามาซาดะ ดังขึ้นจนไอโขลกๆ หลายที

“อายูริ….”

“คืออย่างนี้หญิงรัดดา อานึกออกแล้วละว่าทำไมอาตี้ถึงเรียกยูจิว่านกเมจิโระ”

お母さん(Okāsan)” ยูจิเรียก แม่ ราวจะปรามกระนั้นยูริก็ยังไม่หยุด เธอเดินเข้าไปตบไหล่ลูกชายก่อนจะหันไปมองอนุชัยและดร.ชานนท์

“คืออย่างนี้ค่ะบูโตะซัง อันที่จริงยูจิเป็นคนสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็ก เขาชอบใส่แว่นตากรอบพลาสติกสีขาวมากๆ จนกระทั้งโดนอาตี้ล้อที่โรงเรียนจนหันมาใส่คอนแทคเลนส์แทนนี้แหละค่ะ เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้ ฉันเพิ่งนึกได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ใช่ไหมจ้ะเจ้านกเมจิโระของแม่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“ฮะคุณพ่อ เรื่องของยูจิก็มีเท่านี้แหละ แล้วเรื่องของพ่อนุละฮะว่าไง” อาตี้รีบทวงทันที

“นั้น ซิ ครับ บูโตะซัง…..”

…จนเป็นเหตุให้ทั้งดร.ชานนท์กับอนุชัยถูกต้อนเข้าสู่มุมอับอีกครั้ง

“นายแพ้ทางลูกตลอดเลยนะชานนท์” อนุชัยบ่นให้

“เออ! ฉันก็นึกว่าไอ้เจ้านกเมจิโระจะมีอะไรมากกว่านี้นี่นา!…..” ดร.ชานนท์กระซิบ จนเสียงหญิงรัดดาทวงให้ได้ยินจากไกลๆ อีกคน

“ว่าไงคะพี่ชาย พี่นุ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เล่าเลยคะบูโตะซัง น่าสนใจดีออก” ยูริทวงตาม

“นั้น ซิ ครับ  เผื่อ ว่า อา ตี้ จะ เปลี่ยน ใจ มา ชอบ ผม บ้าง นะ กะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ยูจิ…นายเงียบไปเลย” อาตี้ปราม

ดร.ชานนท์ยิ้มแบบคนเห็นชัยชนะ “เอาละพ่อจะเล่าแล้วนะ”

“คุณพ่อฮะ หยุดเลย อาตี้ไม่สนใจแล้วฮะ”

“ทำไมละอาตี้กลัวจะหลงรักยูจิเข้าให้รึไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หญิงรัดดาเผลออารมณ์คล้อยตาม ยูจิเองก็หันไปสบตากับอาตี้แล้วก็ทำหน้าบึ้ง สลับยิ้ม-หัวเราะ แผนล่อให้หลงทางของดร.ชานนท์ได้ผล

“เอ้!….ว่าไง คิดอย่างไรกับยูจิเล่าให้พ่อฟังหน่อยซิ” อนุชัยเล่นต่อที่ได้โอกาส

ยูจิยักคิ้วให้อาตี้นิดๆ “ไม่ เด็ด ขาด ครับ  มัน คือ คาวม ลับ” พลางอมยิ้มแบบคนมีความสุข อาตี้เองก็ยิ้มไม่หุบ…กระทั้งผล็อยหลับไป หญิงรัดดา ยูจิกับยูริจึงออกไปหาอะไรกินข้างนอก……

ไม่นานดร.ชวนนท์ผู้เป็นพ่อก็ผลักประตูนำ ดร.ทักพงษ์ ชีวาวัฒนะ อดีตนายกรัฐมนตรีหลายสมัยเข้ามาแทนที่ อนุชัยกับดร.ชานนท์จึงยกมือไหว้

“สวัสดีครับท่าน” ดร.ชานนท์กล่าวทักทายแทนอนุชัยไปในตัว

“เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ดร.ทักพงษ์ถาม พร้อมกับนั่งลงบนเตียงหลานชายตัวเอง พร้อมกับใช้ฝ่ามือเสยลูบเส้นผมที่ปกหน้าผากของอาตี้ให้เข้าที่

“ครับท่าน…อาตี้ยังหนุ่มเลยฟื้นตัวได้เร็วกว่าอนุชัย” ดร.ชานนท์ตอบ

“เขาเพิ่งหลับเมื่อครู่นี้เองครับ”

