บ้านตระกูลเชาว์ นิยายอ่านฟรี เรื่อง อนุชาย ตอนที่ 11
เวลา 2 ทุ่มกับ 18 นาที ณ สวนอาหารสะบันงา ถนนเกษตร-นวมินทร์ รถยนต์แลนโรเวอร์ สปอร์ต สีเทาดำแล่นเข้ามาจอดใต้ต้นหูกวางที่ใบกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ทันทีที่เสียงเครื่องยนต์เงียบ เด็กรับรถก็เข้าไปเปิดประตูให้หญิงสาวร่างเล็ก มีรองเท้าส้นสูงกว่า 4 นิ้วรองรับ เธอจึงดูระหงประหนึ่งดาราตัวท๊อป แต่เมื่อความโดดเด่นมาพร้อมๆ กับความโดดเดียวเธอจึงยังดูธรรมดาในสายตาผู้คนในเวลานี้
อนุชาย ตอนที่ 11
เธอเลือกจะไม่พูดหรือคุยกับใคร ขณะดึงแว่นดำมาสวม แสงโคมสีเหลืองนำทางเธอสู่อาคารใหญ่เรือนไม้ระเบียงโปร่งๆที่มีน้ำตกกระจายอยู่หลายๆ จุด
“เชิญทางนี้คะ” สาวเสริฟที่เข้าเวรฝายมือนำเธอสู่มุมข้างน้ำตกสูงใกล้ต้นหมากที่เห็นลูกเป็นพวงกำลังเหลืองแดงเหนือแสงไฟสลัวๆ เธอยกมือปฏิเสธแทนคำพูดก่อนจะหยุดส่ายสายตาใต้แว่นดำไปรอบๆ คล้ายจะมองหาบางคน หรือโต๊ะใดโต๊ะหนึ่ง กระทั้ง…..
“นุ ทางนี้คะ แคร์อยากคุยด้วย”
อนุชัยที่กำลังเวียนเข้ามารับบิลที่เคาน์เตอร์ชะงัก เจ่ดวงที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์พยักหน้าให้ เขาจึงเดินเข้าไปหาอย่างคนตั้งคำถาม แต่เมื่อเจอลูกเฉยของเธอ เขาจึงลากแขนไปนั่งยังโต๊ะไกลสุด เมื่อทั้งคู่ประจันหน้ากันตรงๆ แครายจึงถอดแว่นแต่สายตาก็ยังจ้องไปที่เขาไม่กระพริบ
“แครรี่มีอะไรรึเปล่า” อนุชัยเอ่ยเสียงเรียบๆ
“นุ คิดจะถามแคร์หรือเปล่าคะว่า แครรี่ ตัวเองสบายดีไหม? หรือตัวเองทำอะไรอยู่ หรือ…..”
อนุชัยยกมือห้าม “พอๆ….แครรี่ ตัวเองก็รู้ว่านี้คือที่ทำงานของเค้า เค้านั่งคุยกับตัวเองไม่ได้ทั้งคืนหรอกนะ”
แครี่หน้าเสีย เธอทำหน้าเซ็งเป็ดสุดชีวิตจนคล้ายจะร้องไห้ กระนั้นเมื่อความเงียบเข้าเยียวยา “แคร์ขอโทษคะนุ แต่แคร์ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน กับใคร มี นุ คนเดียวที่แคร์นึกถึง”
อนุชัยเอื้อมมือข้างหนึ่งไปกุมมือที่กำลังสั่นบนโต๊ะในลักษณะปลุกปลอบ เขาจ้องเข้าไปในดวงตาที่กำลังพล่ามัว กำลังอ่านทิศหัวใจ “แคร์ นุ เองก็ขอโทษที่ นุ ก็ไม่มีเวลาให้แคร์เลยสักวัน”
“แคร์เข้าใจ นุ คะ” แครายพูดช้าๆ พลางดึงมืออนุชัยอีกข้างขึ้นไปกุมรวมกันไว้บนโต๊ะ “แคร์มีเรื่องกลุ่มใจ แคร์ขอระบายกับนุสักครู่จะได้หรือเปล่าคะ”
อนุชัยเหลือบไปยังเคาน์เตอร์ที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 10 กว่าเมตร เจ่ดวงที่มองมายังเขาพอดีพยักหน้าให้ “ครับแคร์”
“เทอมหน้าพี่ชายที่เรียนที่มหาวิทยาลัย บริติชโคลัมเบีย จะย้ายกลับมาเรียนในกรุงเทพฯ แคร์ต้องอยู่ที่แวนคูเวอร์คนเดียว หญิงรัดดา เออ! แคร์หมายถึงน้องหญิงของพี่ชาย ชานนท์นะคะ เธอก็ไม่ยอมย้ายจากซานฟรานซิสโกมาเรียนด้วยกัน แคร์…แคร์ไม่รู้จะทำอย่างไรดี”
