อนุชาย2 บทที่16 ผมขอโทษ
“อาหมอ อาหมอ พูดอะไรออกมา….” อาตี้โวยวายทั้งน้ำตาใส่โทรศัพท์ สุดท้ายก็หันมาเล่นงานพ่อตัวเองอีกคน “คุณพ่อครับ ทำไมบอกอาตี้ช้าแบบนี้…คุณพ่อ คุณพ่อครับ…ฮื้อๆ”
(Arty Arty, You listening me.) เสียงของคุณหมอเดียรเนียล สแปนเลย์ หยุดอาการคลุ้มคลั่งของเด็กหนุ่มได้ระดับหนึ่ง (Can you hear me now,)
“Yes!…เราได้ยินคุณชัดเจนเดียรเนียล” อนุชัยตอบแทน
“ฮะ อาหมอ…..I hear you” อาตี้สมทบติดๆ ด้วยน้ำเสียงไม่แข็งแรง
(นับ จาก วันนี้ คุณ ต้อง สร้าง ความสุข ให้ พ่อ…You understanding)
“แต่อาหมอฮะ….อาตี้ อาตี้….”
(ไม่ เป็น ไร มี ฉาน ทั้ง คน ไม่ ต้อง กลัว เข้า ใจไหม) เสียงหมอ เดียรเนียล สแปนเลย์ เหมือนต้องการจะตอกย้ำเพื่อให้สบายใจขึ้น
“อีกไม่กี่วันอาตี้ก็ต้องกลับอเมริกา….คุณพ่อครับ คุณหมอครับ”
“ไม่เป็นไรอาตี้…พ่อจะดูแลพ่อชายให้ดีที่สุด” อนุชัยย้ำจนปกรณ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องโอบไหล่พวกเขามารวมกัน
“ยังมีลุง….เอ้ย!….” ปกรณ์เผลอและคล้ายๆ จะนึกได้ “ยังมีผมอีกคนครับ…คุณชายน้อยไม่ต้องเป็นห่วง”
“นายเป็นลุงเขาถูกต้องแล้วปกรณ์ ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกน่า” อนุชัยคล้ายจะต่อว่า
ทำให้อาตี้จ้องไปที่เขาไม่กระพริบ…..
“เอ่อ….” ปกรณ์พูดไม่ออก เขาพยายามจะปลอบเด็กหนุ่มแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนกระทั้ง…
“ผมฝากคุณพ่อด้วยนะครับ ลุงปกรณ์”
ปกรณ์อึ้ง-ชะงักอยู่นาน “ขอลุงกอดอาตี้สักครั้งได้ไหม”
อาตี้ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะลุกเดินอ้อมหลังอนุชัยมาสวมกอดเขาเสียเอง ปกรณ์ประกบมือขาวๆ แนบอก เขาพยายามจะไม่ให้เห็นน้ำตา กระนั้นมันก็ล้นจนได้ “ลุงจะช่วยดูแลพ่อชายของอาตี้อีกคน สองหัวดีกว่าหัวเดียวว่าจริงไหม”
“ขอบคุณครับคุณลุง ขอบคุณมาก ๆ ครับ….ฮื้อๆ”
………แสงเริ่มแรก แทรกแสดสี ที่ริมฟ้า……….
………รอบนภา ตะวันออก บอกเฉิดฉาย………
……….หนูอยากนั่ง อยากจ้องหน้า พ่อมิคลาย……….
……….ใจสลาย เมื่อมโน ถึงวันลา………
………พ่อจ๋าพ่อ พ่อจ๋า พ่อจ๋าพ่อ………
………หนูสุดท้อ ทรมาน ปานจักสิ้น………
……….เมื่อรู้ความ เมื่อเห็นภาพ ตามเรื่องจริง………
………แทบแดดิ้น อยากขอโทษ โปรดอภัย……….
………พ่อจ๋าแสง แรกตะวัน อำพันแจ้ง……..
