อนุชาย2 บทที่13

อนุชาย2 บทที่13

นายมาช้าอนุชาย2 บทที่13 นายมาช้า

อนุชาย2 บทที่13 นายมาช้า

เลย 11 โมงมาพอสมควร…และอีก 28 นาทีก็จะเที่ยงวัน ดร.ชานนท์ สายสกุล หอบกุหลาบฮอลแลนด์สีขาวแซมสีโอโรสช่อใหญ่เข้าไปในตึก เอ็น.ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท รอยยิ้มบางๆ บวกดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับชวนให้เสน่ห์ที่เกิดมาคู่กับเขายิ่งเพิ่มพูนทวีมากขึ้นหลายเท่า….

                #“ผมกับอนุชัยจะเป็นอะไรกันไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญอยู่ที่อนุชัย…เขารักคุณชาย ต้องการอยู่กับคุณชายต่างหาก”——>“นาย นาย เป็นใครกันแน่ปกรณ์….ทำไมฉันถึงคุ้นชื่อนี้กับใบหน้าของนายชอบกล”——->“ผมเป็นใครไม่สำคัญอีกเช่นเคย….อนุชัยกำลังเข้าใจคุณชายผิดอย่างแรง รีบไปปรับความเข้าใจกับเขาซะ…ก่อนจะสายเกินไป”——>“นี่ นี่ นาย…..”——>“แต่ถ้าหากคุณชายไม่ได้รักอนุชัยแล้ว…ได้โปรดส่งกลับคืน…ผมจะดูแลเขาเอง….ผมพูดจริงๆ เพราะผมเองก็รักเขาไม่น้อยไปกว่าคุณชายเช่นกัน”#

ยิ่งนึกถึงคำพูดของปกรณ์เมื่อวานกุหลาบในมือยิ่งมีอิทธิพลต่อเขาและหวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับอีกคนที่อยู่บนชั้น 18th  เขาอบอุ่นราวกับได้รับพลังวิเศษจนเผลอนับช่อกุหลาบ 2 สีตามจังหวะก้าวที่ใกล้ตัวอาคารเข้าไปเรื่อยๆ….

“แม้จะเป็นนกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้แต่นายก็เคยบอกฉันว่าสีโอโรสจะดันสีขาวที่นายรักให้กระจ่างมากขึ้น ฉันยอมนายหมดทุกประตูแล้วที่รัก” ดร.ชานนท์พึมพำกระทั้ง 2 สาวประชาสัมพันธ์ยกมือไหว้ทักทาย

“สวัสดีคะท่านรอง” เขาผงกหัวยิ้มรับบางๆ ก่อนจะเดินผ่านไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านในสุด

“สวัสดีครับท่านรอง…ไม่ทราบว่าจะขึ้นไปชั้นไหนครับ” รปภ. รุ่นราวคราวเดียวกันถามอย่างสุภาพขณะเดินนำเข้าไปในลิฟต์

“ชั้นที่ 18th ครับ ขอบคุณมาก” เขาบอกพร้อมกับอมยิ้มจน รปภ. รู้สึกวางใจจึงเอ่ยขึ้นมาอีก

“กุหลาบสวยดีนะครับ”

“จะไปง้อแฟนนะครับ ไม่รู้ว่าจะใจอ่อนหรือเปล่า” เขาบอกแบบเปิดเผย จนคิ้วของ รปภ.ขมวดเข้าหากันแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรขึ้นมาอีกกระทั้งหมายเลขชั้นปรากฏเลข 18 ให้เห็น

“โชคดีนะครับท่าน…หวังว่าท่านผู้หญิงเธอจะใจอ่อน”

ดร.ชานนท์จ้องหน้าเขาตรงๆ ก่อนริมฝีปากจะบีบเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง…..เมื่อป้ายชื่อบริษัท APT. GROUP จำกัด สีเงินสแตนเลสแวววับอยู่ตรงหน้า มือที่ถือช่อกุหลาบก็เริ่มไม่มั่นคง ทุกๆ ย่างก้าวกำลังเกิดคำถามคำตอบสลับกันวนเวียนอยู่ในหัว น่าจะมีแหวนเพชรมาด้วย เขาคิด คิด และก็คิดจนกระทั้งเลขาหน้าห้องที่รู้จักระดับหนึ่งเดินออกมายกมือไหว้ต้อนรับ

“สวัสดีคะท่านรอง….วันนี้ท่าน…”

