ผอม เด็ก ดูดี ตอน สำรวจรายการอาหารในรอบ 1 วัน
ผอม เด็ก ดูดี ตอน สำรวจรายการอาหารในรอบ 1 วัน
“ฉันอยากลดความอ้วน” ยัยธนาคารออมสินแหกปากเป็นแม่ช้างจะคลอดลูก จนผมที่นั่งทำงานอยู่ห้องข้างๆ ต้องลุกพุ่งไปเปิดประตูถามแบบคนเสียมารยาท
“เป็นไรวะ!”
“..ดูหน้ากูดิบานยังกับกระด้ง แถมน้ำหนักขึ้นไม่หยุด ฮื้อๆ กูเครียด” พูดจบเธอก็โยนขนมกรุบกรอบ-เป็นมันฝรั่งทอดยี่ห้อดังเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ผมส่ายหน้าพร้อมกับเดินไปแย่งถุงมันฝรั่งจากมือ
“เอาน้ำอัดลมด้วยไหม?” ผมแกล้งถาม
“โค้กนะแก…ขอบใจ” พูดจบเธอก็หันกลับไปทำงานต่อราวกับไม่มีอะไร ผมยืนมองอย่างคนเอือมระอาสักพัก “มึงอะ….”
“หึ…..”
“มึงลดน้ำหนักได้อย่างไร….บอกสูตรหน่อยดิ นะนะ อยากลดความอ้วน”
ผมยืนสำรวจจิปาถะรอบๆ ตัวมัน “ไม่ใช่ลดความอ้วน แต่มันคือวิธีลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนเริ่มต้นให้ถูก… ผอม-เด็ก-ดูดี-เริ่มต้นที่สมอง…ไม่ใช่อยาก-แต่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ตลอดเวลาแบบนี้ไม่เอา”
“ก็กูเครียดนะ” มันยังเถียง ถ้าไม่ติดว่าตัวใหญ่กว่าจะตบให้คว่ำ
“มึงต้องผ่อนคลาย ตามหาความอยากที่แท้จริงให้เจอแล้วกูจะเป็นเทรนเนอร์ให้เอง”
“ความอยาก….อยากอะไรวะ”
ผมยิ้มแบบผู้เหนือกว่า “ก็อยากหุ่นดี…อยากสวยแบบจริงๆ จังๆ ไง….หาแม่น้ำทั้ง 5 ชักนำความอยากให้เรียบร้อย….พร้อมเมื่อไร….บอกเทรนเนอร์…โอเคร!”
“ก็พร้อมแล้วเนี่ย! พร้อมตั้งแต่นาทีนี้เลยด้วย” ยัยชลิตาสวนในลมหายใจเดียวกัน ผมมองหน้าแล้วกวาดสายตาไปรอบโต๊ะทำงานของมัน
“ขนขนมขบเคี้ยวพวกนี้ทิ้งให้หมด” ผมออกคำสั่ง มันทำหน้างออยู่พักใหญ่
“เสียดายอะ….หลายตัง”
“งั้น….พร้อมเมื่อไรค่อยเรียก” ผมพูดและกำลังจะหันหลังกลับเข้าห้อง
“นี้ แก แก แก…..ทิ้งแล้ว ทิ้งแล้ว ทิ้งแล้ว” และมันก็เก็บขนมนานาชนิดที่กระจายอยู่เต็มโต๊ะทิ้งลงถังขยะจริงๆ “หมดแล้ว…”
“ในตู้เย็นด้วย…เหลือแค่น้ำเปล่าพอ”
“แกอะ…” ยัยออมสินเตรียมตั้งท่าจะโวยวาย “เค้กจาก S&P กับโอปองแปงเชียวนะ”
“ถึงจะเป็นหูฉลามก็ต้องทิ้ง….ถ้ามึงต้องการลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนจริงๆ”
ครับในที่สุดยัยธนาคารออมสินหรือนางสาวชลิตาก็ยอมปฏิบัติตามอย่างคนว่านอนสอนง่าย มันใช้เวลาอยู่ 1 วันเต็มๆ เพื่อเคลียร์ทุกอย่าง ไม่เฉพาะของในตู้เย็น อะไรที่สามารถหยิบจับเข้าปากได้ง่าย บะมง-บะหมี่-ขบเคี้ยว-กรุบกรอบ-ผลไม้อบแห้ง-ขนมปังอบเนย ผมไล่เช็คบิลลงถังขยะไม่มีเหลือ….แต่มันคงแอบขนไปให้แม่บ้านอะนะ….เห็นหอบลังกระดาษลงลิฟต์ไปหลายรอบกระทั้งทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราถึงกลับมานั่งรวมกันในห้องอีกครั้ง
“หมดเกลี้ยงแล้ว…ดึกๆ ฉัน ฉัน….”