………บอกสีแดง แสดรำพึง รำพันหมาย……….
……….เป็นเช้าแรก แดดกระจ่าง พร่างพราวพราย………..
………มีมากมาย ขอพ่อตื่น ฟื้นมาฟัง……….
……….หนูจะจับ มือพ่อกอด ไม่ยอมปล่อย……….
………จะค่อยค่อย กระซิบส่ง ปรารถนา……….
………ตื่นเถอะพ่อ ตื่นเพื่อหนู ตื่นขึ้นมา……….
……….จะเช็ดหน้า ล้างบาทา ก่อนลาไกล……….
“พ่อครับ พ่อชายครับ ตื่นเถอะ พ่อ พ่อครับ อาตี้ขอโทษ อาตี้ขอโทษ ตื่นเถอะ ตื่นมาเพื่ออาตี้….พ่อครับ….ฮื้อๆ” และอาตี้ก็ฟุบสะอื้นอยู่กับหน้าอกของดร.ชานนท์ กระนั้นร่างทั้งร่างก็ยังไม่ขยับ กระทั้งอนุชัยที่ยืนเป็นหุ่นเปื้อนน้ำตาใกล้ประตูทางออกต้องเข้าไปเขย่าขาเรียกแรงๆ
“คุณ ไอ้คุณ ไอ้เฮี้ยคุณ ตื่นได้แล้วขี้เซาอยู่ได้” ทันทีที่ปลายขาของดร.ชานนท์ขยับให้เห็น อนุชัยก็หันหลังปาดน้ำตาทิ้งพลางเข้าไปกระซิบลูกชายเบาๆ “จำที่คุณหมอเดียรเนียลเตือนได้นะลูก” อาตี้พยักหน้า…เขาจึงหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปเร็วๆ
ทันทีที่ดร.ชานนท์ได้สติ….ดวงตาที่เพิ่งตื่นจากสีดำก็ไล่สำรวจรอบ ๆ…“อาตี้!….เอ้!….ไงวันนี้มาแปลกๆ ชุดก็แปลก ใบหน้าก็แปลก….เป็นอะไร บอกพ่อได้ไหม” ดร.ชานนท์งัวเงียเจอสภาพลูกชายที่ไม่ใช่ชุดนอนเลยอดซักถามไม่ได้และเขาก็ดึงอาตี้ล้มลงข้างๆ “ร้องไห้เรื่องอะไรบอกพ่อได้ไหม”
“เปล่าฮะ เปล่า….” อาตี้ปฏิเสธพลางเช็ดน้ำตาตัวเองเร็วๆ
“ลูกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ เป็นลูกผู้ชายด้วย อย่าขี้แยจนเกินเหตุ เข้าใจไหมลูก” ดร.ชานนท์กำชับ อาตี้ได้แต่ผงกหัวให้หน้าอกรับรู้ก่อนจะหลับตาและหลับจริงๆ ในเวลานั้น ดร.ชานนท์สำรวจลูกชายอยู่สักพักกระทั้งอนุชัยเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ปล่อยให้เขาหลับเถอะ บ่ายๆ ค่อยปลุก”
“ตานายก็เหมือนกับคนไม่ได้นอนทั้งคืน…อย่าบอกฉันนะว่าพวกนายแอบหนีเที่ยวด้วยกันนะ” ดร.ชานนท์เล่นแรงก่อนจะโดนอนุชัยโยนหมอนใส่หน้า
“คิดได้นะ…ถ้าพวกฉันอยากเที่ยวขึ้นมาจริงๆ ต้องมีเจ้าภาพรู้ไว้ซะเด็กโง่” ทั้งคู่เกือบจะหลุดหัวเราะ…เมื่อมองไปที่อาตี้ ดร.ชานนท์จึงค่อยๆ ลุกและห่มผ้าให้แล้วก็เปิดประตูลงไปด้านล่างเร็วๆ…..
