นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อนุชาย2 บทที่18 ฉันมองไม่เห็น
อนุชาย2 บทที่18 ฉันมองไม่เห็น
เสียงเพลง “รักไม่สิ้นสุด” จากปลายนิ้วของดร.ชานนท์ยังไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเฉิดฉายกลางแสงดาวน์ไรท์ที่แผ่รัศมีสีวะนิลาไปทั่วโถงรวม แก้วทรงสูงโถป้อม ๆ มีไวน์แดงลอยนิ่งๆ เกือบครึ่งวางอยู่หลังเปียโน อีกใบก็อยู่ในมืออีกคนที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ท่วงทำนองพลิ้วไหวผ่านเวลาอ้อยอิ่งลอยละล่องฉุดอารมณ์ทั้งคู่เคว้งคว้างไปในที่ๆ ใกล้เคียงกับวิมาน สายตาเทียวชำเลืองประสานกันสั้นๆ สร้างความหมายลึกซึ้งซับซ้อนหลายชั้นจนคนอื่นไม่มีทางเข้าใจและเข้าถึง…เมื่อปลายนิ้วสัมผัสคีบอร์ดด้วยโน้ตเพลงตัวสุดท้ายเสียงเพลงรักที่ท่วงทำนองใกล้เคียงกันก็ดังขึ้นแทน อนุชัยชนแก้วไวน์กับดร.ชานนท์จนเกิดเสียงดังกิ๊ก! ขั้นจังหวะ กระนั้นอารมณ์แห่งห้วงเสน่หาก็ยังอยู่ครบ เมื่อไวน์แดงในแก้วถูกจิบบางๆ ทั้งคู่ก็วางมันบนหลังเปียโนคู่กัน อนุชัยโค้งดร.ชานนท์ที่นั่งยิ้มลอยๆ จนเห็นแววตาดีดดิ้นราวกับฝูงปลาจาระเม็ดเหนือผิวทะเลยามต้องแสงย่ำค่ำ เขาโปรยยิ้มกว้างๆ ก่อนจะลุกประสานมือ…อีกข้างก็คว้าเอวหนาๆ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดึงเข้ามาอัดแน่นกับเป้าของตัวเอง อนุชัยจุมพิตหลังมือของดร.ชานนท์แล้วปล่อยประสานรอบคอของเขา แววตาต่อแววตา เวลาทำหน้าที่ตามจังหวะละมุนละไม สักพักรสแลกจูบที่ทำให้กระสันสะท้านตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าก็บีบให้ต้องเร่งจังหวะเร็วขึ้น…เร็วขึ้น และเร็วขึ้น
“ที่รัก…ที่รัก….”
อนุชัยดึงศีรษะมาแลกลิ้นจนเห็นปลายนิ้วก้อยที่ท้ายทอยสั่นระริก…. “นายกำลังทำให้ฉันร่านชานนท์” เขากระซิบพลางงับติ่งหูเป็นการปลุกอารมณ์ให้แตกกระเจิง…
“15 ปีที่ไม่มีฉัน นายจัดการกับมันอย่างไร” เสียงดร.ชานนท์ถามไม่สม่ำเสมอ อนุชัยจ้องหน้าพลางดึงเขามาจูบที่หน้าอกลามสู่ลำคอขาวๆ จนดร.ชานนท์ต้องหลับตาพริ้มเชิดสู้กับแสงดาวน์ไรท์หลายสิบดวงที่กำลังทำหน้าที่ยามค่ำ
“ฉันก็ขุดภาพเก่าๆ ของเราขึ้นมาใช้งาน 15 ปี ฉันจึงมีนายทุกคืน…ชานนท์”
“ฉันก็เช่นกัน….” ดร.ชานนท์กระซิบพร้อมประกบปากแลกลิ้นจนเกิดหลายสิ่งดิ้นตุบๆ ปูดโปนผ่านกันไปมาราวกำลังคลั่งอย่างหนัก “นายทำให้ฉันหื่นจนแทบบ้า….อนุชาย”
“นายเองก็ทำให้ฉันร่าน….ชานนท์ บอกฉันซิ ว่า….นี่! ไม่ใช่ความฝัน ฉัน ฉันไม่ได้แค่ฝันใช่ไหม”
“นายไม่ได้ฝัน….ที่รัก….”
