สมรภูมิปักษา12

สมรภูมิปักษา12

อูคาชิ เซดะ นินจาเลือดซามูไร Part2 สมรภูมิปักษา12

สมรภูมิปักษา12

ฝากรักซามูไร

เช้าวันต่อมา

                “พี่โมก…พี่โมก” เสียงจันทร์หอมตะโกนเรียกสามีที่นอนหมดสติอยู่ที่โถงกลางบ้าน โดยมินาโมโต โคทาโร่เพิ่งจะพาเขามาส่งเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เพื่อนบ้านญาติมิตรที่รู้ข่าว ต่างพากันมานั่งล้อมวงถกกันเป็นกลุ่มๆ โดยมีหมอพื้นบ้านคอยนั่งจับโน้นจับนี้อยู่ไม่ห่าง “ทำไมไม่ให้อีตาโกทาโร่ เรียกหมอทหารมาดู” ยายแก่ๆ นั่งเคี้ยวหมากปากแดงพูดและนางก็ชายตาชี้ไปที่โคทาโร่

“จะบ้าไปแล้วรึ!…ยายบังอร” อีกคนที่เคี้ยวหมากอยู่คู่กันปรามเสียงเบาๆ พลางกระซิบกระซาบ เหมือนไม่อยากให้โคทาโร่ได้ยิน “ไอ้โมกมันหนีเชลยสงครามมา…จะเรียกหมอทหารมาจับมันไปอีกหรือไง”

“เอ่อๆ…ฉันลืม…ฉันลืม” ยายบังอรอุทานพลางตบเข่าตัวเองผางๆ อยู่หลายที…สมรภูมิปักษา12

……….

อีกมุมหนึ่ง

ขามนั่งๆ ยืนๆ อยู่ที่ศาลาท่าน้ำอย่างกระวนกระวาย เขาเทียวลุกไปมองคุ้งน้ำรอบแล้วรอบเล่าเหมือนกำลังรอการมาของใครบางคน ไม่ทันไรเสียงไม้พายจ้วงผิวน้ำอย่างเร่งรีบก็ดังแววมาแต่ไกล…เขายิ้มและเอาใจช่วยอย่างคนกำลังร้อนใจ

“มยุรี…มนตรี” เขาป้องปากเรียก

“โมกกลับมาได้ไงพี่” มยุรีถามขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ลงจากเรือ

“นายโคทาโร่มาส่งเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้เอง…ว่าแต่เรื่องเมื่อคืนเรียบร้อยดีใช่ไหม” ขามตอบพลางรีบถามกลับในลมหายใจเดียว มยุรีพยักหน้าแล้วก้าวตามมนตรีขึ้นมานั่งลงใกล้ๆ

“เราจะทำอย่างไรต่อไปดี” มนตรีกระซิบ

“รอให้นายโคทาโร่กลับไปก่อน เราจะเอาโมกเข้าไปรักษากับหมอไทยในเมือง” ขามพูดเหมือนไตร่ตรองเอาไว้นานแล้ว เขาหยุดหายใจสักครู่ก็พูดแทรกมยุรีที่กำลังอ้าปากค้างขึ้นอีก “หากรอด เราก็จะทำตามแผนที่ได้คุยกัน”

“แล้วจันทร์หอมละ มันจะยอมรึ” มยุรีถามอย่างที่ใจอยากถาม

“มันเป็นน้องสาวผม…คิดไม่น่าจะมีปัญหา” ทั้งสามหยุดคุยเพียงเท่านั้นก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินขึ้นไปสมทบกับคนอื่นๆ บนบ้าน

“พ่อ…พ่อจ๋า…”

“พี่โมก…พี่โมก…” เสียงร้องไห้ของผู้หญิงสองคนปลุกให้โมกตื่นขึ้นมา…ในภาพที่พร่ามัวแต่น้ำเสียงที่เขาปรารถนาจะได้ยินทำให้เรียวแรงที่เหลือน้อยรับบีบมือคนรักไว้แน่น

“จันทร์…จันทร์หอม…เรไร…” โมกกัดฟันเปล่งเสียง ริมฝีปากกับใบหน้าที่ขาวจนซีดทำให้หลายคนอดใจเสียไม่ได้

“ใช่พี่ ฉันเอง” จันทร์หอมพูดปนสะอื้น แต่ก็ยังฝืนยิ้มบางๆ ให้สามี นางกุมมือที่ไม่เหลือสีเลือดเอามาแนบอก เสียงเรไรร้องไห้อยู่ข้างๆ มยุรีจึงแทรกตัวเข้ามากอดคนทั้ง 2 เอาไว้แน่น เวลานี้แม้นางจะเป็นคนนอก แต่ก็อดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่…

