นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อนุชาย2 บทที่1 เมามาย
อนุชาย2 บทที่1 เมามาย
ถึงเดียร์เนียล บูโตะ
ในเมื่อความรักของเราเดินทางมาจนสุดปลายทาง เราก็ควรหยุด บ้านลอฟท์เลิฟถ้าปล่อยทิ้งก็รังแต่จะสร้างความเจ็บปวดไม่ต่างจากปติมากรรมแห่งรัก เมื่อเห็นยามใดก็เจ็บปวดยามนั้น จะ 100 ปี หรือ 1000 ปีความเจ็บปวดก็ยังอยู่ครบ
อย่าพยายามตามหาฉัน… ต่อจากวันนี้เป็นต้นไปหน้าที่ลูกเขยนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องต้องผ่านไปให้ได้ สำหรับนกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้ มันจับคอนไหนก็หลับ จะรังไม้ รังปูนหรือรังอะไรก็คือบ้าน อย่าได้ห่วง (ถ้าห่วง) จงปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดี หน้าที่ของสามีไม่ใช่เอาไว้ปฏิบัติกับผู้ชาย แต่จงเป็นให้กับสตรีจึงจะถือว่าเป็นสามีที่สมบูรณ์แบบ
ขอบใจมากที่ไม่ยอมให้ฉันเป็นอนุชาย ขอบใจจริงๆ
ทิมมี่ บูโตะ
เมามาย…“สิ่งของส่วนที่เป็นของคุณชาย นายน้อยสั่งขนไปเก็บไว้ที่โกดังในบ้านตระกูลเชาว์เรียบร้อยแล้วครับ” รปภ.แก่ผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกรายงาน จบเขาก็ก้มหน้าถอยห่างไปยืนนิ่งๆ ราวกับรอรับคำสั่ง
“นุ นุ นายอยู่ไหน….” ชานนท์เปิดประตูรถ มือที่ถือจดหมายสั่นระริก แดดตอนเก้าโมงเกือบๆ จะเป็นสีขาว ใบต้นแคนากำลังร่วงพร้อมๆ กับดอกสีขาวรูปลำโพง เมื่อโดนสายลมบางๆ ใบเล็กๆ สีน้ำตาลก็ปลิดปลิวลอยเคว้งคว้างขึ้นไปบนท้องฟ้าสุดท้ายพื้นดินชุ่มๆก็เป็นบ้านหลังสุดท้ายของมัน ชานนท์ทรุดนั่งอย่างคนหมดหนทางอยู่ตรงนั้น ใบหน้าหมองคล้ำเจียนจะระลึกเป็นสีดำกำลังถูกน้ำตาละเลงจนเละ
“อ๊ากๆๆๆ ฉันรักนาย ฉันขาดนายไม่ได้ นุ อนุชัย อนุชายยยยยยยยย”
จดหมายในมือถูกย่อยเป็นเศษกระดาษก่อนจะหว่านด้วยอารมณ์สับสนราวกับเกล็ดหิมะที่มาพร้อมกับความหนาวเหน็บ
“ฉันจะพลิกโลกเพื่อตามหานาย….อนุชัย” ชานนท์กรอบเกร็งล้มตัวนอนนิ่ง รปภ.ใช้โทรศัพท์มือถือสั่นๆ ไม่นานรถเบนซ์สีดำจากบ้านสายสกุลก็มาถึง ทันทีที่คุณหญิงพวงพรก้าวขาลงมายืนจนรู้สึกมั่นคง เธอก็ยกมือขึ้นปิดปากร้องไห้ที่ไร้เสียงเห็นเพียงอาการสะอื้นเท่านั้นที่โคลงเคลงร่างท้วมๆ ไปมา เธอใช้สายตาชุ่มๆ ไล่สำรวจเศษซากปรักหักพังไปรอบๆ มันคุ้นชินแต่ก็ไม่เหลืออะไรให้คุ้นตาเลยสักนิด ดร.ชวนนท์ สายสกุล เมื่อเปิดประตูรถก็ตรงดิ่งเข้าไปหาซากชีวิตที่กำลังนอนกอดขวดชีวาสใต้ต้นแคนา แดดใกล้เที่ยงเผยให้เห็นความสุขุมที่กำลังยืนจ้องบุตรชายอย่างคนมีสติ กระทั้งชานนท์ลืมตาขึ้นมามองผ่านๆ แต่เขาก็ยกขวดชีวาสขึ้นจรดริมฝีปากแบบไม่ใส่ใจ ดร.ชวนนท์จึงค่อยๆ นั่งลงพลางใช้มือเบรกชีวาสเอาไว้ก่อน
