นินจาเลือดซามูไร บทที่ 4

นินจาเลือดซามูไร บทที่ 4

สัญญาแลกเปลี่ยนสัญญาแลกเปลี่ยน การเรียนและการฝึกฝนเพื่อจะได้ก้าวขึ้นเป็นชิโนบิเต็มตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

กลางฤดูใบไม้ผลิ ที่ลานฝึกบนยอดเขาเหนือลม

“การเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงถือเป็นหัวใจสำคัญของชิโนบิโนะโมโนะ เพราะจะช่วยพลางตัวตนให้หลุดพ้นสายตาผู้คนยามเมื่อปฏิบัติภารกิจ เทคนิคโผจากเงาสู่เงาไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ จำเป็นต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน…สุดท้ายก่อนออกปฏิบัติภารกิจ 3 วัน ชิโนบิที่ได้รับมอบหมายไม่มีสิทธิ์กินเนื้อสัตว์หรือพืชที่มีกลิ่นฉุนทุกชนิด…” โอสุเกะ ฮิเดะชายวัย 33 ปีที่มีรอยแผลเป็นพาดทแยงจากเหนือคิ้วขวาจรดปลายคางล่างซ้ายเดินพูดวนกลับไปกลับมาต่อหน้าเด็กๆในหุบเขาอิงะรุ่นอายุ 7-9 ขวบกว่า 60 คนที่เข้าทดสอบเป็นชิโนบิในรุ่นใหม่ โดยมีบรรดานักเรียนชิโนบิรุ่นพี่ถึงระดับ 6 กว่า 300 คนยืนตีวงเป็นเสี้ยวจันทราสีดำโอบล้อมไว้อีกชั้น “เพราะอะไรรู้ไหม?”

“พลางกลิ่นกาย ไม่ให้คนหรือสัตว์รู้ตัวล่วงหน้าครับอาจารย์”นักเรียนปี 2 ตะเบ็งเสียงแหบๆจากแถวล่าง

“ดีมากมาโนรุคุง…ชิโนบิเกิดมาเพื่อเป็นอาวุธ  แต่เป็นอาวุธที่สังหารได้แม้กระทั้งตัวเอง”โอสุเกะ ฮิเดะกดเสียงต่ำยาวๆราวข่มขวัญ เขากระตุกโหนกแก้มเหี้ยมๆขณะเดินกลับไปยืนที่เดิมอย่างคนไว้ท่า

“ใครไม่ผ่านบททดสอบ จะต้องฝังตัวอยู่ในหมู่บ้านกลางหุบเขาอิงะ…ความลับของชิโนบิต้องเป็นนิรันดร์”อูคาชิ เค็นจิ อาจารย์รุ่นน้องเสริม โอสุเกะ ฮิเดะเริ่มเดินไล่แถวจัดระยะห่างไปทีละคนเป็นรอบที่ 2 จนกระทั้ง

“คุณชายอูคาชิ” เขาหยุดหน้าเด็กน้อยผิวขาวในชุดพลางสีดำรัดรูปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ “ดูเหมือนคุณชายจะอายุน้อยที่สุดเลยนะ…” แววตาที่แข็งกร้าวไม่ปรากฏอารมณ์ให้อ่าน เป็นที่พึงพอใจในกริยาลึกๆ “แม้แต่คุณชายก็ไม่มีข้อยกเว้น…”

“……..” เซดะพยักหน้าอย่างคนทะนงโอสุเกะ ฮิเดะกระตุกแก้มเหี้ยมๆ เพียงครึ่งเดียวก่อนจะผ่านไป

“เราจะเริ่มต้นทันทีที่แสงสุดท้ายลับเหลี่ยมเขา…ข้าหวังว่าพวกเจ้าทั้ง 60 คน จะผ่านมันไปได้”อิเงะสึงิ เคนซึพูดเสียงเรียบๆมาจากโขดหินสีดำขนาดใหญ่กลางวง เขาปล่อยให้ผมยาวสลวยดุจแพรไหมสีขาวปลิวไสวอย่างอิสระ สักครู่

“ทุกอย่างพร้อมแล้ว…” โอสุเกะ ฮิเดะโผวูบเข้าไปรายงานใกล้ๆ อิเงะสึงิ เคนซึกระโจไปหยุดกึ่งกลางทางทิศตะวันตกในแบบประทับท่า       

