อนุชาย2 บทที่10 รอคอย
อนุชาย2 บทที่10
อีก 12 นาทีจะ 1 ทุ่มตรง
คอมพิวเตอร์ถูกเปิดค้างไว้ยังไม่ได้ใช้งานแบบจริงๆ จังๆ ในหัวเต็มไปด้วยโลกของความเจ็บปวดที่ลบไม่หลุด ภาพเก่าๆ ภาพซ้ำๆ วนเวียนเรียกน้ำตาได้ทุกๆ 10 นาที ขืนปล่อยให้ตัวเองโดดเดียวและสิ้นหวังอยู่แบบนี้ อาจจะมีสักเสี้ยวนาทีที่มัจจุราชมากระชากวิญญาณลงนรกเป็นแน่….อนุชัยเดินวนเวียนรอบโต๊ะทำงานในห้องพักราวกับหนูติดจั่นกว่าชั่วโมงก่อนจะหันหลังตรงไปยังตู้เย็นในครัวพร้อมกับดึงกระดาษโน๊ตที่เขียนด้วยลายมือห่วยๆ ของปกรณ์กลับมานั่งกดเลข 10 หลักลงมือถือตัวเอง
“ฮัลโหล….”
(นายเป็นไงบ้าง หายปวดหัวรึยัง…ถ้าไม่ไหวฉันวางยาพาราไว้หลังตู้เย็นนะ…) ปกรณ์บอกเร็วๆ แบบคนมีประสบการณ์
“………” อนุชัยอึ้งในความรอบครอบ เขายิ้มรื่นๆ จนพูดไม่ออกไปหลายนาที
(ฮัลโหล นายเป็นไรหรือเปล่า…ทานอะไรหรือยัง…)
“เปล่าๆ….ช่วยจองห้องหมายเลข 28 ไว้ให้ฉันที….เราจะได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน”
(ห้องหมายเลข 28 ไม่ว่างแล้ว เพื่อนเจ้ดวงจากโคราชเมาตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงด้วยซ้ำ) ปกรณ์บอก…
“เพื่อนเจ้ดวงมาจากโคราชเหรอ ใครกันนะ”
(ไม่รู้ดิ….ตี๋ๆ ใส่แว่นหนาเตอะแบบคนแก่ แต่ดูดีใช้ได้….สงสัยทะเลาะกับเมียมาละมั่ง เห็นพูดวกไปวนมาจนฟังไม่รู้เรื่อง….) เสียงปกรณ์หายไป อนุชัยที่กำลังรอฟังจึงนิ่งตาม (มีบ่นวนคล้ายจะเรียกเป็นชื่อนายด้วย…ฉันถามตรงๆนะ ใช่!กิ๊กนายหรือเปล่า….อย่าบอกนะว่าใช่นะ….)
อนุชัยพอประมวลสรุปได้จึงยิ้มให้ความว่างเปล่าสักครู่ “เดี๋ยวฉันไปหา”
(นี่ นี่….สรุปเป็นกิ๊กนายจริงๆ รึ!….ทำไมนายถึงร่านเกินหน้าตาแบบนี้ หา!)
“เออน่า!….คืนนี้นายก็อย่าลืมกอดฉันให้แน่นๆ ก็แล้วกัน…ไม่อย่างนั้นฉันจะร่านกับเขาอีกคน”
(…..นายอย่าท้าทาย Professional of sex อย่างฉันอนุชัย)
“เฮ้อๆ….พูดออกมาได้ Professional of sex…ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
(นายขำฉันเหรอ จะบอกให้นะ ฉันโดนเทรนเรื่องพรรค์นี้มาตั้งแต่ 12, 13 ปี…ต้องการแบบไหนสั่งได้ ไบ-คิงส์-ควีน-หรือว่าชายแท้เต็มตัว)
“แล้วทำไมเมื่อคืนนายถึง….”
