อนุชาย ตอนที่ 25 วันสังหาร “ถ้าคนเดียวจบ….ให้เลือกไอ้นกป่า” มันคือสารจากอเวจี……
วันสังหาร
………..“ชาย ฟังแม่ให้ดีนะลูก แม่อยากให้ชายประกบอนุชัยอย่าให้ห่าง เพราะเมื่อความจริงถูกเปิดเผย เขาจะตกเป็นเป้าสังหารทันที แต่ชายคือลูกชาย ดร.ชวนนท์ สายสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชายอยู่ในสถานะไม่ต่างจากไฟสปอร์ตไลท์ แสงสว่างจะช่วยให้อนุชัยรอดพ้นจากความตายได้”…………
ชานนท์นั่งคิดถึงคำพูดของคุณหญิงพวงพรหลังจากนาราเดินเข้ามาขอคุยกับอนุชัย สองต่อสอง แต่เธอไม่ยอมคุยบริเวณที่สายตาไปถึง เขาเริ่มกังวลใจขณะทั้งคู่หายลับมุมตึกบัญชีที่มีถนนรองออกสู่หลังมหาวิทยาลัยได้ ความเป็นส่วนตัวเขาก็เคารพ แต่กับเธอคนที่เคยสร้างเรื่องเลวร้ายมาแล้ว ทำให้เขาวิตกกังวล ชานนท์กระสับกระส่ายหนักขึ้นเมื่อ 10 นาทีผ่านไป ปากเริ่มส่งเสียง ดิ๊กๆ สลับ ซี๊ด!สูดอากาศเข้าสู่ปอดและดันมันทิ้งๆ ขว้างๆ ราวกับปลาวาฬพ่นน้ำ หลายครั้ง…
“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน” ชานนท์กระแทกเสียงห้วนๆก่อนจะหอบเอกสารวิ่งตามไปเร็วๆ และเมื่อผ่านมุมตึกบัญชี ก็ยังไม่ปรากฏทั้งคู่อย่างที่นึกภาพไว้ในหัว “ไปไหนของเขานะ…หรือจะเป็นร้านกาแฟด้านหลัง…โทรหา….แต่ไม่ดีกว่า” เขาพึมพำกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังประตู 5 แดดบ่ายสามโมงครึ่งยังแรงไม่หยุด ขณะเกือบถึงเป้าหมายอยู่ๆ เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นจากกลุ่มนักศึกษาสาว แล้วอยู่ๆพวกเธอวิ่งกรีดร้องเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย ความรู้สึกเย็นวาบแล่นผ่านตัวเขาอย่างกับจะไม่มีวันสิ้นสุด
“เกิดอะไรขึ้น อย่าเป็นนายนะ” ชานนท์ครางในลำคอขณะวิ่งสวนออกไปนอกเขตรั้ว และในระยะไม่ถึง 20 เมตร ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 คนมีหน้ากากโจ๊กเกอร์ปิดอำพรางใบหน้ากำลังลากดันอนุชัยเข้าไปในรถตู้ที่มีฟิล์มสีดำทึบๆรอบคันก็ทำให้เขาแทบช็อก! (ไม่นะ อนุชัย) จิตใต้สำนึกดันชื่อนี้ขึ้นมาในหัว นารายืนร้องเสียงหลง กระเป๋า สมุด หนังสือ เกลื่อนกราดในแดดสีขาว
“เฮ้ย!….หยุดนะ” ชานนท์แหกปากก่อนจะพุ่งตัวตาม-ประตูรถปิดตามหลังพอดี เขาโดนวัตถุแข็งๆ ทุบเข้าที่ท้ายทอยอย่างจัง แต่ก็พออ่านออกว่าขณะนี้รถตู้กำลังมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก….
