นิยาย เรื่อง อูคาชิ เซดะ นินจาเลือดซามูไร บทที่ 16 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
นินจาเลือดซามูไร บทที่ 16
ณ ปราสาทฮันโต เมืองไบเซน
“ข้าต้องการเห็นการตายของยาสุให้เร็วที่สุด”
“ใจเย็นๆ ชิการุคุง…อย่างไรเสีย…ทุกอย่างของอูคาชิก็ต้องเป็นของเจ้า”
“ชิโนบิแก่ๆ แต่ต้องมาตายอย่างซามูไร…หึๆ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นและเงียบไป สักครู่เสียงของคนๆเดิมก็ดังต่อขึ้นอีก “ข้านับถือท่านจริงๆ…ฮันโตซัง”
“เจ้าจะยิ่งใหญ่ ไม่แพ้อูคาชิ…ข้าให้สัญญา”
“ไม่!…ข้าจะต้องยิ่งใหญ่กว่าอูคาชิหลายเท่า”
(ไอ้ พวก นอกรีต) เสียงกร่นด่ามาจากความรู้สึกของฮันโต ซาซากุมิที่นั่งปั้นหน้าแสร้งยิ้มอยู่โต๊ะกลาง โดยมียูกาว่า ชิการุยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มพร้อมกับยิ้มตอบกลับแต่แววตาของเขากลับมีบางอย่างซ่อนอยู่
(สักวันข้าจะครองปราสาทฮันโต…ไอ้แก่ผิดเพศ ซาซากุมิ!)
“ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าเองก็ยินดียิ่ง…แต่งานของข้าในคืนนี้จะพลาดไม่ได้” (ไอ้! พวกนอกรีต) เสียงกร่นด่าจากข้างในดังตามขึ้นอีก
“ในเมื่อสิ่งที่ท่านตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ…ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย” (ไอ้แก่ผิดเพศ มึงจะเป็นรายต่อไป) และเขาก็แสร้งยิ้มพร้อมกับยกน้ำชาอีกถ้วยขึ้นมาจิบบางๆ
“แด่ความสัมพันธ์ของเรา”
“เช่นกัน…ฮึๆ…หึๆ”
……….
ฤดูใบไม้ผลิ ที่ป่าฮานะ
เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านฤดูหิมะไปอย่างช้าๆ และในที่สุดดอกเชอรี่ป่า และดอกไม้นานาพันธุ์ก็ผลิบานพร้อมๆ กันทั้งหุบเขา อูคาชิ ยาสุก้มลงดึงดอกไม้สีขาวรูปกระดิ่งที่ส่งกลิ่นหอมชวนหลงใหลขึ้นจากพื้นดินที่ยังชื้นแฉะ เขาพิจารณาอยู่นาน ก่อนวางมันลงกับโขดหินสีดำใกล้กับช่องเขาคุโระอิสีนิล เหมือนจะเป็นการไว้อาลัยให้กับใครบางคนที่พึ่งจะจากไปเมื่อไม่นานมานี้
“Return of happiness. แด่ความสุขที่จะกลับคืนสู่เจ้า ยามุดะ” ยาสุพูดในลำคอ ก่อนจะพาชุดกิโมโนสีขาวสะอาดตาเดินแทรกหายเข้าไปในป่าต้นเชอรี่ที่กำลังผลิกลีบแรกสีชมพูขาวบานสะพรั่ง