“จันทร์หอม…เรไร…นายโคทาโร่” โมกพยายามเรียกชื่อคนที่นั่งล้อมตัวเขาทีละคน แต่โคทาโร่ก็อยู่ไกลกว่า…

“นายโกทาโร่…” ยายบังอรกวักมือเรียกเขาให้เข้ามา โคทาโร่เดินแทรกวงเข้าไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับจันทร์หอม

“เจ้า เก่ง มาก…โมก” โคทาโร่บอกเพื่อน แต่ก็ไม่ปรากฏความ รู้สึกใดๆ บนใบหน้า โมกพยายามยกมืออีกข้างเหมือนต้องการจะจับมือ โคทาโร่คว้าเพื่อนมากุมเอาไว้ มือที่ขาวจนซีดออกแรงบีบเบาๆ เหมือนอยากจะบอกอะไรบางอย่าง

“ฝากดูแลจันทร์หอม…ฝากเรไร…ด้วย” เสียงพูดแต่ละคำถูกเค้นออกมาจากความเจ็บปวดจนสุดใจ โคทาโร่พยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล “เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีและซื่อสัตย์กับข้าที่สุด” เขาพูดเหมือนสัญญาชิโนบิที่ไม่มีวันตายได้เริ่มต้น

“พี่โมก!…” จันทร์หอมตะโกนสุดเสียงเมื่อมือโมกที่นางกุมเริ่มบีบรัดพลางชักกระตุกจนน่าตกใจ

“จันทร์หอม โคทาโร่” เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนเขาจะรวมมือคนทั้งคู่ เข้าหากัน “รับปาก…นาย รับปาก”

“พี่โมก ไม่นะ…”

“เจ้าทำดีที่สุดแล้วเพื่อน…ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ข้าให้สัญญาด้วยเกียรติซามูไร…แม้ข้าจะต้องตาย” โคทาโร่พูดจบมือของโมกที่วางทับมือของคนทั้งคู่ก็ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักลงข้างลำตัว เขาหมดแรงที่จะยื้อชีวิตอยู่ต่อไปแล้วเวลานี้

พี่โมก!เสียงตะโกนที่เกิดจากความสูญเสียดังลั่น ครั้งนี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่านางจะรับไหว จันทร์หอมทิ้งร่างกอดสามีแน่นผมสีดำยาวสยายปิดคลุม 2 ร่าง มีเพียงแผ่นหลังที่สะเทือนเลื่อนลั่นเท่านั้นที่พออ่านอารมณ์ข้างในออก

“พ่อจ๋า…พ่อ!” เมื่อเสียงบุตรสาวเรียกสติ จันทร์หอมถึงได้เงยหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาพร้อมกับดึงเธอเข้ามากอด

“เรไร…อย่าให้น้ำตาโดนร่างของพ่อนะลูก” และนางก็ยังมีสติพอ

“จันทร์หอม…” โคทาโร่เรียกอย่างเกรงๆ แต่สายตาของจันทร์หอมกลับมาทำให้เขาต้องหยุดแค่นั้น (นางเกลียดข้า…)โคทาโร่ครุ่นคิดอย่างคนไม่เข้าใจ..เขาเลือกที่จะนิ่งและถ่ายเทความห่วงใยไปให้นาง

“ไม่เป็นไรนะจันทร์หอม พวกพี่จะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เอง” ขามแทรกเรียบๆ จันทร์หอมได้แต่พยักหน้าอย่างไม่เหลือทางเลือก

            พี่โมก!

 ……….

งานศพของโมกจัดอย่างง่ายๆ ที่วัดใกล้บ้าน…โคทาโร่เห็นจันทร์หอมเผาของใช้ส่วนตัวไปพร้อมๆ กับร่างที่ไร้วิญญาณ  เขายืนมองอย่างไม่เข้าใจและพยายามถามนางหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้คำตอบนอกจากน้ำตาที่พร้อมจะทะลักได้ทุกเมื่อที่เห็นหน้าเขา

: มิตรภาพที่นี้…ช่างงดงามดีแท้

: ทุกผู้ ทุกคน ต่างรวมความรู้สึก…เป็นหนึ่งเดียว

: เวลาสุข…พวกเขาก็พร้อมกันสุข

: เวลาทุกข์…พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้โดดเดี่ยว

: ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งข้าให้มาที่นี้

: ถึงแม้ว่าความงามกลางสนามรบ จะเห็นเป็นสีหม่นหมอง

: แต่ข้างในกลับสว่างไปด้ายจารีต…ที่ข้ารู้สึกอบอุ่น

                : จันทร์หอม…ข้ารักเจ้ายิ่งนัก นี้เป็นสิ่งเดียวในเวลานี้

ที่คนอย่างข้าอยากจะพูด

……….