“ผมมาขอพบ อนุชัย ธารากรณ์ ครับ” ดร.ชานนท์ พูดเต็มปากเต็มเสียง ดวงตาที่เป็นประกายของเลขาสาวหุบหาย เธอซ่อนอารมณ์ไม่ดีนักเวลานั้น

“บอสออกไปเมื่อครู่นี้เองคะท่าน….เห็นบอกว่ามีธุระด่วน” เธอรายงานหน้าเศร้าๆ สายตาก็จับไปที่กุหลาบช่อใหญ่ไม่กระพริบ ดร.ชานนท์วูบวาบ-สีหน้าปรับสู่ความผิดหวังสุดทาง จนเสียงเลขาสาวดังขึ้นมาอีก “ไม่ทราบว่าท่านรองจะฝากโน้ตไว้หรือเปล่าคะ”

“ยังไม่เที่ยงเลยทำไมเขารีบร้อนจัง ช่วงบ่ายจะเข้ามาไหมครับ” ดร.ชานนท์ถามต่อพลางเป่าลมออกจากปากยาวๆ

“คงไม่เข้ามาแล้วละคะ เพราะแพลนงานวันนี้จบแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากกุหลาบช่อนี้จัดใส่แจกันไปไว้ในห้องทำงานเขาที” ดร.ชานนท์บอก ทำให้เลขาสาวหน้าใสถึงกับถลึงตาโตๆ แบบคนอดแปลกใจไม่ได้ แต่เมื่อเวลาไม่ตอบโจทย์เธอจึงได้แต่ยิ้มรับแบบง่ายๆ

“คะ คะ…จัดไว้ในบนโต๊ะทำงานของบอสเลยนะคะ….ดิฉันเข้าใจถูกต้องไหมคะท่าน….”

“ครับ….ถูกต้องที่สุด” ดร.ชานนท์ตอบกลับเสียงนิ่มๆ ก่อนส่งช่อกุหลาบให้แล้วหันหลังเดินออกมา (เขาไปไหนของเขานะ….นุ นายไม่ได้หลบหน้าฉันใช่ไหม) เขาคิด คิด กลัว กลัว จนขาที่ก้าวตรงไปยังลิฟต์ไม่มั่นคง….กระทั้ง รปภ.คนเดิมเปิดประตูลิฟต์มารับเมื่อเจอเข้ากับใบหน้าผิดหวัง เขาจึงเงียบกระทั้งตัวเลขแสดงชั้น G

“ไม่เป็นไรนะครับท่าน”

“อื้อ!….” ดร.ชานนท์ตอบสั้นๆ ดวงตาที่เป็นประกายขามาไม่รู้หลบหลงอยู่ชั้นไหน แต่ขากลับมีหลายๆ ความผิดหวังปรากฏขึ้นแทน….

……….อยู่แห่งไหน นายนกป่าของฉัน………

……….เกือบเที่ยงวัน ใจสั่นอยากเห็นหน้า………….

……….อยากเคล้าคลอ เคียงคู่เจรจา……….

……….ตามนกป่า คืนรังเล้า ที่เฝ้ารอ………

“นายอยู่ไหนอนุชัย….นายอยู่ไหน…นายไม่ได้หลบหน้าฉันใช่ไหม….อนุชาย อนุชายยย”

….เมื่อสมองนำทาง….การยอมแพ้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ทางของเขา แลนด์โรเวอร์พุ่งออกจากอาคารจอดรถสู่ถนนสุขุมวิทก็ตรงดิ่งไปยังเป้าหมายต่อไปทันที…

“วันนี้ฉันต้องเจอนายให้ได้อนุชัย” เขาตั้งพิกัดที่คอนโดมิเนียมใน ซอยลาดพร้าว 20 และเกือบๆ จะบ่ายโมงก็มาถึง ดร.ชานนท์วนหาที่จอดรถชั้น 1 เมื่อรถเข้าที่เข้าทาง สมองกลับคิดหนักไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดีและขณะกำลังคิดวนอยู่นั้นสายตาที่มองผ่านกระจกหน้าก็ปะทะเข้ากับคนๆ หนึ่ง

“ปกรณ์…นาย กับ อนุชัย….อยู่ อยู่ด้วยกันรึนี้….หมาย หมายความว่า….” ดร.ชานนท์ช็อกจนพูดและนึกอะไรไม่ทันกระทั้งปกรณ์ขับรถกระบะโฟวิลแล่นออกไป อาการชาช็อกเมื่อครู่ถึงค่อยๆ คลายตัว…. “อนุชาย….อนุชาย….อนุชาย…..” เขายกมือขึ้นเสยผมปาดความเครียดที่กำลังลามไปทั่วใบหน้าหลายรอบ “ฉันหมดหวังจริงๆ แล้วใช่ไหม…นายมีคนใหม่จริงๆ….ก็มัน 15 ปีแล้วนี้นะ ใครจะบ้ารอมึงวะไอ้ชานนท์ ใครจะยังบ้ารอมึงอยู่อีก….”