“ทุกคนเตรียมกล่าวอุดมการณ์ตามข้า” เค็นจิเสียงสูงพลางประสานมือหันออกยกบังหน้าห่างระยะดวงตาประมาณคืบสู่ทิศบูรพา ทุกคนนิ่งในท่าเดียวกันสักครู่เสียงเค็นจิก็กล่าวนำ

          “อุดมการณ์ชิโนบิโนะโมโนะข้าชื่อ ( อูคาชิ เค็นจิ )

          “ด้วยเกียติของผู้พิทักษ์

          “ข้อที่ 1…ข้าจะขจัดความชั่วในโลกมืดให้หมดสิ้น

          “ข้อที่ 2… ข้าจะผดุงความยุติธรรมให้คงอยู่

          “ข้อที่ 3 เกียติของชิโนบิ จะเปิดเผยมิได้

เมื่อเสียงปฏิญาณจบ อิเงะสึงิ เคนซึเหลือบไปมองดวงอาทิตย์ที่จวนจะลับเหลี่ยมเขา ก่อนจะส่งสัญญาณบางอย่างเพียงเสี้ยววินาที นินจารุ่นใหญ่ก็ดีดตัวลอยขึ้นรับลำแสงสุดท้ายก่อนจะโผวูบหายลงเนินเขาไปราวกับไม่เคยมีตัวตน…“ฮิเดะ…เค็นจิคุง…ข้าฝากดูแลเด็กๆด้วย ข้าจะไปรอทางเข้าหมู่บ้าน” อิเงะสึงิ เคนสึบอก…

“ไม่ต้องห่วงท่านลุง…”

“รุ่นพี่ระดับ 3 ถึงระดับ 6 ไปประจำจุด” สิ้นเสียงคำสั่งจากอิเงะสึงิ เคนซึ นักเรียนชิโนบิตัวสูงก็ก้มศีรษะแล้วโผวูบหายไปอีก

“ส่วนระดับ 1 และ 2 ตามข้ามา” อิเงะสึงิ เคนซึดีดตัวนำทางไม่มีเสียงผ่านช่องเขาคุโรอิ เห็นเพียงยอดไม้ไหวเป็นทางเท่านั้นที่บอกตำแหน่งลับสายตา

พลันแดดสุดท้ายลับเหลี่ยมเขา เซดะก็ถ่วงลมหายใจหายใจช้าลงผ่อนให้ยาวขึ้นเพื่อลดความตื่นเต้น ซึ่งดูเหมือนเด็กหลายคนก็ถูกฝึกมาให้กระทำอย่างเดียวกัน สายลมที่พัดโชยเอื่อยๆเมื่อตอนกลางวันเริ่มแสดงบทกระโชก ใบต้นโอ๊คและต้นเอมที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ไกลเสียงดังซู่ๆ สัญญาณของบททดสอบเพื่อจะได้เป็นนักเรียนชิโนบิกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

“เอาละ…ทุกคนหยิบถุงผ้าประจำตัวขึ้นมา” โอสุเกะ ฮิเดะสั่งและไม่ลืมกระตุกแก้มเหี้ยมอย่างเคยชิน เขาล้วงเอาถุงผ้าของตัวเองออกชูขึ้นเป็นแบบอย่าง

“…สิ่งที่อยู่ในนี้ก็คือผงแป้ง สีและกลิ่นจะไม่ซ้ำกัน เมื่อข้าบอกว่าเริ่มได้ ทุกคนต้องล้วงเอาผงแป้งในถุงโปรยให้มันลอยไปตามสายลมแบบนี้” ผงแป้งสีเขียวของโอสุเกะ ฮิเดะลอยวูบหายลงเนินเขาอย่างรวดเร็ว เด็กๆมองตามฝุ่นสีเขียวไม่กระพริบโดยเฉพาะเด็กตัวสูงร่างอ้วนที่ยืนอยู่หัวแถว “สายลมจะพัดผงแป้งเข้าสู่หมู่บ้านเบื้องล่าง คนที่จะได้เป็นนักเรียนชิโนบิ จะต้องไปถึงหมู่บ้านก่อนผงแป้งของตัวเอง…”เขาอธิบายเสียงสูง เด็กหลายคนเริ่มเกร็ง แต่เซดะกลับไม่แสดงปฏิกิริยาจนดูราวกับก้อนหินไร้ชีวิต

