เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-4

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-4

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-4 ทำไมต้องเป็นเธอ นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-4

วันเสาร์ค็อกเทล! โทรหาทุก 1 ชั่วโมง เมื่ออีกคนไม่ยอมรับสายเขาจึงต้องบุกไปที่บริษัท SCN. สาขาหัวหมาก…เกือบเที่ยงทันทีที่รถเบนซ์สปอร์ตกำลังตีวงเลี้ยวเข้าจอดตำแหน่งประจำ ฮ่อมก็พยักหน้าให้อโนทัยก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นชั้น 4

“ฮ่อมเข้าสำนักงานใหญ่ครับ คาดว่าบ่ายๆ มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลเรียกตัวเข้าพบ คุณค็อก! ลองโทรเข้ามือถือเองนะครับ” เสียงอโนทัยดังให้ได้ยิน เมื่อเสียงเบนซ์สปอร์ตเคลื่อนตัวจากลานจอดไปแล้ว ฮ่อมจึงสะพายเป้สีดำกลับลงมา

“วันนี้ต้องขออนุญาตออกก่อน 30 นาทีนะพี่”

“ระดับรองนายกรัฐมนตรีถ้ากล้าเสนอให้ขนาดนี้ รับรองไม่กลับคำแน่นอนเชื่อพี่…” อโนทัยรู้ว่าเขานัดดร.ชัยนนท์เอาไว้และรู้ด้วยว่าเรื่องอะไร? ฮ่อมพยักหน้าขอบคุณ

ฮ่อมแวะเข้าสำนักงานใหญ่บริษัท SCN. ถนนรัชดาภิเษก เพื่อทำธุระสำคัญบางเรื่อง หลังจากนั้น…และระหว่างที่กำลังอยู่บนรถแท็กซี่มุ่งหน้าสู่บ้านสวัสดิ์พากร ค็อกเทล! ก็โทรเข้ามาอีก คราวนี้เขาตั้งใจรับสาย น้ำเสียงที่พยายามให้ปกติก็ยังแกว่งๆ

“ค็อก!…..”

#อยู่ไหน? โทรแต่เช้าไม่ยอมรับสาย เป็นอะไร?เปล่า# เขาคล้ายจะต่อว่า แต่ก็ขยักมุมเกรงใจไว้ 50 เปอร์เซ็นต์

“อีกประมาณ 1 ชั่วโมงโทรหาได้ไหม? กำลังจะเข้าพบผู้ใหญ่”

#ผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่ว่าเป็นใครกัน# ค็อกเทล! ถามเร็วๆ

“อีก 1 ชั่วโมง….รู้แน่นอนว่าเป็นใคร” ฮ่อมกดวางสายหลับตากดความรู้สึกไม่ให้ปะทุ กระนั้นเสียงโหยหวนก็ยังกรีดร้องก้องกังวานในโลกเงียบไม่หยุด….วันนี้อาจจะเป็นฉากสุดท้ายกับผู้สร้างตำนานทุกเรื่อง ซึ่งอันที่จริงคนลัวะจากดอยภูคาก็ไม่สมควรใช้คำว่ารักกับลูกชายคนเดียวของรองนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น ใช่! มันเป็นเพียงความฝันที่เลอะเทอะ  เขาหายใจเข้าลึกๆควบคุมหัวใจไม่ไห้เต้นแรงจนกระทั่งเสียงพ่นลมหายใจทิ้งหลายครั้งติดกัน

“จอดหน้าประตูไม้สักหลังถัดไปนั้นแหละพี่ ผมเดินต่อเข้าไปเอง”

“นี้มันบ้านท่านรองนายกชัยนนท์นิ!” แท็กซี่เปรยถามขณะยื่นเงินทอนคืน ฮ่อมพยักหน้าขณะก้าวขาลงจากรถเดินตรงไปยังประตูสำรองที่มียามแก่ๆนั่งเฝ้าตลอดเวลา

“ผมนัดด็อกเตอร์ชัยนนท์ไว้ 17.00 น.ครับ”

