ในห้องกระจก อนุชาย ตอนที่ 9 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
อนุชาย ตอนที่ 9
ที่โต๊ะอาหารบ้านสายสกุล เวลา 08.30 น.
“ชายวันนี้ไม่มีธุระที่ไหนใช่ไหมจ๊ะ” คุณหญิงพวงพรเอยเบาๆ ขณะที่ชานนท์กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับชามข้าวต้มกุ้งฝั่งตรงข้าม แดดสีวะนิลาแทรกริมผ้าม่านสีครีมวางลำแสงเป็นเส้นตรงพาดผ่านโต๊ะไม้สักราวกับปลายดาบคาตานะมาตกใกล้ๆ “ชาย แม่ถามนะได้ยินไหม”
สักครู่ชานนท์จึงค่อยๆ ดึงบลูทูธอันเล็กๆ ออกจากหู “คุณแม่ว่าอะไรนะคะ…”
คุณหญิงพวงพรส่ายหน้าอย่างคนเอือมละอาก่อนจะพูดประโยคเดิมอีก “แม่ถามว่าวันนี้ชายมีธุระที่ไหนหรือเปล่าคะ พ่อคุณทูนหัว”
“ทำไมคะคุณแม่”
“คือแม่จะไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยที่ชายจะต้องโอนหน่วยกิจมาเรียนนะจ๊ะ…แล้วก็ธุระอื่นๆ อีกนิดหน่อย” เธอพูดเสียงดังขึ้น กระนั้นชานนท์ก็ยังต้องดึงบลูทูธที่เสียบอีกข้างเอามากองไว้รวมกัน พร้อมกับทำหน้า งงๆ
“ชายไม่เข้าใจอ่ะ! ทำไมคุณแม่ถึงรีบร้อนขนาดนั้นด้วยคะ อีกตั้ง 2 เดือนกว่าๆ มีเวลาถมเถไป”
คุณหญิงพวงพรจ้องบุตรชายราวกับตำหนิเรื่องความเฉื่อยชาอ้อยอิ่งอันเป็นนิสัยส่วนตัวที่แก้ไม่หาย…
“โอเค โอเค คะชายว่างตลอดแหละ….ดีเหมือนกันชายจะได้ไปเอาคืนไอ้หมอนั้นด้วย” เขารีบสรุปแบบมีนัยยะ จนคุณหญิงพวงพรส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่ไอ้หมอนั้น เขาชื่อ อนุชัย”
“คะ อนุชายยยย นั้นแหละคะ คนอารัยยย! เวลายิ้มได้ใจชะมัด”
“ชายคะ…..ฟังแม่ดีๆ นะ เขาชื่อ อนุชัย ออกเสียงคำสุดท้ายสั้นๆ เดี๋ยวก็โดนตอกหน้าหงายมาอีกหรอก”
“ฮาๆๆๆ……” ชานนท์หัวเราะลั่นเพราะเผลอนึกถึงวันที่อนุชัยต่อว่าเขาเมื่อวันก่อน “อนุชาย อนุชัย อนุชัย…ใช่ไหมคะคุณแม่”
“อนุชัยคะลูก อนุชัย ไม่ใช่อนุชายยยยย”
“เออ! ว่าแต่คุณแม่ไม่ให้เลขาโทรไปนัดอธิการบดีล่วงหน้าก่อนรึคะ…” ชานนท์ถามหลังซดข้าวต้มเข้าไปเกือบครึ่งชาม
“แม่ยังไม่ได้ไปพบอธิการบดีวันนี้หรอกจ๊ะ แต่จะไปพบอาจารย์พิชัย เพื่อนเด่นดวงเขาหน่อย” พวงพรตอบลูกชายด้วยน้ำเสียงเรียบๆ จนทำให้อีกคนเผยอปาก หรี่ตา เอียงคอในมุมที่สับสนสุดๆ จนคุณหญิงพวงพรยกมือขึ้นห้าม “ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น”
“คะ…ตกลงนี้ชายกลายเป็นคนขับรถส่วนตัวของคุณแม่ไปเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ” ชานนท์ถามจริงจัง คุณหญิงพวงพรยิ้มมุมปากมองลอดแว่นในลักษณะข่มขู่ “โอเค โอเค….”
