นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อนุชาย2 บทที่2
อนุชาย2 บทที่2 กำเนิดอาตี้
ณ บ้านทรงสเปน 3 ชั้นในซอยพหลโยธิน 24 คุณหญิงพวงพรแปลกใจและดีใจที่อยู่ๆ แม่บ้านก็รายงานแต่เช้าว่าชานนท์กลับมานอนค้างที่บ้าน ถึงจะนอนคนละห้องกับดาริกาแต่เธอก็อดยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากไม่ได้
“มื้อเช้าทำซุปมิโชะนะเตย”
“ได้คะ แต่ข้าวญี่ปุ่นเพิ่งจะหมดเมื่อวานคะคุณหญิง” เตยรายงานแบบคนอดตื่นเต้นไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องลงมือผสมข้าวเหนียวเคี้ยวงูกับหอมมะลิเองแล้วละ”
“ไม่ต้องหรอกคะคุณหญิง เตยจำสูตรปรุงข้าวญี่ปุ่นของคุณหญิงได้ดี เตยจัดการให้”
“อย่าลืมใส่เต้าหู้ก้อนกับสาหร่ายลงในซุปเยอะๆ หน่อยนะ ตาชายชอบ” พูดจบคุณหญิงพวงพรก็เดินถูมือเดินวนไปรอบโต๊ะสลับมองไปที่บันไดแบบคนกำลังรอลุ้นบางสิ่งบางอย่าง และหลังจากเตยเดินหายเข้าครัวไปแล้ว คุณหญิงพวงพรก็มิวายเร่งฝีเท้าตามเธอไปอีก
“ขอไข่ดาวน้ำสัก 3 – 4 ที่ด้วยนะเตย เพราะแอบเห็นตานุชอบทำให้ตาชายกินบ่อยๆ น่าจะเป็นของโปรดเค้า”
“คะ ได้คะคุณหญิง”
กระทั่งอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาเที่ยงทั้งชานนท์และดาริกาก็ยังไม่ลงมาจากห้องนอน ซุปมิโชะ ไข่ดาวน้ำและข้าวญี่ปุ่นของคุณหญิงพวงพรเลยเป็นหมันไปโดยปริยาย
“เอ้!…ไอ้เด็กพวกนี้นิ! จะไม่หงไม่หิวกันบ้างรึไงน้อ…เตยๆ” คุณหญิงพวงพรเรียกขณะนั่งกระสับกระส่ายในห้องนั่งเล่น
“ขา คุณหญิง” เธอขานรับที่หน้าประตูทางเข้า คุณหญิงพวงพรจึงกวักมือเร่งให้เข้าไปใกล้ๆ “ขา คุณหญิงมีอะไรรึคะ” เธอใช้ระดับเสียงกระซิบราวกับกลัวความลับจะรั่วไหล
“ตาชายกับหนูกุ๊งกิ้งเป็นหุ่นยนต์หรืออย่างไร จะเที่ยงอยู่แล้วยังไม่ลงมาอีก….” พูดจบคุณหญิงพวงพรก็จิปากเสียงดัง 2 ทีพร้อมกับทิ้งหางตาไปตกที่เชิงบันได
“เตยจะขึ้นไปดูให้ดีไหมคะ”
คุณหญิงพวงพรยิ้มบางก่อนจะลุกหันหลังเดินตรงไปยังห้องทำงาน “อย่าให้ตาชายรู้นะว่าฉันสั่ง”
“คะ ฮิ ฮิ ฮิ”
ไม่ถึง 10 นาทีเตยก็กระหืดกระหอบลงมาราวกับเห็นผีเวลากลางวัน เธอมองหาคุณหญิงพวงพรไปรอบๆ โถงก่อนจะเร่งฝีเท้าตรงไปห้องทำงานและเมื่อเคาะประตู 2 ทีเธอก็ถือวิสาสะผลักเข้าไปแบบคนรีบร้อน
“คุณหญิงคะ คุณหญิง”
คุณหญิงพวงพรก้มหน้ามองลอดแว่น “หึ ว่าไง”
“คุณชายคะ คุณชาย” อาการกระสับกระส่ายทำให้คุณหญิงพวงพรยิ่งร้อนรุ่มมากขึ้น
“มีอะไร….ตาชายเป็นอะไร”
“คุณชายไม่อยู่ในห้องคะ”
“หา! ก็ ก็ ไหนเตยเป็นคนบอกเองว่าตาชายกลับมานอนที่บ้านไง” คุณหญิงพวงพรโน้มกระซิบถามกลับเร็วๆ
“ใช่คะ เมื่อคืนอาจารย์พิชัยเธอขับรถมาส่ง เตยยังเป็นคนเปิดประตูรับเองกับมือ หรือ หรือว่า คุณ คุณชายนอน นอนที่ห้องคุณหนูกุ๊งกิ้งคะ” เตยพูดอย่างคนคาดคะเน