“ชาย…ชายต้องมีสตินะลูก”
“พ่อ….” ชานนท์เอ่ยคำเดียวก่อนจะฝืนข้อมือกระดกเหล้าชีวาสจนเห็นลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงอย่างฝืนๆ “พ่อ….พ่อ….พ่อ” เขาเอ่ยสรรพนามแทนผู้ชายตรงหน้าจากเบากระทั้งสุดเสียง “พ่อออออออ”
“ชิมะดีไม่พอสำหรับพวกแกหรืออย่างไร” ดร.ชวนนท์ก้มกระซิบแบบคนเอาจริง…ชานนท์ลืมตายกตัวเองขึ้นนั่งพิงต้นแคนาจนลำตัวกับขาอยู่ในมุม 90 องศา เขาจ้องตา ดร.ชวนนท์ แบบท้าทายสุดชีวิต
“ชิมะ ไข่มุกแห่งชิมะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า….เขาไปแล้วพ่อ นุไปแล้ว พ่อได้ยินไหม พ่อได้ยินไหม” ชานนท์กระแทกเสียงดังราวจะตอกหน้าขณะคุณหญิงพวงพรทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนร้องไห้จ้องทั้งคู่อยู่ห่างๆ
“ทำไมพวกแก 2 คนถึงเข้าใจอะไรยากนักนะ….” ดร.ชวนนท์พูดพร้อมกับลุกหันหลังให้
“ใช่ครับ….ความรักแบบเรา คุณพ่อไม่มีวันเข้าใจ….ไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้”
ดร.ชวนนท์ ยืดลำตัวหายใจเข้าท้องก่อนจะปล่อยทิ้งทางปากยาวๆ ดวงตาทิ้งระยะปนไปกับแดดสีขาวจนรู้สึกอิ่ม เขาจึงหันกลับมานั่งลงตรงหน้าลูกชายอีกครั้งก่อนจะจับใบหน้าหมองจมดำให้มองตัวเอง “ถ้าชายมีลูกกับหนูกุ๊งกิ้งเมื่อไร พ่อจะปล่อยชายเป็นอิสระ” พูดจบ ดร.ชวนนท์ก็หันหลังสาวเท้าไวไวกลับไปเปิดประตูหมุนตัวเข้าไปนั่งในรถทันที
“คุณหญิงกลับบ้าน”
………แดดสุดท้ายกำลังเผาร่างชานนท์ที่หลับตั้งแต่บ่าย เขาไม่ได้ลุกไปไหน แม้แต่ รปภ.และบอดี้การ์ดอีก 4 คนที่เพิ่งขับรถมาถึงก็ทำได้แค่มองเขาอยู่ในระยะไกลๆ เมื่อความมืดเข้าครอบคลุมเกือบจะเป็นสีดำชานนท์ก็ลุกเดินสะเปะสะปะไปรอบๆ บริเวณที่เคยเป็นบ้าน Loft Love
“ตรงนี้คือเคาน์เตอร์ฝรั่งที่นายยืนทำอาหารให้ฉัน ทางนั้นคือเป็นโต๊ะทำงาน 2 ตัว ใกล้กับเศษกระเบื้องสีเทาคือโซฟาเบทสีครีมที่นายหลับได้ละมุนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น ฮื้อๆ”……… เพล้ง! เสียงขวดชีวาสกระทบกับต้นแคนาจนเหลือเพียงเศษแก้วที่แหลมคม…..สุดท้ายรถเบนซ์สปอร์ตสีดำก็แล่นออกถนนใหญ่หายไปด้วยความเร็วสูง
“เร็วเข้า…”
“ตายห่า!…มือถือคุณชายไม่มีสัญญาณ”
“ไม่มีข้อแก้ตัว เราต้องตามให้ทัน”
……….ทิวาวาน หวานล้ำ……….
………รัตติกาลคืนผ่าน ครางสุขสม……….
……….อิ่มอกอุ่น หอมพวงแก้ม เฝ้าดอมดม……….
…………นัยน์ตาคม คม ปรากฏฉันนิรันดร์กาล……….
………นกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้เจ้าเอย………..
……….ใยเมินเฉย ยามเมื่อหัวใจข้าเป็นของเจ้า……….
……..ไหนเทียวบอก เทียวสัญญาว่ารักเรา……..