นาราตระหนกตกใจเป็น 2 เท่า จนเห็นภาพนรกเกิดขึ้นในหัว เธอลนลานควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าก่อนจะกดโทรออกถึงคนบางคน
(ฮัลโหล) เมื่อเสียงปลายสายกดรับ
“สะ สวัสดีคะอาจารย์ ฮื้อๆ…อาจารย์ อาจารย์พิชัย ใช่ไหมคะ อาจารย์คะ….ช่วย…”
(ใครครับ ใจเย็นๆ ค่อยพูด มีอะไรเหรอ) เสียงอาจารย์พิชัยเรียบๆ ทำให้นาราครองสติได้เร็วขึ้น เพื่อนๆ ต่างวิ่งกรูเข้าไปล้อมเธอเอาไว้
“อาจารย์พิชัยใช่ไหมคะ ดิฉันนารา การบัญชีที่อาจารย์เคยใช้งาน…จำได้ไหมคะ” เธอแนะนำตัวเร็วๆ สักพัก
(อ้อครับ มีอะไรรึ…ผมกำลังสอนอยู่เลย… เอาไว้อีกสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม)
“ไม่ได้คะอาจารย์ อนุชัย อนุชัย กับ…คุณ….”
เมื่อเธอเอ่ยชื่อเขาออกมาคราวนี้เป็นเสียงของอาจารย์พิชัยเสียเองที่ลนลานขึ้นมาแทน (อ อนุชัย ทำไม กับใคร)
“อนุชัยกับคุณชาย ชานนท์ ลูก ดร.ชวนนท์ สายสกุลถูกใครไม่รู้สวมหน้ากากสีขาวจับขึ้นรถตู้เพิ่งวิ่งออกไปคะ…อาจารย์ อาจารย์คะช่วยหนูด้วยนะคะ”
เสียงเงียบหายไปสักพัก (ได้จดทะเบียนรถเอาไว้ไหม?)
“นาราตกใจ ไม่ทันนึกถึง….มีใครจดทะเบียนรถหรือถ่ายรูปได้มั่ง” เธอถามเพื่อนๆ
“ฉันถ่ายรูปเอาไว้ได้ ……” เพื่อนที่ยืนข้างๆ ยื่นรูปในโทรศัพท์มือถือให้ดู
“คะอาจารย์เดี๋ยวนาราจะรีบส่งให้คะ”
(โอเค ด่วนเลยที่เหลือผมประสานงานต่อเอง….)
อาจารย์พิชัยไม่รอรูปที่นารารับปาก เขากดเข้าโทรศัพท์มือถือของคุณหญิงพวงพร ที่เคยทิ้งไว้ให้ทันที ทั้งคู่คุยกับแบบรีบๆ ก่อนอาจารย์พิชัยจะอธิบายต่อว่า (โทรศัพท์มือถือของอนุชัย ถ้ายังใช้เครื่องเดิมที่ผมเคยซื้อให้ พิกัดของ GPS กำลังมุ่งหน้าไปชลบุรี โดยใช้ถนนบางนา-ตราด ครับ…ผมมั่นใจไม่น่าจะผิด)
“ขอบคุณมากพิชัย ขอบคุณมากโชคดีที่วันนี้คุณชวนนท์อยู่บ้าน อย่างไรก็ส่งข่าวเรื่อยๆ นะ….ฉันกำลังให้คนประสานงานกับตำรวจ เขาคงประสานไปยังตำรวจพื้นที่แล้วละ….คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย”
(คุณหญิงใจเย็นนะครับ)
“พิชัยคุยกับ ดร. ได้เลยนะคะพี่จะเปิดสปีกเกอร์โพนให้…เอาคุณคุยเลยคะ / เวลานี้ GPS แจ้งตำแหน่งไหนแล้วพิชัย”
(ครับๆ ท่าน แป๊บหนึ่งนะครับ) เสียงหายไปครู่เดียว (บางประกง กำลังมุ่งหน้าสู่เออ…แป๊บหนึ่งนะครับ)…..(มุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทราครับท่าน) อาจารย์พิชัยพูดเร็วๆ
“ดีมาก… เมื่อรูปถ่ายมาให้รีบส่งเข้ามือถือคุณหญิงเลยนะ”
(มา มาแล้วครับท่าน ผมจะส่งให้เดี๋ยวนี้เลย)
“ดีมาก…..ดีๆ”
อีกฝ่ายหนึ่ง
“ฉิบหายแล้วไอ้เฮี้ยนี้มาได้ไงวะ…”
“ถีบมันลงจากรถเร็วเข้า”
“มันเห็นหน้าเราหมดทุกคน….ต้องยิงทิ้งสถานเดียว”
“เฮี้ยเอ้ย!….มึงรู้ไหมไอ้สัตว์นี้มันเป็นใคร”
“ใครอะ! ลูกพี่…”
“นี้แหละ ลูกชายคนเดียวของ ดร. ชวนนท์ สายสกุล….พ่อมึงไงไอ้โง่!”