“ดูละเอียดแล้วใช่ไหม ในห้องน้ำละ”
“ไม่คะคุณหญิงห้องน้ำยังไม่ถูกใช้งานด้วยซ้ำ”
คุณหญิงพวงพรปล่อยสายตาล่องลอยแบบคนกำลังคิดสักครู่รอยยิ้มบางๆ ก็ฉายตามออกมาให้เห็น “ถ้าเป็นอย่างที่เตยพูดจริงๆ ก็ดีนะซิ”
และไม่ทันที่ทั้งคู่จะต่อไปเรื่องอื่น ชานนท์กับดาริกาก็มายืนเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ ก๊อกๆ…
“คุณแม่คะ มีอะไรกันเหรอคะ กำลังนินทาชายหรือเปล่า” ชานนท์แซวก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้อง…เตยจึงเลี่ยงหลบด้วยอาการเขินอายแบบรีบๆ และก่อนจะพ้นประตูเสียงคุณหญิงก็ดังขึ้นดักไว้
“เตยๆ เดี๋ยว….เอ่อ ตาชาย หนูกุ๊งกิ้ง หิวกันแล้วใช่ไหมแม่ให้เตยทำซุปญี่ปุ่นไว้ให้จะทานกันก่อนไหม แม่จะให้เตยอุ่นรอ”
“กิ้งยังไม่หิวคะคุณหญิงแม่”
“ชายขอเป็นไข่ดาวน้ำสักบ่ายๆ ก็แล้วกันคะ กินเข้าไปตอนนี้มีอ๊วกทิ้งหมดแน่ๆ” ชานนท์บอกคุณหญิงพวงพรจึงโบกมือไล่เตยออกไป เมื่อเสียงประตูปิดเงียบลง
“นั่งๆ…น่าจะเป็นเรื่องสำคัญใช่ไหมถึงได้ลงมาพร้อมกันแบบนี้” คุณหญิงพวงพรถาม
“คะ….คุณแม่คะ ชาย ชาย” ชานนท์อ้ำๆ อึ้งๆ จนได้ยินเสียงจิปากจากคุณหญิงพวงพรบอกรำคาญ
“ชายคะ” ดาริกาแทรกเบรก และเธอก็จ้องหน้าคุณหญิงพวงพรอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนคุณหญิงพวงพรรู้สึกได้ถึงน้ำแข็งกำลังลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง “คุณหญิงแม่คะ คุณหญิงแม่น่าจะพอรู้ใช่ไหมคะว่าการแต่งงานของเราไม่ได้เกิดจากการยินยอมพร้อมใจ” พูดจบดาริกาก็นิ่งราวจะรอจับทางอารมณ์คู่สนทนา ชานนท์ก้มหน้ามองแผ่นไม้สักที่ขอบโต๊ะขณะที่คุณหญิงพวงพรที่ไม่ทันตั้งตัวก็ปรับเก้าอี้พร้อมๆ กับยืดตัวตั้งตรงเพื่อเตรียมรับมรสุม
“แม่ฟังอยู่ พูดต่อเลยคะหนูกิ้ง”
“ชายเห็นว่าทั้งชายและกิ้ง เราทั้งคู่ต่างก็เป็นเหยื่อของเกมการเมือง….คุณแม่คะ….คุณแม่ก็ทราบเบื้องหลังของชายดี รู้จักชายมากกว่าใครในโลก…” ชานนท์ก้มหน้าพูด
“คะเราทั้งคู่ต่างก็มีภูมิหลัง มีความฝัน มีชีวิต และอยากมีชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก คุณหญิงแม่เข้าใจที่กิ้งพูดหรือเปล่าคะ” ดาริกาตาม…ระยะห่างที่ทั้ง 2 นั่งตรงหน้า คุณหญิงพวงพรเริ่มเห็นว่ามันค่อยแยกจากกันไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังเดาไม่ออกว่าจะมาไม้ไหน เธอจึงได้แต่นิ่งพยักหน้าและกระตุ้นด้วยสายตาให้คนใดคนหนึ่งพูดให้จบ “กิ้งอยากเป็นอิสระคะคุณหญิงแม่ และกิ้งเองก็เชื่อเหลือเกินว่าชายก็ปรารถนาไม่แพ้กัน ใช่ไหมคะชาย”