………..จะครองเคล้าเคียงกายไม่วายวาง………
อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ชานนท์มาค้างกับสมรและศักดิ์ดาที่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี หลายคืนและเป็นหลายคืนหลายวันที่มีเพียงชีวาสแทนอาหาร 3 มื้อ เมื่อสมรกับศักดิ์ดาไม่ยอมปริปาก เจ้ดวงจึงเป็นเป้าหมายต่อไป
“เฮ!….อ้าวแดกๆ เข้าไป คืนนี้ไม่เมาไม่ต้องกลับ” ชานนท์ซวนเซไม่มั่นคงในมือมีชีวาสและอีกหลายขวดตั้งเรียงรายรอบโต๊ะ จนเพื่อนกว่า 10 คนที่ถูกลากคอมาร่วมวงอดสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาไม่ได้
“ไอ้ชายมันเป็นอะไรวะ แต่งงานยังไม่ทันเข้าเรือนหอเลยมั่งเนี้ย”
“คุยอะไรกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า….เพื่อนที่เมืองไทยฉันมีไม่เยอะนักหรอก แต่ฉันก็อยากจะเป็นเพื่อนกับเพื่อนของพวกนายทุกๆ คน ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาเถอะพวกมิตรภาพของเรากำลังเริ่มต้น….ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เฮ้ย!…ชาย ถามตามตรงนะ เกิดอะไรขึ้นวะ” หนุ่มตี๋สวมแว่นราคาสูง แต่งตัวภูมิฐานดึงแขนชานนท์ให้นั่งลงข้างๆ
“ใช่! เป็นถึงลูกเขยนายกรัฐมนตรีน่าจะยินดีไม่ใช่รึวะ” อีกคนท่าทางลูกคนมีฐานะตามขึ้นติดๆ เขาจ้องหน้าชานนท์ราวจะรอตอบกลับ กระทั้ง…
“ยินดีซิ! ดีใจมากๆ ด้วย ก็นี้ไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรายังดีใจไม่พออีกรึ ดู ดู คืนนี้ชายจะโชว์”
สุดท้ายก็เป็นเขาอีกเช่นเคยที่ร้องไห้จนบอดี้การ์ดต้องหามส่งโรงแรม
“ถ้าพวกนายพาฉันกลับบ้าน พวกนายตาย”
“ครับๆ คุณชาย”
จากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน ชานนท์ สายสกุล ก็ยังเป็นซากเน่าๆ ตั้งแต่เช้ายันค่ำเกือบทุกวัน วนเวียนชีวิตไม่ขังตัวอยู่ในโรงแรมก็ขลุกเมามายอยู่กับเพื่อนในผับในบาร์มืดๆ ใบหน้า ดาริกา ชีวาวัฒนะ หลังจากล้างคราบเครื่องสำอางจะสวยเพียงใด ขาวแค่ไหน ใสจนเห็นเส้นเลือดเลยหรือเปล่าเขาไม่สน จนในที่สุดความอดทนของผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็สิ้นสุดลง
ภายในห้องนอนชั้น 3 ของบ้านพักอาศัย 3 ชั้นทรงสเปนในซอยพหลโยธิน 24 ที่ชื่อ “บ้านสายสกุล” อีก 5 นาทีจะ 9 โมงเช้า
“ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาของคุณนะชานนท์” ดาริกาคำรามเสียงในลำคอ สักพักโทรศัพท์มือถือก็ถูกเปิดใช้งาน “ฮัลโหล ฉันต้องการคุยกับเลขาคุณพ่อคะ…เอ่อ! หมายถึงท่านนายกนะคะ”
(ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ)
“กิ้งเองคะ”
(อ้อ!…คุณกุ๊งกิ้ง….รอสักครู่นะคะจะโอนสายให้)
สักครู่…. (สวัสดีครับหนูกิ้ง…มีอะไรจะคุยกับอาแต่เช้าคะ) เสียงปลายสายเป็นชายลักษณะใจเย็น รอยยิ้มของดาริกาที่เพิ่งตื่นนอนก็ฉายให้เห็น
“กิ๊งอยากจะให้ทีมคุณอาช่วยสืบเรื่องๆ หนึ่ง….ไม่ทราบว่าคุณอาสะดวกกี่โมงคะกิ้งจะได้แวะไปคุยด้วย”
(ด่วนรึเปล่าคะ)
“คะ…..”