“ดีคะลูก แล้วกรุณากินข้าวต้มให้หมดด้วยนะ”
“แน่นอนคะคุณแม่ ชายยังไม่อิ่มด้วยซ้ำ” ชานนท์ตอบก่อนจะลงมือตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะยกถ้วยเปล่าหายเข้าไปในครัวซะเอง จนคุณหญิงพวงพรอดหัวเราะในพฤติกรรมประหลาดๆ ของเขาไม่ได้
“ไอ้ลูกคนนี้นิ….ไม่รู้จักโตสักที”
บ่าย 2 โมงที่ตึกคณะสถาปัตยกรรม
อาจารย์พิชัยอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีน้ำเงินกรรมท่า แว่นตายังเป็นแว่นกรอบหนาแบบคนแก่แต่พออยู่บนใบหน้ากลมๆ สะอาดๆ กลับทำให้เขาดูเด็กลงหลายปี เขากำลังนั่งคุยกับสาวใหญ่ผมทรงเรียบๆ แต่ดูดีเข้าขั้นมาตรฐานคุณหญิงที่มาด้วยชุดสีครีม โดยมีพู่ที่คอเป็นสายกุหลาบสีโอโรสประดับอย่างลงตัว ทั้ง 2 คุยกันไป หัวเราะกันไป โดยหารู้ไม่ว่าข้างนอก อนุชัยที่บังเอิญเดินผ่านมาเจอเข้าพอดีถึงกลับหยุดลอบมองอยู่กับมุมผนังอย่างคนเสียมารยาท เขาพยายามอ่านปากคนทั้งคู่ สลับกับขบคิดวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา
ในห้องกระจก
“คุณหญิงพวงพรนี้นา!…มาคุยกับอาจารย์เรื่องเรารึเปล่าวะ!” เขาคิด คิด คิด จ้อง จ้อง จ้อง โดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่ากำลังมีบางคนขยับเข้ามายืนอยู่ด้านหลังจนเกือบชิด
ชานนท์กลุ้มกริ่ม อยากแกล้งหรือทำอะไรบางอย่างที่จะเอาคืน แต่เขาก็ได้แต่ยืนคิดนิ่งๆ อยู่ตรงนั้นจนกระทั้งอนุชัยส่ายหน้ายืดตัวขึ้น
“เฮ้ย!…….” เสียงอุทานตกใจสุดขีดจนร่างโงนเงน ไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“เพล้งๆๆๆ….ว้ายยยย!” เวลาเดียวกับเสียงแก้วน้ำหลายใบก็กระแทกพื้นแตกกระจายเป็นวงกว้าง จนสาวสวยที่ตั้งใจจะเอาเข้าไปเสริฟในห้องกระจกได้แต่ยืนหน้าซีดในชุดนิสิตรัดติ้ว “อุ้ยยยย…..นาราขอโทษคะอาจารย์” เธอขอโทษขอโพยอาจารย์พิชัยกับคุณหญิงพวงพรที่เดินออกมายืนดู
ขณะเดียวกันเมื่ออนุชัยได้สติเขาก็ก้มลงเก็บเศษแก้วราวกับเป็นงานประจำ “โอ้ย! บ้าชะมัด” เขาอุทาน คราวนี้เลือดสีแดงที่นิ้วไหลล้นอย่างกับไม่มีทางหยุดง่ายๆ
“นายนี้ซุ่มซ่ามกว่าที่ฉันประเมินไว้เยอะเลยนะ….ไหนดูดิ” ชานนท์นั่งจับมืออนุชัย และบังคับให้อยู่เฉยๆ
“ใครให้นายมายืนเป็นผีขนุนอยู่ด้านหลังฉันเล่า โอ้ย!….บ้าเอ้ย เจ็บชะมัด”
“นิ่งๆ ซิ…” ชานนท์ขู่ จนคุณหญิงพวงพรต้องตัดบท
“ชายพาอนุชัยเข้าไปนั่งในห้องแม่จะทำแผลให้”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับคุณหญิงให้อนุชัยไปห้องพยาบาลใกล้ๆ นี้เอง” อาจารย์พิชัยกล่าวเรียบๆทั้งๆที่หน้าซีดจนก้าวขาไม่ออก
“พิชัยจ๊ะ….ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์อย่างดิฉันเถอะคะ…ไปตาชายพาอนุชัยไปนั่งบนเก้าอี้ รู้สึกว่าแม่มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดกระเป๋ามาด้วยนะ”
“คะ คุณแม่” ชานนท์พูดอย่างเคยตัว จนคนบาดเจ็บแอบชำเลืองเขาด้วยหางตา….
เมื่อคุณหญิงพวงพรทำแผลเสร็จสับ “ขอบคุณครับคุณหญิง แต่ผมต้องเคลียบางอย่างกับ คุณชายยย สักครู่” อนุชัยจงใจเรียกชื่อคู่กรณียาวๆ ยานๆ ก่อนจะลากเขาออกไปจากห้อง
“นายแกล้งฉัน” อนุชัยพูดด้วยท่าทีจริงจังพร้อมกับกระชับคอเสื้อคู่กรณีที่เอาแต่ยิ้ม “นายยิ้มอะไร สะใจมากใช่ไหม ที่แผนการของนายสำเร็จนะ”
“เปล่า! “ชานนท์ปฏิเสธก่อนจะกลับไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีก “คือๆ ฉันๆ ไม่ได้ขำในความสะเหร่อของนายหรอกนะ…แต่ฉันขำที่เห็นนายโกธร”
“ทำไม ฉันโกธรแล้วทำไม”
“เวลานายโกธร..น่ารักชะมัดยาดเลยรู้ตัวรึเปล่า” ชานนท์พูดไปยิ้มไปจนอีกคนถึงกับควันออกหู
“นี่ นายยย!….”