“ฉันอยากสมบูรณ์แบบ…ชานนท์….”
“แต่ฉันจะไม่ยอมเร่งเร้า….”
“ชานนท์ ชานนท์ นายกำลังเล่นงานฉัน”
“ฉันอยากจะให้อารมณ์นี้เป็นที่จดจำไปตลอดกาล….ที่รัก”
“….แต่ฉัน….ฉันไม่ไหว ชานนท์ ฉันไม่ไหวแล้ว”
“ฉันอยากได้ยินคำๆ นี้หลุดจากปากของนายทั้งคืน….อา!….อา!…อนุชายยยยยยย”
……เช้าวันต่อมา
ทันทีที่ร่างเปลือยนอนข้างๆ ขยับตัวให้รู้…อนุชัยก็ลุกนั่งพิงหมอนโดยมีผ้าห่มปิดช่วงล่างเอาไว้ เขามองและยิ้มให้ดร.ชานนท์ 5 นาที…10 นาทีผ่านไปจึงก้มจุมพิตที่หน้าผากราวจะปลุกเรียกให้ตื่น
“ตื่นเถอะที่รัก ฉันจะเข้าบริษัท….บ่ายๆ ถึงจะกลับ” อนุชัยกระซิบบอก
ดร.ชานนท์พยักหน้าทั้งๆ ที่ยังหลับตา “อื้อ!….วันนี้ฉันไม่มีธุระที่ไหน ขอตื่นสายๆ หน่อยแล้วกัน”
อนุชัยก้มจุมพิตที่ริมฝีปากพลางแทรกลิ้นเข้าไปรับไออุ่นสั้นๆ “พักผ่อนนะบ่ายๆ เจอกัน”
…เมื่ออนุชัยออกจากบ้านไปได้สักชั่วโมง ดร.ชานนท์ก็งัวเงียอยู่ในลักษณะขี้เกียจพักใหญ่ๆ แสงเช้าวันนี้ยังเป็นสีดำ และดำสนิทเมื่อเทียบกับทุกๆ เช้าแม้อยู่ในสถานะหลับตาก็ตามที ในหัวก็คล้ายจะมีบางอย่างเต้นตุบๆ จนได้ยินราวกับเสียงกลองทุ้มๆ ก้องหูชั้นใน “ทำไมนุถึงออกจากบ้านเร็วจัง” เขานึกว่าสีดำที่เห็นยังไม่หลุดจากเวลาของรัตติกาล เขาพลิกตัวนั่งพิงหมอนแต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นยังครบถ้วน เสียงดังตึบๆ จากในหัวบีบให้เขาหวาดหวั่น กระทั่งต้องเหวียงขาลงมาเหยียบกับพื้นแกรนิตโต้ ผ้าห่มหลุดจากตัวไปแล้วโดยสิ้นเชิง เขาจึงค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ช้าๆ กระนั้นสีดำก็ยังเปลี่ยนเป็นสีรุ้งเพียงน้อยนิด ในเมื่อ 70 เปอร์เซ็นต์ยังคงเป็นสีดำ เขาจึงรู้สึกหวาดหวั่นจนคล้ายจะผวาในเวลานั้น
“นี่ นี่ ฉัน ฉัน เป็นอะไรไป…ไม่ ไม่ ไม่….” ดร.ชานนท์ล้มหลับตาอีกและพยายามลืมตาเป็นครั้งที่2 หวังว่าจะเห็นทุกสิ่งเหมือนกับทุกเช้า แต่ก็ยังเห็นเป็นสีรุ้งแจมสีดำ 70 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม “ไม่ ไม่ ไม่….” ปากพร่ำไม่หยุด มือก็สั่นควานหากางเกงเสื้อผ้ามาห่อหุ้มร่างกาย เมื่อจินตนาการบอกอยู่ในสภาพไม่อุจาดตา ดร.ชานนท์จึงใช้สัญชาตญาณนำทางไปยังประตูทางออก “อะไร ฉันเป็นอะไรกันแน่…นุ นุ นาย อยู่ไหน นายอยู่ไหน….” เขาเรียกก่อนสมองจะค่อยๆ ทบทวน “อ้อ!….นายไปทำงาน….