นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อนุชาย ตอนที่ 21 เธอผู้ใจร้าย
ประตูรั้วไม้ดิบๆ ทาเคลือบด้วยสีดำยังปิดสนิท เมื่อแดดสีวะนิลาเข้าใกล้เฉดสีกาแฟนมทาทับ มันจึงดูลึกลับมากกว่าธรรมดา ด้าน ข้างของประตูมีป้ายหินแกรนิตสีน้ำตาลดำแกะสลักด้วยกรดกัดลึกลงสีโอโรสเป็นภาษาอังกฤษโรมันสไตล์ว่า “Loft Love House” กุหลาบขาวสดไขว้กันไปมา 2 ดอก ช่วยให้ความลึกลับของประตูลดระดับสู่ความโรแมนติก แต่ก็ยังเป็นความโรแมนติกที่ลึกลับอย่างที่เจ้าของบ้านตั้งใจตั้งแต่เริ่มต้น
อนุชาย ตอนที่ 21
เมื่อเส้นแสงสุดท้ายเบนลงสู่เส้นขนานกับพื้นถนนสีปูน รถเบ้นซ์สปอร์ตสีดำที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็เบรกลากล้อจนเกิดเสียงดังสนั่น ประตูไม้สีดำค่อยๆเลื่อนเปิดจากรีโมทรคอนโทรล ไม่ทันจะเปิดเต็มบาน รถ BMW ซีรี่ส์ 5 สีน้ำตาลดำก็เบรกลากล้อเสียงดังตามมาติดๆ และทันทีที่ประตูเลื่อนกว้างพอ เบนซ์สปอร์ตก็พุ่งผ่านเข้าไปจอดหน้าเฉลียงบ้านปูนเปลือย 2 ชั้นสไตล์โมเดลลอฟท์ อีกคันวิ่งผ่านเลี้ยวเข้าไปจอดนิ่งในโรงเก็บด้านใน
ชานนท์เปิดประตูรถได้ก็วิ่งขึ้นไปบนเฉลียง อีกคนโผล่มาทางบันไดโรงรถก็แซงตัดหน้า ไม้กระถางแขวนลอยอยู่รอบๆกำลังบานสะพรั่ง แดดสีกาแฟนมผลักสีแดง เหลือง ขาว แสด ฟ้าให้เด่นลอยออกจากผนัง ราวจะสื่อสารเรื่องราวความลับ ความรัก ของบ้านลอฟท์เลิฟให้ผู้พบเห็นได้เข้าใจ
อนุชัยไปถึงประตูอลูมิเนียมสีดำเป็นคนแรก เขาควานหากุญแจในกระเป๋า แต่อีกคนที่ตามหลังมาก็เข้าประกบปาก ทั้งคู่หลับตาพริ้มแลกรสชาติเสน่หา กระทั้งอนุชัยได้กุญแจเขาก็เสียบหวังจะเปิด แต่มันก็ดันหล่นสู่พื้นทรายล้างสีเทาเข้มๆ ทำให้ชานนท์ที่ถือลูกกุญแจรออยู่ก่อนแล้วก็เสียบเข้าไปตรงๆ ประตูบ้านลอฟท์เลิฟถึงได้เปิดต้อนรับ….
