อนุชาย2 บทที่25 โลกสีเดิม
โลกสีเดิม
……….เมื่อใบไม้ ในป่าใหญ่ ใกล้เปลี่ยนสี………
………เพลาที ที่นกป่า ก็พาหมอง……….
……..ปีกสั้นสั้น สีน้ำตาลเปลือกป่า มิน่ามอง………
……….เอาแต่จอง จ้องใบบาง ร้างลอยลา………
“ฉันจะไม่ยอมแพ้ นายก็ต้องไม่ยอมแพ้เช่นกันนะชานนท์”
……ไม่ถึง 2 ชั่วโมงตั้งแต่อนุชัยมานั่งอยู่ข้างๆ ดร.ชานนท์ภายในห้อง ICU คุณหมอเดียรเนียล สแปนเลย์ ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ แพทย์หญิงคุณหญิงพวงพร…ทันทีที่มาถึงทั้งคู่ก็เปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดสีเขียวให้เห็น
“พร้อมใช่ไหมคะคุณหมอ” คุณหญิงพวงพรถาม
“ผม หลับ บน เครื่องบิน ยาว กว่า ทุก วัน สบาย มาก ๆ” คุณหมอเดียรเนียล สแปนเลย์ตอบเป็นภาษาไทยที่ละคำระหว่างประตูเข้าสู่ห้องผ่าตัดใหญ่ที่ร่างของดร.ชานนท์ถูกเข็นเข้าไปเตรียมตัวล่วงหน้ากว่า 30 นาที เมื่อปะเข้ากับสายตาของหลายๆ คนที่รออยู่ เขาก็ยิ้มทักทายแบบสบายๆก่อนจะจบที่อนุชัย “สบาย ใจ ได้ เพื่อ เพื่อน รัก…ไม่ มี อะ ไร น่า เป็น ห่วง”
“ฝากชานนท์ด้วยนะเดียรเนียล”
“ฉาน รู้ เขา คือ ชีวิต ของ Nu และ Chanoon ก็ คือ แฟน เอ้ย!….เพือ เพื่อนรัก ของฉาน สบาย ใจ ได้” พูดจบทั้งหมดก็ยิ้มให้กัน
“ไปกันเถอะค่ะคุณหมอ” คุณหญิงพวงพรกระตุ้น
“ไป ครับ คุณหญิง ทุก นา ที มีค่า เรา ต้อง ใช้ เวลา หลาย ชั่วโมง”
“ทุกคนรอข้างนอกนะ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น…เชิญคะคุณหมอ”……….
หลังจากประตูห้องผ่าตัดถูกปิดตามหลัง ทุกวินาที ทุกนาทีก็คล้ายจะทำหน้าที่ช้าลง ภายในห้องพักสำหรับครอบครัวสายสกุลมีหลายชีวิตรวมๆ กันอยู่ แต่ทุกคนก็เลือกหมกตัวอยู่ในโลกของใครของมัน งานผ่าตัดกินเวลานานอาหารเที่ยงจึงมีเพียงขนมปัง กาแฟและชาร้อนที่มีไว้บริการอยู่มุมห้อง อาตี้เลือกตักอนุชัยแทนหมอน เขาหลับยาวขณะอนุชัยได้แต่จ้องไปที่ประตูทางเข้า….2 คืนที่ผ่านมาเขาหลับเพียงเล็กน้อย แต่การจะข่มตาหลับในเวลานี้จึงไม่มีทางเป็นไปได้ เขาลูบเส้นผมลูกชายที่กำลังหลับลึกจนเผลอลืมเวลา…กระทั้งผ่านชั่วโมงที่ 11 ไป 10 นาที ร่างในชุดกาวน์สีขาวสะอาดๆ ของแพทย์หญิงคุณหญิงพวงพรกับหมอเดียรเนียล สแปนเลย์ ก็ปรกฏตัวที่ประตูทางเข้า อาตี้ตื่นได้สักชั่วโมงจึงลุกกระโจนเข้าไปหาก่อนคนอื่น
“อาหมอฮะ คุณย่าฮะ….”