นี่ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันมองไม่เห็น เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่” เขาแกว่งมือควานหาจุดสัมผัสแล้วค่อยไต่ลงบันได จิตนาการว่านี้คือขั้นบันได นี้คือราวจับ เมื่อนับจังหวะก้าวขาได้ 16 ครั้ง- 16 ขั้น จินตนาการก็บอกว่าเป็นพื้นแกรนิตโตสีขุ่นๆ ของชั้นล่าง ตรงหน้าที่มืดสนิทคือโถงรวมเพดานสูง ห้องอาหารกับเคาน์เตอร์ครัวฝรั่งอยู่ทางซ้ายมือ ห้องทำงาน-เปียโน ห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เห็นเป็นแสงสีรุ้งกระจ่างจนสีดำเหลือไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ “ฉัน ฉัน ….มัน….มันเกิดอะไรขึ้น….โอ้ย!…ไม่ ไม่”
“คุณชาย คุณชายคะ เป็นอะไร-เกิดอะไรขึ้นคะ…” เสียงสมใจแม่บ้านวัย 60 ต้นๆ เรียกในระยะไม่ถึง 2 เมตร กระนั้นเงาของเธอก็แค่วูบวาบราวกับผี เขาวาดมือนำทางเข้าไปหา ในที่สุด….ฝ่ามืออุ่นๆ ก็จับกุมให้รู้สึก “คุณชาย คุณชายคะ….เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นคะ” ฟังจากน้ำเสียงเหมือนเธอจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเธอจากคำๆ ไหนดี… “….คุณชายเห็นสมใจไหมคะ….คุณชายคะ” เธอถามประโยคที่อ่านจากกิริยา “คุณชาย…คุณชายคะ”
“น้าสมใจ….ชาย ชาย….” เขาสั่นตกใจจนค้นหาคำพูดไม่เจอไปหลายนาที
“ไปคะ ไปนั่งในห้องนั่งเล่นก่อน คุณชายใจเย็นๆ นะคะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เดี๋ยวสมใจจะโทรแจ้งบ้านสายสกุลเดี๋ยวนี้แหละคะ” สมใจพูดไม่ทันจบประโยค เท้าของดร.ชานนท์ก็ชะงัก เขายืนนิ่ง-นิ่งคิดอยู่กับที่
“อย่าเพิ่งบอกคุณแม่เลยครับ รออีกสักครู่เผื่อว่าจะดีขึ้น….”
“คุณชายคะ….”
“เผื่อว่าจะดีขึ้น….ไม่เป็นไรพาฉันไปห้องนั่งเล่นที”
“คะ….แต่คุณชายคะ ดิฉันเป็นพยายาบาลนะคะ อาการแบบนี้ถึงจะไม่ค่อยเจอ แต่….”
“เอานะ….ขอเวลาชายหน่อย…” ดร.ชานนท์บอก ขณะที่ข้อพับหลังหัวเข่าสัมผัสจนเห็นเป็นโซฟาห้องนั่งเล่นผุดขึ้นมาในหัว เขาจึงค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่ง สมใจจ้องเขาด้วยอาการไม่ไว้วางใจ “ขอเวลาชายหน่อย”
“ทำไมละคะ….ฮื้อๆ” ในที่สุดก็ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ขึ้นมา “คุณชายคะ….คุณชาย”
“ขอเวลาชายหน่อย” เขายังพูดประโยคเดิม “ชายกับนุกำลังไปกันด้วยดี ไม่อยากให้เขาต้องมาคิดมากเรื่องของชาย”
“คุณชาย….ฮื้อๆ….นี่ นี่มันเรื่องใหญ่มากๆ เลยนะคะ ดิฉันทำใจไม่ได้หรอกคะ ฮื้อๆ”
“ชายอยากได้กาแฟสักแก้ว”
“คุณชายคะ….” สมใจยังมีท่าทีไม่ยอมแพ้ง่ายๆ….