(นายต้องสมบูรณ์แบบสำหรับคุณชายบ้านสายสกุลคนเดียว….จำให้ขึ้นใจซะเด็กโง่)
“นายมีสิทธิ์อะไรมาเอ่ยชื่อคนๆ นั้นให้ฉันเจ็บปวด…นายเป็นอะไรกับฉัน ถือดีอะไร นายมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ” อนุชัยขึ้นเสียงแทบล้มทั้งยืน
(นายฟังฉันให้ดีๆ นะอนุชัย….ถ้าคุณชายบ้านสายสกุลไม่รักนายจริงๆ เขาไม่เสี่ยงชีวิตแอ่นหน้าอกรับกระสุนแทนนายหรอก…และ 15 ปีที่ผ่านมาเขาอยู่ได้เพราะว่าเขามีนายอีกคนอยู่ข้างๆ เกือบตลอดเวลา)
“ปกรณ์ นาย นาย”
(เชื่อฉันดิ…ที่นายกำลังเป็นบ้าในเวลานี้…ต้องมีอะไรสักอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน ฉันมั่นใจสุดๆ)
อีก 1 ชั่วโมงต่อมาที่สวนอาหารสะบันงา
โตโยต้าคัมรี่สีบลอนเงินวนเข้าไปจอดใต้ต้นหูกวางที่ใบกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานทั้งต้น เมื่อมองในเวลานี้ถึงแดดสุดท้ายจะลับขอบฟ้าไปแล้วแต่สีแห่งการบอกลาก็ยังเด่นชัดในเงาสีดำ อนุชัยปิดล็อกรถด้วยท่าทีเนือยๆ
“มาท่านเดียวหรือครับ” เด็กรับรถที่เพิ่งเริ่มงานวันแรกถาม อนุชัยยิ้มให้ก่อนจะตรงไปยังห้องหมายเลข 28 อย่างคนไม่ใส่ใจ กระทั้งแสงไฟสีเหลืองภายในสะท้อนอาบแผ่นหลังของคนคุ้นเคยที่กำลังนั่งเหม่อๆ มองฝ้าเพดาน…ในมือถือแก้วที่เหลือน้ำสีอำพันรองก้นอยู่นิดๆ เขาอยู่คนเดียวขณะที่บริกรคนอื่นๆ ไม่รู้อยู่ที่ไหน ปกรณ์เองก็ยังไม่เห็น เขาจึงถือวิสาสะผลักประตูอลูมิเนียมอบสีดำเข้าไปทักทาย
“อาจารย์ครับ….”
อาจารย์พิชัยหันใบหน้าสีแดงที่มีแว่นหนาเตอะแบบคนแก่มองมาที่เขา “เรียกๆ พี่เถอะๆ นะ….ขอร้องๆ ละ” เสียงวิงวอนเบาบางราวกับเสียงกระดิ่งประกอบกับแววตาอมมรสุมจนแทบจะสำลักออกมาให้เห็นดึงอนุชัยไปนั่งลงตรงหน้าเร็วขึ้น แบล็คเลเบิ้ลถูกเติมลงไปในแก้วที่ถืออยู่ในมือ และก็เป็นไปตามคาด “ดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อย” แก้วใบนั้นก็ถูกยื่นต่อให้เขาตรงๆ ขณะที่อนุชัยกำลังจะเอื้อมมือไปรับ ปกรณ์ก็ผลักประตูเข้ามาเห็นเข้าพอดี
“เดี๋ยวรอสักครู่ครับ ผมจะไปเอาแก้วอีกใบมาให้”
อาจารย์พิชัยขึ้นเสียงดังใส่แบบคนเมาเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ “ไม่ต้องๆ คืนนี้ขอดื่มเหล้าแก้วเดียวกับอนุชัย อยากดื่มแก้วเดียวกาน นายม่ายต้องยุ่ง”
อนุชัยผงกหัวให้ปกรณ์เข้าใจ “นายทานอะไรหรือยัง” เขาหันไปถามด้วยภาษาที่คุ้นเคยจนอีกคนถึงกับแก้วสั่น
“ว่าแต่นายเถอะจะกินอะไรดี เอาข้าวต้มปลากระพงไหม ฉันจะจัดมาให้” ปกรณ์ถามกลับก่อนเสียงอาจารย์พิชัยตามขึ้นติดๆ
“นี่ นี่ อย่า บอก นะ ว่านาย 2 คน รู้จักกาน นาย 2 โคน รู้จักกันได้อย่างไร อย่าบอกนะว่า…”
“พี่ชัยครับ….” อนุชัยปราม เขากดสายตาค้างนัยน์ดวงตาที่กำลังบ้าสักพักก็คว้าเหล้าในมือหันมาดื่มตรงตำแหน่งขอบปาก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….ต้องแบบนี้ มันต้องแบบนี้….”