“ขอชื่อด้วยครับ” ยามถามซึ่งอันที่จริงยามคนนี้เคยเห็นเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อาจจะเป็นเพราะมากับค็อกเทล! คนละสถานะกับที่มาวันนี้

“นุกุล ภูลมบล ครับ”

“อ๋อ! ลุงนึกออกแล้ว เพื่อนคุณค็อกเทล!นี้เอง”

“ครับ”

“เชิญครับนายรออยู่ในห้องนั่งเล่น”  เมื่อฮ่อมกำลังเดินเข้าไป “เดี๋ยวๆลุงไปส่ง” เขาบอกคล้ายกลัวว่าจะหลงทาง

ทันทีที่ถึงห้องนั่งเล่น ดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากรกับท่านผู้หญิงโฉมสิริกัลยาที่ทำผมทรงบอลลูนบานๆก็นั่งจิบกาแฟสาละวนกับอะไรบ้างอย่าง พอเขาเดินผ่านซุ้มผนังโค้งเข้าสู่พื้นที่ ดร.ชัยนนท์จึงยกถ้วยกาแฟจิบคล้ายส่งสัญญาณบอกภรรยาให้รู้ตัว ฮ่อมประหม่านิดๆ แต่ในเมื่อการมาวันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายความประหม่าจึงมีอิทธิพลน้อยลง

“สวัสดีครับดอกเตอร์ สวัสดีครับท่านผู้หญิง” เขายืนยกมือไหว้อยู่ในระยะเกรงใจ

“อ๋อ! คนนี้เหรอ คล้ายจะเจอกันครั้งแรก” ท่านผู้หญิงโฉมทักทายพร้อมกับวางนิ้วเรียวๆบนบ่าดร.ชัยนนท์ “หล่อใช้ได้เลยนะ”

“นั่งก่อนฮ่อม”

“ชื่อฮ่อม….ทำไมเชยจัง แต่แอบเก๋แบบบ้านๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เดี้ยนชอบนะคะ”

“ครับท่านผู้หญิง ผมชื่อม่อฮ่อม เรียกฮ่อมเฉยๆก็ได้ครับ” ฮ่อมไม่ยอมสบตา เขาเลือกนั่งฝั่งตรงข้าม “ดอกเตอร์ครับที่ผมขอพบวันนี้…ท่านน่าพอจะรู้แล้วใช่ไหม?ครับ”

“ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่องทุนเรียนต่ออเมริกา”

“ครับ….” ฮ่อมเล็งสายตาไปที่ใบหน้ามีแว่นตากลมๆกั้นอยู่ “จุดประสงค์หลักของท่านก็คืออยากให้ผมไปจากชีวิตลูกชาย ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ” ฮ่อมวางน้ำเสียงเรียบๆ เล่นเอาดร.ชัยนนท์ถึงกับต้องปรับท่านั่งใหม่

“นี้เธอ…”

“ท่านผู้หญิง…..” ดร.ชัยนนท์ปราม

“ผมตัดสินใจแล้วครับ” ฮ่อมกลืนน้ำลายจนเห็นลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงหลายครั้ง “เข็มทิศชีวิตที่ท่านชี้นำบอกว่าผมต้องไป”

“ดีแล้ว เข้าใจง่ายดี เตรียมตัวเลย ผมจะให้เลขาติดต่อกลับ”

“ขอบพระคุณครับท่าน” ฮ่อมพูดขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาวางโทศัพท์ส่วนตัวลงตรงกลางแล้วกดสปิกเกอร์โฟนราวกับจงใจให้คนทั้งคู่ได้ยิน

#นายอยู่ที่ไหน? กันแน่# เป็นเสียงค็อกเทล!

“ผมอยู่กับคุณพ่อและท่านผู้หญิงแม่ของคุณครับคุณณนนท์” ฮ่อมกรอกน้ำเสียงสั่นๆ

#นายไปทำบ้าอะไร? ที่นั้น# ท่านผู้หญิงโฉมอ้าปากค้าง

“เพราะคุณณนนท์ เป็นคนชี้ทางเข็มทิศชีวิตให้ผมมาที่นี้ นายเป็นคนบังคับฉันมาที่นี้เองนะค็อกเทล!”