วันที่ 13 เมษายน
เป็นวันสงกรานต์และเป็นวันหยุดยาวต่อจากวันนั้นอีก 4 วัน…ถึงแม้จะเป็นวันหยุดของหลายคนแต่งานของเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่งจะเริ่มต้น อนุชัยเองก็ต้องเข้าบริษัทไปเคลียร์บางอย่างกะว่าบ่ายๆ เย็นๆ พวกเขาถึงจะค้างที่บ้านสายสกุล วันรุ่งขึ้นจะได้ไปอำเภอมวกเหล็กแต่เช้าก่อนที่อาตี้กลับอเมริกาในวันที่ 16 ต่อจากนั้น นี่แผนการเดินทางเบื้องต้น….
แดดก่อนเที่ยงขับผนังบ้านสีปูน โดดออกมาจากพุ่มใบต้นแคนาที่รายล้อมรอบๆ ตัวบ้าน เสียงเปียโน Relaxing Music จากคอมพิวเตอร์กำลังขับกล่อมเสริมให้บรรยากาศภายในพลิ้วไหวจนอุณภูมิกลางเดือนที่ร้อนที่สุดลดลงหลายองศา อาตี้กำลังจัดโต๊ะเก้าอี้พร้อมด้วยชามสแตนเลสใบใหญ่ 2 ใบที่ระเบียงหลังคาไม้ระแนงหน้าบ้าน ดอกไม้จากกระถางดินเผาแขวนกระจิริดหลากสีกำลังอวดความงามสารพันให้เห็น เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเขาจึงยืนกำมือค้ำคางสำรวจความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย….กระทั้ง…
“ตาย ตายแน่ ๆ….แม่ แม่ ช่วยอาตี้ด้วย อาตี้ลืมของสำคัญไปได้ไงเนี้ย” อาตี้เรียกสมใจว่าแม่ตามที่คุณหญิงพวงพรสอนมาตั้งแต่จำความได้ เขาจึงสนิทใจเรียกเธอด้วยคำๆ นี้มาตั้งแต่ต้น สมใจวิ่งออกมาจากในครัวด้วยท่าทีตกอกตกใจไม่น้อย
“มีอะไรหรือคะ อาตี้….”
“อาตี้ลืมน้ำอบ ของสำคัญซะด้วย ทำไงดีละครับ”
สมใจปิดปากตัวเองยิ้มให้กับความใสซื่อของเขา “แม่เตรียมไว้ให้แล้วละคะ ไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ว่าแต่อาตี้เถอะจำขั้นตอนที่แม่บอกขึ้นใจแล้วนะ”
อาตี้ยิ้มหน้าบานแบบคนโล่งใจก่อนจะดึงเธอเข้าไปกอด…. “ครับ คิดว่านะ”
“วันสงกรานต์ตามประเพณีโบราณถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย หลังๆ รัฐบาลจึงให้เป็นวันครอบครัวไปด้วย เป็นเพียงวันเดียวในรอบ 1 ปี…ที่เราจะได้แสดงความรักกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี” สมใจพูดพลางผละจากเด็กหนุ่มเดินสำรวจซ้ำอีกรอบ “แม่ว่า…..” เธอคิด “น่าจะครบทุกอย่างแล้วละ เออแล้วพวงมาลัย ถุงกลีบกุหลาบกับดอกมะลิของแม่ละ”
“อยู่ในตู้เย็นฮะ”
“ไปเอามาเดี๋ยวนี้เลย แม่จะได้ผสมน้ำรอ” สมใจสั่งแล้วเธอก็เดินหายเข้าไปในครัวก่อนจะออกมาเจอกับอาตี้ที่เดิมอีกครั้ง
“นี้ฮะ….”