“เดี๋ยวๆ จุๆๆ…..โกธรก็น่ารัก ยิ้มก็สดใส” ชานนท์เว้นจังหวะให้สายตาทำงาน “รู้ตัวไหม เวลาที่นายยิ้ม ฉันเห็นหัวใจของนายนะ ไม่ใช่ริมฝีปาก” ชานนท์ก้มกระซิบ “ถามจริงๆ นายใช้หัวใจยิ้มแทนริมฝีปากให้ฉันเพียงคนเดียวใช่ไหม”
อนุชัยหน้าแดงใช้ข้อศอกดันกระแทกเขาออกให้ไกลและขณะกำลังจะหันหลังเดินหนี
“นี่เดี๋ยวดิ! ฉานนออกเสียงชื่อนายได้แล้วนะ นาย อนุชายยยยยยย”
อนุชัยหันขวับพุ่งกระชากคอเสื้อกลับเข้าสู่ท่าเดิมอีก มือที่มีผ้าพันแผลกำแน่นจนสั่นไปพร้อมกับใบหน้าราวกับสีเลือดข้นๆ “ฉัน ไม่ ใช่ เมีย น้อย ของ นาย”
“อนุชัย อนุชัยฉันออกเสียไม่ถูกรึไงเล่า” ชานนท์รีบสวนกลับเร็วๆ
“ไหนลองพูดใหม่อีกทีดิ…”
“อนุ……..ชะ ชะ ชะ ชัย”
“เออค่อยยังชั่วหน่อย” พูดจบอนุชัยก็หมุนตัวเดินจากไป แต่ขณะที่กำลังจะลับมุมห้อง เสียชานนท์ก็ดังขึ้น
“จะยิ้มให้ฉันอีกสักหน่อยไม่ได้รึไงวะ!”
อนุชัยจึงยกนิ้วกลางที่มีผ้าพันแผลให้ 1 ดอก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชานนท์จึงดังขึ้นมาอีกรอบ “ฮาๆๆๆ….บ้าเอ้ย….แม่ง!เจ็บปวดชะมัดยาดเลยวะ”
หลังจากเสร็จธุระกับอาจารย์พิชัย คุณหญิงพวงพรจึงเร่งให้ชานนท์ขับรถมาส่งที่โรงพยาบาลของเธอบนถนนพระราม 9 หลังจากเธอหายเข้าไปในห้องแล็บ ราวครึ่งชั่วโมง “ชาย…กลับบ้าน” เสียงพูดสั่นๆ ที่เธอไม่อาจปิดบังก็ทำให้ชานนท์ใจคอไม่สู้ดี แต่ก็ยังอดทนเดินคู่กับเธอไปยังอาคารจอดรถเงียบๆ
“คุณแม่เป็นอะไรรึเปล่าคะ เหมือนจะไม่ค่อยสบายเลย” ชานนท์ถามขณะที่ทั้ง 2 อยู่ภายในรถเรียบร้อยแล้ว
คุณหญิงพวงพรไม่ตอบ ใบหน้าที่ซีด ก็ยังเป็นสีขาวสด เธอเป่าลมออกมาทางปากหลายครั้งต่อหลายครั้ง จนชานนท์อดทนรอไม่ไหว “คุณแม่คะ…..”
“ชายฟังแม่ให้ดีๆ นะลูก….ผลเลือดของอนุชัยเป็น AB RH- (กรุ๊ปเลือด AB RH Negative)” พูดจบเธอก็เป่าลมออกทางปาก…..แต่ชานนท์ยังเอ๋อ!….นิ่ง แบบคนตามไม่ทัน
“เป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากและยังเป็นกรุ๊ปเลือดเดียวกับ อาอนุชาติ” คุณหญิงพวงพรอธิบายช้าลง คราวนี้ชานนท์ถึงกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง
“นั้นก็หมายความว่า”
“ใช่!…สิ่งที่แม่สันนิฐานไม่น่าจะผิด รอแค่เพียงผลดีเอ็นเอเท่านั้น”
“คุณแม่คะ….”
“ชายคือสปอร์ตไลท์ ส่องแสงสว่างไปที่พี่เขาให้มากที่สุดนะคะลูก ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยเมื่อไร บ้านตระกูลเชาว์จะได้รับทั้งข่าวดีและข่าวร้ายไปพร้อมๆ กัน”
“คุณแม่”
“รีบจัดการเรื่องโอนหน่วยกิจมาเรียนกับพี่เขาให้เร็วที่สุด เพราะอนุชัยคือลูกชายของน้องสาวแม่เกือบ 95 เปอร์เซ็นต์แล้ว”
“คะๆ….” ชานนท์ตอบสั้นๆ ก่อนความเงียบจะหล่อเลี้ยงพวกเขากระทั้งกลับถึงบ้านสายสกุลในซอยพหลโยธิน 24
(นายเกิดมาเพื่อฉัน หรือฉันเกิดมาเพื่อนายกันแน่นะ ไอ้บ้า!เอ้ย)