หลุยส์วิตตองกับคุณนายติ๊งต๊อง คิดบวกความสุขในมุมเล็กๆ
“สาธุ สาธุ สาธุ องค์จตุคามรามเทพ โปรดดลบันดาลให้เดี้ยนถูกหวยด้วยเถอะ ถ้างวดนี้เข้า-เดี้ยนจะซื้อกระเป๋าหลุยส์วิตตองมาให้ท่านสัก 2 ใบเลยเจ้าค้า… สาธุ สาธุ สาธุ”
“ทำอะไรอยู่คุณนาย”
“อุ้ย! ตาเถรตบแม่ชี….แหก…ตกใจหมดทิมมี่ มาก็ไม่ให้สุ่มให้เสียง โอ้ยยยย..ขวัญเอ้ยขวัญมา”
“นั่งบ่นอะไรงึมงำๆ คนเดียวเป็นนานสองนาน บอกมั่งดิ”
“ฮิ ฮิ ฮิ เป็นความลับทางราชการโว้ยยยย….พูดไม่ได้เดี๋ยวเลขจะเพี้ยน”
“นั้นแน!….ขอหวยกับองค์จตุคามอยู่อะดิ…ได้ตัวไรเหรอ”
“บ้า…ฉานไม่ติ๊งต๊องขนาดนั้นหรอกยะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“OK OK…ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก ไปละเดี๋ยวลูกค้ารอ”
หลุยส์วิตตองกับคุณนายติ๊งต๊อง
นี้แหละครับคือชีวิตประจำวันคุณนายติ๊งต๊องของผม ขอบอกเลยนะคุณนายติ๊งต๊องเคยเป็นนางแบบขึ้นปกหนังสือแฟชั่นในอดีตมาแล้วนะจะบอกให้ สวย หุ่นดีถึงแม้อายุจะเกือบๆ 50 ปีแล้วก็ตาม ที่ผมเรียกนางว่าคุณนายจนติดปากนะ จริงๆ นางก็เป็นคุณนายอะนะ รวย มีแจ๋วที่บ้านหลายคน เออ…ได้อยู่ๆ แต่ผมเรียกก็เพราะจริตจะก้านของนางนี้เหลือร้ายจริงๆ แบบเวลาเดินหรือเวลานางกรีดนิ้วกินส้มตำนะได้ใจผมไปเต็มๆ…สรุปว่าผมเรียกนางว่าคุณนายนะถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้วละ
มา!…ใครอยากอ่านเรื่องของคุณนายติ๊งต๊องไปเกี่ยวอะไรกับกระเป๋าหลุยส์วิตตอง ตามมาเลย วันนี้ Timmy จะขุดมาแฉให้หมดเปลือก คันปากมานานละ
ก่อนอื่นเรามาเข้าสู่เนื้อหากึ่งวิชาการก่อนนะครับ
หลุยส์วิตตอง (Louis Vuitton) หรือหลุยส์วิตตองมาร์ลีเยร์ (Louis Vuitton Malletier) เป็นชาวฝรั่งเศสนะครับ ทั่วไปคนมักจะเรียกว่า “หลุยส์วิตตอง” โดยใช้อักษรย่อว่า “LV” นะครับ เป็นบริษัทเครื่องแต่งกายโดยมีนายหลุยส์ วิตตอง เป็นคนก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1854 ต่อมามีผลิตภัณฑ์มากมายตั้งแต่กระเป๋าหรูหรา สินค้าที่ทำมาจากหนังสัตว์ไปจนถึงรองเท้า นาฬิกา เครื่องทองของประดับ แว่นตา และหนังสือเป็นต้น จะผลิตสินค้าขายในร้านที่ตัวเองเป็นเจ้าของผ่านห้างสรรพสินค้าและผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซเท่านั้น หลุยส์วิตตองยังได้รับการขนานนามว่ามีสินค้าที่แพงที่สุดติดต่อกันถึง 6 ปี (ค.ศ.2006-2012) ประมาณนี้นะครับเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน
เมื่อหวยออก
“อ้ากกกกกกก….ฉานถูกหวย”
“เหรออออ…คุณนายถูกหวย…ถูกเท่าไรวะ” เสียงของประธานบริษัทดังขึ้นติดๆ
“นี้ๆ พี่ 2 ตัว กับ 3 ตัวตรงๆ….ขอบคุณองค์จตุคามรามเทพ ขอบคุณ…ขอบคุ้ณณณณณ”
“โอ้!…ได้เกือบล้านเลยนะคุณนาย…อย่างนี้ต้องฉลอง…ที่ไหนดีวะ”
“เอาเลยพี่….ที่ไหนก็ได้ จัดไป จัดไปเลย ฮ่า ฮา ฮ่า”
ครับงวดนั้นคุณนายถูกหวยเกือบล้านจริงๆ จะโดยบังเอิญหรือเป็นเพราะองค์จตุคามรามเทพรึเปล่าผมไม่รู้ แต่คุณนายก็ถอยกระเป๋าหลุยส์วิตตองออกมา 2 ใบจริงๆ คือ Louis Vuitton Epi Leather Soft Speedy 30 เป็นหนังสีดำ Epi Line หรือลายเป็นเส้นคล้ายๆเปลือกไม้ 1 ใบและ Louis Vuitton Monogram Canvas Alma เป็นหนังสีน้ำตาลลายอักษร LV สลับรูปดาวและดอกไม้ที่ออกแบบโดยทายาทรุ่นที่ 2 และมีของแถมเป็นกระเป๋าใส่นามบัตรอย่างเท่อีก 1 ใบ ผมถึงกับตาลายรีบไปหาเช่าองค์จตุคามรามเทพแทบไม่ทัน (กูก็ติ๊งต๊องไปด้วยนะตอนนั้นนะ)
“สาธุ สาธุ สาธุ ชาวบ้านถูกเป็นล้าน ลูกช้างขอแค่แสนก็พอ” สรุปแล้วกูแม่งแสนสาหัสของจริง ไม่เคยได้แอ้มเงินเจ้ามือหวยเลยสักงวด….ต๊าย ตาย ตายกูตาย หวยไม่เคยถูกแถมคุณนายยังทำตัวน่าหมั่นไส้ขึ้นทุกวัน ไปไหนมาไหนนางจะแขวนกระเป๋าหลุยส์ 2 ใบที่ข้อศอกทั้ง 2 ข้าง ใส่แว่นกันแดดใหญ่ๆสีชา (น่าจะหลุยส์วิตตองด้วยนะ ไม่ทันสังเกต) เดินโยกย้ายส่ายก้นกะละมัง Size FF จากลานจอดรถมาบริษัทนี้อื้อหือ!….ดัดจริตสุดขอบโลกเชียวแหละ คุณนายจะเป็นแบบนี้ทุกวัน พอมานั่งเข้าที่
“นาจ้ะ (นาเป็นชื่อแม่บ้านประจำสาขาถนนศรีนครินทร์) ขอกาแฟร้อนน้ำตาล 1 ไม่ครีมด้วยนะจ๊ะ”
“คะ คุณนาย”
“ขอบใจจนะจ๊ะ” พูดจบกิจวัตรประจำวันของนางก็เริ่ม อันดับแรกนางจะถอดแว่นตากันแดดมาเป่า ฟู่ๆ ฟู่ๆ ข้างละ 2 ฟู่ก่อนจะพับเก็บบนหิ้งที่นางใช้หนังสือบ้านเละสวน 4 – 5 เล่มมาเทินให้ดูสูงเด่นเป็นสง่า อันดับ 2 เอากระเป๋าหลุยส์สีดำมาลูบๆ คลำๆ ประมาณ 10 นาทีก่อนจะเปิดกระเป๋างัดครีมทาผิว (นีเวียขวดสีน้ำเงิน) มาทากระเป๋าอีก 10 นาที
“สวยดีนะคุณนาย รุ่นอะไรเหรอ”
“นี้จ๊ะเธออ่านเองละกัน” และนางก็งัดใบเสร็จรับเงินที่ได้จากร้านยื่นให้เห็น กะจะโชว์ราคาไปในตัว (อู้!) อุทานในใจ
“แพงขนาดนี้เลยเหรอคุณนาย”
“ก็หลุยส์นะเธอ” นาทีนั้นกาแฟดำจากแม่บ้านมาเสริฟละ แต่ก็ยังไม่ขยับไปไหนยืนทำตาโตอยู่ข้างๆ
“รุ่น อี ปิ ลาย (Epi Line) หรือเปล่าคุณนาย”