“ทำไงละทีเนี่ย เรื่องชักจะยุ่งไปกันใหญ่แล้ววะ”
“ถ้าเข้าเขตเขาใหญ่ได้ยิงทิ้ง… แล้วตัวใครตัวมัน”
“สายแจ้งมาบอกตำรวจกบินทร์บุรีขยับตัวผิดสังเกต เราไปเซฟเฮ้าส์ไม่ทันแล้วละ เลี้ยวขวาไปอรัญประเทศดีกว่าเผื่อทางหนีทีรอดจะได้เข้าเขมรแม่งเลย”
“โอเค…ว่าไงว่าตามกัน แม่งซวยฉิบ”
ทั้งชานนท์และอนุชัยถูกผ้าดำปิดตาพร้อมกับสิ่งพันธนาการจนไม่ต่างจากดักแด้ ในรถตู้โล่งๆ ทั้ง 2 เงียบฟังเสียงสนทนาไปเรื่อยๆ กระทั้ง “ชานนท์ ชานนท์ นายอยู่ไหน” อนุชัยใช้ระดับเสียงกระซิบ อีกคนก็พยายามจะล้มกลิ้งไปตามทิศทางของเสียง
“ฉันอยู่นี้”
“นายนี้บ้าชะมัด”
“เงียบเลยทั้ง 2 ตัว คืนนี้พวกมึงไม่รอดแน่ๆ” เสียงขู่ตะคอกดังขึ้นขณะที่ชานนท์กลิ้งไปวางหัวไว้บนตักของบางคนที่คาดว่าจะเป็นคนรัก
และขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าตรงไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อยู่ๆ เสียงดัง ติ๊ดๆ รัวๆ ก็ทำให้ทั้งคู่นิ่งฟังอีก “ซวยแล้วไหมละ ตำรวจพนมสารคามตรึมเลยลูกพี่ เอาไงดี- ออกถนนสายรอง เผลอๆ ทิ้งแล้วตัวใครตัวมันไปก่อน งานนี้ไม่คุ้มเสี่ยง”
“นุ นายเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไร เงียบๆ ไว้”
“บอกให้หุบปากเดี๋ยวพ่อจัดแม่งทั้งคู่เลยนิ! ควายยยยย!”