“แล้วตาชายวันนี้ได้อาบน้ำอาบท่ารึยังลูก” ดร.ชวนนท์ถาม

“ครับ ชายอาบที่โรงพยาบาลตั้งแต่ยังไม่สว่างแล้วละครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”

“กินข้าวกินน้ำรึยัง” ดร.ทักพงษ์ถามตามอีกคน ดร.ชานนท์จึงพยักหน้าให้เห็น

“ครับท่าน”

“ช่วงนี้งานในรัฐบาลก็อย่าเพิ่งเป็นกังวล…ยังไม่มีอะไรพิเศษหรอก”

ดร.ชานนท์เงยหน้ามองเพดานราวจะนึก “เมื่อวานผมแวะเข้ากระทรวงเคลียร์งานค้างๆ หมดแล้วละครับ…คาดว่าบ่ายๆ จะมีคณะทำงานภาคเอกชนกลุ่มเล็กๆ จากประเทศสวีเดนมาขอเข้าพบ ผมเลยกะว่าจะเข้าไปรับทราบข้อมมูลซะหน่อย”

“ไม่ต้องๆ ชายอยู่ที่นี่เถอะไม่ต้องเป็นห่วง” ดร.ทักพงษ์พูดพลางยกมือห้ามประกอบ

“นั่นนะซิ ชายอยู่โรงพยาบาลนี้แหละ เดี๋ยวพ่อจะเข้าไปรับฟังแทนให้” ดร.ชวนนท์ออกรับแทนพร้อมกับพยักหน้าให้ดร.ทักพงษ์มั่นใจ

“เอาๆ…ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเถอะดอกเตอร์ รบกวนเวลาพักผ่อนพวกเขาพอสมควรแล้ว”

พูดจบดร.ทักพงษ์ก็ก้มลงจูบหน้าผากหลานชายก่อนจะหันมาทางอนุชัย “เราก็พักผ่อนให้มากๆ ขอให้หายเร็วๆ นะอนุชัย”

“ขอบพระคุณมากๆ ครับท่าน” อนุชัยขอบคุณและก่อนที่ทั้งคู่จะพ้นประตู ดร.ทักพงษ์ ชีวาวัฒนะ ก็หันมาพูดอีก

“อ้อๆ…เกือบลืม พ่อโทรบอกกุ้กกิ้งแล้วนะ เห็นบอกว่าเดือนหน้าจะกลับมาเยี่ยม” ทั้งอนุชัยและดร.ชานนท์มองตากันโดยไม่ได้นัดหมาย…และทันทีที่ประตูหน้าห้องปิดตามหลังเสียงของอนุชัยก็ดังขึ้น

“เหมือนฉัน ตื่นขึ้นมาเพื่อเป็นเมียน้อย ให้นายเลยนะ”

ดร.ชานนท์นิ่งค้าง…..

“และฉันควรเปลี่ยนชื่อเป็น อนุชาย ไปเลยหรือนายว่าไง”

ดร.ชานนท์จิ! ปากแบบคนคิดไม่ตก เขาล้มตัวโอบเอวอนุชัยไว้หลวมๆ และเสียงอู้อี้จมที่นอนก็ดังขึ้นใกล้ๆ  “นายก็อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลยน่า….มันอาจไม่มีอะไรก็ได้”

น้ำเสียงไม่มั่นใจทำให้อนุชัยคิดหนัก ดวงตาที่กำลังจะลืมไม่ขึ้นเพราะฤทธิ์ยาแต่สมองกลับเต้นตุบๆ ไม่ยอมหลับ หากคุณหญิงดาริกากลับมาหาดร.ชานนท์จริงๆ เขาจะทำอย่างไร จะยอมรับสถานะเมียน้อยของผู้ชายคนนี้ได้หรือไม่ เขาได้แต่ คิด คิด คิด….กระทั่งเผลอหลับตามอาตี้ไปอีกคน

#ชานนท์….ชานนท์….ชานนท์….ชานนท์#

line1 for timmy

เดือนต่อมา

อนุชัยกับอาตี้ก็ได้กลับมาพักผ่อนที่บ้าน Loft Love ยูจิ ยามาซาดะกลับอเมริกาตั้งแต่ 2 อาทิตย์แรก…เมื่อร่างกายเข้าที่เข้าทางอาตี้จึงบินตามไปโดยมีหญิงรัดดาหมอเดียรเนียลและยูจิรอรับที่สนามบินซานฟรานซิสโก

