อูคาชิ เซดะ นินจาเลือดซามูไร Part2 สมรภูมิปักษา19
สมรภูมิปักษา19
ใต้เงาร่มจันทร์
เช้าวันต่อมา
แดดบางๆ แทรกเป็นลำแสงผ่านกลุ่มเมฆสีขุ่นเทาที่กระจัดกระจายเกลื่อนฟ้าลงมาจนถึงพื้นดินได้หลายจุด เดือนมิถุนายนสัปดาห์ที่ 2 ยังไม่ปรากฏมรสุมเผยตัวแสดงพลังอำนาจ เบ่งบารมีที่เหลือล้นให้เห็น ต้นจันทร์ข้างบ้านก็กำลังแทงช่อดอกเล็กๆ อยู่เต็มต้น มันส่งกลิ่นเชิญชวนล่อหมู่ผึ้ง แมลง ให้เข้ามาดอมดม จนเกิดเสียงครางหึ่งๆ จนคล้ายเสียงเฮลิคอปเตอร์หลายร้อยลำกำลังทำหน้าที่อยู่แถวนั้น มินาโมโต โคทาโร่ยืนมองทุกสรรพสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตามครรลองแห่งธรรมชาตินิ่งๆ เขาอยู่ในชุดนายทหารญี่ปุ่นเต็มยศ…และปล่อยจิตเยี่ยงชิโนบิที่พึ่งถูกกระตุ้นกลับคืนมาลองอ่านสัญชาตญาณบริสุทธิ์จนลืมช่วงเวลาสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ไปชั่วขณะ
……….
“แม้จะตัวเล็ก….แต่ก็ยังสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ได้เกินฝัน
รวมพลังเป็นหนึ่ง…….จากเพื่อนพร้องมิตรสหาย”
มินาโมโต โคทาโร่
……….
เขาก้าวเข้าไปยืนใต้ร่มเงาของต้นจันทน์อย่างช้าๆ แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เดิมราวกับไม่อยากพราดฉากสำคัญที่กำลังดำเนินอยู่ นาทีนั้นซองจดหมายสีขาวที่ตีตราสัญลักษณ์พิเศษบอกถึงความลับสูงสุดของกองทัพญี่ปุ่นก็หล่นจากกระเป๋าสีดำที่ถืออยู่…ไม่นานจันทร์หอมที่ก็เดินผ่านมา เหมือนนางจะลงไปข้างล่าง
“จันทร์หอม คืนนี้ข้าอาจจะไม่ได้กลับ…หากพบสิ่งใดผิดปกติ ต้องรีบส่งข่าวให้ทุกคนรู้ทันที…ก่อนจะสายเกินไป” โคทาโร่พูดเป็นนัย
“มีอะไรหรือ…” จันทร์หอมถามกลับด้วยท่าทีสงสัย
“ใต้ร่มเงาต้นจันทน์หอม…ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะมานั่งพักผ่อนที่นี้…มันทำให้หายใจได้โล่งปอดจนถึงลูกของเรา”
“โอะฮะโยโกะไซมะซึ…ส วัส ดี ตอนเช้า นายหญิง” เสียงทหารญี่ปุ่นดังที่เชิงบันได
“จิโระ…สวัสดีตอนเช้าคะ…” จันทร์หอมทักตามความคุ้นเคยพลางหันไปก้มหัวให้ทหารญี่ปุ่นอีก 5 นาย ที่ยืนรอโคทาโร่อยู่ที่ลานโล่งหน้าบ้าน
“ข้ากำลังจะไป” โคทาโร่พูด เขาพยักหน้าให้จิโระอีก… “เมื่อคืนมีอะไรเกิดขึ้นไหม” เขาถามต่อเป็นภาษาญี่ปุ่น
“สะพานหมายเลข 7 เราซ่อมเสร็จทันรถขนเสบียงผ่านมาได้…เรียบร้อยดี” จิโระตอบ
“อื้อ!…” โคทาโร่พยักหน้าก่อนจะหันมาพูดกับจันทร์หอมอีกที “ตอนเย็นข้าจะให้เรียวตะ มาตรวจครรภ์เจ้าอีกสักครั้ง” เขาก้มหัวชายตาไปยังใต้ต้นจันทร์หอมเหมือนจงใจจะบอกอะไรบางอย่าง “เราไปกันได้แล้วจิโระคุง” เขาพูดและผ่านจิโระตรงไปยังกลุ่มทหารญี่ปุ่น…จันทร์หอมมองตามหลังอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าไปก่อน ตอนเย็นถึงจะมาพร้อมกับหมอเรียวตะอีกครั้ง” จิโระพูด และก้มหน้าให้จันทร์หอมนิดๆ ก่อนจะเดินตามโคทาโร่ไปอีกคน