“ขอบใจจ้ะ….คราวนี้อาตี้ก็ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวเลยลูก คุณพ่อทั้ง 2 กำลังจะมาแล้วละ”
“ฮะ….แต่อาตี้ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี มันเขินๆ อย่างไรไม่รู้” อาตี้ลงเสียงต่ำแบบคนไม่มั่นใจ จนสมใจปัดมือผ่านหน้าหัวเราะเสียงดังๆ
“ไปๆ ไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวแม่จะกำกับเอง…ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ทันทีที่ BMW ผ่านประตูรั้วไม้สักสีดำวนเข้าไปในโรงจอดเก็บภายใน แลนด์โรเวอร์สีบลอนเงินก็ตามเข้ามาติดๆ ทั้งอนุชัยและชานนท์ยืนคุยกันสองสามคำก่อนที่พวกเขาจะเลือกใช้ประตูเล็กติดกับครัวไทยขึ้นสู่ภายในโถงรวมเพดานสูง อาตี้ออกอาการประหม่าอยู่ภายในห้องนั่งเล่น เขาเป่าลมทิ้งหลายรอบวนเวียนล้มตัวนอนกับโซฟาเบทแล้วก็ลุกไปนั่งในห้องรับแขกสุดท้ายก็มาจบที่เปียโนสีดำตัวใหญ่ เขาถูมือตัวเองไปมาก่อนจะเริ่มต้นด้วยเพลงรำวงวันสงกรานต์ตามที่ได้ฝึกซ่อมก่อนหน้านี้ พอเสียงเพลงดังขึ้นทั้งดร.ชานนท์และอนุชัยก็ลงมาจากข้างบน พวกเขายืนยิ้มจนเผลอเกือบจะมีรำวงรอบๆ เปียโนสีดำถ้าเสียงเพลงไม่จบลงซะก่อน
“เออ…พ่อไม่เคยได้ยินเพลงนี้เลย อาตี้แอบฝึกตอนไหนครับลูก” ดร.ชานนท์ถามหลังเสียงปรบมือจบลง
“นั่นนะซิ!….อยู่แต่เมืองนอกพ่อไม่คิดว่าอาตี้จะเล่นเพลงไทยได้เพราะถึงเพียงนี้” และอนุชัยก็เสริมขึ้นแบบคนแปลกใจไม่แพ้กัน
“อาตี้ยังมีอีก 2 เพลง…คุณพ่อจะรำวงก็ได้นะฮะ”
“บ้าไปแล้ว….รำวงในบ้านตัวเองเนี่ยนะ….”
“บ้าอะไรวันนี้วันสงกรานต์นะ ไหนๆ ก็ใส่เสื้อลายดอกกันทั้งบ้านแล้ว อาตี้เริ่มเลยลูก พ่อจะได้โค้งพ่อชายรำวงสักรอบ” อนุชัยพูดทีเล่นทีจริง กระทั้งได้ยินเสียงอาตี้หัวเราะจนไอโขกออกมา
“เอาเลยฮะ”
“ไม่เอา อายชาวบ้านเขา” ดร.ชานนท์ยังฝืน กระทั้งอาตี้ไล่แป้นคีย์บอร์ดเป็นสัญญาณเริ่มต้นรัวๆ ดร.ชานนท์หน้าแดงถึงกับยกกำปั้นขึ้นปิดปากแบบคนทำอะไรไม่ถูก
“พ่อฮะ เอาหน่อยสักรอบ….” แล้วเพลงรำวงวันสงกรานต์เพลงที่ 2 ก็เปิดฉาก
“นายจะอายใครไม่ทราบ….เร็วดิ” อนุชัยตื้อดร.ชานนท์ไม่หยุดแถมยังออกท่าทางไปก่อน จนดร.ชานนท์หัวเราะตัวงอข้างๆ ลูกชาย อาตี้พยักหน้าแกมบังคับ แถมยังยิ้มหน้าบานบิ้วอารมณ์เสริมอีกคน
“บ้าเอ้ย!….เกิดมาฉันยังไม่เคยโดนใครโค้งขอรำมาก่อนเลยนะ….เอาไงละ…ฉันรำเป็นที่ไหน”
“คุณพ่อฮะ…” อาตี้เร่งระหว่างเพลงกำลังได้จังหวะ
“นายก็ยกมือขึ้นแบบนี้ แบบนี้” สรุปอนุชัยต้องยกมือนำดร.ชานนท์รำไปรอบๆ เสียเอง…..