(เค็นจิ…ฮิเดะคุง ข้าจะรอพวกเจ้าที่ป่าฮานะ)ยาสุส่งกระแสตรงไปยังคนทั้งสอง เขาดีดตัวข้ามลำธารเล็กๆ ไปยังลานหินกว้างใกล้ๆกับน้ำตกที่กำลังบรรเลงเพลงป่าไม่ขาดสาย ไม่นานอูคาชิ เค็นจิและโอสุเกะ ฮิเดะก็ลอยตัวข้ามปลายต้นสนมซึที่กำลังผลิใบใหม่สีเขียวอมแดดใกล้เข้ามา พวกเขาจะกดปลายเท้าอีกครั้งที่กิ่งเชอรี่ป่าที่กำลังผลิบาน จนทำให้กลีบดอกร่วงพลูเป็นสาย
“มากันแล้วรึ!” อูคาชิ ยาสุทักทาย ทั้ง 2 คนโค้งศีรษะแทนคำพูดและยื่นนิ่งอยู่ต่อหน้า
“ข้าต้องการสารภาพผิดกับพวกเจ้า…” อูคาชิ ยาสุเริ่มด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่มันกลับเย็นวาบเมื่อจิตพิรุธของคนทั้ง 2 บอกว่าไม่ใช่ข่าวดีแน่ๆ
“เค็นจิ…ฮิเดะคุง” เสียงเรียกดังแผ่วเบาราวกับใบไม้ในภาษาเฉพาะ จนเป็นเหตุให้คนทั้งคู่ทรุดนั่งนิ่งกับพื้นอย่างหมดแรง พร้อมกันนั้นยาสุก็ได้บังคับให้เค็นจิเป็น ไคซากุ-นิน (KAISHAKU-NIN) หรือผู้ช่วยให้เขาได้พบกับความตายด้วยวิธีฮาราคีรีเยี่ยงซามูไร ตามที่ได้เคยให้สัญญาไว้กับใครบางคน เค็นจิลนลานลุกพรวดจะปฏิเสธ แต่ก็ถูกยาสุยกมือห้ามเอาไว้ก่อน
“ข้าเกิดมาเพื่อเป็นชิโนบิโดยสายเลือด แต่วันนี้ข้าพาพี่น้องของเราพบกับความพ่ายแพ้ให้กับซามูไร พวกมันส่งดาบสั้นวากิซาชิมาให้ข้าเพื่อปลิดชีพตัวเอง การล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าเสมือนเป็นการบีบคั้นให้ข้ารู้จักสำนึกในแบบเดียวกัน…” ยาสุหยุดหายใจครู่หนึ่ง “เจ้าต้องช่วยปลดปล่อยอิสรภาพให้กับวิญญาณของข้า” ยาสุพูดต่อด้วยเสียงที่หนักแน่นขึ้น
“ข้าทำไม่ได้…จะให้ข้าตายตรงนี้ข้าก็ทำตามที่ท่านพี่ขอไม่ได้” เค็นจิไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ เขาตะเบ็งเสียงแข็งจนลมหายใจบีบรัดเร็วดุจเสียงกลองรบยามออกศึก “ท่านพี่…ไม่” เขาปฏิเสธเสียงต่ำลึกออกมาอีก พร้อมกับจ้องไปที่ชายในชุดกิโมโนสีขาวที่นั่งนิ่งบนโขดหินอย่างไม่วางตา “ท่านพี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” เค็นจิยังพูดต่อ ขณะที่ริมฝีปากเริ่มสั่น เมื่อเห็นยาสุพยักหน้ายืนยันความตั้งใจอย่างไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
“ข้านึกอยู่แล้ว…ว่าเจ้าต้องตอบเช่นนี้…” ยาสุเอ่ย เขาละสายตาไปจับจ้องอีกคนที่ยังนั่งตัวสั่นอยู่กับที่ “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นเจ้าฮิเดะคุง…”
“ยาสุ!…”โอสุเกะ ฮิเดะอุทานลั่น
“ใช่…เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ…ได้โปรดช่วยปล่อยวิญญาณของข้าให้เป็นอิสระ แล้วพันธนาการจากพวกฮันโต ที่ผูกมัดอูคาชิก็จะสิ้นสุดลง…พี่น้องของเราก็จะกลับมารวมกลุ่มกันได้อีกครั้ง”