“นายมาช้า…” อนุชัยกระเส่า ขณะกำลังลากลิ้นไปตามคางที่เห็นไรหนวดเขียวๆ
“แต่ฉันก็เสียบมันได้ก่อน” ชานนท์กดหัวอนุชัยไว้ใต้ซอกคอ ใบหน้าเชิดสูงประทะเข้ากับแดดสุดท้ายจังๆ เขาหลับตาซี๊ดดด!ปากจนเหงเกก่อนจะผลักประตูนำดึงอีกคนเข้าสู่ข้างใน
“นาย นาย” อนุชัยจะพูดบางอย่างแต่ชานนท์ก็ประกบปากอีกจนเสียงของเขาหายลงลำคอ มือควานแกะกระดุมเสื้อกันและกันจนคล้ายจะวุ้นวายยุ่งเหยิง มันสั่นเทาขณะที่ใจล่วงหน้าไปก่อนหลายขุม ชานนท์ต้องใช้วิธีกระชากจนเม็ดดุมกระเด่งกระดอนไปคนละทิศละทาง เขาเขวี้ยงเสื้อสีขาวขึ้นไปบนอากาศ อีกตัวถูกอนุชัยปาทิ้งราวกับไม่ใช่เวอร์ซาเช่อยู่กับพื้น ถุงเท้า-รองเท้าถูกเหยียบทิ้งไว้ตามรายทางสู่โซฟาเบทในห้องนั่งเล่น กระเป๋า ปากกา คอมพิวเตอร์ หนังสืออยู่ไหนบ้าง ดูเหมือน 2 ร่างที่กำลังพัลวันไม่ทันคิดถึง สักพัก…
“ฉันอยากเป็นเมียให้นาย” อนุชัยละเมอพลางวาดสายตาสู่ห้องนอนชั้น 2
ชานนท์ไล่จุมพิตไปทั่วราวกับเสือกำลังฉีกทึ้งเนื้อสดๆ ที่กำลังหวานฉ่ำ ใจก็เร่งจะปลดเข็มขัดกางเกง…อีกคนก็ไม่ต่างกัน
“ฉันอยากจะสมบูรณ์แบบ ชานนท์” อนุชัยละเมออีก…. “ชานนท์”
ชานนท์เหวี่ยงร่างอนุชัยไปติดกำแพงลอฟท์ใกล้กระดานชนวนสีดำ ปากประกบปากจนนับครั้งไม่ถ้วน อนุชัยผลักเขาไต่ขึ้นไปตามบันได กางเกงตัวแรกกองอยู่บนขั้นที่ 3 อีกตัวถูกชานนท์เขวี้ยงไปเกาะค้างที่โคมไฟผนัง ทั้งคู่นอนเปลือยเหลืองเพียงชุดชั้นในที่ชานพัก “ฉันมาถึงประตูรั้วก่อนนาย” ชานนท์พูดจากน้ำเสียงหนึ่งในสี่ ก่อนจะฉุดแขนอนุชัยลุกขึ้นยืน สิ่งสุดท้ายที่ปิดบังร่างกายถูกถอดทิ้งตรงนั้น อนุชัยโอบรัดหมุนชานนท์ขึ้นสู่ชั้น 2 เสียงประตูห้องนอนเปิดและปิดลงตามหลัง…. “ปัง!…”
“แต่ฉันก็ถึงประตูบ้านก่อนนาย”
“ฉันเป็นคนเสียบกุญแจ….เปิด”
“โอย!โอ้ย! ชานนท์…..ชานนท์……ชานนท์“
“ฉัน ฉัน ต้องได้อยู่ข้างบน….อนุ….อนุชายยยยยยยยยยย”
เช้าวันต่อมา
แสงแรกแทรกผ่านรอยพับผ้าม่านสีทึมๆ มาตกกลางห้อง 2 ร่างไร้อาภรณ์บนเตียงขนาด 6 ฟุตสีน้ำตาลเข้ม ก็งัวเงียจากอ้อมกอดของกันและกัน เมื่ออีกคนตื่นก็จุมพิตแล้วหลับต่อ และอีกคนตื่นก็จุมพิตแล้วกะว่าจะหลับต่อแต่เสียงนาฬิกาปลุกก็เข้ามาแทรก
“กริ่งๆ ต๊อกแต๊ก…ต๊อกแต๊ง กริ่งๆ”
อนุชัยใช้มือปิด ทั้งๆ ที่ยังหลับตา แต่สักครู่เขาก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมาเปิดและเข้าเฟสบุ๊คตัวเองที่ใช้ชื่อด้วยนามแฝงว่า Timmy Buto เมื่อไล่อ่านข่าวสารไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ตาที่อยากจะหลับยาวๆ ก็ลุกโพลง เขาเขย่าร่างชานนท์ที่หลับอยู่ข้างๆ อย่างคนรีบเร่ง
“คุณ คุณ ไอ้คุณ ตื่นๆ”
“หือ อะไรเหรอที่รัก…”
“ดูนี้…..เราแย่แน่ๆ”