(ถ้าอย่างนั้นวันนี้ช่วงบ่ายอาจะเข้าทำเนียบ หนูไปรอพบอาที่นั่นก็ได้คะ)
“ขอบคุณคะ เดี๋ยวกิ้งเลี้ยงกาแฟ”
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า หนูกิ้งยังน่ารักเสมอตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว เออว่าแต่ตาชายจะมาด้วยกันไหมอาจะได้เตรียมที่รอ)
“เปล่าคะคุณอา กิ้งไปคนเดียว”
(OK คะ อาก็ถามไปเรื่อยเห็นกำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
“คุณอาคะ แค่นี้นะคะ” น้ำเสียงดาริกาเริ่มไม่ค่อยดี
(เออ!….คะๆ อาขอโทษแล้วเจอกันคะหนูกิ้ง)
“คะคุณอา สวัสดีคะ” หลังวางสายดาริกาเหม่อลอยไปที่เพดาน เมื่อเสียงลมหายใจถูกปล่อยทิ้งยาวๆ เธอก็ต่อสายเข้ามือถือของอีกคน “ Honey, I really can’t stand…….” สุดท้ายก็ร้องไห้ยาวราวกับโลกที่กำลังดำเนินอยู่ไม่ใช่โลกที่เธอเลือก “you have to wait for me please. Honey please…ฮื้อๆ”
เย็นวันเสาร์ชานนท์เพิ่งจะสร่างจากคืนวันศุกร์ก็นัดทานอาหารเย็นกับอาจารย์พิชัยที่บังเอิญพาภรรยาและลูกมาทำธุระในกรุงเทพฯ…
และที่สวนอาหารสะบันงา บนถนนเกษตร-นวมินทร์ เจ้ดวงโดนชานนท์เล่นงานเรื่องที่อยู่ของอนุชัยไปหลายรอบก็ยังปั้นหน้ายิ้มราวกับไม่มีอะไร อาจารย์พิชัยเลือกเหล้าแบล็คเลเบิ้ลเช่นเคยขณะที่ชานนท์เลือกชีวาส เจ้ดวงเป็นคนกลางและผ่านประสบการณ์มามากจึงเตรียมใจว่าคืนนี้ต้องเกิดเรื่องแน่ๆ กระนั้นการสะกดอารมณ์จึงเป็นเรื่องที่สมควรมากกว่าในเวลานี้ ทั้งคู่คุยกันเรื่องทั่วๆ ไปขณะที่มีอาจารย์สรวงสุดาและลูกๆ ร่วมรับทานอาหารเย็นอยู่ด้วย และขณะที่เวลากำลังจะเข้า 4 ทุ่มหรือ 22.00 นาฬิกา
“พิชัยคะ คุณคุยกับคุณชายต่อเถอะนะคะ เดี๋ยวสรวงจะพาลูกๆ นั่งแท็กซี่กลับบ้านไปก่อน ดูท่าทางแต่ละคนไม่ไหวแล้ว”
ชานนท์เหลือบมองอาจารย์สรวงสุดาขณะกำลังกระดกแก้วชีวาส “เดี๋ยวๆ ครับอาจารย์สรวงชายให้น้องที่นี่ขับรถไปส่งเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณชายลำบากดวงเขาเปล่าๆ” อาจารย์พิชัยรีบดักทาง แต่ก็โดนชานนท์ที่กวักมือเรียกเนยสาวบริกรประจำห้องเบรกทั้งคู่เอาไว้
“เนยๆ”
“คะคุณชาย”
“ให้มานพขับรถไปส่งอาจารย์สรวงสุดากับเด็กๆ ที่บ้านหลังมหาลัยหน่อย”
“ได้คะ”
“อาจารย์มัวแต่หมกตัวอยู่โคราชเลยไม่รู้อะไร ทุกวันนี้เจ้ดวงขยายธุรกิจรับ-ส่งขาเมาแล้วละครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“อ้าวรึ!….ท่าทางจะรุ่งนะธุระกิจเนี้ย”
“ลูกค้ามีปัญหากับตำรวจบ่อยนะครับ ผมว่าเวิร์กนะ”
“ดีเลย….อย่างนั้นถ้าอาจารย์ของเธอเมาก็ให้จอดรถทิ้งไว้ที่นี้ก็แล้วกันนะคะ…พิชัยคะเมาแล้วไม่ต้องฝืนขับรถกลับนะคะสรวงเป็นห่วง”
“ตาบอล ยายบีม…กลับถึงบ้านอย่าลืมอาบน้ำก่อนนอนนะคะ พรุ่งนี้คุณพ่อจะพาไปเที่ยวสวนสยาม”
“ไหว้อาชายซิลูก….ไปนะคะคุณชาย”
“ครับไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวชายจะดูแลอาจารย์ให้เอง”
หลังจากอาจารย์สรวงสุดากับลูกๆ ออกจากห้องไปแล้วแก้วชีวาสกับแบล็คเลเบิ้ลก็ถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์แบบ ทั้งคู่เงียบจ้องหน้ากันไปมากระทั้งแก้ว 2 ใบถูกยกขึ้นชนและดื่มทีเดียวหมดราวจะแข่งขันและข่มกันกลายๆ
“อาจารย์รู้อะไรเกี่ยวกับนุบ้างครับ” ชานนท์เปิดประเด็นพลางจ้องหน้าอาจารย์พิชัยไม่กระพริบ เมื่ออาจารย์พิชัยเล่นลูกเฉยและเบือนหน้าทิ้งสายตาออกไปด้านนอกพร้อมกับยกมือโบกยิ้มให้ภรรยาและลูกๆ ขณะกำลังเข้าไปนั่งในรถ แต่เสียงของชานนท์ที่เริ่มจะยานและยาวก็ดังขึ้นมากระตุ้นอีก “ผมรู้นะระหว่างอาจารย์กับนุไม่ธรรมดา”
“ห่า!….”