สุดท้ายแลนด์โรเวอร์ก็ค่อยๆ แล่นออกจากลานจอดของคอนโดฯ ขนาด 22 ชั้นอย่างเงียบๆ เขาอยากจะเร่งความเร็วหนีความอับอายให้สุดตีน ไปให้ไกลจากเมืองมัวๆ แต่เมื่อเจอกับสภาพจราจรช่วงบ่ายแผ่นหลังก็วูบวาบซึมซับไอหนาวลามเข้ากระดูกสันหลัง “ฉันมาช้าเกินไปรึไงกัน….นุ ฉันมาช้าเกินไปใช่ไหม”

ดร.ชานนท์แวะเทเหล้าเข้าปากจนสมองเริ่มชา เมื่อผ่านไป 30 นาทีเสียงโทรศัพท์จาก เดียรเนียล สแปนเลย์ ก็ดังขึ้น

“ฮัลลลโหล…” เขากรอกด้วยน้ำเสียงตามระดับดีกรีในเลือด

(You อยู่ไหน Chanoon…น้ำเสียง ไม่ดี เอาซะเลย I ต้องไป สนาม บินแล้ว นะ)

“ฉาน จัดรถไว้ให้แล้วละ โชคดีนะเพื่อน”

(ไม่ต้อง ไม่ต้อง แฟนรักคนใหม่ ฉานจะไปส่ง ไม่ ต้อง เป็น ห่วง ดูแล ตัวเองด้วยนะ)

“ออกเสียงให้ชัวเดียรเนียล เฟรนรักโว้ย!….เออ เพื่อนใหม่ You เป็นใครกัน ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย” ดร.ชานนท์ถามกลับด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น ขาดๆ เกินๆ

(You เมาใช่ไหม Chanoon) เดียรเนียล สแปนเลย์ เงียบไปสักพัก (ฉาน ต้อง กลับ จริงๆ แล้วนะ เพื่อ เพื่อนรักคนใหม่ของ I เป็นคนใกล้ตัว You นั้นแหละ โชคดีนะ เพื่อ เพื่อนรัก)

“ไม่ ม่าย ม่าย….ฉานไม่ได้เมา ฉันกำลังจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ โชคดีนะ ว่าแต่นายอย่าลืมของฝากอาตี้ด้วยละ ฉันวางไว้ข้างๆ กระเป๋าเดินทางนะ”

(Oh! Yes!….แล้วของฝาก ยิ๋งลัดดา ละ ไม่ มีเหรอ…แต่ไม่เป็นไร I เตรียมไปให้เธอแล้วด้วย You ต้องดูแลตัวเองนะ….Love You Chanoon)

“I’am Too. Good luck My Friend” ดร.ชานนท์บอกส่งก่อนจะกดวางสายแบบเงียบๆ หมองๆ “ฉันต้องกลับบ้าน Loft Love ที่มีแค่ฉันคนเดียวแล้วละเพื่อน….ฉันมีนายอยู่แล้วทำไมฉันต้องโหยหานายอีกคนไม่ทราบ….ฉันมีนายอยู่แล้วอนุชัย ฉันมีอาตี้อยู่แล้ว ทำไมฉันต้องโหยหานายอีก….อนุชัย อนุชาย…อ๊าก!”