“อ้าวๆ ทุกคนฟังทางนี้….” คุณหญิงพวงพรเกริ่นนำ เธอนิ่งแล้วยิ้มสบายๆ
“คุณแม่คะ….” จนได้ยินเสียงหญิงรัดดากระตุ้นอีกคน
“ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี….งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับคุณหมอเดียรเนียลแล้วละ” สิ้นเสียงคุณหญิงพวงพรทุกคนก็ไชโยโห่ร้องแสดงความดีอกดีใจลั่นห้อง หญิงรัดดากระโจนเข้าไปกอด หมอเดียรเนียล สแปนเลย์ เธอร้องไห้ใส่หน้าอกจนเห็นแผ่นหลังสะท้านราวกับแผ่นดินไหวให้หลายคนในห้องช็อก!
“…ถ้าพี่ชายฟื้นฉัน OK ฉันตกลงคะฮื้อๆ…ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ” เมื่อร่างของหญิงรัดดาสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนใบหน้าเหน็ดเหนื่อยของคุณหมอจากอเมริกาจึงฉายยิ้มให้ไออุ่นอย่างไม่มีขีดจำกัด ดร.ชวนนท์กับคุณหญิงพวงพรมองลูกสาวตัวเองด้วยท่าทีไม่เข้าใจ มีเพียงอาตี้เท่านั้นที่เหมือนจะรู้ความลับข้อนี้
“ตกลงอาหญิงยอมแต่งงานกับอาหมอแล้วเหรอฮะ”
หมอหนุ่มจากอเมริกาผลักหญิงรัดดาออกอย่างระมัดระวัง เขาถอยหลังด้วยท่าทีอ่านไม่ออก 1 ก้าวขณะที่ร่างของหญิงรัดดาก็ยังโงนเงนไม่มั่นคง อนุชัยยกมือปิดปากคล้ายจะอ่านกิริยานั้นแตก สักพักกล่องกำมะยี่สีแดงสดบรรจุแหวนเพชรวงใหญ่ก็ถูกล้วงออกมาจากกระเป๋า หมอหนุ่มจากอเมริกาคลุกเข่า หญิงรัดดาที่เอาแต่ปิดปากสะอื้นจากอารมณ์ 2 ด้านที่แยกไม่ออก เธอมองเขา จ้องเขาไม่กระพริบ
“แต่งงานกับผมนะครับน้องหญิง” สำเนียงภาษาไทยของ เดียรเนียล สแปนเลย์ ชัดแจ๋วยิ่งกว่าคนไทยบางคนซะอีก หญิงรัดดาตาลุกวาว คุณหญิงพวงพรก้าวไปคว้ามือดร.ชวนนท์มากุมรอลุ้นอย่างไม่เคยเป็น…..เมื่อหญิงรัดดาเอาแต่สะอื้นตัวโคลง เดียรเนียล สแปนเลย์ ก็นั่งคลุกเข่ารอคำตอบด้วยท่าทีไม่ยอมแพ้เช่นกัน…
“ทำไมคุณถึงพูดภาษาไทยได้ชัดจังเลย” หญิงรัดดาถามด้วยน้ำเสียงแกว่งๆ
“อาตี้เคยบอกอาหญิงแล้วไงฮะ….”