“ขอให้โชคเข้าข้างเจ้านะ ไชอินาริ โจอาน” โอสุเกะ ฮิเดะให้กำลังใจ เหมือนหวังจะช่วยลดความตื่นเต้นที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะ โจอานพยักหน้าที่กำลังซีดช้าๆ

“ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเจ้าแล้วนะโจอานคุง…พยายามให้ถึงที่สุดละ” เค็นจิสมทบขึ้นอีกคน

“ข้า…ข้า…จะพยายาม” โจอานตอบเสียงไม่มั่นใจ

“แล้วคุณชายละ…” โอสุเกะ ฮิเดะหันไปถาม

“ข้ากำลังใช้สมาธิ” เซดะตอบห้วนๆ..เค็นจิที่ยืนห่างออกไปเกือบจะหลุดเสียงหัวเราะ

“เอาละทุกคนเตรียมพร้อม…” เค็นจิสั่ง…เด็กๆ ต่างล้วงเข้าไปในถุงผ้าสีโคลนแล้วชูผงแป้งหลากสีในกำมือสูงขึ้นเหนือหัว เมื่อเสียงสายลมกระชากใบต้นโอ๊คและต้นเอมทางช่องเขาคุโรอิ

          “เริ่มได้!โอสุเกะ ฮิเดะก็ตะเบ็งเสียงดังก้องกังวาน ขณะเดียวกันก็ดีดตัวสู่ท้องฟ้าสีอำพัน พร้อมกับอาจารย์ทุกคน พวกเขาติดนิ่งอยู่อย่างนั้นกระทั้ง ผงแป้งในมือเด็กๆถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนอากาศ สายลมกระชากผงหลากสีวูบต่ำลงสู่หมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ เด็กๆในชุดพลางสีดำวิ่งกรูลงภูเขา จุดหมายคือต้องผ่านด่านทดสอบเลื่อนฐานะจากเด็กชายในหุบเขาอิงะเป็นนักเรียนชิโนบิอย่างบรรพบุรุษให้ได้ ไม่มีใครอยากเป็นแค่คนเผาถ่าน คนเสบียงในหมู่บ้านราวกับถูกจองจำไปตลอดชีวิตเป็นแน่ๆ

เซดะและเด็กรุ่นเดียวกันอีก 4 คนยังตื่นตะลึงตั้งตัวไม่ติดพวกเขายังยืนนิ่งอยู่กับที่ในขณะที่เพื่อนๆตัวใหญ่ออกวิ่งหายลงเนินเขาไปแล้ว และหนึ่งในนั้นก็เหวียงผงแป้งเหมือนเป็นการเรียกสติคนที่เหลือ และร่างเล็กๆที่พึ่งจะเลย 7 ขวบมาไม่นานถึงออกวิ่งตามเพื่อนๆไป

“ข้าหวังว่าพรสวรรค์พิเศษจะยังอยู่ข้างเจ้านะคุณชาย” เค็นจิพึมพำตามแผ่นหลังไวๆ

“ดูฝีเท้าคุณชายซิ! ราวกับเกิดมาพร้อมสายลมชัดๆ…เราไปเถอะ” สิ้นเสียงโอสุเกะ ฮิเดะร่างสีดำที่ลอยนิ่งกลางท้องฟ้าสีอำพันก็วูบหายราวกับไม่เคยมีตัวตน

ความลาดชั้นของเนินเขาทำให้ฝ่าเท้าน้อยๆต้องทำงานหนัก หนักขึ้น เร็วขึ้นและเร็วขึ้น จนรู้สึกเพียงปลายเท้าสัมผัสยอดหญ้า เมื่อความลาดชั้นสูงขึ้นอีกหลายองศา ปลายเท้าที่เคยตะกุยยอดหญ้ากลับดีดส่งสู่ยอดไม้ จากยอดสนสู่ต้นเชอรี่ที่กำลังออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง ยอดโอ๊คสู่ยอดอิโจ(ต้นแปะก้วย) และต้นถัดๆ ไป ร่างน้อยๆ เหนือยอดไม้ไม่อาจหยุดตัวเองได้ ไม่ถึงห้านาทีสายลมก็นำพวกเขาละริ้วติดผืนผ้าสีดำขนาดใหญ่หน้าหมู่บ้าน ที่ละร่างไหลรูดลงสู่พื้นโดยมีนินจารุ่นใหญ่คอยรองรับเอาไว้