“หุบปาก-ปิดสมองเลย ไม่อย่างนั้นการลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนไม่รอดแน่นอน” เรามองหน้ากันสักครู่ก่อนผมจะยื่นกระดาษเปล่ากับปากกาให้…. “แกช่วยบรีฟรายการที่กินเข้าไป เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนกระทั้งหลับเลยนะ”
“ทุกอย่างเลยเหรอ”
“น้ำเปล่าก็ไม่เว้นเอาข้อมูลจริง ห้ามยักยอกเด็ดขาด” ผมบอกพร้อมกับหมุนตัวทิ้งให้มันอยู่กับความคิด…เป็นครั้งแรกที่ได้แกล้งเพื่อนยักษ์ตัวสีน้ำตาลไหม้ๆ ฮ่า ฮ่า ก็แอบสะใจอะนะ….2 ชั่วโมงผ่านไปมันก็เข้ามาวางกระดาษลงตรงหน้า “โห!…นี้มึงกินหรือยัดห่าวะ!…..”
ตื่นนอนเวลา 11.30 น. เมื่อล้างหน้าอาบน้ำเสร็จ
- ดื่มนมรสผลไม้รวม 1 แก้ว
- อาหารมื้อเช้าส่วนใหญ่จะเป็นข้าวผัดหรือกะเพราหรือข้าวราดแกง 1 จาน
- ต่อด้วยโค้กกระป๋อง
- กาแฟร้อนน้ำตาล 3 ช้อน-ครีมเทียม 2 ช้อน+ขนมปัง 1 ชุด บางวันก็เค้ก 1 ก้อน
อาหารว่างระหว่างมื้อแรก
- ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบอย่างน้อย 2 ชนิด 2 ซอง
- โค้ก-บางวันเป็นเบียร์ อย่างน้อย 1 กระป๋อง
- น้ำเปล่าประมาณ 1 – 2 แก้ว
มื้อที่ 2
- ข้าวราดแกงหรือข้าวขาหมูหรืออื่น ๆที่เท่าเทียม 1 ชุด
- โค้ก 1 -2 แก้ว
- น้ำเปล่า 1-2 แก้ว
อาหารว่างระหว่างมื้อที่ 2
- กาแฟร้อนน้ำตาล 3 ช้อน-ครีมเทียม 2 ช้อน+ขนมปัง 1 ชุด บางวันก็เค้ก 1 ก้อน
- ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบอย่างน้อย 2 ชนิด 2 ซอง
- โค้กบางวันเปลี่ยนเป็นเบียร์อย่างน้อย 1 กระป๋อง
- น้ำเปล่าประมาณ 1 – 2 แก้ว
- เกือบ ๆ 2 ทุ่ม มีผลไม้หรือไม่ก็ส้มตำ +ขนมจีน 1 ชุด
และมื้อสุดท้ายก่อนนอน
- อาหารประเภทยำ บางคืนเป็นข้าวกะเพรา/ข้าวมันไก่หรืออื่น ๆ 1 จาน
- เบียร์หรือโค้ก 1 กระป๋อง
- ตบท้ายด้วยน้ำเปล่า 1-2 แก้ว
โอ้!….พระเจ้า ผมนั่งอ่านรายการอาหารในรอบ 1 วันที่นางสาวชลิตาบรีฟมาให้
“เฉพาะโค้กกับเบียร์ 1 วัน แม่งก็ล่อเข้าไปเกือบ 1000 กิโลแคลอรี่ละ…ไหนลองรวมทั้งหมดดูดิแดกรวมกันทั้งหมดเท่าไร…..โอ่! โอ้! พระเจ้า เกือบ 4500 กิโลแคลอรี่”
