เกี่ยวกับ TIMMY BUTO

เกี่ยวกับ TIMMY BUTO

เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ TIMMY BUTO

ผมเป็นลูกชาวนา เรียนโรงเรียนวัด พ่อไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย แม่เป็นแม่บ้าน-ชาวบ้านจนๆ ในชนบทธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่ง ไอ้เรื่องทำนาแบบสมัยโบราณอย่าให้คุยเลย ทำเป็น ทำได้และเคยทำทุกอย่าง-ทุกขั้นตอนนั้นแหละครับ เพราะเป็นลูกชายคนโต พ่อไปทำงานซาอุฯ คนที่จะไถ่นา คลาดนา ด้วยควาย ปลูกต้นข้าวหรือที่เรียกกันว่า “ดำนา” จนถึงใส่ปุ๋ย เกี่ยวข้าว นวดข้าว ก็ผมนี่แหละครับ

เกี่ยวกับ TIMMY BUTO

สมัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ 4 อายุเพิ่งจะ 9 ขวบ 10 ขวบ ผมก็ต้องเป็นกำลังหลักให้ครอบครัวแล้ว และการตั้งเป้าหมายนำชีวิตเริ่มขึ้นตอนไหน ผมจำได้คลับคล้ายคลับคราว่าประมาณประถมศึกษาปีที่ 4 หรือ 5 ก็ประมาณ 10 ขวบ 11 ขวบ เท่านั้นเอง เพราะเมื่อปลายปี 2525 ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ผมเรียนประถมศึกษาปีที่ 3 พ่อกลับมาจากประเทศซาอุฯ เป็นครั้งแรก ท่านได้ซื้อโทรทัศน์ขาว-ดำเครื่องเล็กๆ มาด้วยเครื่องหนึ่ง ไม่ถึง 2 เดือนท่านก็กลับไปทำงานที่ประเทศซาอุฯ ต่อ


อยากเป็นสถาปนิก

สมัยนั้นซีรี่ย์ฮ่องกงกำลังมาแรง คุณแม่ผมนี้ Happy มากๆ ชอบจนถึงขั้นติดเลยละครับ ซีรี่ย์เรื่องนั้นผมไม่ชัวร์คลับคล้ายคลับคราใช้ชื่อภาษาไทยว่า “ค่าของคน” อะไรทำนองนี้แหละครับ โดยมีคุณ โจเหวินฟะ เป็นพระเอก และยังแสดงเป็นสถาปนิกซะด้วย เวลาก้าวขาลงจากรถเก๋ง กางเกงสแล็คสีครีมกับรองเท้าหนังมันแผล็บ…โครตเท่ ผมจำขึ้นใจจนนับถือคุณโจเหวินฟะเป็นไอดอลเลยละครับ เพราะคุณแม่อยากมีเพื่อนดูทีวีแท้ๆ ผมเลยต้องหลับๆ ตื่นๆ ได้ดูไปด้วยจนจำฝังใจและอยากเป็นสถาปนิกตั้งแต่คืนนั้น กระนั้นผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า การจะเป็นสถาปนิกได้ต้องเรียนสายไหนวิชาอะไรเพราะครูโรงเรียนวัดไม่เคยแนะแนวหรืออาจจะเห็นเรายังเด็กด้วยมั่ง กระทั้งผมเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อาจารย์ฝ่ายแนะแนวเลยชี้ทางสว่าง ผมจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ ปวช. คณะเทคนิคสถาปัตยกรรมอย่างไม่ลังเล สมัยนั้นใครที่รู้เป้าหมายนำชีวิตของผมว่าคืออะไร ทุกคนก็จะทำหน้างงๆ แล้วหัวเราะหาว่าผมบ้า-เพ้อเจ้อ-ฝันเกินตัวอีกสารพัด และมักจะถามผมกลับดังๆ ว่า ทำไมไม่เรียนเป็นตำรวจ ไม่เรียนเป็นทหาร หรือไม่เรียนเป็นครู ไม่เรียนเป็นหมอ เพราะคนบ้านนอกสมัยนั้นรู้อยู่แค่นี้จริงๆ และถ้าถามผมในวันนั้นบ้างว่า ผมฝันเกินตัวจริงๆ หรือเปล่า ก็ต้องตอบแบบตรงไปตรงมานะครับว่า จริง และผมก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ รู้อย่างเดียวว่าอยากเป็นสถาปนิก-หากไปไม่ถึงขอเป็นแค่พนักงานเขียนแบบก็เอาประมาณนี้