ชานนท์พยักหน้าแรงๆ ให้เห็น “ตลอดเวลาที่ผ่านมาชายไม่เคยทำเรื่องเลวร้าย ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคยสร้างความลำบากใจให้คุณแม่กับคุณพ่อและชายก็อยากเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวเหมือนกับคนปกติ แต่ในเมื่อมันเป็นหนทางที่ชายต้องฝืน ความรักในแบบที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการเห็นจึงมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ….และชายก็คิดว่า ชายไม่น่าจะฝืนได้ตลอด คุณแม่คะ ชายอยากมีชีวิตเป็นของชาย ชายรักนุ รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน ชายอยากมีลูกกับเขาสักคน”
ทันทีที่ชานนท์พูดจบเขาก็คว้ามือดาริกาขึ้นมากุมรวมกันให้คุณหญิงพวงพรเห็น คุณหญิงพวงพรตกตะลึงและไม่ทันกระจ่าง ทั้งคำพูดและพฤติกรรม กระนั้นเธอก็ครองสติพยักหน้าหวังจะเปิดทางให้คนใดคนหนึ่งอธิบายเพิ่มอีกหน่อย
“ตอนแรกที่คุณพ่อ กิ้งหมายถึงคุณพ่อบี๋-ทักพงษ์นะคะ แรกๆ กิ้งไม่ยอมเพราะกิ้งมีคนรักที่อังกฤษอยู่แล้ว คุณพ่อจึงสัญญาว่าหากกิ้งมีหลานให้ท่าน กิ้งจะเป็นอิสระ”
“หากอนุชัยมีลูกให้ชายได้ ชีวิตของชายก็จะเข้มแข็งขึ้น คุณแม่คะ…คุณแม่ต้องช่วยชาย ช่วยเรานะคะ คุณพ่อเคยบอกชายเช่นกันว่าหากชายมีลูกกับกิ้งเมื่อไร ชายก็จะเป็นอิสระเช่นกัน”
“หมายความว่าอย่างไรตาชาย หนูกุ๊งกิ้งแม่ตามไม่ทัน” น้ำเสียงเครียดๆ ของคุณหญิงพวงพรดังแน่นๆ จนชานนท์ต้องวางเอกสารพร้อมกับหมุนให้เห็นชัดๆ
“นี้คือเอกสารการฝากสเปิร์มของชายกับอนุชัยตามที่คุณแม่แนะนำ คุณแม่จำได้ไหมคะ” ชานนท์พูดจบ คุณหญิงพวงพรก็ผงะทิ้งแผ่นหลังไปกับพนักพิง ทั้ง 3 ปล่อยให้เวลาได้ทบทวนก่อนเสียงถอนหายใจแรงๆ ของคุณหญิงพวงพรจะดังขึ้น เธอเป่าลมออกจากปากอีก 2 ทีก่อนจะกลับมานั่งตัวตรงขยับแว่นอ่านเอกสารแผ่นนั้นอย่างจริงจัง
“มิติแห่งรักที่ลึกสุด อ่อนไหวที่สุด ละมุนละไมที่สุด ชายกับหนูกุ๊งกิ้งจะรับมือไหวรึคะ…” คุณหญิงพวงพรจ้องทั้งคู่ไม่กระพริบ “หากผิดพลาดจะเกิดหายนะครั้งใหญ่กับทุกๆ คน โดยเฉพาะเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว”
สักครู่…. “แต่หากกิ้งลังเล ชีวิตทั้งชีวิตของกิ้งก็จะไม่ต่างจากหมกตัวอยู่โลกสีเทา…อันหมายถึงหายนะทั้งชีวิตของกิ้งเช่นกัน”
“ชาตินี้ทั้งชาติชายขาดนุไม่ได้คะคุณแม่ ชายรักเขา ขอให้ได้เขาแม้จะเป็นแค่ตัวแทน ชีวิตทั้งชีวิตของชายก็แลกได้…คุณแม่คะ”
“เหลือทางออกเดียวให้แม่เลือกใช่ไหม” คุณหญิงพวงพรถามแบบคนละเมอ
“เขาจะเกิดมาอย่างผู้ประเสริฐ ชายจะเข้าสู่วัยเบญจเพสอีกไม่กี่ปี ชายมีสติ…ชีวิตของคนๆ หนึ่งหมายถึงชีวิตของชายทั้งชีวิต ชายทำได้คะคุณแม่ ชายรับผิดชอบเขาได้ ถึงจะเป็นมิติรักที่ลึกสุด ชายก็จะจมดิ่งเพื่อเขา จมดิ่งเพื่อนุ เพื่อชายและครอบครัวของชายเอง”