“นายไม่ทานอาหารกับฉันเหรอ…เจ้ดวงไม่ว่าหรอก ฉันอยากมีเพื่อนนะ” อนุชัยไม่วายหันไปถามปกรณ์อีก
“ถ้าอย่างนั้นฉันจัดมา 2 ที่ก็แล้วกัน” ปกรณ์บอก มิวายถามอาจารย์พิชัยที่กำลังสาละวนกับขวดเหล้า “ไม่ทราบว่าท่านจะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”
“ไม่ต้องๆ นา นาย ออกไปได้แล้ว” อาจารย์พิชัยเสียงดังพร้อมกับโบกมือไล่ เมื่อปกรณ์หายออกจากห้องไปแล้ว อาจารย์พิชัยก็เดินอ้อมเซๆ มาสวมกอดอนุชัยจากด้านหลัง ปากที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไล้ท์เลื้อยลามจากติ่งหูสู่ลำคอแบบคนกำลังคลั่งหนัก “พี่ น่า จะเลือก นายตั้ง แต่แรก” น้ำเสียงของเขาเริ่มเข้าสู่โหมดสะท้าน
อนุชัยนิ่งอ่านพฤติกรรม จนกระทั้ง “พี่มีปัญหากับอาจารย์สรวงมารึครับ”
อาจารย์พิชัยผงะสะดุ้งตาค้างราวกับคนเพิ่งตื่น….เขายืดตัวแอ่นอกเงยหน้ามองแสงไฟนาน…. “ถ้านายจับได้ว่าเมียตัวเองมีชู้….นายจะทำอย่างไร”
“พี่ชัย…..”
“นาย นายจะทำอย่างไรนุ นายจะทำอย่างไร…..นาย นายจะให้พี่ทำอย่างไร”
“พี่…พี่ครับ…พี่ชัยครับใจเย็นๆ” อนุชัยลุกไปช้อนร่างที่ซวนเซไปชนกับผนัง “พี่ รู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์สรวง….”
“เธอรีบร้อนจนลืมมือถือไว้ในห้องเรียน พี่เช็คไลน์แชทจึงสะกดรอยตามไปห่างๆ….ครูสาวกับครูพละรุ่นลูกขับรถเข้าไปในม่านรูดตอนพักเที่ยงมันจะหมายความเป็นอย่างอื่นได้อย่างนั้นเหรอ” อาจารย์พิชัยเล่ายาวก่อนจะวนไปจบที่เหล้าเพรียวๆ อีกแก้ว….อนุชัยมองอย่างคนเวทนาเฉพาะปัญหาของตัวเองที่กำลังเผชิญอยู่ หัวใจก็ว้าเหว่เย็นวูบวาบแทบจะไปต่อไม่เป็น อาจารย์พิชัยลุกตาลอยๆ ฉุดแขนนั่งลงข้างๆ พลางดึงมือบีบนวดอยู่พักใหญ่ “คืนนี้พี่ต้องการใครสักคน”
“พี่….”
“ไปส่งพี่ที่บ้านที…..” อาจารย์พิชัยใช้น้ำเสียงระดับวิงวอน แต่บังเอิญปกรณ์ผลักประตูถือชามข้าวต้มเข้ามาได้ยินเข้าพอดี
“นายต้องทานข้าว….รอฉันที่นี้ อย่าไปไหนเด็ดขาด” ปกรณ์ก้มกระซิบ ก่อนจะเสนอตัวเสียงดัง “เชิญครับท่านเดี๋ยวผมจะขับรถไปส่งเอง”
อาจารย์พิชัยยืนเซๆ ราวจะเอาเรื่องแต่เมื่อเห็นแววตาบอกความนัยก็ซี๊ด!ปาก
“อนุชัยยังไม่ได้ทานอะไรเลยปล่อยเขาไว้ที่นี่เถอะ เชิญครับท่าน” สุดท้ายอาจารย์พิชัยก็ถูกประคองออกไปข้างนอกและขณะที่รถกำลังจะออกตัว เจ้ดวงก็ปรากฏตัวดักทางไว้ก่อน ปกรณ์จึงเลื่อนกระจกคุยด้วยสั้นๆ เมื่อรู้เรื่อง….BMW ก็แล่นออกจากลานจอดไปเงียบๆ…และเมื่อใช้ความเร็วปกติอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี
“นาย ชื่อ ปกรณ์ใช่ไหมรูปหล่อ” มือไล้ท์ลูบต้นแขนกระทั้งไปจบที่ต้นขาของเขา….