อีกมุมหนึ่ง

                “มีอะไรรึ…หมอ” ขามกระซิบเมื่อมือหมอพื้นบ้านสะกิดขณะที่พวกเขานั่งร่วมกันอยู่ในงานศพ สายตาที่จ้องมองอย่างหวาดๆ พลอยทำให้ขามใจเสียไปด้วย

“กูสงสัย…” เขากระซิบเบาๆ ขามพยักหน้าให้เห็น… “การตายของไอ้โมก…ไม่ใช่ไข้ป่า…ไม่ใช่โรคที่กูเคยเจอ”

“อะไรนะ…หมายความว่าอย่างไร” ขามตกใจขยับเข้าใกล้หมอพื้นบ้านมากขึ้น

“เวลาไอ้โมกหายใจออกมา…มันเหม็นเหมือนกับกลิ่นของยาพิษ…และเลือดมันก็ดำคล้ำไม่เป็นสีแดงเหมือนคนปกติ…กูบอกมึงคนเดียว”

“ไอ้โมกโดนวางยาอย่างนั้นเหรอ…”

“กูไม่กล้าสรุป…แต่ทั้งชีวิต…กูก็เห็นไอ้โมกเป็นคนแรก” หมอพื้นบ้านพูดต่อและพยักหน้ายืนยันอีก

“โมก!…กรรมของมึงแท้ๆ…เรื่องนี้จันทร์หอมมันต้องรู้” ขามพูดกับตัวเองก่อนจะพาใบหน้าที่ซีดสลดเดินออกจากงานไปเงียบๆ

……….

อีกหลายวันต่อมา

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจส่งเสบียงเที่ยวนั้น มินาโมโต โคทาโร่ก็ถูกส่งตัวกลับมาประจำในจังหวัดเพชรบุรีอีกครั้ง ภาพของจันทร์หอมที่ต้องอยู่ตามลำพังกับบุตรสาวตัวเล็ก ทำให้เขาปวดใจจนแทบจะทนไม่ไหว…แต่นางก็ใจแข็งกว่าที่คิดเอาไว้มาก

(โมกฝากพวกเจ้าไว้กับข้า เขาไว้ใจข้า แต่ทำไมดวงตาของเจ้า…จันทร์หอม ทำไมเจ้าถึงได้เกลียดชังข้านัก) โคทาโร่ครุ่นคิดในเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่พาโมกมาถึง…

“คุณชาย…” เป็นเสียงเรียวตะ แต่โคทาโร่ก็ได้แค่ผงกหัวเดินผ่าน

“โคทาโร่ ข้าไปด้วย” เสียงจิโระตะโกนไล่ตามหลังมา

“ออกเวรแล้วรึไง” โคทาโร่ถามแต่ก็ไม่ได้สนใจเรียวตะเช่นเคย

“ข้าเวรดึก” จิโระบอกขณะอยู่ในชุดลำรอง

“แล้วเจ้ารู้รึไงว่าข้าจะไปไหน”

“แค่เท้าเจ้าก้าวออกนอกเขตทหาร ข้าก็พอเดาออกแล้วละ…” ฮาราชิ จิโระพูดยิ้มๆ พร้อมกับยักคิ้วให้

……….

และคนทั้ง 2 ก็มาหยุดที่บ้านของจันทร์หอม

“จันทร์หอม…ข้ามาเยี่ยม จันทร์หอม…เรไร” โคทาโร่ตะโกนเรียกที่เชิงบันได แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทั้งๆ ที่เขามั่นใจว่าพวกนางอยู่ข้างใน

“ข้ามีของมาฝาก…” โคทาโร่ตะโกนเสียงดังขึ้นไปอีก

“พวกนางคงไม่อยู่ในบ้าน” จิโระพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นปลอบใจเพื่อน โคทาโร่พยักหน้าอย่างเสียไม่ได้

“กลับกันเถอะ…” เขาสรุปพร้อมกับวางอาหารกระป๋องที่นำมาไว้ที่ระเบียง

“ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บปวด…ให้เวลานางอีกนิดเถอะโคทาโร่” จิโระปลอบ นี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาได้กำลังใจจากเพื่อนคนที่น่าจะเสียชีวิตตั้งแต่กระสุนนัดแรก…เขาตบไหล่โคทาโร่เบาๆ อีกหลายครั้ง แต่เพียงเท่านี้มันก็มากพอที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

“ขอบใจมาก…จิโระคุง”

……….

ถึงแม้…………………………..รูปกายจะดูอ่อนแอ

แต่หัวใจประหนึ่งเพชร…………ก็แกร่งเกินทน

จันทร์หอม ธารารักษ์

……….

## จบ สมรภูมิปักษา12 ##

(Visited 64 times, 1 visits today)