ผมเผลอนึกถึงตัวเองสมัยน้ำหนักแตะ 85 กิโลกรัมใหม่ๆ กว่าจะลดสู่เป้าหมาย 64-65 กิโลกรัมอันเป็นน้ำหนักเดียวกับสมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้สำเร็จก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 หรืออาจจะ 3 ปีด้วยซ้ำ และในระหว่าง 2-3 ปีที่ลดน้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม ผมไม่ได้ลดเฉพาะน้ำหนัก แต่ยังเป็นงานออกแบบ-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่ตื่นนอนยันหลับ ปรับนาฬิกาชีวิตให้เกิดสมดุล มีหลายครั้งที่ท้อ-เหนื่อยและตบะแตกจนต้องแดกของที่มีอยู่ในตู้เย็น-ในครัวจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ….หลังๆ ผมจึงคิดค้นวิธีกำหลาบพฤติกรรมหมูบ้าด้วยการแก้ผ้าดูความทุเรศของตัวเองเทียบกับรูปนายแบบหุ่นฟิตเฟิร์มให้เจ็บกระดองใจเล่นๆ…เพื่ออะไร ก็เพื่อเป็นแรงจูงใจ-เป็นแรงผลักดันและเพื่อสมองจะได้จูนกลับเข้าสู่เส้นทางลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนอันเป็นเป้าหมายหลักให้ได้นั้นเอง
วันต่อมาผมจึงจับยัยออมสินมานั่งคุย “ก่อนที่จะบรีฟรายการอาหารที่ต้องกินในรอบวัน กูอยากให้มึงหาเพื่อให้เจอก่อน”
“เพื่ออะไรอะ”
“ก็เพื่อเป้าหมายหรือแรงบันดาลใจไง มึงอยากสวยเพื่ออะไรก็ว่าไป…ถ้ามีไอดอลยิ่งดีให้ใช้รูปไอดอลของมึงแปะติดกระจกเงาไว้เทียบกับตัวเองเลย จะได้เตือนสติทุกวัน…ประเด็นต่อมามึงต้องหาเวลาออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องเยอะ-หนักหรือนาน แต่ขอให้ทำทุกวัน ถ้าเป็นช่วงเช้าได้จะดีมาก”
“ฉันตื่นเช้าไม่ไหวหรอก…”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่สะดวก ถ้าไม่ไหวให้ตัดการเดินทางอย่างใดอย่างหนึ่งเช่นจากคอนโดฯ ไปหน้าปากซอยแทนที่จะนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ใช้วิธีเดินนับก้าวแทน 5-10 นาทีก็ถือว่าดีและคุ้มค่าในการลงทุนแล้วละ”
“เอาอย่างนั้นเลยเหรอ”
“มาถึงเรื่องอาหารกันบ้าง….อื้อๆ รู้ไหมว่าในรอบ 1 วันมึงกินอาหารเข้าไปจำนวนเท่าไร”
“ว่ามาเลย” ยัยธนาคารออมสินพูดด้วยท่าทีจริงจังเป็นพิเศษ ซึ่งนั้นก็เป็นสัญญาณที่ดี
“เกือบ 4500 กิโลแคลอรี่ ขณะที่ไลฟ์สไตล์อย่างเราอัตราการเผาผลาญพลังงานไม่น่าจะเกิน 2000 หรือ 2000 กิโลแคลอรี่นิดๆ”
“โห….เล่นนับแคลเลยเหรอ”
“คร่าวๆ แกจะได้รู้ไง ถ้าโดยเฉลี่ยแก่กินอาหารเข้าไป 4500 กิโลแคลอรี่ อัตราที่ร่างกายเผาผลาญได้สมมุติว่า 2000 กิโลแคลอรี่ เพราะฉะนั้นในรอบ 1 วันจะมีพลังงานส่วนเกิน 2500 กิโลแคลอรี่และนั้นก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันล้วนๆ”
“โห! จริงดิ”
“ตื่นนอนให้ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว-ตัดนมรสผลไม้รวมกับโค้กของมึงทิ้ง ส่วนอาหารมื้อแรกตามที่บรีฟมาก็ถือว่าโอเคร แต่อยากให้เพิ่มโปรตีนเป็นไข่ต้มหรือไข่ดาวมื้อละฟอง”