“ครับท่าน” ปกรณ์พูดอย่างเคยชินในหน้าที่เดิม
“เรียกฉันว่าพิชัยก็ได้….ว่าแต่นายเถอะมีแฟนรึยัง” เสียงอาจารย์พิชัยเกือบจะหายในคำสุดท้าย
“พิชัยครับ…ผมรู้ว่าคุณเป็นคนปลุกความเป็นเกย์ในตัวอนุชัย ผมไม่อยากให้เขาจบที่คุณ ผมอยากให้เขาสมบูรณ์แบบสำหรับคุณชายบ้านสายสกุลเท่านั้น ตัดใจจากเขาเถอะนะ ผมขอร้อง” ปกรณ์ใช้น้ำเสียงเป็นทางการ อาจารย์พิชัยชักมือกลับแบบคนหัวเสีย แต่ปกรณ์ก็จับมือเขามากุมเป้ากางเกงของตัวเองพลางบีบกดหลังมือขยำไปเรื่อยๆ
“ผมโดนเทรนมาเพื่อเรื่องพรรค์นี้โดยเฉพาะ” ปกรณ์บอกพร้อมกับสบตาบอกความนัยนิดๆ “คืนนี้จะให้ผมเป็นไบ-คิงส์-ควีน ผมทำได้ดีทุกๆ หน้าที่ ระบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ข้างในลงที่ผมแต่อย่าไปจบที่เขา”
มืออาจารย์พิชัยลุกหนักกว่าเดิม “จะว่าไปแล้วนายกับอนุชัยก็มีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย….ถ้าต้องการจะทำให้ฉันพอใจ ฉันอยากระบายในสิ่งที่ฉันเพิ่งพบเห็นมา….นายเป็นควีนให้ฉันได้ไหม” อาจารย์พิชัยนิ่งกัดริมฝีปากรอคำตอบ “นายเป็นเมียให้ฉัน แล้วหน้าที่ของนายก็จะจบ…”
ปกรณ์ชะลอรถจอดข้างทางพลางถอดแว่นที่หนาเตอะของอีกคนเสียบไว้ที่เก็บอย่างชำนาญ “ผมขาดสิ่งนี้มานานเหลือเกิน” พูดจบทั้งคู่ก็แลกลิ้นจนความเมายกระดับเหนือแบล็คเลเบิ้ลขึ้นไปหลายเท่า
“ฉันอยากจะทำกับนายบนเตียงนอนภรรยาฉัน….”
“…..จนกว่าคุณจะหนำใจ” ปกรณ์กระซิบพร้อมกับเป่าลมอุ่นๆ เข้าสู่โพลงปาก จนอาจารย์พิชัยเผลอเคลิ้มหลับตาสู่แสงโคมสีเหลืองบนหอสูง
“จนกว่าฉันจะหนำใจ…..จนกว่าฉันจะหนำใจ…..”
แล้วรถ BMW สีดำก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับพายุ——>ปกรณ์นายมันเพอร์เฟคผิวขาวเนียนยิ่งกว่าภรรยาฉันซะอีก——>ถ้าจะให้คุณหายแค้นลงมือได้เลย—–> ฉันไม่เคยมีอะไรกับภรรยาบนเตียงนี้——->ถ้าจะทำให้คุณสะใจลงมือได้เลย——>ฉันขอเป็นฝ่ายกระทำ——>ถ้าจะทำให้ใจคุณเย็นลง สงบลง ลงมือได้เลย——>เรียกฉันว่าที่รักให้ดังๆ เร็วเข้า——>ถ้าจะทำให้คุณสบายตัวผมก็จะเรียก ที่รัก….ที่รัก ทำแรงๆ ทำผมแรงๆ อ้า อ่า อ้า อ่า—–>ฉันจะทำจนกว่าจะหายแค้น——>ถ้าจะทำให้คุณกับภรรยาเสมอภาคในเรื่องเซ็กก็ลงมือได้เลย ที่รัก ที่รัก พิชัยคุณได้ผมสมบูรณ์แล้ว คุณเท่าเทียมกับภรรยาคุณแล้ว พวกคุณพร้อมจะคุยกันแล้ว ที่รัก ที่รัก——> นายกำลังเล่นจิตวิทยากับฉัน แต่ฉันก็ ฉันก็ ก็ได้ปลดปล่อย…ปล่อยทุกอย่าง ฉันจะปล่อยมันทิ้งให้หมด…ให้มันจบในคืนนี้ จบลงที่นาย….ปกรณ์ ปกรณ์ ฉัน ฉัน ฉัน อ๊ากกกกก……
สักพัก…..“พิชัย พรุ่งนี้คุณควรจะกลับไปคุยกับภรรยาคุณซะ ถ้ายังรักอย่าปล่อยให้ค้างคา… ความรักจะนำทางคุณทั้งคู่เอง” ปกรณ์แนะขณะปล่อยให้ร่างเปลือยเปล่ายังนอนจมอยู่ด้านล่าง
“นายมัน Professional of sex ของแท้ปกรณ์ ฉันสบายใจแล้วละ ขอบใจมากๆ”
“ถ้าพิชัยสบายใจแล้ว ผมก็ต้องกลับไปกอดอีกคนที่รออยู่สวนอาหาร” ปกรณ์พูดตรงๆ
“นาย นาย….”