อนุชัยฟังเงียบๆ ก่อนจะหลุดพูดขึ้นแบบตั้งใจแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ “แคร์ก็ย้ายกลับมาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ได้นิ”
“คะ แคร์ก็ปรารถนาอย่างนั้น แต่คุณพ่อกลับไม่ยอม” เธอเว้นให้เวลาหายใจ จนรู้สึกถึงความชุ่มเย็น “แคร์สงสารคุณพ่อคะนุ ท่านป่วยเป็นโรคเลือดมานาน สามวันดีสี่วันไข้ หมอประจำตัวท่านก็อยู่ในแวนคูเวอร์ เวลาส่วนใหญ่ท่านก็อยู่ที่นั้น สงสัยท่านอยากจะให้แคร์อยู่ใกล้มากกว่า”
“แครรี่ รู้ตัวไหม เค้า เค้า!รักตัวเองก็ตรงนี้แหละ” อนุชัยพูดไปสะดุดไป ในหัวกลับมโนเห็นชายคู่หมั้นของเธอขึ้นมาหลอกหลอน แต่ไอ้หมอนั้นเองก็ไม่มีท่าทีจะใส่ใจเธอเลยสักนิด ด้วยสาเหตุนี้เลยตั้งใจพูดขึ้นมาอีก “แคร์ยังมีเค้านะ เห็นไหมยามใดที่แคร์ไม่สบายใจ แคร์ก็จะคิดถึงเค้าเป็นคนแรก ไม่ใช่ไอ้ไฮโซแอ็คอาร์ตคนนั้นซะหน่อย”
“นุหมายถึงพี่ชายนั้นหรือคะ”
“คนบ้าอะไรไม่รู้…ชื่อชาย แล้วจะบังคับให้ เค้าเรียกว่า คุณชาย น่าอายชะมัด” อนุชัยพึมพำจนได้ยินเสียงหัวเราะเล็ดลอดออกมา
“ฮ่าๆๆ เออ มันก็จริงอ่ะนะ แคร์ลืมนึกถึงข้อนี้ไปเลย แต่พี่ชายก็เทียวถามถึงแต่นุนะ ไม่รู้เพราะเป็นอะไรเหมือนกัน”
“เป็นบ้าไปแล้วมั่ง!” อนุชัยสบถเสียงต่ำพลางปล่อยมือก้มหน้าที่กำลังแดงไม่ให้หญิงสาวจับได้
“ฮ่าๆๆ…..แคร์ก็คิดแบบนั้น…” แครี่หัวเราะยาว กระทั้ง “ว่าแต่ นุ เถอะเรียกพี่ชายว่าอะไรละ”
“จะให้เรียกคุณชายนั้นเหรอ เฮ้ย! ฝันไปเถอะ นุ ก็เรียกเขาว่า คุณ….ไอ้คุณ….เวลาโกรธก็จะเติมสัตว์ลงไปสักตัวหรือ 2 ตัว”
“ฮ่าๆๆ สัตว์อะไรของนุนะ” แครายระเบิดเสียงหัวเราะอย่างต่อเนื่อง
“ก็….เออๆ” เขาก้มเข้าไปกระซิบใกล้ๆ “ไอ้เฮี้ย!คุณไง”
“ฮะ ฮ่า ฮาๆๆๆๆ”
สุดท้าย….. “เค้าได้คุยกับตัวเองแล้วสบายใจจังเลย” แครายวางสายตาซึ้งๆ พร้อมกับเอื้อมดึงมือทั้ง 2 ข้างของเขามากุมไว้ในท่าเดิมอีก แสงเทียนลิบลี่ก็ยังลิบลี่ในสถานะของมัน “นุคะ ขอบใจ นุ มากที่ยอมคุยกับแคร์”
“แครี่” อนุชัยเหมือนจะจับนัยยะบางอย่างจากเธอได้ “ตัวเองมีอะไรจะบอกเค้าเหรอ”
“แคร์จะมาลา นุ คราวนี้เค้าคงไปยาว อาทิตย์หน้ามหาวิทยาลัยก็เปิดเทอมแล้ว เค้า เค้า…คงไม่ได้กลับเมืองไทยอีกหลายปี”
“แครี่”
เธอดึงมือเขาให้ลุกตาม เมื่อทั้งคู่อยู่ในแสงสว่างที่ส้ม เสียงน้ำตกรินหลั่งคลอกับเสียงดนตรีบรรเลงเธอจึงเบียดเข้าไปยืนเกือบชิด “แคร์จะกลับคืนนี้แล้วคะนุ” เสียงของเธอต่ำกว่าความน่าจะเป็น สายตาก็เว้าวอนกับบางสิ่ง “จูบแคร์เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ”
อนุชัยกำลังหลงอยู่ในภวังค์เสน่หา โดยไม่ทันระวังสายตาจากผู้คนที่กำลังนั่งดื่ม นั่งรับทานอาหารเย็นที่เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งอีกคนที่พึ่งขับเบนซ์สปอร์ตสีดำเข้ามาหยุดจ้องคนทั้งคู่อยู่ลานจอดด้านล่าง อนุชัยค่อยๆ ก้มลงจูบแคราย ในแบบที่เขาเคยทำและฝังมันไว้นาน นานจนปรากฏน้ำใสๆ รินหลั่งออกมาทางหางตาของเธออย่างเงียบๆ