“แย่อะไร ไหนดูดิ…..” ชานนท์งัวเงียแย่งโทรศัพท์มาส่องใกล้ๆ ก่อนความรู้สึกเย็นวาบราวกับมีน้ำเย็นมาราดลงกลางหลังจะทำให้เขาสะดุ้งโหยง “นารา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้” เขาพึมพำแบบคนหัวเสีย เมื่อภาพนารากำลังเซลฟี่รูปคู่กับเขาขณะอยู่ในรถกัน 2 ต่อ 2 ชานนท์กับอนุชัยดูแว๊บ! เดียวก็รู้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน หนังสือพิมพ์ นิตยสารบันเทิง ช่าวทีวี อินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์เล่นข่าวนี้กันครึกโครม
“นายเปิดโทรศัพท์อยู่ไหม” อนุชัยถาม
“อยู่ในรถมั่ง…” ชานนท์หัวเสียพานลุกเดินเปลือยไปหยิบบล็อกเชอร์มาสวมแบบลวกๆ ก่อนจะวิ่งลงไปยังรถ แน่นอนทั้ง ดร.ชวนนท์ และคุณหญิงพวงพรโทรหาเขาเป็นสิบรอบ
และขณะที่อนุชัยกำลังปิ้งขนมปังชิ้นสุดท้าย ชานนท์ในชุดเสื้อยืดสีดำเรียบๆพึ่งวางสายก็เดินเข้ามาจุมพิตที่ท้ายทอย “มันต้องผ่านไปได้ ไม่ต้องห่วง” เสียงของเขาราบเรียบแต่ก็ไม่ถึงกับปกติ ก่อนจะหมุนตัวไปหยิบหมวกแก๊ปสีดำกับเสื้อแจ็คเก็ตสีเทาที่แขวนไว้บนผนังมาสวม
“นายไม่กินขนมปังกับกาแฟก่อนเหรอ”
“ไม่ละฉันต้องเข้าทำเนียบ คุณพ่อจะจัดแถลงข่าวที่นั้น” ชานนท์ จิ๊!ปากแบบคนหัวเสียอีก ก่อนจะเดินกลับมาจุมพิตที่ปากบางๆ อีกที… “วันนี้ฉันไม่ไปเรียน นายก็ด้วย อยู่บ้านรอฉันกลับมา….อย่างอื่นค่อยว่ากัน”
“ทำไม?…วันนี้ฉันมีรายงานนะ” อนุชัยถามแบบคนไม่ทันเกม
“ถ้านายไป นายโดนนักข่าวรุมแน่ๆ….อยู่บ้านรอฉันดีที่สุด”
“ฉันขอโทษ” อนุชัยเอ่ยแบบคนสำนึกผิด
“ไม่ใช่ความผิดของนาย….ที่รัก”
“อื้อๆ…..”
บ่ายๆ วันนั้น
ขณะที่อนุชัยกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่กับโซฟาสีครีม ทีวีถูกเปิดทิ้งไว้เป็นเพื่อน กระทั้งเข้าสู่ช่วงแถลงข่าว เขาก็ยังก้มหน้าอยู่กับหนังสือเล่มเดิมเหมือนไม่ใส่ใจเลยสักนิด….กระทั้งเสียง ดร.ชวนนท์ สายสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดังขึ้น เขาถึงกับสะดุ้งโหยงนั่งตัวตรงจ้องไปยังทีวีไม่กระพริบ ภาพของ ดร.ชวนนท์ กำลังนั่งแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีที่เกิดขึ้นโดยมีชานนท์นั่งยิ้มในแบบของเขาอยู่ข้างๆ ทำให้ใจคอไม่เสถียรเอาเสียเลย
แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้….“ไอ้คุณเวลาออกทีวี แม่ง! โคตรหล่อเลยวะ” เขาตาลอยเผลอซี๊ด!ปากเบาๆ…..นักข่าวสายบันเทิง สายการเมืองและอื่นๆ ต่างกำลังตั้งกล้องยื่นไมล์ล้อมทั้งคู่เอาไว้ เมื่อ ดร.ชวนนท์พูดจบลง เขาจึงเบนไมล์ตัวเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ให้บุตรชาย