“ขอกาแฟสักแก้ว…..” ดร.ชานนท์ย้ำ สมใจจึงหันหลังตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่มองเห็น เธอไม่ยอมให้ดร.ชานนท์คลาดสายตา ขณะที่ทุกส่วนของเธอกำลังร้องไห้ไม่หยุด กระทั่งกาแฟร้อนยกมาวางตรงหน้า เสียงถ้วยกาแฟถาดรองกระทบกับพื้นโต๊ะดังกิ๊กๆ….เขาจึงวาดมือควานหา แต่ปลายนิ้วก็เผลอจุ่มลงกลางถ้วยจนต้องชักมือกลับด้วยความร้อน
“คุณชายคะ….ฮื้อๆ….คุณชาย”
“ไม่เป็นไร ชายไม่เป็นไร…..”
เมื่อทุกอย่างเข้าที่ระดับหนึ่ง สมใจปรับอารมณ์ได้จนนิ่ง….เสียงดร.ชานนท์ก็ดังขึ้นมาอีก
“บ้าน Loft Love ชายสร้างมันขึ้นมาจากจิตนาการเพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตภายในบ้านหลังนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
“หมายความว่าอย่างไรคะคุณชาย….” สมใจถามด้วยน้ำเสียงตกใจอยู่ไม่น้อย
“ชายยังไม่อยากให้อนุชัยรู้เรื่องนี้” ดร.ชานนท์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น….ก่อนจะพยักหน้ายืนยันให้เห็นแรงๆ
“แต่คุณชายคะ…..” สมใจพยายามจะคัดค้าน “….คุณชายจะหลอกคุณนุได้สักกี่วัน ฮื่อๆ…..”
“ชีวิตคู่ของเราเพิ่งจะเริ่มต้น….ชายอยากให้เขามีความสุขแบบนี้ให้นานที่สุด….” ดร.ชานนท์พูดแล้วก็เงียบราวกำลังคิดต่อ “นานเท่าไรยิ่งดีกับเรามากเท่านั้น”
“ฮื้อๆ….แต่ แต่ ….”
“ไม่…ไม่มีต่งไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น….ชายขอเวลาปรับตัวไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างในบ้าน Loft Love ก็จะเห็นชัดเจนในหัว เชื่อชายสิ….ไม่ต้องซีเรียสไปหรอก”
“แต่…คุณหญิงพวงพรกับดร.ชวนนท์ คุณชายคิดจะปิดบังท่านทั้ง 2 ด้วยรึคะ ฮื้อๆ”
ดร.ชานนท์นิ่งกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอด้วยความยากลำบาก….. “อย่างน้อยชายก็อยากจะเสพเวลาที่แสนวิเศษนี้ให้นานที่สุด….นะครับน้าสมใจ ชายขอร้องละ….”
สมใจพยักหน้าแบบเคยชิน….เธอมัวแต่เช็ดน้ำตาจึงไม่ทันสังเกตว่าอีกคนยังรออยู่
“นะครับชายขอร้อง….ได้โปรดเถอะ”
สมใจปิดปากระเบิดน้ำตาทิ้งอีกรอบ… “ คะ คะ….ได้คะคุณชาย ฮื้อๆ”
……….เดือนเคยหงาย ดาวเคยพร่าง ฉันเคยเห็น………
……….เคยลำเค็ญ เคยรำพึง เคยใฝ่หา……….
……….เคยวาดฝัน เคยยอกเย้า เคยเฝ้าลา………
………เคยจินตนา สารพัดเคย อย่าเลยไกล……..