เซดะ สำรวจตัวเองแบบงงๆทันทีที่ปลายเท้าสัมผัสกับพื้นดิน

“ข้าบินได้…ข้าบินได้” เขาตะโกนเสียงแหลมตื่นเต้น

“คุณชายเซดะมาถึงเป็นคนที่ 4” เสียงหนึ่งตะโกนบอก อีกคนก็ใช้ดินสอจดชื่อเขาลงไปในสมุดพกเล็กๆ พวกเขาไม่มีเวลาหันกลับไปมองที่ใดนอกจากผืนผ้าสีดำหลายผืนที่เรียงต่อกันยาวตลอดแนว

#อ๊ากๆ…อ๊ากๆ…อ๊ากๆ…#เสียงเพื่อนๆตามกันมา ใบหน้าราวกับพึ่งตื่นจากฝันค่อยๆรูดตัวลงสู่พื้นคนแล้วคนเล่า เสียงโห่เฮของกองเชียรดังไม่ขาดสาย นินจาหลายคนวิ่งวุ่นเพื่อพิสูจน์ผงแป้งในมือเทียบกับผืนผ้าใบสีดำ จากนั้นพวกเขาก็ขานชื่อและจดบันทึกไล่ตามกันไปกระทั้ง

“รวดๆ โจอาน” เซดะตะโกนเสียงแหลมเล็กๆ ทันทีที่เห็นไชอินาริ โจอานและรุ่นน้องอีกหลายคนวิ่งออกมาจากแนวป่า

“โจอาน…โจอาน…” และเป็นอิเงะสึงิ เคนซึ ที่รับร่างของเขาเอาไว้ “ข้าเสียใจด้วยนะโจอานคุง ฟ้าลิขิตชีวิตเจ้าแล้ว รวมทั้งพวกเจ้าที่มาถึงทีหลังผงแป้งด้วย”อิเงะสึงิ เคนซึปลอบก่อนจะตะโกนประโยคสุดท้าย

“เอาละ พวกเจ้าทั้ง 60 คน มารวมกันอยู่ตรงนี้…ข้าจะประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่าน…ทีละคน”

“ท่านลุงข้าเอง” เค็นจิเดินเข้าไปช่วย อิเงะสึงิ เคนซึยื่นสมุดให้

“…….ลำดับที่ 1…..ลำดับที่ 2….ลำดับที่ 3….ลำดับที่ 4 คุณชายอูคาชิ เซดะ…ลำดับที่ 5…..ฯลฯ” เค็นจิขานรายชื่อไปจนกระทั้ง “ลำดับที่ 23 ลำดับสุดท้าย…ยินดีด้วยนะ…กุโปะคุง…ยูกาว่า กุโปะ…” และเด็กชายตัวน้อยอายุรุ่นเดียวกับเซดะออกอาการดีใจสุดๆ…จนผู้เป็นพ่อวิ่งไล่ตามไม่ทัน “สรุปปีนี้มีผู้ผ่านบททดสอบจำนวน 23 คน…ส่วนที่เหลือให้ไปฝึกฝนมาใหม่แล้วเจอกันปีหน้า” เค็นจิสรุปเสร็จ นักเรียนชิโนบิระดับ 3 ถึงระดับ 6 ที่พรางตัวคอยช่วยเหลือเด็กๆตามแนวป่าก็โผเข้ามาสมทบ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ใบหน้าว่าที่ชิโนบิ และอีกหลายคนฟูมฟายราวกับจะถูกจองจำหลังจากนั้น….

“ข้าไม่อยากเป็นคนเผาถ่าน” โจอานน้อยเนื้อต่ำใจ พ่อตบไหล่ปลอบ ฝ่ามือเปรอะผงถ่านสีดำทำให้น้ำตาของเด็กชายร่างอ้วนไหลอย่างคนยอมโชคชะตา

“ท่านพ่อ…”

“กลับบ้านเราเถอะ…”

โจอานปาดน้ำตาเพียงครั้งเดียว ผงแป้งสีเหลืองจากการทดสอบพาดยาวจากหัวคิ้วถึงร่องแก้ม เขาไม่ใช่ตัวตลกแต่หลายคนกลับหัวเราะใส่หน้าและลับหลังกระทั้ง 2 พ่อลูกไชอินาริหายลับชะง่อนหินต้นไทรพันปี