“ฮ่า ฮา ฮ้า ฮ่า อีบ้า ไม่ใช่อี ปิ ลายโว้ย อีห่ากระเป๋ากูเสียหายหมด”
ผมงง แต่แม่บ้านกลับหัวเราะตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว… “อี ปิ ลาย ชื่อรุ่นนี้จริงๆ เหรอคุณนาย”
“ไม่ใช่โว้ย แก 2 คนแหกตาดู Code ตรงนี้ นี้ นี้ มีวันเดือนปีผลิตบอกด้วย…อี ปิ ลาย ฮ่า ฮ้า ฮา เขาอ่านว่า อี ไพ ลาย ยะ…”
“แล้วอีกใบละคุณนาย ลายอะไรเหรอ”
“โมโนแกรม ยะ….ฉานรักมากเลยนะลายเนี้ย!” และแกก็นำอี ปิ ลาย เก็บเข้าที่แล้วหยิบกระเป๋าหลุยส์สีน้ำตาลลายอักษร LV สลับดาวกับดอกไม้มาลูบคลำต่ออีก 10 นาทีถึงค่อยลงครีมอย่างทะนุถนอมอีก 10 นาที
“อื้อๆ ลายนี้สวยดีเนอะ” เสียงแม่บ้านดังจากด้านหลัง “กว่าจะทาเสร็จกาแฟก็เย็นกันพอดี”
“เออวะ ฉานลืมไปเลย” คุณนายวางกระเป๋าลายโมโนแกรมก่อนจะกรีดนิ้วจับหูถ้วยกาแฟขึ้นมาจรดริมฝีปากแบบผู้ดีศรีสยามงามวิไลไชโยไป 1 อึก “ขมจัง”
“ก็คุณนายไม่ได้คนกาแฟก่อนนิ”
“เออวะ ฉานลืมไป ฮิ ฮิ ฮิ”
ขอบอกเลยนะครับ ช่วงเวลานั้นใครอย่าบังอาจเดินไปเฉียดโต๊ะทำงานคุณนายเชียว ไม่อย่างนั้นแม่จะตาขวางใส่ทันที
“นี้ Timmy เมื่อวานนี้นะฉานแวะร้านเสริมสวยในซีคอนฯ ใช่ปะ! (ห้างซีคอนสแควร์ถนนศรีนครินทร์)…ฉานก็วางหลุยส์ 2 ใบไว้บนโซฟาใช่ไหม ขณะที่ช่างกำลังเป่าผมมีอีป้าคนหนึ่งเดินเข้านั่งลงข้างหลุยส์ของฉานแล้วยังขยับตูดดันกระเป๋าฉานแบบเนี้ย แบบเนี้ย ฉานไม่พอใจมากๆ เลยลุกขึ้นสางผมเองแล้วกลับเลย คนอาไร้…ไม่ระมัดระวังเอาซะเลยเธอว่าไหม”
ไอ้ผมก็ได้แค่รับฟังนิ่งๆ แต่วันนั้นนางโกรธจริงๆนะ ตาขวางเชียว….เออเนาะเป็นเอามากนะคุณนายเราเนี้ย ในที่สุดวันที่เกิดเหตุก็มาถึง
เช้าวันนั้นฝนตก ผมออกจากบ้านเช้ากว่าปกติด้วยกลัวรถจะติด ถึงที่ทำงานที่เป็นตึกแถว 5 ชั้นก็เกือบจะ 8 โมงเช้าละ เมื่อทุกอย่างเข้าที่ผมก็เดินไปห้องกาแฟ จัดกาแฟดำมานั่งจิบอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะทำงานแบบสบายอารมณ์กระทั้ง 8.20 น. ฝนหยุดละรถยนต์คุณนายก็เลี้ยวเข้ามาจอดในซองประจำตำแหน่ง ผมมองคุณนายผ่านกระจกใสแบบคนลอยๆ เมื่อเห็นนางก้าวออกจากรถแว่นตากันแดดใหญ่ก็ถูกเสียบปักไว้บนหัวแบบเท่สุดชีวิต กระเป๋าหลุยส์อี ปิ ลาย แขวนอยู่กับข้อศอกด้านซ้าย โมโนแกรมแขวนอยู่กับข้อศอกด้านขวา เช้าวันนั้นนางสวยสุดชีวิต เมื่อสะโพก Size FF เดินส่ายตรงเข้ามา ใจผมก็มโนถึงนางแบบที่กำลังเดินอยู่บนแคทวอล์ค คุณนายเดินตรงเข้ามาที่ละก้าว ทีละก้าว