#มัน มัน อะไร? กันฮ่อม ฉันไม่เข้าใจ#

“ขึ้นเทรนทวิตเตอร์รายวันซะขนาดนั้น…..” ฮ่อมเงียบสะกดอารมณ์ “คุณณนนท์ครับฟังผมให้ดีๆ ผมชื่อม่อฮ่อม นุกุล ภูลมบน บ้านอยู่บนดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ครอบครัวเป็นคนลัวะ ผมหนุ่มลัวะ คุณ…ผมหมายถึงคุณณนนท์ สวัสดิ์พากร คุณเป็นลูกชายรองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ถ้าคุณจะคบหาใคร คนๆนั้นต้องไม่ใช่ผม เราต่างกันเกินไป….” ดร.ชัยนนท์ยกมือลูบใบหน้าแดงๆ “สำหรับคุณณนนท์ ถ้าจะรักกับผู้ชายด้วยกันลูกชายพลเอกอลงกฎ ลาภไพศาล ที่มีทั้งยศ อำนาจและบารมี กรุณาอย่ามาอะไรกับผมอีกเลยครับ ผมเจ็บวันนี้ยังดีกว่าจะต้องเจ็บในวันที่เข็มทิศชีวิตไม่มีทางให้เดิน คุณไม่มีวันรักผมได้ตลอดไปหรอก เชื่อผมเถอะ”

ท่านผู้หญิงโฉมกำลังจะลุก แต่ดร.ชัยนนท์ก็ดึงเธอให้นั่งลงที่เดิม….

#ฉัน ฉัน…กับผู้….#

“วันที่ผมโทรหาแล้วถามว่า  ค็อก!นายอยู่ไหน? นายตอบว่าอยู่บ้านกับแม่สุนีย์ที่นนทบุรี คุณณนนท์ครับกรุณาถามคนที่กำลังนั่งรับประทานข้าวข้างๆคุณเวลานี้ด้วยว่า วันนั้นเขาเห็นใครยืนอยู่ด้านหลังของคุณ…”

#ฮ่อม ฮ่อม….#

“และน้องเค็ก! ก็กลับอเมริกาก่อนวันที่คุณจะออกเดทที่เกาะพีพี 2 วัน…..คุณณนนท์ครับ พอเถอะ เราคบกันต่อไม่ได้ คุณควรจะคบกับคู่จิ้นที่เหมาะสมหรือไม่ก็หาผู้หญิงสวยๆหน้าตาดีๆสักคนสร้างครอบครัวดีที่สุด”

#พูดบ้าอะไร นายเป็นบ้าอะไร?…..# ฮ่อมกดวางสายพร้อมปิดโทรศัพท์ยัดใส่ในเป้สีดำ เขาปัดน้ำตาแบบรีบๆก่อนจะลุกถอยหลังโค้งคำนับ

“ถ้าล่วงเกิน กระผมขอโทษ” เขาพูดเสียงสั่น “….ขอบคุณสำหรับทุนเรียนต่อ ผมพร้อมจะบินทุกเมื่อ ถ้าเร่งให้เร็วขึ้นอีกหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง…” พูดจบก็หันหลังเดินตรงไปยังประตูทางออก แต่เสียงท่านผู้หญิงโฉมก็หยุดเขาไว้ได้ทัน

“เธอต้องเชื่อฉัน….5 ปี 10 ปีถ้าตาค็อก! ยังรักเธอ เขาก็จะรักเธอตลอดไป ผลดีจะตกอยู่ที่พวกเธอไม่ใช่เดี้ยนหรือดอกเตอร์#