line1 for timmy

ดร.ชานนท์กลับถึงบ้าน Loft Love เกือบจะบ่าย 4 โมงเย็นเข้าไปแล้ว ตะวันต้นฤดูหนาวอ้อมใต้เฉียงไปทางทิศวันตก เงาของบ้านสีปูนกับป่าต้นแคนาจึงโอนยืดไปทิศตรงข้าม หน้าบ้าน Loft Love จึงปรากฏลวดลายซึ่งเวลานั้นเป็นเส้นแสงผ่านก้อนเมฆไร้สาระเฉือนประตูรั้วไม้สักสีดำออกเป็นส่วนๆ เขานั่งมองมันราวกับ ดาบคาตานะ อย่างคนสิ้นหวัง ห้องนั่งเล่น ทำงาน ครัวฝรั่งเพดานสูงว่างเปล่าไร้ผู้คน ไร้ทุกๆ สรรพสิ่ง ความโดดเดี่ยวสุดทางจึงอยู่ครบ เงาชายที่กำลังมึนรักเมาแอลกอฮอล์โดดเดี่ยวจนเกือบจะเบลอค้าง

“ฉันยังมีอาตี้ ฉันยังมีนายอีกคน อนุชาย” เขาพึมพำก่อนจะลุกเดินไปนั่งลงเก้าอี้เปียโนสีดำหลังใหญ่ ขณะที่นิ้วเรียวๆ กำลังไล่ตัวโน๊ต ดวงตาก็หลับสู่วิมานที่พยายามสร้างขึ้นมาทดแทนเมื่อเหมอมองในมุม 45 องศา เขาก็ลืมตาเห็นหัวสกรูเพียงตัวเดียวในบ้านที่โผล่ออกมาจากผนัง Loft หน้าโต๊ะอาหาร

# “ติดมันไว้ตำแหน่งนี้แหละ ทุกๆ เวลาอาหารเช้า กลางวัน เย็น จะได้เตือนสติเราทั้งคู่ไง”#

เสียงจากความทรงจำเด้งขึ้นมาในหัว

“….ไม่ใช่ตำแหน่งกระดานชนวน ไม่ใช่ตำแหน่งของกฎเขกกะโหลก แต่เป็นตำแหน่งของรูปอาตี้….” น้ำตาไหลพรากปลายนิ้วก็บรรเลงเพลงทำนองพลิ้วๆ ไล่ตัวโน๊ตอ้อยอิ่งตามอารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างในกระทั้งประตูกระจกอลูมิเนียมอบสีดำถูกสมใจพี่เลี้ยงของอาตี้เปิดออกกว้างๆ….มันกว้างกว่าปกติที่เธอเคยทำกระทั้งสายตาที่กำลังมัวเมาปะทะเข้ากับกระดานชนวนที่เขายังหามันไม่ได้ มันปิดบังใบหน้าของผู้ถือเดินขึ้นบันไดใกล้เข้ามาอย่างมิดชิด (เขาเป็นใคร…เอ้!…มันคือกระดานแผ่นนั้นเอง….กระดานชนวนแผ่นเดิม….ใคร เขาเป็นใครที่ยกเข้ามา…ใครกัน…ใครกันนะ) ดร.ชานนท์คิด เขารีบเช็ดน้ำตาเร็วๆ ขยี้ดวงตาแรงๆ กระทั้ง

“เชิญคะ…..”

“เอ้!….ใช่ๆ…..”

“กระดานชนวนแผ่นเดิมครับคุณชาย” เสียงลุงเย็นที่เดินประคองนำหน้ามาตอบแทน เขายิ้มจนเกือบจะเห็นน้ำตากระทั้งเสียงสมใจดังขึ้นอีก

“ติดไว้ตำแหน่งเดิมเลยนะคะคุณชาย” เธอถามอย่างคนกำลังมีความสุขเหลือล้น ดร.ชานนท์พยักหน้าสีแดงๆ เร็วๆ เขาจ้องไปที่นิ้วเรียวๆ ผิวขาวๆ ของคนยก…มัน รู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยลากผ่านตัวเขาไปมาหลายๆ รอบ จนกระทั้ง…..

“ฉันไปส่งเดียรเนียลเสร็จจึงเลยแวะไปค้นหาในโกดังบ้านตระกูลเชาว์ ไม่นึกว่ามันจะยังอยู่ที่เดิม” น้ำเสียงคุ้นๆ ดังก้องกังวาน

“นุ…..” ดร.ชานนท์อุทานทรุดฮวบสะอื้นอยู่กับพื้นกระเบื้อง เมื่อกระดานชนวนเข้าที่เข้าทางทั้งสมใจและลุงเย็นก็ปาดน้ำตาหลบออกไปข้างนอก ทิ้งไว้เพียงพวกเขาให้อยู่ภายในบ้าน Loft Love ตามลำพัง “นายมาช้า นายมาช้า”

“นายต่างหากที่มาช้า….ฉันรอนายตั้งแต่เที่ยงแล้วรู้ไหม” อนุชัยบอกขณะค่อยๆ นั่งลงข้างๆ ใช้แผ่นหลังพิงกับเปียโนในลักษณะเดียวกัน

“นี่ๆ แสดงว่า….”