คุณหญิงพวงพรเป่าลมออกมาทางปากอีกครั้งก่อนจะจ้องไปที่กุ๊งกิ้ง เมื่อเธอเงียบ คุณหญิงพวงพรจึงพูดขึ้น “ยามแรกที่เห็นดวงตาของลูก ยามนั้นมิติแห่งรักอีกหลายชั้นจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ หนูกิ้งเตรียมใจกับเรื่องนี้ไว้หรือยังคะลูก”
“คุณหญิงแม่คะ กิ้ง กิ้ง ฮื้อๆ….” ดาริกายกฝ่ามือปิดใบหน้าพร้อมกับร้องไห้กระทั้งสติกลับมาอีกครั้ง “กิ้ง กิ้ง เตรียมใจกับเรื่องนี้มาสักพักแล้วละคะ…กิ้งเชื่อมั่นว่ากิ้งจะควบคุมมิติรัก 2 ด้านให้สมดุลกันและกันได้….ยังดีกว่าจะสะกดคำว่ารักไม่เป็น….กิ้งไม่ได้รักคุณชายชานนท์และกิ้งก็มั่นใจว่าชาตินี้ทั้งชาติกิ้งก็หาเขาไม่เจอ….คุณหญิงแม่คะได้โปรดช่วยเราด้วย ฮื้อๆ ได้โปรดเถอะคะ ลูกคนเดียว เรา 2 คนจะช่วยกันโอบอุ้มเขาเอง…นะคะคุณหญิงแม่ ได้โปรดปลดโซ่ที่ตีตรวนเราทั้งคู่ด้วยเถอะคะ”
เมื่อคุณหญิงพวงพรปล่อยให้ความเงียบได้ทำงานจนตกผลึก เธอจึงดึงมือทั้งคู่มารวมกัน “มิติแห่งรักในครั้งนี้ไม่มีแค่พวกเธอ 2 คน แต่ยังเกี่ยวโยงถึงอนุชัยและเด็กที่จะเกิดมาด้วย….แม่ว่าแม่รู้จักอนุชัยดีระดับหนึ่งและถ้าเป็นความปรารถนาของเราทั้งคู่แม่ก็ไม่มีทางเลือก….ตกลงจ้ะ….แม่จะปลดโซ่ตรวนให้พวกเธอเอง”
เวลา 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชานนท์และดาริกาลุกเดินอ้อมมากอดคุณหญิงพวงพรคนละข้างและหัวไหล่เธอทั้ง 2 ข้างก็เปียกชื้นอย่างไม่มีทางเลี่ยง “แม่จะเป็นคนปลดโซ่ตรวนให้เธอทั้งคู่ด้วยมือของแม่เอง”
“ขอบคุณคะคุณแม่….ฮื้อๆ”
“ขอบคุณคะคุณหญิงแม่ ขอบคุณมากๆ”
“ไม่เอาๆ ไม่ร้องแล้ว ไปๆ หนูกุ๊งกิ้งไปทานข้าว การจะเป็นแม่คนต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่เวลานี้ ไปตาชาย แม่อุตส่าห์ตื่นมาทำซุปมิโซะกับไข่ดาวน้ำไว้ให้แต่เช้าละ….”
“คะ ขอบคุณคะคุณแม่”
อีก 3 เดือนต่อมา
ดาริกาก็เปิดเผยกับคุณหญิงพวงพร ดร.ชวนนท์ และชานนท์ขณะร่วมรับทานอาหารเช้าที่บ้านสายสกุลว่าเธอตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว ทุกคนตื่นเต้นโดยเฉพาะชานนท์ถึงกับลุกเดินอ้อมไปนั่งข้างๆ พร้อมกับสวมกอดในแบบที่ทั้งคุณหญิงพวงพรและดร.ชวนนท์ไม่เคยเห็น สำหรับดร.ชวนนท์ถึงจะเป็นคนเก็บอาการเก่งแต่ก็เผลออมยิ้มให้เห็นนิดๆ กระนั้นสายตาขี้สงสัยก็ยังจ้องไปที่บุตรชายไม่กระพริบ
“ข่าวดีแบบนี้ดิฉันต้องโทรบอกท่านนายยกแล้วละคะ” คุณหญิงพวงพรลุกเดินไปยังห้องรับแขกขณะที่เสียงห่างตามตัวเธอไปเรื่อยๆ สักพักก็เดินกลับมานั่งยิ้มกว้างๆ อยู่ที่เดิมอีก “บ่ายๆ ท่านนายกจะจัดแถลงข่าวที่ทำเนียบ”
“คุณแม่-คุณหญิงแม่คะ” ทั้งชานนท์และดาริกาต่างสะดุ้งสุดตัวจ้องไปที่เธอไม่กระพริบ
“รวมทั้งคุณด้วยชวนนท์…เราทั้ง 2 บ้านต่างก็กำลังจะมีหลานคนแรก…ใครจะไม่ตื่นเต้นจริงใหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า วันนี้ทั้งวันอะไรก็มาทำลายความสุขของฉันไม่ได้” แล้วเธอก็ลุกเดินออกไปดื้อๆ