“อนุชัยจะต้องสมบูรณ์แบบสำหรับคุณชายบ้านสายสกุลเท่านั้น” ปกรณ์ย้ำคำๆ นี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะดันตัวอาจารย์พิชัยให้พ้นทางและไม่ลืมจุมพิตที่ริมฝีปากแบบคนต้องการปิดหน้าที่….
“นี่แสดงว่านาย 2 คน เป็น…”
“เรา 2 คนต่างไม่เหลือใครให้กอด….ผมชื่อปกรณ์ เชาว์ ครับพิชัย อนุชัย เชาว์ คือน้องชายคนเดียวของผมในเวลานี้”
เสียงอาจารย์พิชัยหายใจแบบคนโล่งอก เงารัตติกาลปกคลุมขณะปกรณ์กำลังแต่งตัวและเสียงหัวเราะก็ดังตามขึ้นติดๆ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า….นี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี้ย”
“เรื่องเซ็กกับเรื่องความรักมันคนละเรื่องกัน หากอาจารย์กับภรรยาใช้ความรักเป็นเมนหลักในการเจรจา….เรื่องเซ็กก็จะมีอิทธิพลด้อยลง….คุณ 2 คน เสมอภาคกันโดยสมบูรณ์แล้ว…โชคดีนะครับ”
“ฝากกอดอนุชัยด้วย กอดแน่นๆ เพื่อให้เขาเข้มแข็งพอจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้เช่นเดียวกับฉัน”
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผม Professional of sex นะอย่าลืมซิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เอารถฉันไปแล้วจอดทิ้งไว้ที่สวนอาหารนั้นละ พรุ่งนี้เช้าฉันจะนั่งแท็กซี่ไปเองจะได้กลับโคราชแต่เช้า”
“ขอบคุณครับ ไม่เป็นไร ผมกลับเองได้….ขอบคุณที่ใช้บริการ….ขอบคุณอีกครั้ง” ปกรณ์ยืนก้มหัวให้เขา…เงามืดเปิดเผยความอ่อนน้อมของชายผู้นี้จนอาจารย์พิชัยอดซึ้งไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรเรียกแท็กซี่ให้เอง….”
“เจ้ดวงส่งรถมารับที่หน้าบ้านอาจารย์ได้สัก 10 นาทีแล้วละครับ”
อาจารย์พิชัยขำตัวเองพลางหัวเราะออกมาอีก “ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายร้ายจริงๆ ปกรณ์ นายร้ายมากๆ”
เช้าวันต่อมาที่คอนโดมิเนียมในซอยลาดพร้าว 20
อนุชัยตื่นเพราะเสียงมีดสับลงบนเขียงสั้นๆ ถี่ๆ เขางัวเงียมองไปยังครัวที่อยู่อีกฝั่ง ประตูกระจกฝ้าที่กั้นพื้นที่ 2 ส่วนยังปิดสนิท กระนั้นเสียงดังกล่าวก็ยังอยู่ในระดับเสียงกระดิ่งจากนาฬิกาปลุกอยู่ดี เขายิ้มแทนที่จะหงุดหงิด กระทั้งขาก้าวไปผลักประตู แผ่นหลังของปกรณ์ที่เห็นผ้ากันเปื้อนสั่นตามจังหวะมือทำให้เขาเพลิดเพลินจนเผลอยืนพิงวงกบยิ้มลอยๆ แบบคนเสียมารยาท
“อ้าว…นี้ฉันมานอนด้วยแล้วทำให้นายตื่นอีกแล้วหรือนี้” ปกรณ์หันมาถาม
อนุชัยส่ายหน้า…. “เปล่า!…” และยิ้มต่อจนอีกคนทำอะไรไม่ถูก
“นายจะยืนจ้องฉันอีกนานไหม…เดี๋ยวสลัดไข่ตุ๋นปลาแซลมอนก็ไม่เสร็จพอดี”
อนุชัยเดินไปนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆ เคาน์เตอร์ แต่สายตาก็ยังไม่วางไปจากวงหน้าหล่อเหลาราวกับพระเอกเกาหลี… “นายทำอาหารเก่งจัง”
