เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep7-2 สำเร็จในวันสูญเสีย นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep7-2
“คุณค็อก! คุณค็อกเทล! ครับ” รปภ.ตะโกนไล่ตามหลังขณะประตูรถแท็กซี่กำลังจะปิด “หนังสือหล่นนะครับ”
ค็อกเทล! ทำหน้างงๆ แต่ก็ตกใจถึงกับรับหนังสือปกสีน้ำเงินขาวมากอดไว้แน่น…. “ขอบคุณครับลุง”
*******************
“คุณก๊อกเท! เรียนจบแล้วอยากเป็นอะไรคะ” แม่ถามหลังอาหารเย็นคืนสุดท้ายที่อำเภอปัว
“แม่…..” พ่อกระทุ้งพร้อมกับหลิวตาราวจะสื่อบางอย่าง
“ก็ ก็ ก็…..เอ่อ ค่ะค่ะ”
“เรียนวนศาสตร์นะแม่ อยากมาทำงานบนอุทยานแห่งชาติดอยภูคานี้แหละ แต่ไม่รู้จะสอบติดรึเปล่าเลย”
ฮ่อมหันมาจากทิวเขาที่กำลังจมสู่สีดำ “เข็มทิศชีวิตฮ่อมกับก๊อกเท! ของแม่สวนทางกันจริงๆนะแม่นะ”
“แต่ในเอกภพ….” เฟี้ยทซ์เจ้าของวลีเด็ดกะจะแทรก แต่ก็โดนฮ่อมกับค็อกเทล…
“ไอ้เฟี้ยทซ์!…..”
“เฉพาะทางช้างเผือกก็ยังไม่รู้จะหากันเจอหรือเปล่า นี้เล่นทั้งเอกภพ กูจะไม่แก่ตายก่อนรึไง?” ค็อกเทลงึมงำ
“เอกภพ อะไร?คะพี่เฟี้ยทซ์” ฝ้ายถามทำให้เฟี้ยทซ์รู้สึกมีพวกขึ้นมา ถึงกับปล่อยยิ้มให้เธอไม่หุบ…
“ก็ ก็….”
และก็เป็น ฮ่อมกับค็อกเทลเบรกอีก…. “ไอ้เฟี้ยทซ์”
“แฮ แฮ แฮ…..เอาไว้จะไลน์บอกนะฝ้าย” เขากระซิบใกล้ๆจนฮ่อมออกอาการหวงน้องสาวขึ้นมาอีก
“ไอ้เฟี้ยทซ์จริงๆ มันก็ไม่เลวนักหรอก” ค็อกเทล!เอียงคอพูดใส่หูพร้อมกับตบบ่า 2 ที
ขณะเดียวกันพ่อกับแม่ก็แอบมอง 2 คู่ที่นั่งคนละฟากของโรงนาก่อนจะหัวเราะชวนกันดูดาวไปเรื่อย “แม่มึง!….หันดาวคืนนี้งามหนั้กขนาดน้อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
แต่อยู่ๆเสียงแม่ก็ดังขึ้นอีก “ฮ่อม มีอะหยังจะอู้กะแม่ก่อ” เขาหันไปสบตากับค็อกเทล! สั้นๆ ก่อนเสียงพ่อจะดังขึ้น
“เออแม่นความของแม่มึง….มีอะหยังก็อู้กับแม่ตรงๆ ตายจากกันเคาะโลงบ่หันได้ยินแล้วเน่อ”
“พ่อ….” ฮ่อมอุทาน “แม่ก็อีกคน….”
“ไผละจะไปฮู้อนาคตละฮ่อมเอ้ย!…ยามมีชีวิต สำคัญกว่ายามจากกั๋น อยากบอกอะหยัง? อยากอู้อะหยัง? ต้องอู้ต้องจ๋าตอนยังมีชีวิตจะได้บ่หันเสียใจทีหลัง”
“แม่….” ฮ่อมดุเสียงดัง จนค็อกเทล! ขยับซุบซิบราวกับมด 2 ตัวคุยกัน
“เอาน่าแม่ให้พี่ฮ่อมกับพี่ก๊อกเท! ทำใจก่อน เดี๋ยวก็ยอมพูดเองแหละ เนาะพี่เฟี้ยทซ์เนาะ”
“เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ” ฮ่อมอดไม่ได้ ในที่สุดคืนนั้นทั้งฮ่อมและค็อกเทล! ก็ปล่อยคำถามให้ไร้คำตอบผ่านไปราวกับสายลม….