“โอ้….ฉันจะไม่อ้วนหนักกว่าเดิมเหรอ”
“ไม่หรอกเพราะจุดประสงค์อยากให้อิ่มนานจนเลยมื้อที่ 2 สักหน่อย อีกอย่างอาหารว่างระหว่างทำงานทุกชนิด กินจุก-กินจิกรวมทั้งโค้กและเบียร์ตัดทิ้ง เวลาหงุดหงิดเพราะความเคยชินให้จิบน้ำเปล่าแทน ส่วนมื้อที่ 2 กินข้าวตามปกติแต่กรุณาตัดเบียร์กับโค้กออกจากชีวิตไปเลยดื่มน้ำเปล่าแทน…อื้อ! และอาหารว่างระหว่างทำงานช่วงหลัง-ถ้าตัดกาแฟไม่ได้ให้เปลี่ยนเป็นกาแฟดำ-รวมถึงหลังมื้อแรกด้วยนะ และมื้อสุดท้ายก่อนนอน เดือนแรกอาหารกินตามนี้ไปก่อน ขึ้นเดือนที่ 2 มื้อแรกให้กินตามปกติ ส่วนมื้อที่ 2 และ3 ไม่หิวไม่ต้องกิน แต่ถ้าหิวให้ลดคาร์โบไฮเดรตลงครึ่งหนึ่งของมื้อแรกหรือเลือกกินเฉพาะโปรตีนกับผัก ส่วนสูตรอาหารมีให้ในตอนสุดท้าย…อ้อ! ลืมไปก่อนนอนกรุณาตัดโค้กกับเบียร์ทิ้งด้วยละ ยิ่งเบียร์ตัวดี”
“เบียร์ทำให้อ้วนใช่ไหมแก”
“ไม่ทั้งหมด…เบียร์เป็นตัวกระตุ้นให้หิวบ่อยขึ้นต่างหาก”
“โอ้!…เหลือแต่อาหารหลัก 3 มื้อไม่รู้จะไหวรึเปล่า นะแก” ออมสินบ่นหน้าเศร้าๆ
“จากผลวิจัยระยะเวลาในการปรับ-เชตตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21 วัน ถ้าผ่าน 21 วันไปได้ กูรับรองว่า สเต็ปต่อไปง่ายขึ้น….”
“กลัวว่าจะท้อก่อนนะสิ”
ผมยิ้มเกือบจะหัวเราะ “เข้าใจเพราะผ่านมันมาแล้ว แต่กูมีเคล็ดลับ 2 อย่างจะบอก…”
“หึ!….เคล็ดลับอะไร”
“…… 1. เวลาหงุดหงิดอยากจะหาอะไรยัดเข้าปาก กูจะถามสมองว่า หิวหรืออยาก ถ้าสมองตอบว่าอยาก กูตัดทิ้ง
2. ถ้าเวลาท้อหรือหิวจนแทบเป็นบ้า กูจะแก้ผ้าดูความทุเรศของตัวเองผ่านกระจกเงาเทียบกับรูปนายแบบที่ใช้เป็นไอดอล”
“ไอ้บ้า….มิน่าละถึงเห็นรูป พี่ติ๊กเจษฯ แปะไว้ที่กระจกในห้องน้ำ…ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เออ…มันได้ผลนะโว้ย!….สุดท้ายสมองจะนิ่ง….อ้ออีกข้อ…สำคัญมากๆ…..ความหิวจะมาเป็นช่วงๆ กูอยากให้มึงหาอะไรทำ-ให้วุ่นเข้าไว้ เมื่อสมองไม่มีเวลาคิดมันก็จะเลิกหิวไปอัตโนมัติ”
“บรีฟรายการอาหารให้หน่อยดิ….นะนะ” ยัยธนาคารออมสินอ้อน ผมทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะสั่งปริ้นส์งานจากคอมพิวเตอร์ “เอาไปแปะติดตู้เย็นไว้เลยนะ”
ตื่นนอน
- ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว
- อาหารมื้อแรกตามปกติแต่ให้เพิ่มเป็นไข่ต้มหรือไข่ดาวเพื่อป้องกันหิว 1 ฟอง