ปกรณ์เผลอซี๊ด! ปากเงยหน้าสู่เพดานก่อนจะหันไปทำงานต่อ… “ฉันเกิดในบ้านหลังใหญ่ สถานะของฉันต่ำกว่าลูกคนใช้ในบ้านซะอีก วันๆ จึงต้องขลุกอยู่กับแม่ครัวอย่างไม่มีทางเป็นอย่างอื่น หนังสือก็ได้เรียงมั่ง ไม่ได้เรียนมั่ง….” ปกรณ์โกยผักลงอ่างล้าง เสียงน้ำจากก๊อกกระทบผักในชามดังซ่าๆ “อนุชัย ถ้าจะว่าไปแล้วนายยังโชคดีกว่าฉันอยู่มาก….อย่างน้อยนายก็ยังมีแม่มีพ่อครบทั้งคู่ ถึงพวกเขาจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ แต่ก็รักนายเหมือนกับลูกในไส้”
“ปกรณ์…” อนุชัยอุทาน
“ฉันไม่เคยรู้ว่าใครเป็นพ่อ ไม่เคยรู้จักแม่-หน้าตาเป็นแบบไหนลืมได้เลย โลกของฉันในเรื่องนี้จึงดำสนิท….” ปกรณ์ล้างผักสลัดไม่หยุด อนุชัยจึงเดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลัง
“นายจะเป็นใคร ฉันไม่สน รู้แต่ว่าฉันถูกชะตากับนายเอามากๆ ย้ายมาอยู่กับฉันที่นี้เถอะ”
ปกรณ์เอาผักที่ล้างขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำก่อนจะเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนและหันมาจุมพิตที่หน้าผากแผ่วๆ
“ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ย้ายมาอยู่กับฉันเถอะ ย้ายมาวันนี้เลย เดี๋ยวฉันช่วย” อนุชัยเสนอตัวเร็วๆ ปกรณ์จึงหันมาใช้ปลายนิ้วเชิดคางให้มองหน้าตัวเอง
“ฉันไม่ได้ใจง่ายเหมือนนายนะ” เขาพูดแล้วยิ้มบางๆ “จะให้ฉันย้ายเข้ามาอยู่ในฐานะอะไรไม่ทราบ”
อนุชัยส่ายหน้า… “ไม่รู้….อะไรก็ได้ทั้งนั้น…นะได้โปรด”
ปกรณ์จ้องดวงตาอนุชัยอยู่นาน…. “ตอนนั้นฉันเป็นบ้าอะไรถึงจะฆ่านายทิ้ง…” และเขาก็โอบอนุชัยเข้ามากอดแน่นๆ…. “ถ้าฉันจะย้ายเข้ามาอยู่กับนายจริงๆ ฉันขออยู่ในฐานะพี่ชายได้ไหม”
อนุชัยเงยหน้ายิ้มรื่นๆ… “อย่าบอกนะว่านายกลัวว่าฉันจะร่าน….จนนายตกเป็นของฉันเข้าสักวันนะ”
“หึ!….ฉันนี่นะจะกลัว…..” ปกรณ์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปจัดการกับอาหารเช้าตรงหน้ากระทั้งยกสลัดไข่ตุ๋นปลาแซลมอนชามใหญ่ๆ มาตั้งไว้ตรงกลาง… “ลองดูหน่อย เมนูนี้ฉันเพิ่งคิดได้ แต่รับรองความอร่อย”
อนุชัยมองสลัดหน้าตาแปลกๆ แต่สวยโคตรอยู่พักใหญ่ๆ “สวยดีนะ….ได้กินชามเดียวกับนายทุกวันคงจะดีไม่น้อย….เย็นนี้ฉันไปช่วยขนของ OK”
ปกรณ์ขยี้ผมเขาจนยุ่งเหยิงก่อนจะหันหลังซับหางตาตัวเอง
“นี่นายร้องไห้เหรอ…”
“เสื้อผ้าฉันมีเพียงไม่กี่ชิ้น ไม่ต้องลำบากหรอก” ปกรณ์พูดพลางปาดน้ำตาจนแห้งก่อนจะหันมาลงมือกับสลัดอย่างคนต้องการเบี่ยงความรู้สึก “กินๆ เถอะอร่อยดี นายว่าไหม”
“แล้วนี้นายจะไปทำงานกี่โมง”
“สงสารเด่นดวงเธอนะ เลยกะว่ากินเสร็จจะรีบเข้าร้านเลย ต้องลงของสดเยอะ” ปกรณ์บอก
อนุชัยสะอึกจนสลัดส่วนนึ่งค้างอยู่เต็มปาก “นี่ๆ นาย นาย กับเจ้ดวง…”
ปกรณ์หันหลังเดินไปหยิบน้ำดื่มแก้เก้อ… “อ๋อ ปกติฉันก็เรียกเธอเจ้ดวงตามนายนั้นแหละ แต่เธอไม่ยอม แถมยังบังคับให้เรียกเด่นดวงเฉยๆ…ฉัน ฉัน เลย เลยตามเลย….ไม่มีอะไร”
“อย่า….นาย กับ…..”
ปกรณ์นั่งชันเข่าบนเก้าอี้จ้องอนุชัยจริงๆ จังๆ “ถึงฉันจะเป็น Professional of sex แต่เรื่องความรักฉันกลับไม่เอาไหนซะเลย”
“เจ้ดวงเลยอาสาจะเทรนให้ว่างั้น…. ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“นาย….ฉัน….”