“ถ้าผมพูดไทยคล่อง….แล้วจะเอาข้อไหนมาอ้างเพื่อให้ได้บินไปเจอคุณทุกอาทิตย์ละ….แต่งงานกับผมนะ” เดียรเนียล สแปนเลย์ ทวงพลางยิ้มรอคำตอบ ทั้งคุณหญิงพวงพรกับดร.ชวนนท์เองก็ลุ้นอย่างหนักจนมีเหงื่อซึมในฝ่ามือ
“อาหญิงฮะ….Say No หรือ Say yes ฮะ”
“Yes yesssss!…..คะ คะเดียรเนียล ฉันจะแต่งงานกับคุณ แต่…..” หญิงรัดดาพูดทุกคนตาลุกวาว แต่ก็ต้องชะงักเพราะเงื้อนไขสุดท้าย
“แต่….อะไรครับ…”เดียรเนียล สแปนเลย์ ชะงักตาม
“แต่….ต้องให้พี่ชายหายเป็นปกติซะก่อน”
“โอ้! Thanks …My God, Sure มั่นใจได้เลย อีกไม่เกิน 5 ชั่วโมงฉานได้เมียแน่ๆ…..ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เดียรเนียลดีใจจนทำให้หลายคนหัวเราะออกมา แหวนเพชรเม็ดใหญ่ถูกสวมจนนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวแวววาววับๆ วิบๆ แต่เมื่อหญิงรัดดายกขึ้นพิจารณาใกล้ๆ เธอก็หันขวับไปจ้องอาตี้ทันที
“ตกลงคุณกับอาตี้วางแผนเรื่องนี้มาเป็นปีแล้วใช่ไหม….เพราะนี้มันแหวนเพชรในฝันของฉันนิ…อาตี้….”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….ใครใช้ให้อาหญิงจัดสลัดให้อาตี้กินทุกเช้ากันละฮะ….ก็ต้องมีเอาคืนมั่งดิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อาตี้พูดไปหัวเราะไปก่อนจะเข้าไปตีมือแบบคนสะใจสุดๆ กับหมอเดียรเนียล “ ฮ่า ฮา ฮ้า ฮา”
“คุณนี่เหลี่ยมจัดจริงๆ นะคะคุณหมอ”
“โอ๋ โอ๋ ไม่ ไม่….อันที่จริงผมแอบชอบคุณตั้งแต่เรียนไฮสคลูที่ซานฟรานซิสโกแล้วละ”
“ทำไมคุณไม่จีบฉัน ปล่อยให้เลย 30 ได้อย่างไรหา!….”
เดียรเนียล สแปนเลย์ หน้าเสียเล็กน้อย ก่อนจะโน้มเข้าไปกระซิบ “ก็คุณเป็นน้องสาวเพื่อนรักผมนี่นา…และชานนท์ก็หวงคุณยิ่งกว่าอะไรดี”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี้แสดงว่าที่ลูกหญิงปล่อยให้ตัวเองเลยเลข 3 ก็เพราะตาชายใช่ไหม” อยู่ๆ เสียงดร.ชวนนท์ก็แทรกขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คุณพ่อคะ….”
“คุณนะ….” และฝ่ามือของคุณหญิงพวงพรก็ฟาดเข้าให้ กลิ่นอายความสุขหวนกลับสู่บ้านสายสกุลอีกครั้ง ใบหน้าและแววตาจับจ้องกันไปมาราวกับได้รับรางวัลจากพระเจ้า พวกเขาทั้งยิ้มทั้งหัวเราะให้กันกระทั้งดร.ชวนนท์นำทีมกอดรวบเพื่อเรียกพลัง….
“ในที่สุดเราก็ผ่านมันมาได้”
“ไปอาบน้ำแล้วนอนให้สบายเถอะตานุ กว่าตาชายจะตื่นก็ 5 – 6 ชั่วโมงโน้นแหละ” เสียงคุณหญิงพวงพรแนะนำ
“นุขออาบน้ำที่โรงพยาบาลและนอนที่นี่ละครับ”
“ตามใจ…งั้นอาตี้กลับบ้านกับปู่” ดร.ชวนนท์ชวน