- กาแฟดำ
อาหารว่างระหว่างทำงาน
- จิบน้ำเปล่า พยายามฝึก-ปรับพฤติกรรม หากผ่าน 21 วันได้ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
มื้อที่ 2
- ช่วงเดือนแรกตามปกติ ขึ้นเดือนที่ 2 ให้ลดข้าว/แป้งเหลือครึ่งหนึ่งของมื้อแรก
- น้ำเปล่าไม่จำกัด
อาหารว่างระหว่างมื้อที่ 2
- กาแฟดำ
- น้ำเปล่าจิบได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด
และมื้อสุดท้ายก่อนนอน
- เดือนแรกให้เหมือนเดิมไปก่อน ขึ้นเดือนที่ 2 ไม่หิวไม่ต้องกิน แต่ถ้าทนไม่ไหวให้กินโปรตีนกับผักเป็นหลัก
- น้ำเปล่า
“นี้คือรายการอาหารสำหรับเดือนแรก ส่วนเดือนที่ 2 ค่อยมาลงรายละเอียดอีกที”
“โอเคร!….แล้วฉันจะ ผอม-เด็ก-ดูดี…..”
“เริ่มต้นที่สมอง นะครับคุณเพื่อน”
ข้อควรปฏิบัติในการลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนเบื้องต้น
- เคลียร์ของในตู้เย็นทิ้งให้หมด-อนุญาตให้เหลือเฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้น
- งดอาหารว่างระหว่างมื้อเพื่อให้เพื่อนตายหรือร่างกายมีเวลาเผาผลาญ
- งดเครื่องดื่มประเภทมีน้ำตาลผสมทุกชนิดเช่นเบียร์-น้ำอัดลม-น้ำหวาน-ชาไข่มุก-กาแฟเย็น ถ้าหิวให้กินพร้อมมื้อแรกแต่ควรกินให้จบภายใน 1 ชั่วโมง
- ปรับพฤติกรรมตั้งแต่ตื่นนอนกระทั้งหลับ ค่อยๆ ฝืน-ฝึกวันละนิดไม่ต้องหักดิบหรือหักโหม เพราะตามงานวิจัยหากผ่าน 21 วันไปได้-ทุกอย่างจะค่อยๆ เข้าทีเข้าทางเอง
- ออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน-วันละ 5-10 นาทีเป็นอย่างน้อย เดินชิลๆ ชมนกชมไม้เพลินๆ ถ้าเป็นช่วงเช้าระหว่างเวลา 05.00 น-07.00 น. จะดีมาก เพราะเป็นการกระตุ้น-เปิดสวิตช์-รีสตาร์ทร่างกายให้เกิดการเผาผลาญพลังงานที่มีประสิทธิภาพทั้งวันได้ผลมากกว่าออกกำลังกายในช่วงเย็นหลายเท่า อีกประการ การออกกำลังกายในช่วงเช้ามีผลวิจัยบอกว่า สามารถลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
“อะ! อะ!…ดักแป้ง-ดักไขมัน ยาลดความอ้วนก่อน-หลังอาหารทิ้งให้หมดเลย”
“หือ!….อื้อๆ ก็ได้….แต่ข้าวของฉันเยอะไปรึเปล่าอะแก”
“ไม่หรอก วันหลังถ้าเปลี่ยนเป็นข้าวหอมนิล-ไรซ์เบอร์รี่-ข้าวกล้องหรือข้าวไม่ขัดสีได้จะดีมากๆ”
ยัยธนาคารออมสินชูดักแป้ง-ดักไขมันและยาสารพัดให้เห็น “ทิ้งแน่นะ…ชัวนะมึง”
“เออน่า….ปล่อยให้ไอ้หนูอินซูลินจอมขยันวิ่งเล่นสัก 4-5 ชั่วโมงบ้างเถอะ จะได้มีแรงคิดงาน โอเคร!….”