“เอาน่า เจ้ดวง Professional of love ไม่นานฉันรับรองว่านายต้องสมบูรณ์แบบในเรื่องนี้…กินๆ จะได้รีบไป…ฉันเองก็อดสงสารพี่สะใภ้ฉันไม่ได้เช่นกัน”
ปกรณ์ยิ้มค้างจ้องอนุชัยที่กำลังเคี้ยวสลัดตุ้ยๆ คำใหญ่ๆ….“ช่วงที่ฉันไม่อยู่ ฉันอยากให้นายกลับไปพักผ่อนที่มวกเหล็กสักระยะ ดีขึ้นเมื่อไรค่อยกลับมาเริ่มต้นใหม่”
อนุชัยชะงักราวกับคนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ สุดท้ายก็พยักหน้าแรงๆ…. “อื้อ…ดีเหมือนกัน ว่าแต่นายเถอะมีรถใช้ไหม”
“ฉันไม่มีวันให้น้องชายซื้อรถให้แน่ๆ…ลืมได้เลย….”
“เจ้ดวงให้รถมาใช้ละซิ!…..ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันไม่น่าโง่เลย” อนุชัยแซวแบบคาดเดา แต่ก็ไม่พลาดเมื่อปกรณ์พยักหน้ายอมรับแบบอายๆ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า….”
“เออๆ….อย่าขำให้เยอะ กินๆ….นายก็ขับรถดีๆ ละ”
“ครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
อีกคน….
เมื่อ ดร.ชานนท์ สายสกุล กลับถึงบ้าน Loft Love เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็น เดียรเนียล สแปนเลย์ รออยู่ก่อนแล้ว ทันที่ที่ลุงเย็นกับแม่บ้านช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางขึ้นไปเก็บไว้บนห้องเรียบร้อย เดียรเนียลก็ขลุกอยู่กับเขา เอาใจเขาสารพัด ขณะที่อีกคนก็นั่งเหม่อตาลอยผ่านผนังกระจกไปยังประตูไม้สักหน้าบ้านสลับกับโทรทัศน์วงจรปิดราวกำลังรอคอยการมาของใครบางคน ความอึดอัดที่อึมครึมไม่รู้เหนือรู้ใต้ จนกระทั้ง เดียรเนียล สแปนเลย์ ทนไม่ไหว
“Chanoon เย็นนี้ You อยากกินสเต็ก ไหม ครับ… I ทำให้” เดียรเนียลพยายามเป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เขาคลึงหัวไหล่พลางจิ! ปากราวกับคนอยากจะพูด อยากจะบอกบางอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี… “Chanoon ฉัน I มี…..เออ…..”
อีกอารมณ์…เวลานั้นทุกอย่างของดร.ชานนท์เป็นสีเทาจนไม่รับรู้ใดๆ กระทั้ง เดียรเนียล สแปนเลย์ ยกฝ่ามือผ่านใบหน้าเหม่อๆ ราวจะเช็คปฏิกิริยา “อะไร นายว่าอะไรนะ….”
“You กำ ลัง Waiting ใครอยู่เหรอ….รอใคร หรือเปล่า” เดียรเนียล สแปนเลย์ ถามเสียงดังช้าๆ ทีละคำ
“Nothing คือฉัน ฉัน ว่าแต่นายเถอะบินด่วนตามหลังฉันมามีอะไรพิเศษหรือเปล่า” ดร.ชานนท์ถามกลับ แต่สายตาก็ยังค้างอยู่ที่เดิม
“I มี บางอย่าง จะ สารภาพ….” เดียรเนียล สแปนเลย์ ทิ้งแววตาซึ้งๆ “Chanoon I has something for tell you…..”
ดร.ชานนท์หันกลับมามองเต็มๆ….แต่ เดียร์เนียล สแปนเลย์ ก็ยังหาจุดเริ่มต้นไม่เจอ…. “I ม่าย อยาก ให้ You เครียด…..Chanoon…. You You….” เขาเว้นจังหวะแบบคนหลงทาง… “อยากกิน สเต๊ก กับ I ไหม”
ดร.ชานนท์พยักหน้าปัดรำคาญก่อนจะลุกตรงไปยังป้อมยามหน้าบ้านเร็วๆ แดดสุดท้ายเบนเงาบ้านสีเทาจมดำไปทาบบริเวณประตูทางเข้า สีดำของไม้สักจึงดำสนิทขึ้นไปอีกเท่าตัว เดียร์เนียล สแปนเลย์ ยืนเกาหัวมองตามแผ่นหลังที่เฉลียง
“ลุง 2-3 วันที่ผ่านมา มีคนมาที่นี่บ้างไหม” ดร.ชานนท์ถามระดับเสียงกระซิบ ลุงเย็นนิ่งพร้อมกับชายตาไปที่ เดียรเนียล สแปนเลย์ สลับกับเขา
“มีครับคุณชาย….”