“ข้ารู้ว่าท่านเจ็บปวดตั้งแต่ครั้งเมื่อเราทำงานพลาดที่ปราสาทฮันโต จนเป็นเหตุให้พี่น้องเราส่วนหนึ่งถูกส่งไปเป็นตัวประกันที่นั้น แต่ท่านก็รู้ดีว่านั้นนะ…เป็นแผนการของพวกนอกรีต พันธนาการจะไม่มีความหมายหากท่านไม่ใส่ใจ” โอสุเกะ ฮิเดะ พยายามชักนำ
“ข้าจะทำพิธีก่อนดอกเชอรี่จะร่วง” ยาสุย้ำจุดยืนเดิมเสียงแข็ง
“ท่านต้องบ้าอย่างที่เค็นจิพูดแน่ๆ” โอสุเกะ ฮิเดะเสียงแข็งขึ้นบ้าง เขาลุกตามเค็นจิพร้อมกับหันหลังให้ยาสุด้วยความรู้สึกมากมายที่อธิบายไม่ถูก
“ข้าจะทำพิธีที่นี้ ก่อนดอกเชอรี่จะร่วง…พวกฮันโตและมินาโมโต กำลังรอข่าวจากเจ้าอยู่นะเค็นจิ…พวกเขาต้องการมาเห็นการตายของข้า มิฉะนั้นดอกซูซูรันจะไม่มีวันเบ่งบานในหุบเขาอิงะอีกเลย…ข้าขอเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย…เพื่อเรา” น้ำเสียงของยาสุยังเรียบและเด็ดขาดในเวลาเดียวกัน
“โอสุเกะพูดถูก…ท่านกำลังเดินเข้าสู่กับดักของพวกนอกรีต” เค็นจะพยายามทัดทาน
“ไม่มีพวกนอกรีต…มันคือความรับผิดชอบของผู้แพ้…โอสุเกะเจ้าต้องเป็นไคซากุ นิน นี้คือคำสั่ง!” ยาสุย้ำประโยคสุดท้ายใส่เขา มันหนักแน่นจนทั้ง 2 ผงะ
“ทำไมต้องเป็นข้า…” เสียงโอสุเกะพร่ำไม่หยุดปาก “ทำไม?”
“ยุคของข้าได้จบลงแล้ว…ต่อจากนี้อูคาชิอยู่ในมือของพวกเจ้า…น้องรัก” เสียงสุดท้ายของยาสุดังและไกลออกไปราว 100 ไมล์ จนทั้งเค็นจิและโอสุเกะ ฮิเดะต่างหันไปมอง แต่โขดหินที่มียาสุนั่งอยู่เมื่อครู่กลับว่างเปล่า ไม่ปรากฏร่างของชายชราในชุดกิโมโนสีขาว เหลือเพียงดอกไม้รูปกระดิ่งเท่านั้นที่วางอยู่แทนที่
“ยาสุ!…”
“เขาอยู่กับหลวงพ่อที่วัดไรอันจิ…ตั้งแต่วันที่ร่างของยามุดะถูกฝังแล้วละ” เค็นจิบอก
“เขาไม่กลับเข้าหมู่บ้านอีกเลยใช่ไหม!” โอสุเกะ ฮิเดะถาม
“ดูเหมือนความตั้งใจเขาจะเป็นอย่างนั้น”
“ยาสุ…”
“เขาไม่ยอมผ่านช่องเขาคุโระอิสีนิล”
“ยาสุ…ทำไมข้าถึงรับรู้ความเจ็บปวดของท่านช้าไปนัก…”
“ฮิเดะคุง….ข้าเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย” เสียงเค็นจิต่ำ จนแทบจะจมหายลงไปในดิน
“ข้าเต็มใจ…จะเป็นไคซากุ-นิน เพื่อท่าน…ยาสุ”
………..
“แม้แต่หยดน้ำ………………………….ก็กร่อนหินได้ฉันใด
สองมือก็สามารถสร้างโลกให้สวยงาม……ได้ฉันนั้น”
โอสุเกะ ฮิเดะ
………..