ฮ่อมหันมายกมือไหว้ ในที่สุดตะวันก็ใกล้ถึงเวลาทิ้งโลกปล่อยให้เงารัตติกาลเข้ากลืนกินง่ายๆ ฮ่อมไม่กลับไปนอนที่บริษัทเพราะได้วางแผนกับฝ้ายเอาไว้แล้ว….คืนนี้อีกคนกำลังควานตามหาตัวเขา อีกคนก็วนคิดสารพัดเรื่อง คนหนึ่งกำลังจะเป็นบ้า อีกคนก็เทียวแต่กลืนน้ำตาลงกระเพาะอย่างน้อยๆมันก็ยังเพิ่มพลังงานให้มีชีวิตอยู่ต่ออีก 1วัน

“ด็อกเตอร์คะ…” ท่านผู้หญิงโฉมเดินกลับไปทรุดนั่งข้างๆสามี

“คนที่จะเอาตาค็อก!อยู่หมัด จะต้องมีหลายอย่างเหนือกว่าเขา…ถ้าฮ่อมรักค็อกเทล! เขาจะต้องจบปริญญาเอกมีคำว่าด็อกเตอร์นำหน้ากลับเมืองไทย ผมรู้จักตาค็อก!ดี” ดร.ชัยนนท์สรุป เขาจ้องหน้าท่านผู้หญิงโฉมแบบไม่เคยจริงจังเท่านี้มาก่อนในชีวิต…

“ค่ะ….เดี้ยนจะยอมเชื่อคุณอีกสักครั้ง” เธอยกมือทาบหน้าอกตัวเองก่อนจะลงซบกับซอกคอสามี “ที่ผ่านมาเดี้ยน! ไม่เคยคิดจะชอบคุณด้วยซ้ำ แต่วันนี้ด็อกเตอร์ทำบางอย่างให้เดี้ยทซ์รักคุณจนได้ ขอบคุณนะคะที่อดทนกับเดี้ยนมาโดยตลอด ขอบคุณจริงๆ”

******************

“ตาเฟี้ยทซ์คืนนี้แกต้องไปทานข้าวกับน้องเฟิร์นที่บ้านคุณหญิงนฤนาทกับฉัน….คืนนี้” ด้านคุณหญิง ณ.รัตนา ซื่อวารินทร์ คืนวันเดียวกันก็ลากเฟี้ยทซ์ไปกับเธอ บรรยากาศภายในคฤหาสน์ทรงสเปนในหมู่บ้านเก่าแก่ใกล้แยกบางซื่อ สาวใช้ชุดเฉพาะ 4-5 คนเดินวนรอบโต๊ะไม้สักทรงกลมที่ตั้งอยู่กลางห้องอาหาร แสงไฟสีครีมถูกแต่งเติมด้วยแสงเทียนสีชมพูหลายจุดรอบห้อง อันที่จริงแล้วเฟี้ยทซ์มาที่นี่ค่อนข้างบ่อย สมัยยังเด็กต้นชมพู่หน้าบ้านคือสวนสนุกสำหรับเขาและเพื่อนผู้หญิงที่ไม่รู้มาก่อนว่าแม่ตัวเองแอบมั่นหมายไว้ตั้งแต่เกิด พอรถจอดเข้าที่คุณหญิงณ.รัตนาก็เดินนำขึ้นตัวบ้าน

“สวัสดีคะคุณหญิงแม่ สวัสดีเฟี้ยทซี่….” เธอเป็นเด็กสาวอายุเท่ากับเขาและรู้จักเขาทุกซอกทุกมุม “เป็นอะไร?อะ…ตัว ตัวเอง เฟี้ยทซ์…เฟี้ยทซี่!” เฟิร์นตะคอก จนเห็นคุณหญิง ณ.รัตนายิ้มแบบคนพอใจสุดๆ

“คุยกันไปก่อนนะแม่มีเรื่องต้องกับคุณหญิงป้า” แล้วเธอก็ทิ้งให้พวกเขาอยู่เพียงลำพัง

“เฟิร์นถามจริงๆ….” เฟี้ยทซ์พูดคล้ายจะเกรงใจ

“ว่า….”

“ถ้าเอ่อ….ถ้าเราถูกจับแต่งงานกัน จะทำไง?”