“ไม่เอาฮะ…อาตี้จะอยู่ที่นี่ คุณปู่กับคุณย่านั้นแหละกลับไปอาบน้ำนอนซะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาก็ได้ฮะ”
“แล้วอาหญิงละ” หญิงรัดดาถามแบบคนอารมณ์ดี
อาตี้หันไปยักคิ้วให้หมอเดียรเนียลอย่างคนรู้กัน “อันนี้ก็แล้วแต่อาหมอซิฮะ…”
“อาตี้!…..” เสียงของหญิงรัดดาแหลมทะลุเพดานจนทุกคนหัวเราะพร้อมกันอีก
“เอาละๆ….แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวได้ ตานุ หาข้าวหาน้ำกินบ้างนะลูก ตาชายไม่เป็นไรแล้วละ” คุณหญิงพวงพรสรุป
“ครับคุณหญิงป้า นุกับอาตี้อาบน้ำเสร็จก็จะลงไปหาอะไรกินแถวนี้ละครับไม่ต้องเป็นห่วง”
“นี่ครับอาหมอกุญแจบ้าน Loft Love” อาตี้กระซิบพลางยัดกุญแจใส่มือ
“อาตี้ เธอจะทิ้งอาได้ลงคอรึไง” หญิงรัดดาคล้ายจะต่อว่า
“คุณยังมีผมนะครับ….” หมอ เดียรเนียลกระซิบจนหญิงรัดดาหน้าแดงขึ้นมาจริง ๆ…จนทำให้ดร.ชวนนท์อึดอัดเสียเอง
“ไปๆ แยกๆ….อีก 5 ชั่วโมงเจอกัน…ลูกหญิงทางใครทางมันนะจ้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“คุณพ่อก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอคะ เล่นรุมกินโต๊ะหญิงคนเดียวเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปๆ….แยกย้ายตกลงอาตี้จะอยู่ที่นี่กับพ่อนุนะครับ” คุณหญิงพวงพรย้ำ
“ฮะ คุณย่า”
“ถ้าอย่างนั้น คุณรอดิฉันแป๊บเดียว ขอเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
“คุณก็รอผมแป๊บเดียวเช่นกันนะที่รัก คือผมอยากมีเพื่อนดินเนอร์ยามดึกนะ” หมอเดียรเนียลบอก…..เมื่อทั้งหมอเดียรเนียลกับคุณหญิงพวงพรหายออกประตูไปแล้วเสียงอนุชัยก็ดังขึ้น…..
“น้องหญิงครับ….มานั่งรอก่อนก็ได้กว่าคุณหมอจะกลับก็อีกสักพักโน้นแหละ”
“พี่นุก็อีกคน….จำไว้เลย”
ก่อน 4 นาฬิกา
ยังไม่ทัน 4 นาฬิกา อนุชัยงีบหลับเกือบ 3 ชั่วโมงก็สะดุ้งตื่น อาตี้ยังขดตัวอยู่ข้างๆ…ผ้าห่มหลุดจากตัวกว่าครึ่ง อนุชัยเช็คเวลาจากนาฬิกาข้อมือเร็วๆ เขาจัดการกับผ้าห่มให้ลูกชายก่อนจะลุกตรงไปยังประตู โถงทางเดินสู่ห้อง ICU โล่งไร้ผู้คน…กระนั้นแสงไฟทุกดวงก็ยังสว่างจนหาจุดสีดำไม่เห็น พออนุชัยเดินมาได้ครึ่งทาง หมอเดียรเนียล สแปนเลย์ ก็ปรากฏตัวต่อหน้า
“กำลังจะไปเรียกพอดี”
“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า” อนุชัยถามด้วยท่าทางไม่ค่อยสมบูรณ์
“เปล่าๆ ชานนท์กำลังจะตื่นนะ…..” หมอเดียรเนียลบอกทำให้อนุชัยหายใจหายคอได้โล่งขึ้น
“อื้อ!….แล้วนายไม่รู้สึกง่วงบ้างรึไง”
หมอเดียรเนียลยิ้มจนเห็นฟันครบ 32 ซี่และยกนาฬิกาข้อมือเคาะให้เห็น “แวนคูเวอร์เพิ่งจะเที่ยง คงต้องปรับตัวอีกหลายวัน ตามสบายนะตื่นขึ้นมาคนแรกที่ถามหาคงเป็นนายแน่ ๆ”