“ความสัมพันธ์ของอาจารย์กับนุที่ก่อนจะเจอผมไม่ธรรมดาแน่นอน….เพราะฉะนั้นอาจารย์รู้อะไรเกี่ยวกับเขาพูดออกมาให้หมด” ขณะที่บริกรสาวกำลังจะรินโซดาลงในแก้วชานนท์ก็คว้าขึ้นมาดื่มเป็นแก้วที่ 2 “แต่อาจารย์สบายใจได้เรื่องนี้อาจารย์สรวงสุดาจะไม่มีทางรู้เด็ดขาด ถ้าชายไม่พูด”
“คุณชายเมาแล้วนะครับ ผมว่าเราหยุดดื่มกันก่อนเถอะ”
“อย่าพยายามเลี่ยงประเด็นเลยครับ เสียเวลาเปล่า ผมกับนุเราใช้ลมหายใจเดียวกัน แต่อาจารย์เป็นคนปลุกความเป็นเกย์ในตัวเขาขึ้นมา….ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างเป็นบุญเป็นคุณกับผมเหลือเกิน”
“คุณชายครับ เรื่องของผมกับอนุชัยจบไปแล้ว และเราทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรกัน…ไม่มีอะไรเกินเลย”
“การลูบไล้ ถูๆ ไถๆ จับๆ ลูบๆ คลำๆ ผมก็ว่าถือว่ามีอะไรกันแล้ว เพราะฉะนั้นเพื่อให้เรื่องนี้จบแค่คืนนี้ อาจารย์ก็ต้องบอกผมว่า นุอยู่ไหน”
“คุณชายมันเกินไปแล้วนะ…ผมกับนุถึงจะผ่านเรื่องนั้นกันมา แต่เราก็จบกันไปแล้ว และเวลานี้ผมก็ไม่รู้เรื่องของอนุชัยแล้วด้วย” อาจารย์พิชัยขึ้นเสียงสูงก่อนจะค่อยๆ ลุกยืนค้ำโต๊ะชะโงกหน้าเข้าหาชานนท์แบบจะเอาเรื่อง ชานนท์จ้องตาคู่สนทนากลับอย่างคนไม่เกรงกลัว สาวบริกรเห็นท่าไม่ดีเลยหมุนตัวออกไปยืนหลบด้านนอก
“อาจารย์ก็หล่อใช่เล่นเลยนะ….ยิ่งเวลามีแว่นตาหนาเตอะอยู่บนใบหน้า….ดูเด็กกว่าชายซะอีก”
“ชานนท์ นายยิ่งคุย ยิ่งเมา ก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง” อาจารย์พิชัยดันเสียงลอดไรฟันพลางถอดแว่นวางไว้ข้างๆ
ขณะไม่ทันตั้งตัวชานนท์ก็ดึงโน้มคอเขาไปขโมยจูบและจมช็อกอาจารย์พิชัยไปหลายนาที
กระทั้ง….“ผมเพียงแต่โหยหาริมฝีปากของนุ และผมก็ได้มันจากอาจารย์เวลานี้”
“ชา ชา ชานนท์ นาย นาย นาย….”
“อาจารย์จะไม่รู้เรื่องของนุได้อย่างไรในเมื่อริมฝีปากของอาจารย์ยังมีกลิ่นของเขาชัดเจน…อาจารย์…อาจารย์ต้องบอกผม อาจารย์….อาจารย์ครับ”
“บ้าเอ้ย…นายนะเมามายจนคุยไม่รู้เรื่องแล้วนะ ตั้งสติหน่อยซิ ชานนท์ ชานนท์ ตั้งสติหน่อย” อาจารย์พิชัยกระชากเสียงสูง ด้านนอกบริกรสาวเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงวิ่งฝ่าแสงไฟไปยังอาคารใหญ่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….” อาจารย์พิชัยล้มตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างคนหมดแรงพร้อมกับยกขวดเหล้าแบล็คเลเบิ้ลรินลงแก้วตัวเองเกือบครึ่ง เป็นครึ่งแก้วที่เพรียวๆ เขาหยิบแว่นตาหนาเตอะจากโต๊ะขึ้นสวมก่อนจะยกแบล็คเลเบิ้ลแก้วนั้นแกว่งเป็นวงกลมจนน้ำสีอำพันกลายเป็นวังวนที่ลึกสุดประมาณให้ชานนท์เห็น “อนุชัยเคยบอกว่า แบล็คเลเบิ้ลทำอะไรเขาไม่ได้ นอกจากผม คุณชายจะเชื่อไหม”
“อาจารย์ อาจารย์พูดอะไรออกมา อาจารย์ครับ….”