“ขอเพียงแค่ให้ได้ยินเสียงพูด เสียงหัวเราะ…ถึงพรุ่งนี้จะไม่ตื่น ชายก็จะถือว่าคุ้มค่าแล้วละ…” ดร.ชานนท์พูดเรื่อยๆ ราวกับคนปลงชีวิต เสียงคร่ำครวญที่เงียบงันก็ฉุดอารมณ์อีกคนดำดิ่งสู่ห้วงเหว สมใจปิดปากวิ่งหายออกไปด้านหลัง เมื่อดร.ชานนท์รับรู้ถึงสภาวะโดดเดี่ยวภายในโถงเพดานสูง เขาก็ควานมือยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบก่อนจะตั้งสติวางมันกลับลงที่เดิมช้าๆ เขาฝึกเฉพาะสิ่งนี้จนคล่องก่อนจะอาศัยจินนาการเดินสำรวจไปรอบๆ ราวตั้งใจจะซ้อมให้เป็นปกติที่สุด ครึ่งวันแรกผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดเขาก็ชำนาญจนสามารถวิ่งจากห้องรับแขก-นั่งเล่น-ทำงาน-เปียโน-โถงบันได-ห้องอาหาร-เคาน์เตอร์ฝรั่งจนสุดผนังครัวร้อนได้อย่างไม่มีสะดุด สมใจที่ยืนดูเงียบๆ เธอทำได้แค่ร้องไห้จนไม่มีเสียงในมุมห่างๆ
…..กระทั้งบ่าย 2 โมงกับ 45 นาที
รถ BMW. สีน้ำตาลดำก็ผ่านประตูรั้วไม้สักเข้ามาจอดในโรงเก็บ สมใจรีบเช็ดน้ำตา ขณะที่ดร.ชานนท์ลนลานลุกจากโซฟา…เขาสะดุดกับขอบโต๊ะนิดหน่อยกระนั้นก็ไปถึงโต๊ะทำงานที่เปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้จนได้
แต่อีกคน…..เมื่อเห็นสมใจร้องไห้วิ่งหายเข้าไปในครัวผิดปกติจึงสาวเท้าตามเข้าไปคาดคั้น…..จนเสียงร้องไห้ที่เงียบงันดังก้องในโลกเงียบให้เหล่าผีสางนางไม้ได้ยินชัดแจ้ง อนุชัยน้ำตาไหลพรากๆ เขายกมือปิดปากขณะยืนมองคนรักที่หลังประตูกระจก กระทั้งสติกลับมาเกินครึ่ง เขาจึงเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในบ้านทำตัวปกติราวกับคนไม่รับรู้สิ่งใด ๆ
“เคลียร์งานจบแล้วเหรอ” ดร.ชานนท์ถอดแว่นหันมายิ้มให้เขา หูก็คอยจับเสียงฝีเท้าเพื่อเช็คตำแหน่ง
“นายกำลังทำอะไรอยู่” อนุชัยพยายามบีบน้ำเสียงให้ปกติก่อนจะเดินเข้าไปค้อมหลังจุมพิตที่หลังหู
“เปล่าหรอกฉันก็พักผ่อนไปเรื่อยแหละ” ดร.ชานนท์ยืดตัวคล้ายคนบิดขี้เกียจ “นั่งนานเลยรู้สึกเมื่อยล้านิดหน่อย”
“นายกินไรรึยัง….” อนุชัยถามขณะเดินห่างไปหยุดยืนปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดให้จับได้ “ฉันจะชงกาแฟ นายจะเอาด้วยไหม”
“อื้อ!…ดีเหมือนกัน ให้น้าสมใจปิ้งโฮลวิตด้วยนะ…ซักจะหิวๆ แล้วละ” แล้วดร.ชานนท์ก็ลุกเดินไปล้มตัวลงนอนกับโซฟาเบทอย่างชำนาญ อนุชัยจับจ้องกิริยาของเขาไม่กระพริบ เมื่อสมใจรับคำสั่ง เขาจึงค่อยตามเข้าไปสมทบ….