น้ำฝนที่เพิ่งหยุดแต่หน้าเฉลียงทางเข้าสำนักงานยังมีน้ำฝนตกค้างจากชั้นดาดฟ้าไหลเป็นทางสู่ลานจอดรถยนต์ไม่ขาดสาย รองเท้าไม้ส้นเตี้ยๆ สีครีมของคุณนายยังดัง ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เหมือนกับทุกวัน แดดแรกสีวะนิลาพึ่งสาดฉาย มันอาบดันภาพคุณนายลอยเด่นหลุดออกมาจากแบล็กกราวสีเทาทึมๆ (คุณนายสวยกว่าทุกๆ วัน) ผมคิด แต่เมื่อนางแตะเท้าขวาขึ้นสู่เฉลียงพื้นกระเบื้องที่พรมไปด้วยเม็ดฝน รองเท้าไม้ก็พยศ แดดสีวะนิลาฟ้องว่าคุณนาย คุณนายกำลังจะล้มกระเป๋าหลุยส์ 2 ใบยังแขวนอยู่บนข้อศอกทั้ง 2 ข้าง ผมตกใจสุดขีด จะวิ่งไปช้อนรับแต่ก็ไม่ทัน สัญชาตญาณของนาง…. “กระเป๋าฉานนนนนนนน อี ปิ ลาย โม โน แกรม ลูกแม่” นางไขว้กระเป๋า 2 ใบไปไว้ด้านหลัง อนิจจาใบหน้าสวยๆกับดั้งจมูกที่โด่งคมได้รูปก็โน้มลงจูบกระแทก-ฟาดกับพื้นปูนอย่างแรง
โป๊ก!!!!!!!!
“คุณ คุณณณณณ นาย นาย นาย นาย” ผมอุทานเสียงดังลั่นห้อง หนังสือพิมพ์ถูกรวบพับไม่เป็นทรง แต่แม่บ้านที่ชื่อนา เร็วกว่า โอ้ มาย ก๊อด
“คุณนายเป็นไรไหม” แม่บ้านกระตือรือร้นเสียงสั่น
“ช่วยเอากระเป๋าฉานไปวางไว้บนโต๊ะก่อน” ผมได้ยินแค่นั้นถึงกับหลุดขำก๊ากออกมาอย่างคนเสียมารยาท คุณนายจ้องผมตาขวาง ผมจึงได้สติเข้าไปพยุงนางลุกขึ้น โอ้ ไม่นะ จมูกนางเบี้ยวบิดพร้อมกับเลือดสีแดงฉานไหลอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง ผมต้องพานางไปหาหมอแล้วละ
สรุปวันนั้นคุณนายต้องเสริมดั้งจมูกใหม่ 1 ดอก พร้อมกับเย็บแผลเหนือคิ้วด้านซ้ายอีก 3 เข็ม แต่เมื่อกลับมาถึงที่ทำงานในช่วงบ่าย นางก็เอาแต่จ้องกระเป๋าหลุยส์ตัวเองแล้วก็ร้องไห้
“มามิขอโทษที่ทำให้หนูมีตำหนิ ฮื้อออออๆๆๆ” และนางก็ร้องไห้ขณะลูบคลำกระเป๋าหลุยส์ทั้ง 2 ใบสลับกันไปมา ก่อนจะตบท้ายด้วยการทาครีมนีเวียให้กระเป๋าอย่างทะนุถนอม “ลูกแม่ ลูกแม่ แม่ขอโทษ”
ครับ…คิดบวกความสุขในมุมเล็กๆ ตอน “หลุยส์วิตตองกับคุณนายติ๊งต๊อง” ก็จบลงด้วยประการฉะนี้ คิดบวกแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความรักที่คุณนายมีให้กับกระเป๋าไม่ใช่เรื่องแปลก มันเป็นความสุขในมุมหนึ่งของคุณนาย และคุณก็เช่นกัน ความสุขในมุมเล็กๆ ของคุณอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกับคุณนายก็เป็นไปได้ทั้งนั้น หากไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็จงมีความสุขในมุมของคุณต่อไปนะครับ พบกันใหม่ในตอนหน้าเร็วๆ นี้ สวัสดีครับ