(สวัสดีครับทุกท่าน ขอบคุณมากๆ ที่มา คือ…) ชานนท์หยุด จิ๊! ปาก…ยิ้มทักทายนิดๆ (คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่มีอะไรนะครับ น้องคนที่อ้างว่าเป็นแฟนผม…จริงๆ แล้วเธอเป็นแค่เพื่อนของเพื่อนครับ เลิกเรียนผมก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร)
(แล้วที่เธอบอกว่าคบกับคุณชายมาพักหนึ่งแล้วละคะ)-นักข่าวผู้หญิงใส่แว่นตาหนาๆ ร่างผอมถาม
(ไม่หรอกครับ เธออาจจะโพสต์เพราะความสนุกเท่านั้น อันที่จริงชื่อจริงๆ ของเธอผมยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ)
(เห็นเซลฟี่แก้มแนบแก้ม ดูสนิทสนมกันซะขนาดนั้น ชื่อจริงๆ ยังไม่รู้จัก แล้วคุณชายไปส่งเธอได้อย่างไรคะ)-สาวตัวอ้วนไว้ผมหน้าม้ามีโบสีแดงบนหัวถามต่อ
ชานนท์หัวเราะ (เพื่อนไม่สบายครับ เลยให้ผมไปส่งเธอ….เพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย อ่ะ ครับเขาก็เซลฟี่กับผมแบบนี้กันทุกคนแหละ รวมทั้งพี่ๆ ด้วยนะ อยากเซลฟี่กับผมเชิญได้เลย ฮ่าๆๆๆ)
(แล้วเพื่อนที่คุณชายหมายถึง เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงครับ)-นักข่าวออกตุ้งติ้งกระเดียดไปทางผู้หญิงถามแบบหวังผล…คราวนี้อนุชัยถึงกับหน้าถอดสี
“เออ…เป็นอย่างที่ไอ้คุณบอกไว้ไม่มีผิด ถ้าไปมหาวิทยาลัยวันนี้โดนแน่ๆ” อนุชัยพึมพำ ขณะใจเสีย วูบๆ วาบๆ ขึ้นๆ ลงๆ
(ผู้ชายครับ เพื่อนที่เคยตกเป็นข่าวกับผมที่โรงแรมนั้นแหละ ไม่มีอะไร)
(เพื่อนกันจริงหรือครับ)-นักข่าวคนเดิมยังเล่นต่อ
ชานนท์ไม่ตอบ ราวกับไม่ให้ความสำคัญ (เป็นเพื่อนกันจริงเหรอครับ)
(ตกลงคุณจะไม่ให้ผมมีเพื่อนสักคนเลยรึไง)-ชานนท์ตอกกลับแบบคนหัวร้อนแต่ก็ยังยิ้มได้ ก่อน ดร.ชวนนท์จะคว้าไมล์ไปสรุปปิดท้ายแทนเขา อนุชัยยกมือปิดปากแต่ก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ชานนท์พยายามกันเขาไว้ทุกๆ ทาง
“นายได้ใจฉันไปเต็มๆ เลยแหละชานนท์” อนุชัยพึมพำ
อีก 2 เดือนต่อมา
ทั้ง 2 ไม่เคยเจอนาราอีกเลยจนกระทั้ง….ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟอินทนิน นาราก็เดินก้าวยาวๆ เข้าไปนั่งลงดื้อ อนุชัยก้มหน้านิ่งๆ มีเพียงชานนท์เท่านั้นที่ไม่ยอมละสายตา
“คุณชายคะ เรื่องที่เกิดขึ้น นาราขอโทษ แต่วันนี้นารามีเรื่องจะคุยกับนุ 2 ต่อ 2 คะ”
“มีอะไรคุยกับผมได้เลยนารา เรา 2 คนไม่มีอะไรปิดบังกันอยู่แล้ว” ชานนท์สวนกลับเสียงแข็ง นาราเลยดึงมืออนุชัยไปกุมไว้ เธอเหลือบมองชานนท์ที่อยู่ในอาการช็อก ขณะที่อนุชัยค่อยเงยหน้าขึ้นมาเผชิญ
“นารา…ตัวเองมีอะไรกับเค้าก็ว่ามาได้เลย” อนุชัยใช้สรรพนามที่บาดลึกจนชานนท์ทิ้งสายตาลงสู่พื้น
“นุคะ….” นาราเรียกชื่อเขาแล้วก็เหลือบมองชานนท์อีกรอบ “นุ…เค้า เค้าท้อง” พูดจบ ทั้งอนุชัยและชานนท์ต่างสะดุ้งตื่นพร้อมๆ กัน
“หา!…..”