“ถ้านายคิดจะแข่งกับคนอย่างฉัน นายต้องแกร่งกว่านี้ชานนท์…..นายไม่มีวันรู้เรื่องของอนุชัยแน่ๆ หึ!….เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่นั่นเอง”
แพล้ง!…..ชานนท์ยกขวดเหล้าชีวาสฟาดกับขอบโต๊ะจนแตกกระจายเสียงดังลั่นห้อง….
“นายมันบ้าไปแล้วชานนท์”
“อาจารย์นั่นแหละที่กำลังจะทำให้ชายเป็นบ้า….”
อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเด่นดวงผลักเข้ามา โดยมีหญิงสาวอีกคนยืนหลบในเงามืดนอกประตู
“พอๆ หยุดๆ….พิชัย….คุณชายคะ คุณชายต้องตั้งสติให้ดี ไม่อย่างนั้นเจ้เล่นถึงตำรวจแน่นอน” เด่นดวงดุเสียงดังกะว่าจะข่ม ซึ่งก็ได้ผลในเบื้องต้น
“เจ้คิดจะขู่ผมเหรอ กล้าขู่ ชานนท์ สายสกุล รึไง….” พร้อมกับลุกยืนเอียงๆ เซไปพิงกับผนัง ก่อนบอดี้การ์ดที่เด่นดวงบอกให้รอจะกรูกันเข้ามาสมทบ ความเงียบจับจ้องทุกๆ คน กระทั้งเสียงแหลมๆ ใสๆ ของหญิงสาวที่รอจังหวะดังจากด้านหลัง
“ทุกท่านคะ ขอเราอยู่ด้วยกันสักครู่”
“กิ้ง!….คุณมาได้ ได้ไง” ชานนท์คาดไม่ถึง เขาครองสติจ้องเธอที่กำลังแทรกผ่านเข้าไปยืนด้านใน “กิ้ง….”
“ทุกท่านคะ กรุณาเถอะคะ เขาทำอะไรกุ๊งกิ้งไม่ได้หรอก” ดาริกาพูดช้าๆ ชัดๆ กระทั้งทุกคนรวมทั้งอาจารย์พิชัยถูกประคองออกไป เมื่อประตูกระจกปิดเข้าที่ เพียงลำพังก็ทำให้ทั้งคู่จ้องตากันไม่กระพริบ “ชายคะเราต้องคุยกัน”
“ชายยังต้องคุยอะไรกับกิ้งอีก”
“ทุกๆ เรื่องคะชาย….นั่งลงก่อน คุยกับกิ้ง กิ้งมีหลายเรื่องจะคุยด้วย”
“กิ้งอยากรู้เรื่องของชายมากใช่ไหม ได้ ได้ คืนนี้ไอ้ชาย ไอ้คุณ หรือไอ้เหี้ยคุณ จะพูดให้หมดเปลือก”
“คะ” ดาริการรับปากแน่นๆ พลางพยักหน้าให้ชานนท์นั่งลงฝั่งตรงกันข้าม “ระบายออกมาคะชาย ระบายทุกสิ่งทุกอย่างออกมาให้กิ้งได้รับรู้ เผื่อว่าจะช่วยชายได้บ้าง”
เมื่อชานนท์นั่งลงตามคำสั่ง เขาก็หยิบแก้วแบล็คเลเบิ้ลของอาจารย์พิชัยที่ไม่ทันได้จิบมากระดกทีเดียวหมด “แบล็คเลเบิ้ลทำอะไรนุไม่ได้จริงๆ…กิ้ง กิ้งครับ แบล็คเลเบิ้ลทำอะไรนุไม่ได้เลยเหรอ”
ดาริกานิ่ง เธอทิ้งสายตานำทางให้ชานนท์พูดต่อ
“แฟนชายเป็นผู้ชายครับกิ้ง ที่ผ่านมาทั้งหมดล้วนเป็นเกมการเมืองของผู้ใหญ่ทั้งสิ้น ชาย ชายขอโทษ ฮื้อๆ ชายขอโทษ ชายรักเขา ชายรักนุ …..
………นกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้เจ้าเอย….ถึงจะโผบินสู่ถิ่นแคว้นแดนใด….ไกลสักแค่ไหน…..ถิ่นศัตรูหรือเพชฌฆาต….ข้าก็จะตามเจ้ากลับ….ตัวข้าคือรังหลับ….ตัวข้าจะเป็นคอนเดียว…..ข้าจะลูบหัวแทนคำบอกรักที่ไม่อาจเอ่ย….ข้าจะเขกกะโหลกยามใดที่ไม่ฟัง….ข้าจะยอมให้เจ้าตบหน้าข้าในฐานะภรรยาเท่านั้น….แต่หากเราต้องชก….ข้าก็จะชกกับเจ้าจนกว่าเราทั้งคู่จะตายไปด้วยกัน……….”