“ฮื้อ!” อนุชัยบอกส่งก่อนจะแยกไปห้องเปลี่ยนชุดและทันทีที่ขาก้าวผ่านประตูเข้าสู่ห้อง ICU แพทย์เวรและพยาบาลที่กระจายอยู่ตามมุมต่างก็หันมาผงกหัวให้ เขาทักทายกลับด้วยกิริยาเดียวกันก่อนจะตรงไปยังเตียงที่มีดร.ชานนท์นอนอยู่ เขาเริ่มสำรวจตั้งแต่ปลายเท้าที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มสีขาวไล่ขึ้นไปถึงศีรษะ…เส้นผมบนหัวถูกโกนทิ้งเกือบหมด ส่วนที่กระดำกระด่างก็มีผ้าก๊อตพันปกปิดความน่าเกียจเอาไว้ 60 เปอร์เซ็นต์ สายออกซิเจนจากเครื่องช่วยหายใจถูกถอดออกไปแล้วยังคงเหลือแต่สายน้ำเกลือที่มีกระปุกยาฆ่าเชื้อแขวนคู่กันกับเครื่องมือเช็คสัญญาณชีพจรแค่ไม่กี่เส้นระโยงระยางไขว้กันไปมา อนุชัยยื่นมองคนรักแบบคนไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน…จนกระทั้งเสียงแพทย์เวรดังขึ้นด้านหลัง
“คุณชายหายใจได้ปกติ เลยถอดออก 2 ชั่วโมงแล้วละครับ”
อนุชัยเดินต่อไปนั่งลงเก้าอี้พลางดึงมือดร.ชานนท์มากุม “อย่างอื่นเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ”
“ชีพจรกับความดันก็ปกติ อีกสักครู่คุณชายก็น่าจะตื่น” เขาพูดก่อนจะเดินผ่านไปเช็คเครื่องมือหลายอย่างข้างๆ ระดับศีรษะ “ถ้าคุณชายตื่นแล้วจำทุกอย่างได้ สมองก็ไม่น่ามีปัญหา”
“ผมต้องรอลุ้นอีกรอบซินะ” อนุชัยใช้ระดับเสียงกระซิบถาม
“แต่ชั่วโมงก่อน คุณชายละเมอเรียกชื่อใครบางคนก็น่าจะเบาใจระดับหนึ่ง”
อนุชัยเงยหน้ามองนายแพทย์เวรวัยใกล้เคียงกัน “เขาละเมอว่าอะไรครับ”
“ผมได้ยินไม่ชัดคล้ายๆ จะเรียกว่า อานุชา อนุชาย หรืออะไรทำนองนี้แหละ”
อนุชัยยิ้มบางๆ จ้องใบหน้าเรียวๆ ไม่กระพริบ….(ตื่นได้แล้วชานนท์ นายนอนมากไปแล้วนะที่รัก) ขณะมือก็ลูบหลังมือคนรักไม่หยุด (ใกล้สว่างแล้วตื่นเถอะ) ไม่นานร่างของดร.ชานนท์ก็ขยับ นายแพทย์เวรแยกไปเช็คคนป่วยเตียงข้างๆ อนุชัยยิ้มพลางขยับนั่งให้แน่นขึ้นและหลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงขณะที่กำลังซบใบหน้ากับหลังมืออุ่นๆ น้ำเสียงเย็นๆ ก็ดังขึ้น
“อนุชาย อนุชาย”
อนุชัยสะดุ้งตาลุกวาว “คุณหมอครับคุณหมอ ชานนท์ตื่นแล้วครับ”
นายแพทย์เวรรวมทั้งพยาบาลอีก 2 คนก็ตรงดิ่งเข้ามา อนุชัยกำลังจะปล่อยมือเพื่อหลีกทางให้ “ไม่เป็นไรคะท่าน” เสียงพยาบาลสาวบอก ก่อนพวกเธอจะเข้าเช็คหลายอย่าง
“คุณชายมองเห็นแสงสีขาวหรือเปล่าครับ” นายแพทย์เวรถามขณะส่องแสงไฟฉายเล็กๆ เข้าไปในดวงตาทีละข้าง
ดร.ชานนท์พยักหน้าช้า ๆ…..