ดร.ชานนท์ตาลุกวาวพร้อมกับขยับก้มหัวไปรอคำตอบใกล้ๆ…. “ครับลุง….เขาเป็นใครครับ”
“แค่คนหลงทางคนหนึ่ง….” ลุงเย็นเว้นจังหวะพลางเหลือบไปยัง เดียรเนียล สแปนเลย์ เป็นครั้งที่ 2 “แค่คนหลงทางมาถามทางกลับบ้าน เท่านั้นเองครับ” พูดจบก็เดินกลับไปนั่งในป้อมแบบไม่ใส่ใจ
“แค่คนหลงทางเหรอ….”
และคืนเดียวกันนั้น….
เดียรเนียล สแปนเลย์ ก็ขอเข้ามานอนในห้องด้วย เขาวิงวอนกระทั้งดร.ชานนท์ใจอ่อน
“นี่นายรู้ไหม นายทำตัวแปลกขึ้นทุกวันแล้วนะ” ดร.ชานนท์พูดลอยๆ “ถึงจะเป็นรูมเมทตั้งแต่เรียนมัธยม แต่ฉันก็ไม่เคยนอนร่วมเตียงกับนายเลยสักครั้ง”
เดียรเนียล สแปนเลย์ กรุ่มกริ่มถอดชุดปกติเหลือแต่บล็อกเชอร์ขึ้นไปนอนห่มผ้าแบบคนเคยชิน “เฮ้ยๆ….นายจะถอดเสื้อผ้าออกทำไมเนี่ย”
“ฉาน นอน ม่าย หลับ….มาๆ มานอนเถอะ มานอนด้วย กาน”
ดร.ชานนท์ส่ายหน้าก่อนจะก้าวขึ้นไปนอนหันหลังให้อย่างเสียไม่ได้…..ครู่ใหญ่ๆ…
“Chanoon I has something for tell you….”
“หึ!….นายมีอะไร….” ดร.ชานนท์เสียงอู้อี้จากใต้ผ้าห่ม ทำให้เดียรเนียลรำคาญจนต้องกระชากออก
“You ม่าย ร้อน รึไง”
“ไม่อะ….ว่าแต่นายมีอะไร….”
“ฉาน ฉาน….เอ่อ……เอ่อ… Chanoon…. I …I Love You….”
“หา!….นาย นาย ว่า อะไรนะ”
“I….. I…..” เดียรเนียล สแปนเลย์ จิ! ปากส่ายใบหน้าคล้ำเครียดก่อนะหันไปคว้าชานนท์มากอดแน่นๆ “I I Love You Chanoon”
ดร.ชานนท์ช็อกในพฤติกรรมที่ไม่เคยเป็น เขานิ่งในอ้อมกอดจนกระทั้ง….. “นายรักฉันเหรอ…รักแบบไหน Detail หน่อยได้ไหม”
“เอ่อ….ฉาน ฉาน….ฉาน….”
“เออๆ ถ้าอย่างนั้นหลับเถอะ นึกได้ค่อยบอกวันหลังแล้วกัน ฉันง่วงแล้ว Good night นะเดียรเนียล”
ในที่สุดค่ำคืนที่ทรมานอึดอัดก็ยังทรมานและอึดอัดอยู่แบบนั้น
…..นกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้เจ้าเอย…..ค่ำนี้ คืนนี้ ราตรีนี้ เจ้าจับคอนนอนแห่งใด…..จะหนาว….เจ็บปวดเหมือนข้าไหม….ข้าหลับไม่ลง…..หลับไม่ได้….เพราะใจเรียกแต่เจ้า….เฝ้าโหยหาแต่ร่างอุ่นๆเหมือนวันเก่าๆ….อยากบอกราตรีสวัสดิ์….อยากโทรฝังรอยจูบก่อนหลับตาใจก็ไม่กล้าพอ….ข้าอ่อนแอกว่าที่เจ้าคิด….นกป่าเจ้าเอย….ไฉนการรอคอยถึงทรมานหัวใจเช่นนี้….ข้าเจ็บเจียนตาย….แต่ข้าจะไม่ยอมตาย….จะเฝ้าทรมานจนกว่านกป่าปีกสีน้ำตาลเปลือกไม้จะคืนรัง….
จบ อนุชาย2 บทที่10 รอคอย