“นายเป็นไงบ้างละ….จะให้ฉันนวดให้ไหม” อนุชัยถามพลางเสนอตัวกลายๆ
“ฉันเหรอ….ปกติดี” ดร.ชานนท์ตอบเสียงสูงพร้อมกับลุกเดินไปนั่งโซฟาข้างๆ เขา เมื่อสมใจยกกาแฟกับขนมปังมาตั้งไว้ให้ เสียงถ้วยกาแฟกระทบถาดรองก็ทำให้เขาต้องคาดคะเนตำแหน่งอยู่พักใหญ่ๆ อนุชัยนิ่งมือสั่นลุ้นลุ้นระทึก น้ำตาก็ไหลพรากๆ ไม่มีท่าทีจะหยุด…. “อากาศร้อนมากเลยนายว่าไหม” ดร.ชานนท์พูดต่อแบบคนจับสัญญาณไม่ได้ เขาควานหาแก้วกาแฟนิดๆ ก่อนจะยกมันขึ้นจิบบางๆ อนุชัยปิดปากสงบสติอารมณ์
“ไม่ใส่ครีมรึไง ปกตินายขาดมันไม่ได้ไม่ใช่เหรอ” อนุชัยทักท้วง ทำให้ดร.ชานนท์หันมายิ้มแหยๆ และหัวเราะดักทาง
“ฉันกลัวอ้วนนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
อนุชัยซับน้ำตาด้วยหลังมือ สักพักแผนทดสอบเพื่อหวังจะให้ชานนท์ยอมแพ้ก็เริ่มขึ้น “คุณนายเล่นเปียโนให้ฉันฟังหน่อยซิ….นะนะ” เขาออดอ้อนด้วยน้ำเสียงที่เคยใช้ได้ผล ดร.ชวนนท์อึดอัดในสถานะนิ่งสักพัก….ก่อนจะพยักหน้ายิ้มไปทางเกือบจะเป็นเขา
“ได้ซิ!….” ดร.ชานนท์โอบอนุชัยพร้อมกับตบไหล่ 2 ทีก่อนจะลุกเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเปียโนอย่างไม่สะดุด ขณะที่อีกคนอาศัยจังหวะเดียวกันหมุนตัวออกไปทรุดหมดแรงหลังประตูด้านอกและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขามองผ่านกระจกเข้าไปภายในเพื่อดูคนรักเล่นละครอยู่คนเดียว พูดคนเดียว ยิ้มคนเดียวราวกับคนบ้า น้ำตาและอารมณ์สารพัดก็สะบักสะบอมไม่จบสิ้น
“อ๊ากกกก!…..คุณ ไอ้คุณ ไอ้เฮี้ยคุณ……” เขายกมือปิดปากสะอื้นทรุดนอนราบไปกับพื้นทรายล้าง ขณะที่อีกคนอยู่ข้างในยังไม่รู้ตัว “นาย นายทำยังกับฉันดูไม่ออก ไอ้คนบ้าเอ้ย ไอ้เฮี้ยคุณ….นายมันสารเลว นายคิดจะตบตาคนอย่างฉันเหรอ นาย นาย อ๊ากกก!”
“ฉันยังมีอีกเพลงอยากจะกล่อมนายนกป่าของฉัน….ที่รัก นายตั้งใจฟังฉันให้ดีๆ นะ…..” ขณะที่ปลายนิ้วกำลังไล่แป้นคีบอร์ด อนุชัยก็เลื่อนประตูผางตะโกนใส่เสียงดังลั่น
“คุณ ไอ้คุณ ไอ้เฮี้ยคุณ นายเล่นไม่เนียน นายแสดงละครไม่ผ่านเลยสักนิด….ไอ้บ้าเอ้ย นายคิดอะไรของนายอยู่ นายคิดว่าฉันดูไม่ออกรึไง….อ๊ากกก ชานนท์ ชานนท์” อนุชัยทรุดคลุกเข่ารวบกอดเอวเขาไว้แน่น….. “ฉันไม่ได้โง่ชานนท์ ฉันไม่ใช่คนตาบอดคุณ นายมันบ้า นายมันบ้า ฮื้อๆ”
ดร.ชานนท์สะดุ้งโหยง เขานิ่งขณะน้ำตาก็ค่อยๆ เอ่อล้นอาบร่องแก้ม มือหลุดจากแป้นคีบอร์ดมาลูบหัวคนรักไม่หยุด… “ฉัน….ฉัน….”
“นายยังมีฉัน และนกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้ก็ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ….ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันยอมแพ้เกมนี้ง่ายๆ แน่…ชานนท์ ชานนท์” แรงสะอื้นฉุดอีกคนดำดิ่งไร้จุดสิ้นสุด
“ฉันกลัวนุ……ฉัน กลัว…..” ร่างทั้งร่างสะท้าน… “นุ ฉันกลัว ฉันกลัวที่สุดนายรู้ไหม”
อนุชัยใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองทิ้งเร็วๆ ก่อนจะลุกดึงร่างดร.ชานนท์มากอด “ที่รัก…นายยังมีฉัน นายยังมีฉัน….”
“นุ…..”