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายนี้บ้าชะมัด”
“จะเอาอีกรอบไหมครับ….” อาตี้ถามขณะนิ้วยังไล่ตัวโน้ตวนในท่อนแรก…เสียงหัวเราะภายในบ้าน Loft Love จึงดังขึ้นต่อเนื่องไม่เว้นแม้กระทั้งสมใจและลุงเย็นที่เดินเข้ามายืนดูก็ไม่วายถูกทั้งคู่ดึงให้เข้ามาร่วมรำวงจนได้……
“อาตี้เล่นเราเข้าแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
และทันทีที่เสียงเพลงจบอาตี้ก็เข้าไปดึงแขนอนุชัยและดร.ชานนท์ออกไปที่ระเบียง ทั้งคู่ต่างตกตะลึงจนก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นสถานที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ กระดานชนวนที่เคยแขวนอยู่ตำแหน่งของมันก็ถูกย้ายออกมาข้างนอกพร้อมกับเขียนด้วยลายมือห่วยๆ ของอาตี้ว่า “สุขสันต์วันสงกรานต์”
“คุณพ่อชายครับ คุณพ่อนุครับ” อาตี้เรียกให้ตื่นจากภวังค์ เขาดึงแขนอนุชัยไปนั่งประจำตำแหน่งเป็นคนแรก ก่อนจะเข้ามาดึงแขนดร.ชานนท์ไปนั่งลงข้างๆ อ่างสแตนเลสรองด้วยน้ำลอยกลีบกุหลาบสีขาวกับสีโอโรสอยู่ตรงหน้า อาตี้จับขาเปลือยเปล่าของพ่อทีละข้างทีละคนลงไปแช่ในนั้น ใบหน้าของอนุชัยกับดร.ชานนท์ไม่ต่างกันในเวลานี้ ไม่มีเสียงพูดคุยกระทั้งสมใจนำน้ำอบที่เตรียมไว้ออกมาพร้อมกับพวงมาลัยดอกพุดสีขาว เธอกับลุงเย็นยืนมองปลื้มปริ่มอยู่ข้างๆ จนกระทั้ง…..
“คุณพ่อนุครับ คุณพ่อชายครับ ที่ผ่านมาหากอาตี้ล่วงเกินหรือทำอะไรที่ไม่สมควร อาตี้อยากจะให้พ่อ พ่อรู้ว่าอาตี้เสียใจ และอยากให้คุณพ่อให้อภัย” อาตี้พูดขณะคุกเข่าต่อหน้าทั้งสอง อนุชัยดึงปกเสื้อตัวเองซับหางตาทีละข้าง ส่วนดร.ชานนท์ได้แต่กำมือปิดปากปล่อยให้น้ำตาเละเทะ พวกเขาพูดอะไรไม่ออกไปหลายนาทีกระทั้งสมใจส่งพวงมาลัยให้อาตี้ทีละพวง
“พวงนี้ให้พ่อนุฮะ….” เขาเว้นจังหวะให้สายตาได้ทำงาน “และพวงนี้ให้พ่อชายฮะ”
“นี้น้ำอบล้างมือล้างเท้าให้คุณพ่อด้วยลูก” เสียงสมใจกำกับจากด้านข้าง ซึ่งเธอก็น้ำตาซึมตั้งแต่แรกจนบัดนี้มันก็ยังล้นออกนอกเบ้าอย่างต่อเนื่อง “นั่นแหละล้างมือ ล้างเท้าทีละข้าง อย่างนั้นแหละลูก อย่างนั้นแหละ ดีมากงดงามที่สุดอาตี้”
เมื่ออาตี้จบจากพ่อทั้ง 2 เสียงดร.ชานนท์จึงได้กลับคืนมา….. “คราวนี้ก็เป็นน้าสมใจกับลุงเย็นแล้วละครับ” ทั้งอนุชัยและดร.ชานนท์ลุกจากเก้าอี้ตัวนั้น สมใจกับลุงเย็นยกมือขึ้นปิดปากส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็โดนพวกเขาลากแขนมานั่งจนได้….