“โคทาโร่!” จันทร์หอมเรียก โคทาโร่หันมายิ้มบางๆ ให้ แต่นางไม่รู้เป็นอะไรถึงอยากจะเรียกชื่อเขาซ้ำขึ้นมาอีก “โคทาโร่…” น้ำเสียงของนางเบาจนติดอยู่ในคอ โคทาโร่พยักหน้าให้และเดินนำทหารห่างไป จันทร์หอมยืนมองจนทั้งหมดลับมุมโค้ง หัวใจนางเริ่มหวิวๆหน่วงลึกจนผิดปกติ “โคทาโร่ ฉันเป็นคนไทย โคทาโร่” นางพึมพำอย่างคนแบกรับบางสิ่งเอาไว้จนเต็มทั้ง 2 บ่า แต่ก็เดินไปนั่งลงม้านั่งเก่าๆใต้ร่มต้นจันทร์ตามที่โคทาโร่แนะนำ “โคทาโร่…” ทุกอย่างเวลานี้ดูเหมือนจะมีแต่ชายคนที่นางเกลียดเข้ามาแฝงอยู่ในทุกๆอณู “ไม่นะ…เขาเป็นคนฆ่าพี่โมก…เขาเป็นคนฆ่าสามีเรา” จันทร์หอมพึมพำแต่มือกลับลูบท้องนึกนึกเขา ความรู้สึก 2 อย่างกำลังจะทำให้นางแยกไม่ออกว่า อันไหนคือความรู้สึกที่แท้จริงอันไหนคือภารกิจที่นางต้องสานต่อให้จบ “มันเกิดอะไรขึ้น” นางถามตัวเองแต่พลันสายตาที่มองต่ำก็เจอเข้ากับ…
“จดหมาย…” จันทร์หอมอุทานในลมหายใจเดียว นางหยิบมันขึ้นมา ตราประทับสีแดงเป็นอักษรญี่ปุ่นที่แนวเปิด ทำให้นางนึกถึงคำพูดของโคทาโร่ที่เพิ่งจะสั่งเมื่อครู่ขึ้นมา
#จันทร์หอม คืนนี้ข้าอาจจะไม่ได้กลับ…หากพบสิ่งใดผิดปกติไปจากเมื่อวาน ต้องรีบส่งข่าวให้ทุกคนรู้ทันที…ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป#
“โคทาโร่ คุณกำลังบอกอะไรฉันกันแน่” นางชั่งใจกับภาษาที่อ่านไม่ออก แต่คำพูดของเขาก็ส่อเจตนาชัดเจนว่ามันหมายถึงอะไร “ต้องรีบส่งข่าวให้ทุกคนรู้ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป”นางย้ำตามคำบอกที่ได้ยิน “โคทาโร่…” และก็ลังเลในเวลาเดียวกัน
“ไม่…คุณเป็นญี่ปุ่น คุณฆ่าสามีฉัน คุณฆ่าพี่โมก” จันทร์หอมตอกย้ำ…และเสียงเป่าลมออกจากปากแรงๆเหมือนนางจะตัดสินใจบางอย่าง…
“เรไร อยู่ไหน…เรไร ไปกับแม่เดี๋ยวนี้”
……….
เวลาต่อมา
แสงแดดตอนสายๆ ไล่ตามหลังจันทร์หอมกับเรไรไปอย่างไม่ลดละ นางเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินเล็กๆเลียบไปกับแม่น้ำเพชรบุรี นางเดินตรงไปยังสะพานไม้เก่าๆที่ใช้ข้ามไปยังชุมชนอีกฟาก ดอกกระดุมเงินกระดุมทองกลีบเล็กๆสีเหลืองดารดาษตลอด 2 ข้างทาง เด็กน้อยหยุดและเด็ดมันไปเป็นระยะๆ เธอก้มไปเด็ดดอกนั้นหอมดอกนี้ ก่อนจะวิ่งตามแม่ที่เดินล่วงหน้าไปก่อนให้ทัน และอดก้มลงเด็ดอีกดอกไม่ได้เมื่อเห็นว่าใหญ่กว่า สวยกว่าจนเต็มกำมือ
“เรไร เร่งตามแม่ให้ทัน” จันทร์หอมท้วง จนเด็กน้อยต้องออกแรงวิ่งตามมาอีก จันทร์หอมจับแขนลูกสาวไว้แน่นก่อนจะพาเดินข้ามสะพานไม้สูง เด็กน้อยยิ้มหน้าบานพลางชูดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือให้แม่ดู
“หนูจะเอาไปฝากยาย” เธอพูดเสียงใสก่อนจะวิ่งกำดอกไม้สีเหลืองลงสะพานล่วงหน้าไป
………
จนกระทั้ง…
“จันทร์หอม…นี้มันเป็นจดหมายลับสุดยอดของกองทัพญี่ปุ่นเลยนะ” ขามกดเสียงต่ำในขณะใช้มือแกะซองจดหมายออกมาดู
“มันเป็นภาษาญี่ปุ่น” เขาบังคับไม่ให้ความตื่นเต้นหลุดจนเกินขอบเขต…แต่เหงื่อกาฬก็ผุดฟ้องแล้วเวลานั้น
“ฉันหวั่นใจว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นในคืนงานเลี้ยง…” จันทร์หอมพูดอย่างคาดเดา แต่มือทั้งสองข้างก็ยังบีบกันแน่นจนชุ่มเหงื่อ
“พี่จะเอาไปให้คุณมนตรีแปล หากมีอะไรจะรีบส่งข่าว” ขามพูดเร็วและพับจดหมายยัดคืนใส่ในซองเหมือนเดิม “เอ็งต้องเข้มแข็งนะ…เวลานี้ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี” ขามกดเสียงพูดต่อ จันทร์หอมพยักหน้าอย่างเกร็ง…แต่ในแววตากลับไม่มั่นคงเสียแล้ว
“ระวังตัวนะพี่”
“อื้อ!…เอ็งก็เช่นกัน”
……….
“อย่าเสียสละ…………….เพียงอยากเห็นเงาตัวเองในเหลี่ยมเพชร
เพราะจะยิ่งน่าสมเพช…เมื่อเหลี่ยมเพชรสะท้อนแสงต่างมุม”
จันทร์หอม ธารารักษ์
……….