                “เจ้าทำได้ เซดะ” ยาสุยอบุตรชายตัวน้อยในอ้อมแขน

“ข้าน่าจะทำได้ดีกว่านี้” เซดะเบะปากเสียดาย วงแขนโอบคอยาสุไว้แน่น

“ข้าว่าเจ้ากำลังกลัว”

“เปล่า…” เซดะตาโตปล่อยมือปฏิเสธ “ข้าไม่กลัวสักหน่อย”

“เซดะคุง…”

“วางข้าลง…ข้าจะไปหามิกิ…และข้าจะปกป้องนางให้ท่านเห็น” ยาสุรีบวางเซดะพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะตามหลังเด็กน้อยไป

“คุณชายข้าดีใจที่สุด ที่เจ้าสอบผ่าน…รู้ไหมเวลาของเจ้ามาเป็นอันดับ 1 เลยนะ” เค็นจิพุ่งเข้าไปกระซิบ เซดะตาโต พร้อมกับดึงเค็นจิเข้ามากระซิบถามบ้าง  “เวลาของข้าดีที่สุดจริงเหรอท่านอา”

“อื้อ!…” เค็นจิพยักหน้าอย่างแข็งขัน “มันเป็นความลับห้ามบอกใครเด็ดขาด” เขากำชับแบบจริงจัง

“พรุ่งนี้ท่านอาต้องสอนวิชาหายตัวให้ข้า…มิฉะนั้นท่านพ่อจะต้องรู้เรื่องนี้” เขาเสนอข้อแลกเปลี่ยนพลางหันไปมองหน้ายาสุที่ยืนอมยิ้มอยู่ไม่ห่าง

“ได้เลยคุณชาย…มาข้าขออุ้มบ้าง”

“ไม่…เดี๋ยวท่านพ่อจะหาว่าขี้กลัว ข้าจะไปปกป้องมิกิ…”

“เซดะคุง….เซดะคุง” เค็นจิตะโกนไล่ตามหลัง “เขากำลังจะกลายเป็นดวงใจของทุกคนจริงๆนะท่านพี่”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น”

……….

เมื่อความมืด………………………….เริ่มต้นฉันใด

ดวงดาวก็สุกสว่างสวยงามขึ้นพร้อมกันฉันนั้น

อูคาชิ เซดะ

……….

สัญญาแลกเปลี่ยน

สัญญาแลกเปลี่ยน การเรียนและการฝึกฝนเพื่อจะได้ก้าวขึ้นเป็นชิโนบิเต็มตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้แต่วิถีชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไป พวกเขาจะต้องเริ่มต้นการเป็นนักเรียนชิโนบิในชั่วโมงที่ 2 เมื่อแสงสุดท้ายหมดและจบลงที่ชั่วโมงสุดท้ายก่อนฟ้าสางของทุกๆ วัน พืชไร้กลิ่นคืออาหารหลักในทุกๆ 3 ชั่วโมงสำหรับนักเรียน และ 2 เวลาเมื่อพลบค่ำและก่อนฟ้าสางสำหรับชิโนบิที่สอบ อัครนินจัตสึ ผ่านแล้ว พวกเขาจะได้กินเนื้อสัตว์ก็ต่อเมื่อ มีวันหยุดมากพอสำหรับสลายกลิ่นตัวให้หมดหรืออย่างน้อย 3 วันติดกันเท่านั้น

……….

รัตติกาลคือชีวิตใหม่แห่งข้า…ชิโนบิโนะโมโนะ

อูคาชิ เซดะ

……….

          ถึงจะแสนสาหัสสำหรับคนธรรมดาแต่มันก็เป็นวิถีชีวิตที่ทุกคนในหุบเขาแห่งนี้ปรารถนา วิชาหลักๆ ที่เหล่านักเรียนชิโนบิตั้งแต่ระดับ 1 (ชั้นปีที่ 1) ถึงระดับ 6 (ชั้นปีที่ 6) จะต้องผ่านให้ได้มีดังนี้

: วิชาพรางตัว (วิชาหลักของระดับที่ 1และระดับ 2)

: วิชาศาสนาและสมาธิ (วิชาหลักทุกระดับชั้น)

: วิชากายทิพย์ (ทุกระดับ ระดับละ 1 ร่างพราง จนสามารถถอดได้ไม่ต่ำ 6 ร่างพรางในระดับ 6 จึงจะมีสิทธิ์สอบอัครนินจัตสึ)