“ลุง ลุง….” ลุงเย็นหันหน้าไปทางดร.ชานนท์ “ลุงขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริง”
ทั้งอนุชัยและดร.ชานนท์ต่างชะงักค้าง น้ำอบในมือก็ชะงักตามไปด้วย…..
“ขอโทษเรื่องอะไรครับลุง” อนุชัยถาม ลุงเย็นจึงหันมาจ้องเขาเต็มๆ
“ชายหลงทางคนที่มาถามทางกลับบ้าน” และหันกลับไปมองหน้าดร.ชานนท์อีกคน “คือ นายน้อย….ครับคุณชาย…..”
อนุชัยปิดปากเกือบๆ จะหลุดหัวเราะ ส่วนดร.ชานนท์ได้แต่เบิกตาค้างหันไปถามอนุชัยเร็วๆ
“นายมาหาฉันเหรอ….”
อนุชัยพยักหน้า “ลงเครื่องฉันก็ตรงดิ่งมาที่นี่เลย….แต่มันแค้นนะใครเป็นคนสอนให้เดียรเนียลบอกว่านายเป็น แฟนรัก กันละ….”
“อาหมอบอกว่าคุณพ่อเป็น แฟนรัก เหรอฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แล้วอาตี้ก็หัวเราะไม่หยุด
“หยุดเลยนะอาตี้ นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายเลยนะ” ดร.ชานนท์เสียงดัง….ทุกคนเงียบกริบ….สักพักเสียงหัวเราะลั่นบ้าน Loft Love ก็ดังขึ้นยาวๆ อีกพร้อมกับสงครามปืนฉีดน้ำที่พวกเขาเตรียมไว้คนละกระบอกก็เปิดฉาก บ้าน Loft Love เปียกชุ่มในวันที่ร้อนที่สุดของปีและเสียงหัวเราะก็ดังยาวกว่าทุกๆ วัน
“โอ้ย!….เดี๋ยวคนแก่จะเป็นหวัด พอแล้วครับคุณชายน้อย พอแล้วครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เมื่อตะวันลดระดับสู่ยามเย็น อีก 2 ชั่วโมงกว่าฟ้าจะมืด ดร.ชานนท์ อนุชัยและอาตี้ที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกับลูกนกตกน้ำก็ยังรวมตัวอยู่ที่ระเบียงโดยมีลุงเย็นกับสมใจยืนเป็นหุ่นสีขาวจนระบุเพศไม่ถูกข้างๆ ประตูทางเข้า
“อาบน้ำเถอะลูกเราต้องไปรดน้ำดำหัวคุณปู่คุณย่าอีก 2 บ้าน” ดร.ชานนท์บอก
“เราจะไปค้างที่มวกเหล็กคืนหนึ่ง…ตอนเช้าจะได้ตักบาตรทำบุญให้คุณปู่คุณย่าที่วัดแล้วค่อยกลับเข้ากรุงเทพ” อนุชัยเสริม
“แล้วบ้านคุณตากับคุณยายละฮะ….” อาตี้ถาม
“คุณตาว่างวันที่ 15 เที่ยงๆ โน้นแหละ…..”