“เลิกประชุมฉันก็ตรงดิ่งมาหานายที่บ้านเลย นายไปไหนมา”

“ฉัน ฉัน ไปตามหานาย ไปทุกๆ ที่ที่นึกออก….” ดร.ชานนท์พูดขณะสายตาก็จ้องไปที่กระดานชนวนไม่กระพริบ

“ตามหาฉัน…อย่าบอกนะว่า….”

“ฉันหอบกุหลาบช่อใหญ่กะจะเซอร์ไพรส์ที่บริษัท….แต่…”

“หา! นาย นาย…..” อนุชัยหัวเสีย เขาจิ! ปากสูดลมเข้าปอดแรงๆ “เซอร์ไพรส์บ้าอะไรไปเปิดตัวฉันซิไม่ว่า”

ดร.ชานนท์ปาดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะหันไปจ้องอนุชัยตรงๆ “เปิดตัวแล้วจะทำไม นายมีความลับที่นั่นรึไง”

อนุชัยยิ้มปลื้มๆ “เปล่า! ฉันดีใจมากๆ ต่างหาก….” แล้วทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันกลม “ฉันคิดถึงนายชานนท์ ฉันคิดถึงนายที่สุดในโลก” อนุชัยน้ำตาแตกจนหยดลงหัวไหล่ ดร.ชานนท์พูดไม่ออก พวกเขาปล่อยให้เวลาบำบัดเกือบครึ่งชั่วโมง

“ถ้าฉันไม่ปวดหัวจนต้องเข้านอนโรงพยาบาลที่ฮ่องกง นายคงไม่ต้องเข้าใจฉันผิด”

อนุชัยดันร่างชานนท์จ้องในลักษณะตื่นตะลึง “นายว่าอะไรนะ….”

“ฉันปวดหัว….เลยนอนในโรงพยาบาลกว่า 3 วัน”

“คุณ ไอ้คุณ ไอ้เหี้ยคุณ ทำไมนายไม่บอกฉัน ทำไมนายไม่บอกฉัน ฮื้อๆ ชานนท์ ทำไมนายไม่บอกฉัน คุณ ไอ้คุณ นาย  นายใจร้ายมากๆ….E-Mail ฉันก็มีทำไมนายไม่บอกฉัน” อนุชัยร้องไห้อย่างหนัก กระทั้งแผ่นหลังที่อยู่ตรงหน้าสะเทือนให้เห็น ดร.ชานนท์แปลกใจและตกใจไม่น้อย เขาค่อยๆ เชิดใบหน้าเละเทะขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ทีละข้าง

“ฉันก็แค่ปวดหัวนุ…”

“แค่ปวดหัว แค่ปวดหัว ฮื้อๆ ก็แค่นายปวดหัว ใช่ๆ ก็แค่นายปวดหัว ฮื้อๆ ชานนท์ คุณ….”

“ใช่ ฉันแค่ปวดหัวธรรมดา ไม่เป็นอะไรมากหรอก….” เขาเชิดใบหน้าของอนุชัยมาเช็ดน้ำตาให้อีก “นายรู้เรื่องอาตี้ ลูกชายของเราแล้วใช่ไหม” ดร.ชานนท์ถามเพื่อหวังจะเปลี่ยนประเด็น อนุชัยพยักหน้า

“นายทำให้ฉันเซอร์ไพรส์ได้ตลอด…ชานนท์ ฉันอยากเจอลูก ฉันอยากคุยกับเขา 15 ปี ฉันอยากจะขอโทษเขา”

“15 ปี นายโดดเดียวเกินไปแล้ว….ย้ายมาอยู่บ้านเราด้วยกันเถอะนะ” ดร.ชานนท์ไม่ปล่อยให้เวลาพิเศษนี้ผ่านไปเฉยๆ อนุชัยยกตัวขึ้นมานิ่งคิดหลายนาที “นุ  หรือว่า นาย….” ในหัวดร.ชานนท์นึกถึงปกรณ์ขึ้นมา “นาย มี”

“ยังเผื่อพื้นที่สำหรับฉันด้วยเหรอ….”