: วิชาสะกดจิตเบื้องต้น (วิชาหลักระดับ 1 ถึงระดับ 3)

: วิชาคาถาและคำสาปนินจา (วิชาหลัก ระดับ 3 ถึงระดับ 6)

: วิชาสะกดจิตขั้นสูง (วิชาหลักระดับ 4 ถึง ระดับ 6)

: วิชาสื่อนัยน์เมะและฌานสื่อญาณ (วิชาเลือกระดับ 5 และระดับ 6 แต่ต้องผ่านวิชาสะกดจิตขั้นสูงมาแล้ว)

: วิชาการเลียนเสียงป่า การดักฟังและการแยกกลิ่น (วิชาเลือกชั้นปีที่ 4 ขึ้นไป)

:  วิชาโผและการเคลื่อนที่ (วิชาหลักทุกระดับชั้น)

: วิชาการเข้าปะทะปักษาเหินลม (วิชาหลักระดับ 3 ถึงระดับ 6)

: วิชายาพิษกับอาวุธนินจา (วิชาหลักระดับที่ 5 และระดับที่ 6)

: วิชาพลังจิต (คัดจากนักเรียนที่มีพรสวรรค์พิเศษ)

: วิชาละครเล่ห์และการปลอมตัว (วิชาเลือกเสรี)

: วิชาล่องหนผ่านวัตถุ (วิชาหลักระดับ 3 ถึงระดับ 6)

: วิชาประวัติศาสตร์และอนาคต (วิชาหลักระดับ 4)

: วิชาดวงดาว (วิชาหลักทุกระดับชั้น)

: วิชาพยากรณ์ศาสตร์ (วิชาเลือกเสรี)

: วิชาต้องห้าม   สำหรับผู้ที่สามารถสอบอัครนินจัตสึผ่านแล้วเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าเรียน

มีอยู่หลายครั้งในช่วงวิชาศาสนาและสมาธิซึ่งเป็นวิชาที่ เซดะ สนใจน้อยที่สุด เขาจะแอบถอดร่างเพื่อตบตาอาจารย์ผู้สอนแล้วออกไปเดินเล่นข้างนอกกับโจอานและเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันอีก 4 หรือ 5 คนเป็นประจำ แต่เมื่อถูกจับได้ เขาก็จะรีบกลับสู่ร่างเดิมจนอาจารย์ผู้สอนต้องปวดหัวกับพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาเช่นเดียวกับคืนนี้

“คุณชาย…ข้าอยากจะเป็นชิโนบิ” ไชอินาริ โจอานนั่งปรับทุกข์กับร่างพรางของเซดะที่หน้าผาทางทิศตะวันตกของโรงเรียน “ข้าไม่อยากเป็นแค่คนเผาถ่านธรรมดาๆ…” น้ำเสียงที่ดูเหมือนคนละเมอพูดต่อ เซดะปล่อยให้ความเงียบเข้ามาคั่นกลาง สักครู่โจอานก็ลุกเดินไปยืนกางแขนเหมือนต้องการเป็นนกที่กำลังจะล่อนถลาลงมาจากชะง่อนหินสู่หุบเหวที่ดำมืดเบื้องล่าง

“ข้าอยากจะบินได้ ข้าอยากจะโผจากเงาสู่เงาเหมือนชิโนบิ…และคุณชาย” เขาอธิบายพร้อมกับทำท่าจะกระโดดลงสู่หุบเหวแห่งนั้นจริงๆ

“ถ้าเจ้ากระโดดลงไปตอนนี้ ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าไม่มีทางได้เป็นชิโนบิแน่ๆ แต่จะกลายเป็นผีเฝ้าหุบเหวแทน” เซดะวัย 9 ขวบเหน็บ…แต่ก็ไม่จริงจังนัก

“ข้าอยากเป็นชิโนบิจริงๆ นะคุณชาย…” และเขาก็เดินกลับมาปรับทุกข์อีกครั้ง

“ข้าจะสอนทุกอย่างที่ข้าเรียนให้กับเจ้า…” อยู่ๆ เซดะก็พูดประโยคนี้ โจอานถึงกับเบิกตากว้าง “แต่เจ้าจะต้องเล่าทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับตัวข้า” อูคาชิ เซดะต่อรองแลกเปลี่ยนจนโจอานถึงกับหน้าถอดสี