5 นาทีผ่านไป แครายปาดน้ำตาด้วยหลังมือเพียงครั้งเดียวก่อนจะสวมแว่นทับ เธอไม่รอท่าทีใดๆ จากเขาอีก อนุชัยได้แต่มองตามแผ่นหลังบางๆ กระทั้งรถแลนด์โรเวอร์สีเทาดำคันใหญ่พุ่งออกถนนไป… เบนซ์สปอร์ตสีดำที่รอท่าอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปแทนที่
“นายมาทำอะไรเนี้ย”
“ถ้าฉันไม่มาจะเห็นนายยืนจูบกับคู่หมั่นฉันไหม?” ชานนท์ทำทีดุ แต่ก็แอบกรุ่มกริ่ม “หึ…อนุชายยยยย”
“อย่าบังอาจเรียกฉันด้วยชื่อนั้น” อนุชัยเกรงหมัดแน่น ๆรอ….
“งั้นนายก็สอนฉานนดิ!….อนุชายยยยยย”
“ไอ้คุณ…..”
“เรียกผมคุณชายสิครับ”
“ไอ้เฮี้ยคุณ……” สุดท้ายก็เป็นเขานั้นแหละที่โดนลากคอมานั่งกินข้าวด้วยจนอิ่ม โดยเจ่ดวงเป็นคนส่งเสริมสุดๆ (ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อย เจ่ได้ทั้งนั้น) เธอพูดไปขำไป หัวเราะไป…
“ตกลงนายจะเรียกฉันว่าอะไรกันแน่หา!” ชานนท์ถามขึ้น
“จะให้ฉันเรียกว่า คุณชาย ไม่มีวันซะหรอก” อนุชัยเอ่ยหลังดื่มน้ำเสร็จพอดี
ชานนท์เห็นคาบครีมที่อนุชัยพึ่งอัดใส่ปาก “อยู่นิ่งๆ”
“อะไรของนายนะ”
“เออนา!…. ” แล้วเขาก็ใช้นิ้วโป้งเช็ดครีมที่มุมปากให้ก่อนจะยัดมันใส่ปากตัวเองแบบคนมีความสุขที่สุดในสามโลก จนอีกคนหน้าแดงซ่านอย่างไม่รู้ตัว…. “หวานชะมัดยาดเลยว่าไหม”
“ไอ้คุณ” อนุชัยตะเบ็งเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อน
“อะไนนะ นายเรียกฉันว่าอะไรนะ”
“ไอ้เฮี้ยคุณ!”
“ฮ่าๆๆ เออ! เอาชื่อนี้แหละฉันชอบ”
วันต่อมาที่บ้านตระกูลเชาว์
10 โมงเช้าแดดเริ่มร้อนขึ้นทุกขณะ เมื่อมองผ่านผนังกระจกไปยังสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานที่อยู่หลังบ้านทรงร่วมสมัยสีครีม ผิวน้ำที่กระเพื่อมระยิบระยับชวนให้ปวดตา หากไม่มีม่านอลูมิเนียมสีเทาคงต้องเปลี่ยนสระว่ายน้ำเป็นอย่างอื่นแน่ๆ อนุชาตินั่งกึ่งเอนหลังอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เผยกระดานหุ่นสีเขียวแดงวิ่งวนในห้องนั่งเล่น ที่อีกฝั่งเป็นหน้าบ้านมีจามจุรีต้นใหญ่พอให้นึกถึงความสุขขึ้นมาได้บ้าง….สักครู่
“คุงชายใหญ่คะ คุงหญิงพวงพรมาขอพบคะ” แม่บ้านสาวสำเนียงไทยไม่ชัดพูดที่มุมบันได เธอก้มหน้ารอคำสั่งราวกับหุ่นหิน
“อื้อ! ผมได้นัดคุณพี่เอาไว้ละ….เอาน้ำเข้าไปเสริฟแล้วให้เธอรอในเรือนรับรองนะ”
“ได้คะคุงชาย”
เมื่อทั้ง 2 อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง คุณหญิงพวงพรจึงเอ่ยถามขึ้นมาก่อน
“ทำไมเธอเฉยจังเลยหึ! อนุชาติ”
“เอ้! ทะ ทำไมรึครับคุณพี่”
คุณหญิงพวงพรยกฝ่ามือขึ้นมาทาบอกพร้อมกับหน้าซีดทันที “ว่าแล้วเชียว! ฉันไม่น่าประมาทขนาดนั้นเลยจริงๆ”
“คุณพี่เป็นอะไรหรือครับ” อนุชาติ เซ้าซี้อย่างคนเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“แสดงว่าเธอไม่ได้อ่านโน้ตที่ฉันซ่อนไว้ใต้หมอน ตอนอยู่โรงพยาบาลเลยใช่ไหม” คุณหญิงพวงพรพูดเร็วๆพลางทุบหน้าอกไปด้วย “ฉันนี้ยิ่งแก่ยิ่งเลอะ….”