ดร.ชานนท์กำมือหลวมๆ ปิดปาก น้ำตาก็ยังไหลทิ้งไหลขว้างอย่างไม่เสียดาย เขาพยักหน้าแทนคำพูดเร็ว “ฉัน ฉัน เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อนายมา 15 ปี นุ แค่นาย แค่ตัวนาย ที่นี่มีครบทุกอย่างแม้กระทั้งถุงเท้า รองเท้าและกางเกงชั้นในที่นายชอบ….นุ”

“คุณ…คุณ…ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้ว” อนุชัยยกตัวก้มลงจูบกลางศีรษะเขาเบาๆ “ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายไปไหนอีกเด็ดขาด” พร้อมกับดึงหัวที่กำลังสะอื้นเข้ามาแนบอก “ไม่มีวันไปไหนอีก ถึงแม้ฉันจะอยู่ในสถานะเมียน้อย ฉันก็จะขอเป็นอนุชายให้นายตลอดไป คุณ นายได้ยินฉันไหม นายจะไล่ฉันออกจากบ้านไหมถ้านายโมโหฉัน”

ดร.ชานนท์สะอื้นวงแขนก็โอบรัดร่างที่กำลังสะท้านจนไม่อยากปล่อย “ไม่ ไม่มีทาง นายคือรักเดียว นายไม่ใช่อนุชาย แต่นายคือภรรยาคนแรกและคนเดียวของฉัน”

ทั้งคู่กลับมาสบตากันอีกครั้ง แสงสุดท้ายก็ใกล้จะลับขอบฟ้าเงามืดภายในบ้าน Loft Love  จึงครบถ้วนในเวลานั้น

“ฉันแก่แล้วนะนายยังจะรักฉันอีกเหรอ——>แล้วฉันไม่แก่รึไง นายจะรักฉันไหมละ——>อีกไม่กี่ปีหัวฉันก็จะล้าน——>แล้วหัวฉันไม่ล้านรึไง——>อีกไม่กี่ปีฉันก็จะลงพุงนายยังจะรักฉันไหวเหรอ——>ฉันก็จะลงพุงไปพร้อมๆ กับนาย——>อีกไม่กี่ปีผิวหนังของฉันก็จะเหี่ยวย่น——>แล้วผิวฉันไม่เหี่ยวรึไง ทำไมนายถึงเรื่องมากอย่างนี้นะอนุชาย——>เพราะ….เพราะฉันเป็นแค่เมียน้อย เป็นแค่อนุชาย นายทิ้งฉันเมื่อไรก็ได้….และนายก็ไม่ผิดด้วย——>อนุชาย (ดร.ชานนท์จ้องตาอนุชัยอยู่นาน) นายเข้าใจผิดแล้วละ——>ฉันเข้าใจผิด——>ใช่! นายเข้าใจผิดอย่างแรงเลยละ….นายคือพ่อของลูกชายฉันเพราะฉะนั้นนายลืมเรื่องนี้ไปได้เลย”

………รัตติกาล เนินนาน กระจ่างฟ้า………

………ห้วงเวหา เหินหาว ราวสวรรค์………

………ฉันถอดเสื้อ นายถอดผ้า พัลวัน……….

………อกของฉัน แทบไหม้ เพราะไฟทรวง………

……….รสสวาท วาบหวาม ยามรักเก่า………

………โลกของเรา วันของเรา หวนมาถึง……..

………รักสุดรัก หวงสุดหวง ห้วงคะนึง……..

………นายทึ้งดึง ฉันทิ้งร่าง กระชากกาย………

………ฉันจะจูบ นายก่อนหลับ จวบจนเช้า………

………ฉันจะเฝ้า รอนายตื่น ฟื้นจากฝัน………

………ภาวนา ขอเห็นหน้า วันต่อวัน………

………มุ่งหมายมั่น เพียงแสงเช้า ที่เฝ้ารอ………

….ตี 5 กับ 15 นาที

อนุชัยยกเก้าอี้ผ้านุ่มๆ มานั่งจับมือดร.ชานนท์ที่กำลังหลับลึกด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย ฝ่ามืออุ่นๆ กับสัญญาณชีพจรเต้นตุบๆ ทำให้ใจชื่นอยู่บ้าง กระนั้นคำภาวนามากมายก็ยังถูกส่งไปยังวงหน้าที่ไม่มีวันเบื่ออยู่ดี….