“คิดๆ แล้วอาตี้ยังไม่อยากกลับเมริกาเลยฮะคุณพ่อ…พ่อนุฮะ ขออาตี้กลับมาเรียนที่นี่ได้ไหม ช่วยพูดกับพ่อชายให้หน่อย นะฮะ นะฮะ” อาตี้อ้อนยังกับเด็กเล็ก แต่อนุชัยและดร.ชานนท์ต่างยิ้มให้กันราวกับรู้เหตุผลและได้สรุปไปแล้ว
“พ่อชายสัญญาว่าเมื่ออาตี้เรียนจบเป็นผู้ใหญ่ ลูกจะได้กลับมาอยู่บ้าน Loft Love จนกว่าจะเบื่อโน้นแหละ…ไปๆ ไปอาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทางได้ละ เดี๋ยวจะถึงมวกเหล็กมืด รถก็กำลังติดซะด้วย…”
เมื่อผ่านพ้นวันสงกรานต์มา 1 วัน….
เที่ยงๆ ของวันที่ 16 เมษายน กระเป๋าเดินทางใบย่อมๆ ก็ถูกเด็กหนุ่มยัดในท้ายแลนด์โรเวอร์อย่างไม่เต็มใจ แดดสีขาวทิ้งเงาไว้ขอบผนังสีปูนจนแทบมองไม่เห็น อาตี้เดินเข้าไปในตัวบ้านและเดินผ่านหลายๆ ส่วนอย่างไม่มีจุดประสงค์ เมื่อเจอเข้ากับสมใจที่กำลังเช็ดน้ำตาอยู่ข้างครัว เขาก็เข้าสวมกอดเธอจากด้านข้าง
“แม่….”
“ตั้งใจเรียนนะลูก” สมใจบอกส่งเสียงสั่นๆ พลางปาดน้ำตาหลบๆ อีก 2 ครั้งก่อนจะหันหน้ามาสวมกอดเขาทั้งตัว “อาตี้ของแม่โตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ”
“แม่….”
“ไม่เอาๆ อีกไม่กี่เดือนปิดซัมเมอร์ก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว จะร้องไห้ไปทำไมกัน” ดร.ชานนท์เดินเข้ามาตบไหล่บุตรชาย อาตี้หันไปจ้องหน้าพ่อราวกับมีบางอย่าง….
“ซัมเมอร์อาตี้ไม่ได้กลับฮะพ่อ อาตี้จะทำงานกับเพื่อนที่แมคโดนัลด์ คงเป็นปีถัดไปเลย” พูดจบดร.ชานนท์ถึงกับอึ้ง แต่สมใจปิดปากร้องไห้อีกรอบไปแล้ว
ดร.ชานนท์คล้ายจะช็อกอยู่ครู่ใหญ่ๆ “พ่อไปเยี่ยมอาตี้เองก็ได้”
“พาพ่อนุไปด้วยนะฮะ”
“แน่นอนครับลูก พ่อให้สัญญา”….ดร.ชานนท์ดึงอาตี้มากอดนิ่งๆ ก่อนจะโอบไหล่เดินตามหลังอนุชัยที่เพิ่งลงมาจากห้องนอนตรงไปยังรถที่พร้อมรออยู่หน้าบ้าน
“โชคดีนะครับคุณชายน้อย” เสียงลุงเย็นบอกส่งอีกคน อาตี้พยักหน้ายิ้มให้บางๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลังคู่กับดร.ชานนท์ ขณะที่อนุชัยไม่พูดไม่จาตั้งแต่ต้นก็ขับรถคันใหญ่สีบลอนผ่านประตูรั้วออกไปเงียบๆ…..
พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ดร.ชานนท์ไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์พิเศษเหนือชาวบ้าน พวกเขาเช็คไฟท์บินที่กระดานอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเคาน์เตอร์เช็คอินเปิดผ่านไป 15 นาทีเขาจึงพูดขึ้น
“เช็คอินได้แล้วแหละอาตี้….”