“คุณชาย…นั้นนะหายนะของข้าเลยนะ” เขากดเสียงต่ำใกล้ๆ เหมือนจะหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ

“หากตกลง…ข้าก็จะสอนให้และเมื่อข้าสอบอัครนินจัตสึผ่านข้าจะเลือกเจ้ามาเป็นมือขวา” เซดะเสนอต่อ

“คือเอ่อข้า…ข้า…เอ่อ”

“ไม่มีใครสงสัยเจ้าหรอก…ชิโนบิชินชากับเสียงซุบซิบของคนเผาถ่านจนคล้ายเสียงใบไม้ยามต้องลมเข้าไปทุกขณะ…” เซดะชักจูงอย่างคาดหวัง เพราะเวลานี้ความทรงจำอันน้อยนิดที่ติดตัวเขามากำลังเล่นกับความรู้สึกที่ขัดแย้งกันเองหนักขึ้นทุกวัน เซดะลุกพร้อมกับเดินไปหยุดในตำแหน่งเดียวกับโจอานเมื่อครู่ แต่ดวงตากลับเหมอลอยอยู่ที่เส้นขอบฟ้าเลยยอดเขาไกลออกไป “ข้ารู้สึกว่าบ้านข้าอยู่ทางทิศนั้น”

“คุณชาย!…” โจอานอุทานเสียงดัง

“ได้โปรด…โจอานเรื่องนี้จะมีแค่เรา 2 คนที่รู้” เซดะอ้อนวอน

“แต่ข้าไม่รู้อะไรมากนักหรอก…เพราะตอนที่คุณชายมาถึงข้าเองก็พึ่ง 7 ขวบ” เสียงของโจอานเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ

“ก็นั้นแหละที่ข้าอยากรู้…และอีกอย่างข้าว่าเจ้าน่าจะฉลาดพอที่จะหาเรื่องราวทั้งหมดของข้าจากคนเผาถ่านด้วยกัน” เซดะแนะ..และใช้หางตาชำเลืองดูอาการของเพื่อน…เขาเห็นโจอานครุ่นคิดสักพัก…แววตาในเชิงบวกของเพื่อนก็ฉายตามออกมาฟ้อง

“ถ้าอย่างนั้น…ข้าก็สัญญา”

“ต้องอย่างนี้…”

“ข้าจะได้เป็นมือขวาของคุณชายจริงเหรอ…ทั้งที่ข้าไม่ใช่นักเรียนชิโนบิ” โจอานกระวีกระวาดถามด้วยความตื่นเต้น

“เจ้าก็คือคนหนึ่งในหุบเขาอิงะ หากมุ่งมั่นให้ข้ามั่นใจว่าจะเอาตัวรอดได้…สัญญาชิโนบิก็ไม่มีวันตาย” เซดะพูดและยิ้มบางๆ ให้เพื่อน ความหวังกับความทรงจำที่แสนจะเลือนรางได้ฝากไว้ที่เขาแล้ว

#คุณชาย#และเสียงของเค็นจิก็ดังขึ้นมาจากในห้อง…

“ข้าจะต้องรีบกลับเข้าร่างแล้วละ เค็นจิ กำลังสงสัย” เซดะชิงพูดอย่างร้อนรน

“ข้าหวังว่าสัญญาชิโนบิจะไม่มีวันตาย” โจอานวัย 12 ปีย้ำอีกที…

“ใช่…เจ้าก็เช่นกัน” เซดะตอบกลับ แววตาที่มั่นคงของทั้งคู่เสมือนคำสัญญาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว “ข้าไปก่อนแล้วค่อยเจอกัน…”เซดะพูดก่อนจะดีดตัวลอยสูงขึ้นและหายวับไปทันที

“ข้าอยากจะทำได้อย่างนี้จังเลย” โจอานพึมพำ แต่รอยยิ้มที่ฉายออกมาจากมุมปากเหมือนกำลังเห็นความฝันของตัวเองเป็นจริงมากขึ้นแล้วในเวลานี้ “ข้าจะต้องหลุดพ้นจากคนเผาถ่าน…ให้ได้”

……….

คำสัญญาเสมือน 1 ชีวิต……………ที่พร้อมจะเติมเต็ม

หรือลดทอนความเป็น……………………………มนุษย์

ไชอินาริ โจอาน

……….

(Visited 11 times, 1 visits today)