*****************
ค็อกเทล! นึกถึงหลังอาหารค่ำมื้อสุดท้ายที่อำเภอปัว เขากลั้นความรู้สึกไม่ให้ดิ้น กระทั่งรถแท็กซี่แล่นเข้าไปจอดส่งหน้าเฉลียงบ้านทรงร่วมสมัย 2 ชั้นภายในหมู่บ้านเก่าแก่หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ชื่อเสรี เขาเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานที่มีดร.ชัยนนท์นั่งกำลังไล่ดูอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์ กิริยาที่ต่างจากค็อกเทล!คนเดิมทำให้เขาถึงกับต้องเงยหน้ามอง และเมื่อเห็นน้ำตาลูกชายไหลพรากต่อหน้าต่อตา เขาก็ยิ่งตกตะลึงกับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนถึงกับลุกเดินเข้าไปหา
“ตาค็อก!….” เขาเรียกชื่อลูกชายสั้นๆ ค็อกเทล! ยิ่งฟูมฟายหนักและหนักจนร่างทั้งร่างโอนเอนไปมา
“เตี่ย!…คือผม ผมไม่ได้ชอบฮ่อม” แรงสะอื้นบีบให้พูดได้แค่นั้น ดร.ชัยนนท์จับทิศทางไม่ถูกจึงฉุดแขนไปนั่งกับโซฟา
“เกิดอะไรขึ้น” ดร.ชัยนนท์ถามเสียงเบา
ค็อกเทล! เงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแบบที่ไม่เคยกล้ามาก่อน “ผม ผมไม่ได้ชอบฮ่อม แต่ แต่ผมรักเค้า ค็อก! รักทุกอย่างที่เป็นฮ่อม”
ดร.ชัยนนท์ถึงจะดูออกตั้งแต่แรก กระนั้นก็มีบางอย่างทำให้ต้องหยุดคิดแบบต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด “เกิดอะไร?ขึ้น”
“พ่อกับแม่ฮ่อมเกิดอุบัติเหตุรถตกเขา เตี่ย! ผมอยากไปอยู่ข้างๆเค้า ฮ่อมไม่มีใครนอกจากน้องสาว” เขาโชว์โทรศัพท์เบอร์ที่ไม่ได้รับสายให้ดร.ชัยนนท์เห็น “คล้ายฮ่อมอยากบอก แต่ก็ไม่กล้า”
“เวลานี้ฮ่อมอยู่ไหน?”
“ไม่รู้ ติดต่อไม่ได้ สงสัยออกเดินทางไปอำเภอปัวแล้วแน่ๆ”
สักพักอาม่าก็เดินยึกยัก ๆพร้อมไม้เท้าผ่านประตูที่เปิดค้างเข้ามาสมทบ “อาค็อก! อาเฟี้ยทซ์มาหา”
ค็อกเทล! มองหน้าพ่อนิด ๆ “เดี๋ยวนะ…เฟี้ยทซ์”
“เฟี้ยทซ์รู้ข่าวจากน้องสาวของฮ่อมเมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา”
ค็อกเทล! พยักหน้าแล้วหันไปทางอาม่า ใบหน้าที่ยังเปื้อนน้ำตาทำเอาอาม่าตกใจเพิ่มอีกคน
“ลึ! เป็นอะไร? อาค็อก! เกิดอะไรขึ้นไหนบอกอาม่าซิ!”
“นิดหน่อยนะม่า” ดร.ชัยนนท์พูดแทน ก่อนจะตบหลังลูกชาย “ไปเตรียมตัวได้แล้วได้แล้ว”
“อาค็อก!” เมื่อค็อกเทล! หลบหน้าแล้วเดินผ่านเธอไปเฉยๆ อาม่าจึงหันไปคาดคั้นเอากับลูกชาย “อาตี๋! เกิดอะไรขึ้นกับอี!…”
ดร.ชัยนนท์แตะแขนนำอาม่านั่งลงแทนที่ เธอมองแผ่นหลังหลานชายไวไวและหันมามองหน้าแบบต้องการคำอธิบาย จนดร.ชัยนนท์ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง อาม่าตกใจไม่น้อยเพราะฮ่อมชอบคุยถึงดอกชมพูภูคาและดอกซากุระบนดอยภูคาให้เธอฟังเป็นประจำ
“จัดรถให้อาค็อก! ดูเหมือนอาฮ่อมอีไม่มีใครเลยนะ”
ดร.ชัยนนท์พยักหน้าแต่… “ม๊า!…”
“ลึ!มีอะไรก็พูดมา”
“ถ้าอาฮ่อมอีเป็นผู้หญิงอั๊ว!จะไม่หนักใจเท่านี้” เขาหลบสายตาอาม่าแล้วหันไปมองรูปถ่ายบรรพบุรุษที่แขวนเรียงกันบนผนังด้านหลังโต๊ะทำงาน อาม่าใช้ฝ่ามือเหี่ยวๆ เบนใบหน้าลูกชายกลับหาตัวเอง
“อาตี๋ ลึ!รู้อะไรไหม? บางครั้งความเชื่อโบราณๆ จารีตประเพณีเก่า ๆนั้นแหละคือปัญหา”
“ม๊า!…”
อาม่าคล้ายจะชั่งใจ “ลึ!น่าจะรู้ดี สมัยที่เตี่ย! ยังไม่ตาย ชีวิตของม๊า!จะวนเวียนอยู่แต่ในห้อง จากห้องนอนเข้าครัว จากครัวเข้าห้องนอน…เท่านั้น” เธอหยุดกลืนน้ำลาย “ความเชื่อโบราณ จารีตประเพณีเก่าๆพรากชีวิตทั้งชีวิตของม๊า!”