ชานนท์พร่ำเหมือนคนกำลังล่องลอย สุดท้าย “….ชาตินี้ทั้งชาติชายคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว…”
“แม้กระทั้งกิ้งใช่ไหมคะ” ดาริกาพูดแต่สายตาก็ยังจับวงหน้าหมองๆ ของชานนท์ไม่กระพริบ
“ใช่ ชายเป็นเกย์…กิ้ง ชายเป็นเกย์ ชายรักอนุชัย ชายอยากอยู่กับเขา ชายอยากตามนกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้กลับรัง ถึงจะเป็นรังเล็กๆ ไม่พอสำหรับ 2 เรา ชายก็จะจับคอนกล่อมให้เขาหลับ เพียงเขาสบายมีความสุข ถึงชายจะทรมานแค่ไหนเพียงแค่ให้ได้เห็นเขาใช้หัวใจยิ้มแทนริมฝีปาก…ชายยอมแลก”
“แม้กระทั้ง…..”
“ชีวิต….”
ดาริกานิ่งจนผิดธรรมชาติของภรรยา เธอลุกเดินอ้อมไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะตบที่หลังมือชานนท์เบาๆ “แล้วทำไมชายถึงไม่สร้างอนุชัยขึ้นมาใหม่ละคะ”
ชานนท์ชะงักราวกับคนเพิ่งตื่นจากฝัน “กิ้งหมายความว่า…..”
ดาริการลูบวนหลังมือชานนท์หลายรอบ “ก็ ก็สร้างลูกของอนุชัยแทนตัวเขาไงคะ”
“กิ้ง….”
“คะกิ้งหมายความว่ากิ้งยอมอุ้มท้องลูกของอนุชัยเพื่อชายและเพื่อเราทั้งคู่”
ชานนท์ตะลึงค้างอย่างคนคาดไม่ถึง สักพักดาริกาก็พูดขึ้นอีก
“กิ้งยอมอุ้มท้องให้ชาย 9 เดือนเมื่อคลอดเราทั้งคู่ก็เป็นอิสระ ชายจะได้อยู่กับคนรัก กิ้งก็จะไปตามทางของกิ้ง…ชายเข้าใจไหมคะ”
ชานนท์นิ่งนานราวกับปล่อยให้ความคิดทำงานกระทั้งแบล็คเลเบิ้ลถูกรินลงแก้วก่อนจะไหลลงลำคอจนเห็นลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงแบบฝืนๆ อีกรอบ “จะให้ไปตามนุที่ไหนในเมื่อเขาไม่อยู่แล้ว”
ดาริกายิ้มบางๆ ก่อนจะเปิดกระเป๋าใบเล็กๆ ที่ห้อยศอกมาด้วย…เธอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาคลี่วางตรงหน้า ชานนท์ก้มใช้สายตาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยง
“กิ้ง…กิ้ง….”
“กิ้งเป็นลูกสาวใครคะชาย….อะไรที่อยากรู้กิ้งก็ต้องสืบจนถึงต้นตอ….นี่คือเอกสารการฝากสเปิร์มของชายกับอนุชัยใช่ไหมคะ”
“กิ้ง…..”
“ชายคะ กิ้งก็มีภูมิหลังและกิ้งเองก็ต้องการชีวิตของกิ้งคืน ไม่ใช่ต้องฝืนอยู่กับคนที่กิ้งไม่ได้รัก กิ้งอยากเป็นอิสระและกิ้งก็คิดว่าชายต้องการอยู่กับคนที่ชายรักเช่นกัน”
ชานนท์นึกถึงคำพูดของอนุชัยในวันที่รู้ว่านาราแอบไปแท้งขึ้นในหัว….
(“คุณ….นายมีทั้งพ่อ มีทั้งแม่ มีน้องสาว ผิดกับฉันคนละโลก…ฉัน….เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกและวันนี้สวรรค์ก็ส่งเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นจิตวิญญาณ เป็นอีกชีวิตหนึ่งของฉัน…มัน…มันเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ”) สุดท้ายรอยยิ้มที่เห็นน้ำรื่นๆ อาบเปลือกตาก็ผวาดึงดาริกามากอด นานกระทั่งหัวไหล่ของเธอรับรู้ถึงความชื้น เสียงปนสะอื้นของชานนท์จึงค่อยๆ ดังขึ้น “ 9 เดือนกับการเป็นแม่ของลูก กิ้งไหวเหรอ”
“ 9 เดือนสำหรับการเป็นลูกผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ไม่นานหรอกคะชาย กิ้งทำได้”
“ทำไมกิ้งต้องทำให้ชายอ่อนแอ ทำไม ทำไม”
“กิ้งเชื่อ 9 เดือนชายรอคนรักไหวอยู่แล้วดีกว่าจะรอนกป่าที่ไม่มีวันกลับตลอดชีวิต….”
