เล่านอกเรื่อง ตอน สะพานเจนจิรา โดย TIMMY BUTO
เล่านอกเรื่อง ตอน สะพานเจนจิรา
เรื่องราวของนางแบบอาภัพนางหนึ่ง
“สะพานเจนจิรา” เป็นเรื่องราวของนางแบบอาภัพนางหนึ่ง…เรื่องของเธอเริ่มต้นสมัย Timmy ยังทำงานให้บริษัทรับสร้างบ้านขนาดกลางโดยมีนักธุรกิจห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองไทยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ อดีตของเจนจิราคือนางแบบนิตยสารดังในอดีต เธอมีแฟนเก่าเป็นช่างภาพในสังกัดเดียวกัน และแฟนเก่าของเธอนั้นเองที่เป็นคนกีดกันไม่ให้เข้าไปโลดแล่นในวงการที่มองว่าเน่าเฟะ!และน่าขยะแขยง ซึ่งเธอเป็นคนหัวอ่อนอยู่แล้วจึงเชื่อตามนั้น
พอเวลาผ่านไป วัยของเธอมากขึ้น เจนจิราจึงถูกผู้ใหญ่ของห้างสรรพสินค้าที่เป็นหุ้นส่วนบริษัทรับสร้างบ้านฝากเข้ามาเป็นประชาสัมพันธ์-ฝ่ายขายในบริษัท เรา…หมายถึง Timmy กับเธอจึงได้ร่วมงานกัน เธอสวยมากๆ ถึงอายุจะมากกว่าTimmy 1 รอบหรือ 12 ปี แต่เจนจิราก็ยังสาว-สวย ดูอ่อนเยาว์ พูดตรงๆ มองทั้งวันไม่มีเบื่อประมาณนั้น ช่วงที่รู้จักกับเธอคือปี พ.ศ. 2539 ปีนั้นเธอเลิกกับแฟนเก่าช่างภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การจะหวนคืนสู่วงการเป็นเรื่องยากเพราะนางแบบลูกครึ่งรุ่นน้องต่างต่อแถวพาเหรดเตรียมตัวเข้าสู่วงการมากมายเหลือคะนานับ ยุคทองของเจนจิราได้ผ่านไปแล้ว
ด้วยความสวยและโสดจึงมักจะมีหนุ่มๆ เข้ามาขายขนมจีบจนหัวบันไดบริษัทไม่แห้ง เสี่ยน้อย-เสี่ยใหญ่-เจ้าของธุรกิจ-ผู้รับเหมา-ต่างยื่นข้อเสนอให้เธอเลือกมากมาย แต่เจนจิราก็ไม่มีท่าทีสนใจนอกจากผู้รับเหมารายย่อย-หนุ่มหล่อตี๋อินเตอร์รุ่นน้องชื่อ “โก” เฮียโกเป็นคนฉลาดรู้จักเข้าหาเธอทางประธานบริษัท ในวันหมั่นหมายเป็นวันปีใหม่ปีแรกที่ Timmy ทำงาน บริษัทจัดเลี้ยง-แจกโบนัสบนเรือภัตตาคารชื่อ “ริเวอร์ไซด์ครูตซ์” ลำน้ำเจ้าพระยาคือสวรรค์สำหรับกล่าว HAPPY NEW YEAR 1997 (ปี 2540) ขณะที่ทุกคนกำลังสำราญ-เริงรื่น-ดื่มด่ำกับโบนัสก้อนโตตุงกระเป๋า เฮียโกก็ควักกำไรแขนทองคำน้ำหนัก 10 บาทออกมาประกาศหมั่นเจนจิราต่อหน้าประธานและพนักงานกว่า 100 ชีวิต พวกเราแสดงความยินดีจนลำน้ำเจ้าพยาเดือดปุดๆ ด้วยความริษยา หนุ่มหล่อกับสาวสวยประจำบริษัทใครมั่งจะไม่อิจฉาคุณว่าจริงไหม? แต่…….