เฟิร์นได้ยินก็หัวเราะลั่นบ้าน “….ถามจริง!…จะให้ฉันแต่งงานกับแกนี่นะ”

“สมมุติ….เข้าใจไหม? สมมุติ ฉันจะเป็นบ้าเพราะแม่ฉันอยู่แล้วเนี้ย”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า …ฉันก็อาจจะต้องลงทุนแต่งตัวเย้ายวนแกมากกว่าเฮียฟาง 100 เท่า…อุ้ย! ตายฉันคิดได้ไงเนี้ย! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ถ้าถูกจับแต่งจริง….แต่งไหม?”

“ไปคิดเรื่องนี้ให้มันไกลๆบาทาฉันหน่อย….” เธอสะบัดเส้นผมยาวสลวยปัดผ่านใบหน้าแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์กดโทรออก แป๊บเดียวก็ลากเฟี้ยทซ์เข้าไปในห้องนั่งเล่นที่อยู่ไกลออกไป “เฟี้ยทซี่ไม่ต้องซีเรียตนะค่ะ นารีขี่ม้าขาวกำลังจะมาร่วมวงแล้ว”

“เจ้ฟางมาเหรอ” เฟี้ยทซ์ถาม

“เอ่อ…แกเป็นผู้ชายซะเปล่า ไม่เคยกล้าหาญให้ฉันเห็นเลย สู้เฮียฟางก็ไม่ได้” เธอหัวเราะยาวก่อนจะโน้มกระซิบ “จับตาดูคืนนี้ให้ดีแล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“มีแผนอะไรอะ บอกหน่อยดิ!”

“บอกไปก็หมดสนุกกันพอดี….” เธอพักสายตาที่ประตูรั้ว สักพักรถเก๋งสีแดงสดก็แล่นผ่านเข้ามา “แกทำเอ๋อๆ โง่ๆ เข้าไว้ ฉันจะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้คุณหญิงแม่เห็นเอง”

ทันทีที่อาหารค่ำเริ่มต้น แขกที่พึ่งเข้ามาสมทบก็จงใจแทรกนั่งข้างๆเฟิร์น ส่วนเฟี้ยทซ์ถูกกันพื้นที่ไว้อีกมุม คุณหญิงนฤนาทกับคุณหญิงณ.รัตนาหลิวตาให้กัน ทั้งคู่พยายามชงเรื่องมาที่เฟี้ยทซ์กับเฟิร์น แต่ทว่าฟางกลับหวานกว่า เธอมักจะตักโน้นนี่นั้นพร้อมกับส่งสายตาปิ้งๆเปิดเผยให้คุณหญิง 2 หมั่นไส้เป็นระยะๆ

“น้องเฟิร์นค่ะระหว่างมัสมั่นไก่ของคุณหญิงแม่กับหอยจ้อ! 5 ดาวที่เฮียซื้อมาฝากอะไรอร่อยกว่ากันค่ะ”

“หอยจ้อ! ของเฮียฟาง 5 ดาวไม่ใช่เหรอค่ะ” เฟิร์นบีบเสียงสวยๆแล้วหันไปถามคุณหญิงนฤนาท “แล้วแกงมัสมั่นของคุณหญิงแม่ละคะกี่ดาว….”

เฟี้ยทซ์เกือบกลั่นขำไม่อยู่ เขาหลุดหัวเราะ หึ หึ จนคุณหญิงณ.รัตนาบิดข้อศอกแรงๆ

“อะไร?ครับคุณแม่….”

“ฉันหมั่นไส้แก” แล้วคุณหญิง ณ.รัตนาก็หันไปพูดกับคุณหญิงนฤนาทที่ออกอาการไม่ต่างกัน “…น้องอิ่มแล้วคะคุณพี่”

“เดี้ยนเห็นหอยจ้อ! 5 ดาวของยัยฟางก็กระเดือกไม่ลงเช่นกันคะคุณน้อง….” แล้วคุณหญิงทั้งคู่ก็ลุกออกห้องอาหารไปเฉยๆ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า—–หอยจ้อ…เฮียฟาง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“หุบปากไอ้เฟี้ยทซ์….” ฟางเสียงเข้มตาดุแบบคนเอาจริงขึ้นมาดื้อๆ “แกเอาน้องฝ้ายของฉันไปเก็บไว้ที่ไหน?ไม่ทราบ”

เฟี้ยทซ์ยักคิ้วแบบคนเจ้าเล่ห์… “ความลับนะเจ้!”