“คุณชายมองเห็นผมหรือเปล่าครับ” นายแพทย์เวรถามอีก แต่ดร.ชานนท์กลับนิ่งจนทำให้อนุชัยใจเสีย แพทย์เวรแกว่งแสงไฟไปมาอีกหลายรอบกระทั้ง
“ผม ผม……”
“คงต้องรออีกสักชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงนั้นแหละครับ” นายแพทย์เวรสรุป
“เขามีโอกาสจะกลับมามองเห็นหรือเปล่าครับคุณหมอ” อนุชัยถามแบบคนร้อนใจ
นายแพทย์เวรพยักหน้าก่อนจะเห็นหมอเดียรเนียลในชุดกาวน์เดินเข้ามาสมทบ “ความทรงจำกลับมาเกือบสมบูรณ์ก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้วละ” เขาพูดเสียงดังด้วยภาษาไทย “นายได้ยินฉันไหมชานนท์”
ดร.ชานนท์พยักหน้า
“นายจำเสียงของฉันได้ใช่ไหม” หมอเดียรเนียลถามต่อ และดร.ชานนท์ก็พยักหน้าอีก “OK….ถ้าอีกชั่วโมงยังมองไม่เห็น ฉันจะเปิดกะโหลกนายอีกรอบ….เข้าใจตรงกันนะ”
และต่อจากนั้นไม่ถึง 20 นาทีหลังจากหมอเดียรเนียลหมุนตัวออกจากห้องไปแล้ว เสียงดร.ชานนท์จึงดังขึ้น
“อนุชาย”
“หึ!….” อนุชัยขานรับพลางลุกโน้มเข้าไปใกล้ๆ “ฉันอยู่นี้”
“ฉันเริ่มเห็นแสงสีขาวบ้างแล้ว….และ และ….ฉัน ฉัน กำลังเห็นสี เห็นหลายๆ สี”
“ชานนท์นายมองเห็นฉันไหม” อนุชัยเสียงสั่นเครือ
“ใช่ๆ…..นี่คือใบหน้า นี่คือหัวของนาย นี่คือ…..”
“นายมองเห็นฉัน…” อนุชัยเกือบจะหลุดสะอื้น “นายมองเห็นฉันแล้ว”
“แต่ยังมัวๆ…..”
“ใจเย็นๆ ที่รัก….”
“อย่าเพิ่งบอกใคร” ดร.ชานนท์กำชับ อนุชัยจ้องเข้าไปแววตาที่เริ่มกระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ แบบคนตามไม่ทัน
“ทำไมละ….ทุกคนกำลังรอฟังข่าวดีอยู่นะ”
“ฉันอยากจะเซอร์ไพรส์พวกเขาน่ะ….ว่าแต่เรื่องของนายเถอะ เป็นอย่างไรบ้าง” ดร.ชานนท์ถามกลับ อนุชัยนิ่ง “ฉันหมายถึงพี่ชายของนาย….เขา เขาปลอดภัยดีใช่ไหม”
อนุชัยน้ำตาซึม… “เมื่อวานนายได้ยินเสียงฉัน….”
“ฉันชอบคำที่นายด่าฉันว่า หึงแตก….เออฉันนี้บ้าซะมัดยาดเลยว่าไหม หึ หึ หึ” ดร.ชานนท์หัวเราะจนไอ 3 ที “พี่ปกรณ์ปลอดภัยดีใช่ไหมที่รัก”
“อื้อ….และเขากำลังจะมีลูกด้วย” อนุชัยบอก
“หา!….กำลังจะมีลูก….” ดร.ชานนท์คล้ายจะนิ่งคิด “กับใคร…”
“นายรู้จักเธอดี….อาจจะดีกว่าฉันด้วยซ้ำ” อนุชัยบอกราวจะทดสอบ “ลองทายซิ”
“ใครกัน….หรือว่าจะเป็นเด็กเสริฟคนใดคนหนึ่งในสวนอาหารสะบันงา”
“เจ้ดวง…..” อนุชัยบอกแล้วก็ยิ้ม จนเห็นดวงตาของดร.ชานนท์ขยายกว้างจนกลัวว่าจะหลุดออกนอกเบ้า
“เจ้ดวง….เจ้ดวงนี้นะ…”
“ฮื้อ….แม่โทรถามอาการของนาย…บอกฉันก่อนเที่ยงคืนนี้เอง” อนุชัยบอก ดร.ชานนท์หัวเราะยาวต่อเนื่องจนนายแพทย์เวรเดินเข้ามาหาอีก
“คุณชายแข็งแรงมากๆ ถ้าไม่มีไข้ บ่ายๆ ก็น่าจะได้ย้ายไปพักฟื้นต่อที่ห้องปกติแล้วละครับ”
“ขอบคุณมากๆ ครับคุณหมอแต่อย่าเพิ่งบอกเรื่องที่ผมมองเห็นให้ทุกคนทราบนะครับ” ดร.ชานนท์กำชับอีกคน
“ผมเป็นหมอนะครับคุณชายและคุณหมอเดียรเนียลก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน….”