“ไม่เป็นไรที่รัก ไม่เป็นไร ฉันจะเป็นดวงตา เป็นทั้งหมดให้นายเอง”
“นุ…..ทำไมพอทุกอย่างใกล้จะลงตัวถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเรา….นุ อนุชัย….ถ้า ถ้า…”
“ไม่ ไม่ ที่รัก ไม่มีถ้า ไม่มีถ้าอะไรทั้งนั้น ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้ นายก็ต้องไม่ยอมแพ้ เราจะสู้ไปด้วยกัน”
“นุ….”
“ต่อจากนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ยอมปล่อยมือนายเด็ดขาด….”
“นุ….ฉัน ฉัน….”
“ไม่เอาที่รัก….ไม่เอา….ฉันเคยได้ยินน้าสมใจบอกว่าบ้าน Loft Love นายสร้างมันขึ้นมาจากจินตนาการไม่ใช่เหรอ… นายเห็นมันในจินตนาการทุกซอกทุกมุมอยู่แล้วนิ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านได้อย่างปกติไม่ใช้รึไง”
“นุ นุ ฉันกลัว….นายอย่าทิ้งฉันนะ” เมื่อคำๆ นี้หลุดให้ได้ยิน อนุชัยก็ปล่อยโฮเสียงดังลั่น
“ไอ้บ้า…นายรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา ชานนท์ นายอย่ามาดูถูกฉัน นายอย่ามาดูถูกคนอย่างฉัน ฮื้อๆ….อ๊ากกกก….ไอ้เฮี้ยคุณ ไอ้บ้าเอ้ย”
“ฉันกลัวที่รัก….ฉันกลัวไปเสียทุกอย่าง”
“ไม่ ไม่…นายจับแก้มฉันชานนท์ นายสัมผัสฝีปากรับความรู้สึกเวลาฉันพูด จำคำที่ฉันจะบอกให้ขึ้นใจ….” อนุชัยเว้นจังหวะให้ฝ่ามือของคนรักได้ทำงาน เมื่อเข้าที่เข้าทาง “เราคือชีวิตเดียวกัน เราคือครอบครัว ชานนท์ นายคือพ่อของลูกชายฉัน ฉันรักนายและฉันจะเป็นส่วนที่นายขาดให้เอง”
ดร.ชานนท์น้ำตาไหลพรากๆ….. “นายจะโทรบอกเรื่องนี้กับคุณแม่-คุณพ่อไหม”
“แน่นอนที่รัก….ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน” อนุชัยบอกขณะนำทางเขาไปนั่งในห้องรับแขก เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางโทรศัพท์มือถือก็ถูกใช้งาน
(ฮัลโหล นุ เป็นไงบ้างลูก)
“คุณหญิงป้าครับ….ช่วยเราด้วย….ฮื้อๆ”
………ใบไม้ร่วงที่ลานตะแบก……….
……….ช่อดอกสีม่วงช้ำๆจึงผลิบาน……..
……..กิ่งก้านแข็งๆ รับประกัน……..
………ต้านทานต่อกระแสลมแลพายุ……..
……..ตะแบกจึงกล้าท้าทาย………..
………เจ้าเอยลอยลม………
………กลีบบางๆ ก็ถึงเวลาปลิดปลิว……..
………. เคว้งคว้างกลางนภาสีคราม………
……..ผลแกร่งๆ แข็งๆ ราวกับหินก็แทนที่……..
………ยามแก่จัดเจ้าจะผลิแตกเป็นช่อ……….
…….ราวกับดอกตะแบกใหม่สีน้ำตาลเปลือกไม้……….
……..คอยค้ำชูให้เห็นเป็นนิรันดร์………
……..ฉันมันนกป่าปีกสีสีนั้น ชานนท์……..
“คุณหญิงป้าครับ”
“ใจเย็น ผลเอ็กชเรย์ บอกว่าเส้นประสาทตายังไม่เสียหาย เพียงแต่ก้อนเนื้อที่ว่าขยายตัวกดทับเท่านั้นเอง”
“หมายความว่า”
“ถ้าจัดการกับก้อนเนื้อได้ ชายก็มีโอกาสกลับมามองเห็น….ถึงเวลาที่เราต้องเพิ่มสารอินโดรฟินให้เขาโดยเร่งด่วนแล้วละ”
“ครับ…..ขอบคุณคุณหญิงป้ามากๆ ครับ”
จบ อนุชาย2 บทที่18 ฉันมองไม่เห็น