เวลาเดียวกัน…เจ้ดวงเธอก็ให้กำเนิดลูกสาว ปกรณ์เห่อจนทำอะไรไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยได้เป็นวันๆ แถมยังมาเฝ้าภรรยากับลูกน้อยแม้ในเวลาว่างเพียงเล็กน้อยก็ไม่เว้น อนุชัยกับดร.ชานนท์จึงไปเยี่ยม

“พี่ปกรณ์…..” ดร.ชานนท์เรียกชายที่กำลังยืนหันหลังดูทารกเพศหญิงวัยแรกเกิดที่กำลังนอนหลับตาพริ้มๆ อยู่ภายในห้องกระจก ปกรณ์หันกลับมายิ้มหน้าบานให้ทั้งคู่เห็น อนุชัยจึงส่งของขวัญเป็นกำไรข้อเท้าเล็กๆ ให้

“ยินดีด้วยนะพี่” อนุชัยบอก ปกรณ์จ้องกลับในลักษณะเบิกบานสุดๆ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดอนุชัยแน่นๆ “ในที่สุดพี่กับผมก็มีตัวมีตนขึ้นมาสักที”

“นั้นนะซิ….หลานสาวมีชื่อรึยัง” ดร.ชานนท์ถาม ปกรณ์จึงผละไปยิ้มให้

“เด่นดวงตั้งชื่อเล่นว่า ประดุจดาว แต่ชื่อจริงยังไม่ได้ตกลงกัน” ปกรณ์พูดแบบคนกำลังมีความสุข เขานำทั้งคู่กลับไปจ้องหนูน้อยในห่อผ้าสีชมพูอีกครั้ง “ดูประดุจดาวซิ ใบหน้าเหมือนเด่นดวงมากๆ เลยว่าไหม”

“จมูกกับโครงหน้าได้พี่มาชัดๆ” ดร.ชานนท์วิเคราะห์พลางโบกมือยอกล้อหลานสาวไม่หยุด

“อันที่จริงใช้ชื่อประดุจดาวเป็นชื่อจริงไปเลยก็ได้นะ เพราะดีออก” อนุชัยเสริม เขามองปกรณ์ราวกับคนกำลังคิดบางอย่าง “พี่” เขาเรียก “หลานสาวคนนี้ผมขอมีส่วนร่วมด้วยนะ”

ปกรณ์ยิ้มจนเกือบจะมีน้ำตา “ก็นายเป็นอาแท้ๆ ของเค้านี่…อย่างไรก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว”

“นั้นนะซิ ไม่น่าถามเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า….ว่าแต่นายเถอะอยากมีลูกสาวอีกคนไหม” ดร.ชานนท์พูดพร้อมกับลงเสียงต่ำถามแบบจริงจัง

“นายมีปัญญาไหมละ…..”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….เอาอย่างนี้เดี๋ยวพี่ทำให้อีกคนเป็นไง ฮ่า ฮา ฮ่า” ปกรณ์พูดไปหัวเราะไป

“ผมก็ว่าจะขอให้เจ้ดวงจัดให้เช่นกัน”

“เจ้ดวงแก่แล้ว เดี๋ยวฉันหาเมียเองดีกว่า”  อนุชัยสรุป ดร.ชานนท์พูดไม่ออก ปกรณ์เองก็ไปไม่เป็น “ดีไหมชานนท์ นายว่าไอเดียร์ฉันน่าสนใจไหม”

“นายดูปากฉันให้ดีนะอนุชัย… No way ไม่มีทางเด็ดขาด”

“…..น้องไม่ต้องเดี๋ยวเฮียจัดให้เองดีกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สุดท้ายก็เป็นปกรณ์สรุป ทั้ง 3 ชื่นชมสาวน้อยประดุจดาวสักพักก็แวะเอาของขวัญเข้าไปเยี่ยมเจ้ดวงในห้อง เมื่อแพทย์หญิงคุณหญิงพวงพรเข้ามาสมทบ เสียงหัวเราะก็ดังลั่น……. “ ฮ่า ฮา ฮ้า”

เวลาจะพรากหลายสิ่ง-ทั้งดีและไม่ดีออกไปด้วย หากเราตั้งสติให้มั่นคง มองโลกในมุมที่ต้องการเห็น หลายๆเรื่องราวที่คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้หรือไม่มีทางออก…เวลาก็จะช่วยเปิดทางให้และหากท่านใดเห็นพรมสีแดงปูต้อนรับด้วยก็อย่าเผลอตกใจตายก่อนได้เหยียบก็แล้วกัน…

จบ อนุชาย2 บทที่31 ตื่นเพื่อเป็นเมียน้อย โดย TIMMY BUTO

(Visited 21 times, 1 visits today)