“พ่อฮะ” เขาอ้อนอนุชัย แววตาละห้อยก็ยังแขวนต่องแต่งอยู่ข้างๆ อนุชัยโอบไหล่ดึงลูกชายเข้ามากอดพลางจุมพิตที่หน้าผากบางๆ “ดูแลพ่อชายด้วยนะฮะ”
“ครับ….พ่อจะดูแลพ่อชายให้ดีที่สุด”
“มีความลับอะไรกันสองพ่อลูกเนี้ย!…..” ดร.ชานนท์ขึ้นเสียง ก่อนอาตี้จะหันไปกอดเอวเขาอีกคน
“อาตี้คงคิดถึงเปียโนที่บ้าน Loft Love”
“ไม่เอาอาตี้เดี๋ยวพ่อชายก็ร้องไห้กันพอดี…..” อนุชัยแหย่ พลางยักคิ้วให้เขาเห็น
“นายก็เหมือนกันแหละน่า….” ดร.ชานนท์สวนกลับอย่างคนไม่ยอมแพ้
“คุณพ่อต้องไปเยี่ยมอาตี้นะฮะ….และช่วยบอกอาหญิงจัดโปรตีนมื้อเช้าให้อาตี้ด้วยไม่อย่างนั้นหน้าอาตี้คงเป็นสลัดเข้าสักวัน”
อนุชัยหัวเราะก๊าก!…. “อาหญิงของลูกคงไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอกมั่ง”
“พ่อนุไม่รู้อะไร….ดูหน้าอาตี้ซิฮะโง่ลงทุกวันก็เพราะสลัดของอาหญิงนั้นละ”
ดร.ชานนท์จุมพิตกลางหัวก่อนจะผลักเขาออก “ไปได้แล้วหนุ่มน้อย เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลพ่อชายจะจัดการให้”
“เรียนให้สนุกนะอาตี้….ไม่ต้องห่วงพ่อชายนะลูก” แล้วอนุชัยก็สวมหมวกแก๊ปสีดำมีตราสัญลักษณ์เมืองซิดนี่ย์ให้กับเขา “อาตี้ของพ่อใส่หมวกใบนี้แล้วหล่อโคตร….” เขายิ้มไปกับเวลาผ่านๆ “ลุยให้สุดอาตี้ ลุยให้สุดทางเชื่อพ่อ”
“พ่อนุฮะ พ่อชายฮะ”
“ไปเลยลูกโลกทั้งโลกไม่หยุดรอคนๆ เดียวนะ… ลูกเท่านั้นที่จะต้องวิ่งตามโลกให้ทัน” ดร.ชานนท์บอกพลางตบหลังลูกชายเร็วๆ….เมื่ออาตี้หันหลังให้พวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบอ้อมกอดของอนุชัยก็เปิดรับ
“อาตี้เป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ…..เอ้!….ว่าแต่นายจะร้องไห้หาพระแสงอะไรเนี้ย” อนุชัยขึ้นเสียงดุตบท้าย
“กลับบ้านกันเถอะ….คืนนี้ก็เหลือแค่เราแล้วนะที่รัก”
อนุชัยตาขวาง…. “อย่าบอกนะ”
“หรือว่านายไม่อยาก….” ดร.ชานนท์ตวาดกลับเสียงแข็ง “ฉันแอบเห็นอาตี้ทำบางอย่างยัดใส่ตู้เย็นเมื่อเช้า….จิ! จิ! จิ!….มันจะเป็นอะไรนะ” ดร.ชานนท์คิดต่อเพลินๆ
อนุชัยหายใจแบบคนโล่งอกยาวๆ….. “แล้วไป ฉันก็นึกว่านายจะเล่นพิเรนทร์กับฉันซะอีก”
ดร.ชานนท์สะอึก…และจบลงด้วยเสียงหัวเราะจนจุก “ฮ่า ฮ่า ฮ่า นายนี้ลามกกว่าฉันอีกรู้ไหมอนุชาย…..ฮ่า ฮ่า ฮ่า…..”
จบ อนุชาย2 บทที่16 ผมขอโทษ