“โน้ต โน้ตอะไรเหรอครับผมไม่เห็นรู้เรื่องพยาบาลก็ไม่บอก” เขาหยุดคิดพอสมควร “พยาบาลที่เข้ามาเปลี่ยนหมอนเปลี่ยนที่นอนตอนเช้าผมก็อยู่ด้วย ไม่เห็นมีโน้ตอะไรนี้ครับ….เอ้! หรือว่า…”
“เธอฟังฉันดีๆ นะอนุชาติ…..พวงพรกับลูกชายเธอยังไม่ตาย”
“ห่า!…คุ คุณพี่ว่าอะไรนะ” เขาผวาสะดุ้งโหยง ดวงตาที่เบิกโพลงจ้องคุณหญิงพวงพรไม่กระพริบ “จริงหรือครับคุณพี่….”
คุณหญิงพวงพรพยักหน้าช้าๆ “90 เปอร์เซ็นต์”
“แล้วตอนนี้พรกับอนุชัยอยู่ที่ไหน คุณพี่ คุณพี่ “อนุชาติเร่งเร้าอย่างเอาเป็นเอาตาย คุณหญิงพวงพรได้แต่นิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง “คุณพี่ครับได้โปรดบอกผมเถอะครับ”
“เด็กคนที่คาดว่าจะเป็นลูกชายของเธอฉันพบแล้ว แต่แม่เขากำลังให้นักสืบตามอยู่ รออีกนิดเดียว”
“ห่า ลูก ลูกผม” น้ำตาลูกผู้ชายไหลล้นออกนอกเบ้าทันที “ตอนนี้เขาอยู่ไหนครับคุณพี่ คุณพี่ครับ”
“ใจเย็นๆ รอผลดีเอ็นเอก่อน…หากใช่ 100 เปอร์เซ็นต์ฉันนี้แหละจะพาเขามาหาเธอเอง”
“ผมอยากเจออนุชัยเดี๋ยวนี้ ตอนนี้” อนุชาติแบบไม่ต้องคิด น้ำตาถึงจะปาดทิ้งหลายต่อหลายรอบ แต่มันก็ยังไหลออกมาอย่างกับจะไม่มีวันหมด…. “นะครับคุณพี่ ผมอยากเจอเขา ผม ผมอยากเจอลูก”
“ตอนนี้เขาปลอดภัยดี แต่เธอต้องรักษาตัวเองเพื่อจะได้เจอเขาให้ได้ สัญญากับฉันซิ”
“คุณพี่”
“สัญญากับฉันซิ…ว่าเธอจะรักษาตัวเองเพื่อเค้า…” คุณหญิงพวงพรย้ำเสียงแน่นๆ อนุชาติก้มหน้าร้องไห้อย่างไม่อาย พร้อมกับพยักหน้าแทนคำตอบที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ “ดีแล้วละ ฉันเองก็ตื่นเต้นจะได้เจอน้องสาวฉันไม่แพ้เธอ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ ฮื้อๆๆๆ”
“พอๆ เช็ดน้ำตาให้แห้งเถอะ ฉันยังมีธุระอื่นต้องไปทำต่อ” คุณหญิงพวงพรประเมินชายตรงหน้าเงียบๆ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เธอจึงลุกขึ้น “ดี ดีแล้วละ…คราวนี้เราจะได้สู้ไปด้วยกันจริงๆ จังๆ สักที…ฉันไปละนะ…ว่าแต่หนูแครายกลับแวนคูเวอร์รึยัง”
“ผมไปส่งเธอเมื่อคืนนี้ครับ”
“แล้วเธอจะบินตามไปเมื่อไร”
“ผมอยากเจอ อนุชัยก่อน เป็นไปได้อยากจะพาเขาไปเริ่มต้นใหม่ซะที่โน้นด้วยกันเลย” อนุชาติพูดออกมาจากความในใจ “ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
“อื้อ! อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด….เฮ้ยยยยย!” คุณหญิงพวงพรถอนหายใจทิ้งยาวๆ “ไปละนะ”
“ครับคุณพี่ ขอบคุณอีกครั้ง”