เมื่อเสียงแจ้งเตือนเข้ามาอีก “ลูกพี่อีก 10 กิโลเมตรมีตำรวจดักอยู่”
“มันรู้ได้ไงวะ….ไอ้เฮี้ยมึงลองค้นในตัวมันซิ! มีโทรศัพท์ติดตัวไหม” พวกเขาถูกจับพลิกคล่ำพลิกหงายอยู่ครู่หนึ่งก่อนโทรศัพท์ของอนุชัยที่อาจารย์พิชัยซื้อให้จะถูกดึงออกจากกระเป๋ากางเกง “ไอ้เฮี้ย….เปี้ย!” เสียงตบหน้า ทำให้ชานนท์ถึงกับสะดุ้ง “กูว่าแล้ว พวกมึงไม่ใช่มืออาชีพกันสักตัว เห็นไหมนี้คืออะไร นี้แหละคือพ่อพวกมึงจริงละ” แพล้ง! เสียงฟาดโทรศัพท์และเสียงกระทืบจนมโนเห็นเศษพลาสติกเกิดขึ้นในหัว
“อย่า อย่าทำอะไรเขา” ชานนท์ไม่หยุด “อย่าทำเขา” ทั้งที่ยังมองไม่เห็น อยู่ๆ ผิวสัมผัสว่าเป็นหลังเท้าก็กระหน่ำใส่ไม่หยั่ง
“อย่าๆ อย่าทำอะไรเขา “อีกคนก็ตะโกนบ้าง แล้วก็เป็นเสียงนรกเดิมๆ จนเงียบไปอีกคน
“นุ…นาย นาย”
และเสียงติ๊ดๆ รัวๆ ก็ดังให้ทั้งคู่ได้ยินอีกรอบ “แวะในไร่มันนี้แม่งเลย มืดแล้วคงไม่มีคนแล้วละ อีก 30 กว่ากิโลถึงชายแดน ตัวใครตัวมันแล้วค่อยว่ากัน…ทำงานกับพวกมึงนี้ซวยฉิบหาย”
“สองคำก็ไม่มืออาชีพ สามคำก็ไม่มืออาชีพ ควาย มึงนะมืออาชีพนักรึไงวะ…ไอ้เหี้ย” เสียงทะเลาะกันดังขึ้นก่อนรถจะค่อยโคลงเคลงไปมา และจอดสนิท
“ลากมันลงมา”
“จะลากมันลงมาทำควายไร…หนีซิ!….อยู่รอพ่อมึงรึไง”
“กูขอยิงไอ้ลูกรัฐมนตรีเส็งเคร็งก่อนหนีเถอะ แม่ง!….เกลียดพ่อมันมานานละ”
“อย่า…อย่า” เป็นเสียงของชานนท์ดังขึ้น…
“คุณ ไอ้คุณ นายอยู่ไหน นายอยู่ไหน” อนุชัยกลิ้งตัวตามเสียงจนผ้าผูกตาหลุด….เงารัตติกาลปิดบังหลายๆ ส่วนถึงจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ก็พอเดาออกว่าร่างของชานนท์กำลังนอนดิ้นอยู่กับพื้นดิน โดยมีชายร่างยักษ์กำลังจ่อปืนพกไปที่เขา
“ไม่ๆ…..” อนุชัยใช้แรงฮึดสุดท้ายพุ่งร่างราวกับดักแด้ โดยอาศัยความสูงของรถให้เป็นประโยชน์
“เปี้ยง! เปี้ยง!”เสียงปืนดัง 2 นัดโดยมีร่างเขาเป็นเป้าสังหาร “อ๊ากๆ….” ความรู้สึกจบสิ้นในพริบตา เหลือแต่ความเจ็บปวดที่เงียบที่เงียบสนิทให้อีกคนรับรู้
“นุ นุ นุ นาย นาย นาย ไม่!ๆๆๆๆๆ”
“ซวยแล้วไหมละ ไอ้เฮี้ยเอ้ย!…มึงจะยิงเรียกพ่อมึงมารึไง….กูไปละตัวใครตัวมันไว้ย!”
“นุ อนุชายยย อนุชาย อนุชัย นายอยู่ไหน นายอยู่ไหน” เสียงกู้ร้องดังก้องไปทั้งป่า “อนุชัย อนุชาย นายอยู่ไหน ตอบฉันซิ ตอบฉัน ฉันรักนาย ฉันรักนาย ตอบฉันซิ นาย อยู่ ไหน…..”
ไม่นานเสียงกลุ่มคนกรูกันเข้ามา “เจอแล้วครับ ทั้งสองอยู่นี้ พวกเขาโดนยิง…เร็วเข้า” ชานนท์หมดสติ…. นกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้เองก็ไม่ขับขานซะแล้ว…