“เค้าเช็คหลายรอบแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรดี… นุ เค้ายังเรียนไม่จบเลย เค้ายังไม่อยากจบอนาคตด้วยเรื่องๆ นี้ นุคะ นุต้องช่วยเค้านะ” เธอระล่ำระลักจนเผลอนึกถึงนางเอกในละครกำลังตกอับ อนุชัยกับชานนท์สบตากันนิ่ง นิ่งๆ ก่อนชานนท์จะได้สติก่อน
“นารา…เธอนั่งรอพวกเราอยู่ตรงนี้…ขอฉันคุยเขาก่อน” แล้วชานนท์ก็ลากกึ่งฉุดแขนอนุชัยหายไปหลังร้าน
“เป็นไงละ ผลงานของนายชัดๆ” ชานนท์ฉุนเฉียวแล้วก็พ่นลมออกทางปากดังๆ
“ฉันจะต้องรับผิดชอบ” อนุชัยเอ่ยเรียบๆ
“นาย นายยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ…” ชานนท์ตวาดกลับ ขณะที่เสียงเขาเริ่มเครียดขึ้นอีกระดับ
“คุณ….” อนุชัยเรียกชานนท์ “….นายมีทั้งพ่อ มีทั้งแม่ มีน้องสาว ผิดกับฉันคนละโลก….” อนุชัยดึงลมเข้าสู่ปอดและพ่นทิ้งจนได้ที่ “ฉัน….เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกและวันนี้สวรรค์ก็ส่งเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นจิตวิญญาณ เป็นอีกชีวิตหนึ่งของฉัน…มัน…มันเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ”
ชานนท์คิดตาม…ปล่อยเวลาให้กับสมอง สักครู่เขาก็โอบกอดพร้อมกับตบแผ่นหลังอนุชัยเบาๆ “ฉันขอโทษที่ด่วนต่อว่านายไปหน่อย….แต่ถ้าฉันจะขอมีส่วนร่วมด้วยละ นายจะอนุญาตไหม”
อนุชัยจ้องหน้า “นายหมายความว่าอย่างไร”
“ก็เรา 2 คนกำลังจะมีลูกด้วยกันไงละ” ชานนท์ประเมิน สายตาอีกคน “ว่าไง ฉันเป็นพ่อ นายก็เป็นพ่อ เด็กคนเดียวจะเลี้ยงยากสักแค่ไหนเชียว…ว่าไหมละ”
อนุชัยเงียบ…สักครู่รอยยิ้มบางๆ ก็เกิดขึ้นเขากอดรัดชานนท์แน่นเข้าไปอีก“ขอบคุณมาก ขอบคุณนายจริงๆ”
“เฮ้ย!…จะมาขอบคง ขอบคุณอะไรละ…ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนาย” ชานนท์พูดแบบมีนัยยะ
“ขอบคุณฉัน นายจะขอบคุณฉันเรื่องอะไรไม่ทราบ”
“ฉันต้องขอบคุณซิ!…เพราะ ในที่สุดเมียสุดที่รักก็มีลูกให้ฉันจนได้ ฮ่าๆๆ” ชานนท์หัวเราะลั่น เสียงของเขาดังไกล และดังขึ้น ดังขึ้นจนหมดเสียง
“ไอ้คุณ” อนุชัยตวาดแต่ก็ไม่จริงจังนัก เมื่อทั้ง 2 กลับมาที่โต๊ะจึงตกลงเรื่องนี้ นาราขอเป็นเงินก้อนหนึ่ง ชานนท์ตกลงง่ายๆ พร้อมกับเดินไปหยิบสมุดเช็คในรถมาเซ็นให้ เรื่องราวที่วุ่นๆก็น่าจะจบจนกระทั้งนาราหายไปอีก 1 เดือน ทั้งอนุชัยและชานนท์ต่างตามหาตัวเธอให้วุ่นจนสุดท้าย พวกเขาก็ได้ข่าวร้ายจากคนใกล้ชิดของนาราว่า….เธอไปทำแท้งเรียบร้อยแล้ว…..
“คุณ…ฉันอยากกลับไปหาแม่” อนุชัยตัวสั่น เธอผู้สร้างความหวัง และเธอคนเดียวก็มาทำลายความฝันทั้งหมด ไม่มีเสียงร้องไห้ มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่หลั่งรินให้ชานนท์เห็น
ชานนท์โอบอนุชัยด้วยความรู้สึกเดียวกัน…แดดแรกกำลังจะเริ่มต้น ชานนท์ไม่ยอมพูดอะไร เขาจูงมืออนุชัยตรงไปยังรถ BMW ก่อนขับวนออกวงแหวนตะวันออกมุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี เพื่อไปหาเธอคนเดียวในโลกที่คนรักของเขาเคยมี
“แม่….”
“ฉันอยู่นี้….ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือนายเด็ดขาด…ฉันสัญญา….”