“ม๊า!……” ดร.ชัยนนท์ตกใจกับกิริยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและความทรงจำก็เวียนผุดภาพเหล่านั้นขึ้นมายืนยัน ใช่! ตั้งแต่จำความได้ผู้หญิงที่เรียกม๊า!.ใช้ชีวิตอยู่แค่ 2 ห้องตามที่เธอบอกจริงๆ
“ถ้าอั๊ว! ไม่มีลึ! คงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้” เธอเบิกสายตาสูงราวจะสกัดกลั้นบางอย่าง “สมัยที่ม๊า! อยู่จั่วมู่หลางในจังหวัดเตี่ยวจิว(แต้จิ๋ว)จริงๆแล้วม๊า! กับอึ่มหงส์! เรา…” เธอเล่าเรื่องในอดีตด้วยน้ำเสียงสั่นจนต้องปิดหน้าร้องไห้ต่อหน้าลูกชาย ดร.ชัยนนท์ทิ้งตัวไปกับพนักพิงแบบคนหมดแรง “ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ เตี่ย! ของอึ่มหงส์จึงจับเธอแต่งงานกับน้องชายของม๊า!…แล้วส่งทั้งคู่ลงเรือไปอยู่กับกงฉั่วเฉินที่ฮองกง”
“…….” ดร.ชัยนนท์ใช้ความคิดจับต้นชนปลายเรื่องราวที่แม่ตัวเองเผชิญ เขาหลับตาปิดอารมณ์อยู่พักใหญ่ๆ อาม่าก็พูดขึ้นอีก
“อึ่มบอกกับม๊า! ว่า ถึงแม้เราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ขอให้เธอได้อยู่บนแผ่นดินเดียวกับม๊า!อีก็พอใจแล้ว เพื่ออะไร?ลึ! รู้ไหม?”
ดร.ชัยนนท์ยันตัวรับฟังด้วยท่าทีเศร้าสนิท
“…เพื่อจะได้ตายด้วยกันบนแผ่นดินที่ชื่อสยาม” เธอชี้นิ้วลงพื้น “เข็มทิศชีวิตของเราต้องการแค่นี้จริงๆ…”
ดร.ชัยนนท์ลูบหลังจนเธอสะอื้นน้อยลง “อั๊ว! เข้าใจแล้ว อั๊ว!ตาสว่างแล้ว ขอบคุณที่เตือนสติ อั๊ว!มีเรื่องต้องจัดการ” แล้วดร.ชัยนนท์ก็ลุกเร่งฝีเท้าออกไปข้างนอก เขาสั่งให้คนขับรถบ้านสวัสดิ์พากร เอารถตู้พาค็อกเทล! กับเฟี้ยทซ์ไปอำเภอปัวโดยเร่งด่วน พร้อมกับโทรหาตำรวจท้องที่ให้ดำเนินเรื่องราวที่เกิดขึ้นแทนตัวเองให้เรียบร้อย
“ฝากบอกฮ่อมว่า เตี่ย! ขอแสดงความเสียใจด้วย มีอะไร? ค็อก! เป็นสื่อกลางได้เลย เตี่ย! พร้อมช่วยเหลือ” ดร.ชัยนนท์บอกกับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆเฟี้ยทซ์ และเวลา 3 ทุ่ม 23 นาที อาม่า! ก็เอาซองสีขาวยัดใส่มือหลานชาย เธอยืนค้ำไม้เท้าคู่กับดร.ชัยนนท์โบกมือให้รถตู้ที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากบ้านเสรีไปเงียบๆ
“อั๊ว! ทำในสิ่งที่ถูกแล้วใช่ไหม?”
“ลึ! กับอั๊ว! ไม่มีปัญญาอยู่กับอาค็อก! จนอี! ตายหรอกอาตี๋ ชีวิตอี!เป็นของอี! ต้องให้อี! เป็นคนจัดการเอง”
“อั๊ว!…”
“ลึ! ลึ! เป็นคนเขียนเองไม่ใช่เหรอว่า……ในเมื่อชีวิตเป็นของเรา เราจึงมีสิทธิ์ทั้งหมดในชีวิต อย่าให้คนอื่นมีอิทธิพลเหนือการควบคุม เพราะสุดท้ายแล้ว ชีวิตก็จะเหลือแค่ตัวเรา โดยตัวเรา เพื่อตัวเราเท่านั้น”
….หนังสือเข็มทิศชีวิต บทที่ 7 หน้า 167 ย่อหน้าที่ 2 พารากราฟที่ 2… “ชีวิตของอาค็อก! อี!ต้องตัดสินใจเองจะถูกหรือผิดก็ชีวิตอี! ไม่ใช่ชีวิตลึ! อย่าลืมซิ!”
********************
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***