“กิ้ง กิ้ง กิ้ง…”
“เป็นอันว่าเรา 2 คนตกลงกันแล้วนะคะ….” ดาริกาผลักชานนท์ออกพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เขาแบบเด็กๆ “กิ้งเชื่อว่า 9 เดือน ชายรอไหว OK ไหม”
ชานนท์พูดไม่ออก จนดาริกาดึงมือให้ลุกตาม เมื่อทั้งคู่เสมอภาคในแสงไฟสีส้ม เธอก็ยื่นมือขอจับตกลงอย่างเป็นทางการ
“ตกลงครับกิ้ง ขอให้ได้นุกลับมา ชายยอมแลกกับทุกๆ อย่าง”
“คะ ดีคะ พรุ่งนี้ชายพักสักวัน วันจันทร์เราถึงจะเริ่มต้น”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณกิ้งมากๆ ที่เข้าใจ”
และคืนนั้นหลังจากดาริกากลับไปพร้อมกับบอดี้การ์ดเรียบร้อยแล้ว ชานนท์ก็เดินเข้าไปหาอาจารย์พิชัยที่ยืนสูบบุหรี่ราวกับรอดูเหตุการณ์อยู่ที่รถใต้ต้นหูกวาง
“อาจารย์ครับ”
“หึ…..ว่าไง” อาจารย์พิชัยโยนบุหรี่ลงพื้นพื้นพร้อมกับใช้เท้าขยี้จนไม่เหลือชื่อ
“แบล็คเลเบิ้ลไม่ทำให้นุเมาแต่เป็นอาจารย์เท่านั้นใช่ไหมที่เขาเมามายไม่จบสิ้น”
“ยอมรับว่าแรกๆ ผมรักเค้าไม่ต่างกับคุณ แต่เวลานี้อนุชัยรักคุณชายจนยอมเสียสละตัวเองเพื่อหลีกทางให้คุณชายเป็นลูกผู้ชายสมบูรณ์แบบ คุณชายควรจะสมบูรณ์แบบเพื่อเขานะ” ทั้งคู่นิ่งในเงามืดสักพัก “ผมกับอนุชัยไม่มีอะไรลึกซึ้งกัน คุณชายเข้าใจด้วยนะครับ”
“ชายต่างหากที่ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ปลุกความเป็นเกย์ในตัวนุตื่นขึ้นมาพบกับชาย ไม่ว่านุจะขุดรูอยู่ หรือทำรังอยู่บนปุยเมฆ ชายก็จะตามเขากลับ นกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้จะต้องกลับรัง Loft Love House ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
“คุณชายจะสร้างบ้านหลังนั้นขึ้นมาใหม่เหรอ”
“แน่นอนครับอาจารย์ เพราะมันเป็นบ้านหลังแรก หลังเดียวและจะเป็นหลังสุดท้ายสำหรับเรา…อาจารย์ช่วยเป็นวิศวกรออกแบบให้ชายอีกครั้งนะครับ”
“อื้อ!….รู้สึกว่า ที่บริษัทเอเชี่ยนกรุ๊ปจะมี File งานเก่าๆ อยู่นะ เดี๋ยวๆ อาทิตย์หน้าจะโทรให้เกรียงศักดิ์จัดการให้” พูดจบชานนท์ก็พุ่งเข้าไปกอดพร้อมกับไซ้ซอกคออาจารย์พิชัยราวกับความเมามายนำทาง
“กลิ่นของอนุชัยยังอยู่ครบ อาจารย์ช่วยไปส่งชายที….”
“คุณชาย…”
“นะครับ….แบล็คเลเบิ้ลคงทำอะไรนุไม่ได้จริงๆ นั้นแหละนอกจากอาจารย์” ชานนท์เสียงสั่นพร้อมกับดันเป้ากางเกงถูเป้ากางเกงอาจารย์พิชัยจนตื่นตัว “นะครับ”
“ได้ ได้ แต่ผมจะไม่ยอมเป็นอนุชายให้คุณชายเหมือนกับอนุชัยเด็ดขาด”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….จริงๆ แล้วผมชอบชีวาสมากกว่า….ไม่ใช่แบล็คเลเบิ้ล….อย่าเคลิ้มครับอาจารย์“
“คุณชายเล่นซะขนลุก…ว่าแต่ที่คุณกุ๊งกิ้งมาเป็นเรื่องดีใช่ไหม ดูท่าทางคุณชายมีความสุขขึ้นเยอะ”
“เป็นความลับครับอาจารย์”
“OK…ไปๆ ไหวไหมผมจะไปส่งที่บ้านสายสกุล….”
จบ อนุชาย2 บทที่1 เมามาย