“เกิดอะไร?ขึ้นคะ” เฟิร์นแทรก

“ก็เฮียกะจะดันน้องฝ้ายเข้าสังกัด แต่ไอ้หมอนี้กลับหวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ พาไปซ่อนที่ไหน?ไม่รู้ ติดต่อได้เฉพาะมันคนเดียว เห็นแก่ตัวฉิบ….” ฟางร่ายยาว

“เฟี้ยทซี่!…ฝ้ายเค้าสวยมากๆ ถ้าแกหวงนักก็เป็นผู้จัดการให้ฝ้ายไปเลยซิ เล่นแบบนี้ตัดอนาคตกันชัดๆ”

เฟี้ยทซ์ท้าวคางคิดแบบผู้ใหญ่ “ฮื้อ! น่าคิด” เขาหันไปทางพี่สาว “เจ้!….เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“เล่นใหญ่เกินเบอร์เลยนะแก ว่าแต่สอบเสร็จหรือยังค่ะ”

“อาทิตย์หน้าก็จบแล้ว….โนพรอมแพรม!”

“แน่นะ ชาวบ้านเรียน 4 ปี แต่แกขยันเกิ้น! 5 ปีนี้ไม่ใช่เหรอ จบชัวร์นะ”

“ชัวร์ เตรียมฉลองได้เลย”

“โอเคร! ถ้าอย่างนั้นก็พาน้องฝ้ายเข้าไปคุยกับฉันที่บริษัท”

“ขอเวลาหน่อย ยังไม่คุยกับฝ้ายเลย”

“ฉันบอกแกตั้งนานแล้วทำไมไม่ยอมคุยอีก…แกนี้มันสุดทางจริงๆ”

“แฮ แฮ แฮ….”

“นั้นดิ! เร่งมือหน่อยนะเฟี้ยทซี่ เดียวจะไม่ทันเฮียฟางของฉัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

*******************

อาทิตย์ต่อมามีนักข่าวบันเทิงใจกล้าบวกบ้าดีเดือดช่องหนึ่งแยงไมล์ถามดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากรขณะกำลังเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการจัดงานไพรด์ (Pride month)ประจำปี

“ท่านรองฯค่ะถ้าคุณค็อกเทล! แต่งงานกับคู้จิ้นอย่างน้องผู้กองจริงๆ ท่านจะรับได้ไหม?ค่ะ”

“ความรัก เป็นเรื่องของคน 2 คน ประเด็นสำคัญเลยเราเป็นผู้ใหญ่มีสิทธิ์แค่ดูอยู่ห่างๆ ซึ่งนั้นก็หมายถึงการยอมรับครับ ถึงจะเป็นความรักระหว่าง ชายกับชายหรือหญิงกับหญิง มันก็เป็นชีวิตที่พวกเขาเลือก ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใหญ่อย่างเรา…มีคนๆหนึ่งเข้าไปขอร้องผมถึงบ้าน ขอให้ทีมรัฐบาลช่วยเร่งผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมออกมาบังคับใช้เพราะเขาจะได้นำสิทธิ์ไปรักษา ดูแลคนรักเวลาเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล คำพูดของเค้าแทงใจผมเต็มๆ ผมในนามรัฐบาลจึงสัญญาไว้ตรงนี้เลยว่า จะเร่งผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน 2 สภาฯออกมาบังคับใช้ให้ได้เร็วที่สุด…” เขาหันไปยิ้มให้นักข่าวคนดังกล่าว “แบบนี้คุณยังคิดว่าผมเป็นคนแก่หัวโบราณอยู่อีกไหม?”

“ละเอียดครบถ้วนกระบวนความ ขอบคุณค่ะท่านรองฯ….”

**********************

***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***

(Visited 9 times, 1 visits today)