แต่….เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นทำให้ผู้ใหญ่หลายคนตั้งคำถามว่า…เฮียโกต้องการอะไรกันแน่ เฮียโกรักเจนจิราจริงรึ!-หรือต้องการใช้เธอเป็นสะพานข้ามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลก็แค่ข้อสันนิฐานแผ่วๆ ไร้น้ำหนัก และหลังจากนั้นไม่นานเฮียโกก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทจริงๆ หลังแต่งงานผู้ใหญ่ฝ่ายห้างสรรพสินค้าก็เปิดบริษัทสาขาย่อยบนถนนสุขุมวิทโดยให้เฮียโกเข้าไปบริหาร “สะพานเจนจิรา” จึงเริ่มปรากฏเป็นรูปเป็นร่างให้เห็น
กระทั้งเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปี พี่ชายของเจนจิราซึ่งเป็นนายแพทย์เกี่ยวกับความสวยความงามได้ตั้งบริษัทผลิตครีมทาผิวหลายตัว เฮียโกที่เริ่มเบื่อหน่ายกับธุรกิจรับสร้างบ้านจึงปลีกตัวเข้าตีสนิท กระทั้งสามารถล้มและเข้าฮุบกิจการได้สำเร็จ 100% เฮียโกจึงทิ้งบริษัทรับสร้างบ้านให้เน่าเฟะ! จนสาขาสุขุมวิทต้องปิดกิจการในเวลาไม่นาน เจนจิราดูเหมือนจะรักและหลงเฮียโกอย่างมาก เธออยู่กินกับเฮียโกเกือบ 5 ปี แต่ก็ยังไร้วี่แววจะมีทายาท เธอทำทุกวิถีทางทั้งพบแพทย์แผนปัจจุบันและไสยะ แต่ดูเหมือนพระเจ้าก็ยังไม่ส่งทายาทมาให้ กระทั้งที่ปรึกษาส่วนตัวผู้ใหญ่ของห้างสรรพสินค้าแนะนำให้หาผู้หญิงมาอุ้มบุญแทน เจนจิราหัวอ่อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นจึงวางแผนต่อทันที แต่….แต่….ด้วยความที่เฮียโกแกเป็นคนขี้เหนียว การจะต้องควักเงินก้อนโตจ่ายที่ปรึกษาจึงเป็นเรื่องยาก 2 ผัวเมียจึงต่อยอดด้วยการนอนปรึกษากันเองบนเตียงนอน…
ในที่สุดทั้งเจนจิราและเฮียโกก็ได้ข้อสรุป โดยตัวเธอให้เพื่อนสนิทหาหญิงสาว-สวย-ผิวดี การศึกษาสูง จบปริญญาโทอย่างต่ำมาให้
ขอย้อนกลับไปเรื่องกฎหมายระหว่างเจนจิรากับเฮียโกอีกสักนิดหนึ่ง ด้วยความที่เฮียโกแกเป็นคนขี้เหนียวและหัวหมอโดยธรรมชาติ แกจึงยกข้ออ้างต่างๆนานาที่จะไม่จดทะเบียนสมรส-หรือทำธุรกรรมใดๆร่วมกับเจนจิรา รวมทั้งรายการทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถ-บ้าน-ที่ดิน-บริษัทและอื่นๆด้วย ประกอบกับความที่เจนจิรารัก-หลงและไว้ใจเฮียโกเป็นอย่างมาก เธอจึงไม่มีปากมีเสียงในเรื่องนี้ บ้านที่เฮียโกอยู่ปัจจุบัน Timmy เป็นคนออกแบบ เป็นบ้าน 2 ชั้นทรงร่วมสมัยขนาดใหญ่สวยมากๆ แต่เจนจิราถ้าจะว่าไปแล้ว เธออยู่ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้น เมียก็ใช่!แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของบ้านนั้นเหรอ-ดอกนี้ผ่านได้เลย
ถามตรงๆ ทำไม? นางแบบสาวสวยอย่างเจนจิราถึงยอมสามีทางพฤตินัยได้ถึงเพียงนี้ ปล่อยให้เขาทำลายบริษัทพี่ชายตัวเองจนไม่เหลือชื่อ แถมตัวเธอเองยังตระเวนคัดสรรสาวๆสวยๆผิวดีๆการศึกษาสูงๆมาเสริฟถึงเตียงนอนอีก ซึ่งผลงานชิ้นเอกนี้ก็ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามซะด้วย เมื่ออนงค์สาวเหนือการศึกษาระดับปริญญาโทตอบตกลงตามเงื้อนไข เจนจิราจึงพาเธอและตัวเองไปตรวจร่างกายเพื่อจะเอาไข่ตัวเองไปทำเด็กหลอดแก้วแล้วนำไปฝังในมดลูกของอนงค์นางนั้น อนิจจา….สวรรค์คงลืมอดีตนางแบบชื่อเจนจิราไปแล้วจริงๆ-ไข่เธอเองมีปัญหา สรุปสุดท้ายเฮียโกจึงต้องลงทุนสมสู่กับอนงค์สาวด้วยตัวเอง