สอบครั้งเดียวได้เป็นสถาปนิก

สมัยเรียนระดับ ปวช. ปวส. แรงถีบส่ง ความมุ่งมั่นสูงมากๆ ครอบครัวผมไม่มีเงินหรอกครับ ผมอาศัยหน้าด้านของานจากบริษัทเขียนแบบมานั่งทำตอนกลางคืน หรือหากช่วงไหนไม่มีงานผมก็จะเดินเข้าร้านอาหาร-สวนอาหารขอเป็นเด็กเสริฟบ้าง ล้างจานบ้างกระทั้งเรียนจบระดับ ปวส. และต่อระดับปริญญาตรีภาคค่ำอีก 2 ปีจึงได้ไปสอบใบประกอบวิชาชีพ ผมโชคดีที่มีเจ้านายดี ท่านขนหนังสือจากที่บ้านมาให้ผมอ่านในเวลาทำงานล่วงหน้าตั้ง 2 เดือน ผมสอบครั้งเดียวผ่าน วันแรกที่ได้เป็นสถาปนิก ผมนั่งมองใบประกาศจนสว่างคาตาเลยละแบบปลื้มมากๆ ขอบคุณ คุณโจเหวินฟะ จนแทบจะเอารูปเขามาทำล็อกเก็ตแขวนคอ ผมทำตามความฝันของตัวเองจนสำเร็จเพราะปฏิกิริยาจากการตั้งเป้าหมายนำชีวิต


จากสถาปนิก สู่ นักเขียน

ทุกวันนี้ผมตั้งเป้าหมายนำชีวิตว่าอยากเป็นนักเขียนทั้งๆ ที่วิชาภาษาไทยไม่เคยได้เกรด 3 อย่าถามถึงเกรด 4 เลยอายชาวบ้านเขาเปล่าๆ ผมก็จะอ่านหนังสือทุกอย่างทุกแนวที่ขวางหน้า เขียนมันทุกวัน เขียนดีไม่ดีก็ขอให้ได้เขียน เพราะความอยากเป็นสั่งใจจนมองว่างานเขียนคือการพักผ่อนรูปแบบหนึ่ง ผมไม่เคยคาดหวังว่างานเขียนของตัวเองจะต้องประสบความสำเร็จ ดีเลิศ ประเสริฐศรี ผมเพียงแต่อยากให้งานเขียนของผมได้สะท้อนถึงสิ่งที่อยู่ในใจกลั่นออกมาเป็นตัวหนังสือ อยากให้ตัวหนังสือมีชีวิต มีอารมณ์ มีความรู้สึก ให้คนอ่านหัวเราะ ร้องไห้ เศร้าสะเทือนและได้เกล็ดความรู้เสริมภูมิปัญญา…แลกเปลี่ยนประสบการณ์แค่นั้นพอ-จบ!


จะเขียนไปเรื่อยๆ

ผมตั้งใจจะเขียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขียนจนวันตาย ผมต้องการร้องไห้ออกมาเป็นตัวหนังสือ หัวเราะออกมาเป็นตัวหนังสือ เกลียดชังออกมาเป็นตัวหนังสือ ทั้งหมดทั้งมวลคือเป้าหมายนำชีวิตของผมในอนาคตอีกสเต็ป พูดตรงๆ ทุกวันนี้ผมไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่างานเขียนของผมจะประสบความสำเร็จหรือไม่เพราะผมมีความสุขที่ได้เขียน-ได้อ่านได้พักผ่อนไปแล้วหากวันหนึ่งได้รับการยอมรับขึ้นมา ผมก็จะถือว่าเป็นแค่ผลกำไรเท่านั้น ชื่อเสียง เงิน ทอง เป็นเรื่องสมมุติทั้งสิ้นครับ แต่สิ่งที่จะพยุงชีวิตได้จริงๆ ก็คือเป้าหมายนำชีวิตที่ไม่มีทางไปถึงต่างหาก จากสถาปนิกสู่นักเขียน วันหนึ่งข้างหน้า จากนักเขียนอาจจะอยากเป็นนักท่องอวกาศ นักเดินทางไปกับยานที่ไม่มีวันกลับ จะในรูปแบบเซลล์ หลับจำศีล หรือตัวอ่อนที่ชื่อ Timmy Buto ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น


ติดต่อ TIMMY BUTO ได้ทาง เฟสบุ๊ค และ ไลน์ไอดี Suntoto2016

สนใจงานเขียนเพื่อนำไปใช้ในรูปแบบอื่นๆ ติดต่อได้โดยตรงตามช่องทางติดต่อด้านบน

ติดต่อ เว็บมาสเตอร์ ได้ที่ไลน์ไอดี songarj หรือ อี-เมล์ songarj@gmail.com

(Visited 9,476 times, 1 visits today)