“คุณหมอก็โยนให้เขาซิ….ไอ้หมอฝรั่งนั้นผมจัดการได้นะครับ คือผมกะจะเซอร์ไพ้ซ์พวกเขานะ” ดร.ชานนท์ขอร้องด้วยน้ำเสียงต่ำลึก
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ”
“เขาก็เป็นเสียแบบนี้แหละ หึ หึ หึ” อนุชัยเสริมพลางอดขำไม่ได้
“ถ้าผมโดนคุณหญิงเล่นงานก็อย่าลืมช่วยผมด้วยแล้วกัน ฮา ฮ่า ฮ้า”
“ครับ สบายใจได้เลย”
อีก 2 ชั่วโมงอาตี้ก็เข้ามาสมทบ…เมื่อรู้ว่าดร.ชานนท์ตื่นและพูดคุยได้ปกติเขาจึงลืมเรื่องอื่นๆ ทั้ง 3 ขลุกอยู่ด้วยกันกระทั้งแดดวันใหม่สาดเข้ามาทางหน้าต่าง แสงนีออนสีขาวจึงด้อยลงตามลำดับ ไม่นานครอบครัวสายสกุลก็เข้ามาเพิ่ม เมื่อรู้เรื่องราวบ่ายวันเดียวกันร่างของดร.ชานนท์ก็ถูกเข็นกลับสู่ห้องฟักฟื้นปกติ พวกเขาจึงเริ่มต้นคุยกันได้ยาวขึ้น
“นี่ๆ….พี่ชายพลาดอะไรไหมเนี่ย” ดร.ชานนท์กระแซะหญิงรัดดาเมื่อเขาแกล้งสัมผัสเข้ากับแหวนเพชรวงใหญ่ที่นิ้วนางข้างซ้าย หญิงรัดดาหน้าแดงชักมือกลับแทบไม่ทัน “นายอยู่ในห้องนี้ไหมเดียรเนียล”
“Yes I’am here” หมอเดียรเนียลพูดภาษาอังกฤษเร็วๆ “ฉันจะบอกอะไรให้นะชานนท์ถ้านายไม่หวงน้องสาวปานนี้นายน่าจะได้หลานเป็นคอกไปแล้ว”
“บ้า! เหรอคำว่า คอก เขาใช้กับสัตว์ยะ…ไม่ใช่คน” หญิงรัดดาตวาดพร้อมกับตบไหล่หมอเดียรเนียลไปหลายที
“เอ้!….ตกลงเรื่องจริงเหรอนี่….น้องหญิงคะ น้องหญิงยืนยันให้พี่ชายได้ยินดังๆ อีกทีซิคะ” ดร.ชานนท์ยังไม่ลามือ
“พี่ชายนะ….”
“นายคิดอย่างไรถึงได้สอยน้องสาวฉันลงจากคานนะเดียรเนียล”
“สอยลงจากคาน…..หมายความว่าอะไรหรือครับหญิงรัดดา ไอ ม่าย เข้าใจ”
“ก็ประมาณ…..” อาตี้กำลังจะอธิบายเสียงหญิงรัดดาก็ปรามขึ้นก่อน
“อาตี้!….เดี๋ยวเถอะกลับอเมริกาจะจัดให้กินสลัดซะให้เข็ด”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า……พอเถอะๆ….พักผ่อนได้แล้วเดี๋ยวไข้ก็กลับมาหรอก” คุณหญิงพวงพรเตือนอย่างคนอารมณ์ดี เมื่อทุกคนถอยกลับเข้าที่ เธอก็ลุกเดินเข้าไปก้มกระซิบข้างหูลูกชายเสียเอง “ชายหลอกใครก็หลอกได้ยกเว้นแม่เข้าใจไว้ซะด้วย….ฮ่า ฮ่า ฮ่า…..ไป ไป ปล่อยให้ 3 คนพ่อลูกอยู่ด้วยกัน เราไปหาอะไรกินเถอะท้องเริ่มจะหิวละ ไปคุณ-ลูกหญิง-คุณหมอ…..ครอบครัวเขาจะได้คุยอะไรกันสะดวกขึ้น”
จบ อนุชาย2 บทที่25 โลกสีเดิม