“ได้โปรดเถอะชานนท์ นายต้องตื่นมาเพื่อฉัน นายต้องตื่นมาเพื่อเรา นายต้องตื่นมาเพื่อลูก เพื่ออาตี้ลูกชายของเรา ชานนท์ ได้โปรดเถอะ ตื่นเถอะที่รัก ตื่นขึ้นมาคุยกับฉัน ตื่นขึ้นมากินอาหารเช้ากับฉัน” อนุชัยเงยหน้ามองผ่านกลีบผ้าม่านทางทิศตะวันออกที่ปิดไม่สนิท “ท้องฟ้ากำลังเรืองรองแล้วที่รัก แต่ละเฉดสี แต่ละเวลามีความหมายมากมาย ให้ความงามคนละแบบ นายต้องตื่นมาเห็นเอง ชานนท์ นายต้องตื่นขึ้นมาสัมผัสกับมัน มองมันด้วยตาของนายเอง นายถึงจะรู้ว่าสวยงามเพียงใด ชานนท์ คุณ คุณ ได้โปรดตื่นเถอะที่รัก ตื่นได้แล้ว ฉันรอนายอยู่ ฉันจะรอนายทุกๆ เช้าที่รัก ได้โปรด ชานนท์ ชานนท์” เมื่อสัญญาณชีพของคนกำลังหลับลึกค่อยๆ อ่อนลงเรื่อยๆ มือของเขาก็เริ่มสั่นดวงตาเบิกโพลงใบหน้าซีดฟุบสะอื้นกับแผ่นอกจนน้ำตาชื้นๆ ซึมสู่ผิว….ดร.ชานนท์จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเผชิญ

“นุ นุ นาย นาย”

“ขอบคุณ ขอบคุณชานนท์ ขอบคุณมากๆ ที่ตื่นมาเพื่อฉัน ขอบคุณ ขอบคุณ” อนุชัยพร่ำไม่หยุดกระทั้งชานนนท์ดึงลงนอนที่เดิม

“นายจะนั่งมองฉันทำไม ฉันอยากตื่นขณะที่นายอยู่ในอ้อมกอดฉันแบบนี้ทุกๆ เช้ามากกว่า….แต่เอ้!….ฉันจำได้เมื่อคืนเราไม่ได้นุ่งอะไรนี้หนา ทำไมตอนนี้นายกับฉันถึงได้….”

“ไอ้คนลามก”

“ไม่เอา….ถอดออกเลยนุ่งทำไมเกะกะจะตาย”

“คุณ ไอ้คุณหยุดนะ….ฉัน ฉันต้องลงไปทำอาหารเช้า”

“ไม่ต้อง น้าสมใจเตรียมให้เราทั้งคู่แล้วละ นายไม่ต้องมาเลี่ยงฉันให้ยากเลย”

“โอ้ย!….ชานนท์”

“นายเจ็บเหรอ” ดร.ชานนท์กระซิบข้างหู

“15 ปี ฉันไม่เคยมีอะไรกับใครเลย เบาๆหน่อย”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่ฉันได้นายเป็นครั้งแรกเลยว่าไหม”

“โอย! คุณ ไอ้คุณ ไอ้เหี้ยคุณ”

“ดีขึ้นยัง….ฉันจะนุ่มนวลที่สุด เป็นไงอุ่นไหม อนุชาย อนุชาย ฉัน ฉันมีความสุขเหลือเกิน…”

“อ้า….ชานนท์….”

“ฉันรักนายที่สุด…..”

“ฉันรักนายชานนท์….นาย นาย มาช้า…..”

“นายต้องได้อยู่ข้างบนซินะ” แล้วชานนท์ก็พลิกตัว-ดันร่างอนุชัยให้อยู่ข้างบน “เอาเลยที่รัก เอาให้สมกับ 15 ปีที่นายรอ….ฉันพร้อมแล้ว นุ อนุชัย อนุชาย”

“นาย  นาย กำลังทำให้ฉันเป็นบ้า ชานนท์”

“เรียกฉันว่าที่รักเร็วเข้า….เด็กโง่เอ้ย เร็วเข้า”

“ฉันเป็นพี่นายนะ….”

“ที่รัก นายสุดยอด นาย นาย”

“ที่รัก ที่รัก ชานนท์ ชานนท์ ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย”

จบ อนุชาย2 บทที่13 นายมาช้า

(Visited 178 times, 1 visits today)