ได้ผลครับ….ไม่นานทุกคนในบริษัทก็ได้รับข่าวดีว่าอนงค์สาวตั้งครรภ์ เจนจิราดูเหมือนจะเห่อมากกว่าเฮียโกเสียอีก ของใช้เด็กอ่อนถูกเธอซื้อขนเข้าบ้านพร้อมกับจัดห้องรออย่างออกหน้าออกตา โดยหารู้ไม่ว่าหายนะที่ไม่รู้จักกำลังก่อตัวเตรียมเข้าจู่โจมวันละนิด กระทั้งอนงค์สาวคลอดบุตรเป็นชาย คนที่จดทะเบียนรับรองบุตรแน่นอนคือเฮียโก สามีทางพฤตินัยของเจนจิรา แล้วอนงค์ที่หวงแหนลูกชายยิ่งกว่าไข่ในหินเป็นใครกันละ เธอเด็กกว่า สาวกว่า สวยกว่าขณะที่เจนจิราอายุเพิ่มขึ้น เฮียโกเห่อลูกชายมากๆ ถึงขั้นไปแอบจดทะเบียนสมรสกับอนงค์ที่เจนจิราหามาให้
ไม่! เรื่องของเรื่องไม่จบแค่นั้น…เฮียโก แอบโอนชื่อบ้านหลังหนึ่งเป็นชื่ออนงค์สาว ซื้อเบนซ์ป้ายแดงให้โดยที่คนเป็นเมียคนแรกอย่างเจนจิราไม่เคยได้รับ ทรัพย์สินอีกหลายอย่างที่เจนจิราไม่มีสิทธิ์ถูกถ่ายโอนเงียบๆ Oh! พระเจ้า
หลังจาก Timmy หลุดจากบริษัทแล้วหลายปี เสียงโทรศัพท์เกือบจะเที่ยงคืนก็ดังขึ้น “ใครกันนะ” ผมถามตัวเอง เมื่อรู้ว่าเป็นเจนจิราจึงรีบรับสาย
“ครับเจ้….” : เจนจิราพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ใช่! เธอพูดตะกุกตะกักเหมือนคนกำลังร้องไห้ แต่พอสรุปใจความได้ว่า….หลังจากเธอปิดร้านขายเสื้อผ้า (บริษัทรับสร้างบ้านปิดตัว เจนจิราจึงกลับไปเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นในห้างสรรพสินค้าเดิม) เธอกลับบ้านตามปกติ แต่พอปลายนิ้วกำลังจะกดกริ่งเรียก ภาพพ่อ-แม่-ลูกกำลังหลับบนเตียงภายในบ้านที่เธอคิดว่าเป็นของตัวเองก็ผุดขึ้นมาหลอน
“Timmy หลับรึยัง…..”
“เจ้… (ผมจะเรียกเธอด้วยสรรพนามนี้จนติดปาก)”
“เจ้….เจ้…” ผมได้แต่คาดเดาไปต่างนานา จนกระทั้ง “เจ้ขอไปนอนคอนโดฯ สักคืนได้เปล่า…แบบ แบบว่า…”
ผมพอเดาออกทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบตัดบท “เจ้อยู่ไหน….”
“หน้าบ้าน….ฮื้อๆๆๆๆๆ” ในที่สุดเสียงสะอื้นต่ำลึกคล้ายกำลังปิดปากไม่ให้เสียงเล็ดลอดข้ามประตูก็ดังให้ได้ยิน “เค้า เค้า เป็นพ่อ-แม่-ลูก-แล้วเจ้ละ Timmy เจ้ เจ้อยู่ในฐานะอะไร?”
“เดี๋ยวไปรับ….” ผมรีบตัดบทเป็นครั้งที่ 2 เพราะมั่นใจว่าเธอไม่ได้ขับรถไปทำงานเองแน่ๆ
“เจ้…”
“รอที่7-11 ก็แล้วกัน”
สรุป : “สะพานเจนจิรา” เป็นเพียงสะพานไม้เก่าๆ-ผุๆ รอพายุพังทลาย โดยคนที่ใช้ข้ามสู่ฝั่งฝันไม่คิดจะหันมามองเธอเลยสักนิด….ทุกวันนี้เท่าที่รู้ หลังปิดร้านเจนจิราจะต่อแท็กซี่ไปยังสถานีขนส่งหมอชิตเป็นประจำ เพื่ออะไร? ก็เพราะบ้านของเธอในเวลานี้คือรถปรับอากาศ ถนนในเงาราตรีคือเตียงนอนที่ทำให้เธอหลับลึกมากกว่าบ้านหลังใหญ่ที่มีทุกสิ่ง….ก่อนจบ…เธอกระซิบประโยคหนึ่ง
“บางทีพระเจ้าคงตั้งใจส่งเจ้มาเกิดเป็นสะพานว่าไหม?”
“สะพานเจนจิรา” ผมทวน
“…พรุ่งนี้เจ้จะเลือกตื่นเช้า-จิบกาแฟที่จังหวัดไหนดีน่า…55555 เห็นไหม? ชีวิตเจ้มีความสุขจะตายว่าไหม?”
ผมทำได้แค่พยักหน้า ขณะที่แววตาเราทั้งคู่เศร้าสลดจนอ่านความหมายของมันไม่รู้เรื่อง….เพื่อนๆ ครับ หากใครสังเกตเห็นสาวใหญ่วัยเกือบ 60 ปีสูงราวๆ 180 เซนติเมตรบวก-ลบ ชอบทำผมทรงฟาร่าสีมะฮอกกานี กรุณาเลี้ยงกาแฟเธอแทน Timmy สักแก้วนะครับ ขอบคุณมาก