“อ้าว!..คุณแม่จะไม่ทานอะไรสักหน่อยรึคะ” เสียงของชานนท์ตามเธอทันที่เชิงบันได
“ไม่ละ เดี๋ยวแม่ใส่ชุดที่สั่งตัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่สวย”
“เอ้!….แสดงว่าคุณหญิงรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วรึไง” ดร.ชวนนท์ถามลูกชายแบบคนสงสัยเช่นเคย
“ไม่รู้ละ…ฮ่า ฮ่า ฮ่า วันนี้อย่ามากวนอารมณ์ฉันให้ขุ่นเป็นอันขาด…”
พอถึงเวลาแถลงข่าว บ่ายโมงกับ 25 นาที ครอบครัวชีวาวัฒนะกับครอบครัวสายสกุลก็เบิกบานให้นักข่าวได้ถ่ายรูป แต่คนที่นักข่าวให้ความสนใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็นคู่หนุ่มสาวที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองกับใบหยก ชานนท์กับดาริกาจึงเป็นเป้าแสงแฟลชจากหลายสำนัก เมื่องานแถลงข่าวจบลงบอรดี้การ์ดต้องเข้ามาแหวกทางส่งทั้งคู่ไปยังรถ แต่ในระหว่างที่ดาริกานั่งข้างๆ พ่อตัวเอง เธอก็กระซิบบางอย่างจนสีหน้าดร.ทักพงษ์ไม่สู้ดีจนชานนท์จับได้และขณะทั้งคู่อยู่ภายในรถที่กำลังจะกลับบ้านสายสกุล
“กิ้ง ชายถามหน่อย ระหว่างแถลงข่าวกิ้งคุยอะไรกับพ่อบี๋เหรอ”
“กิ้งแค่ทวงสัญญากับคุณพ่อคะชาย…”
ชานนท์กำลังจะซักต่อแต่ดาริกาก็แทรกดักทางขึ้นก่อน
“เป็นความลับคะชาย แต่กิ้งรับรองว่ามันจะดีต่อเราทั้งคู่แน่นอน” ดาริกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะพูดต่อ “ว่าแต่ชายเถอะจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรคะ”
“พ่อทางสายเลือดชื่อ อนุชัย แม่ชื่อ ดาริกา พ่อแท้ๆ ชื่อ ชานนท์ ชายอยากรวมชื่อเราทั้งหมดเข้าด้วยกัน….แต่ก็ยังคิดไม่ออก กิ้งช่วยชายคิดหน่อยดิ”
“ฮื้อๆ….อนุชัย ดาริกา ชานนท์ คุณหญิงแม่บอกแล้วว่าเราจะได้ลูกชาย…..อื้อ….”
“อ…อา…น ….อานนท์เป็นไง กิ้ง อานนท์เป็นไง ชายชอบคำนี้นะความหมายดีด้วย”
ดาริการยิ้มก่อนเธอจะพยักหน้าแบบเห็นด้วยแรงๆ “คะชาย อานนท์เหมาะสมที่สุด แต่ชื่อเล่นกิ้งของตั้งนะคะ” ดาริกาพูดแล้วมองออกไปนอกรถก่อนจะหันมาบอกชานนท์ว่า “อาตี้เป็นไงคะชาย”
“ว้าว!…แค่ได้ยินชื่อก็หล่อแล้วละ อาตี้ลูกพ่อ….”
อีกฝ่าย…..
เมื่อคุณหญิงพวงพรกับดร.ชวนนท์มีโอกาสอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ความสงสัยสารพัดที่ก่อตัวขึ้นในหัวก็หลุดออกมาทางปาก ดร.ชวนนท์ซักภรรยาแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะเขามั่นใจเหลือเกินว่าชานนท์ไม่มีทางหลับนอนกับดาริกาแน่นอน….เพราะตลอด 4 – 5 เดือนหลังแต่งงาน ชานนท์ได้สร้างปัญหาให้เขาต้องตามแก้ไม่เว้นแต่ละวัน เพราะฉะนั้นชานนท์จึงอยู่ในสายตาเขาเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
“คุณหญิงเราต้องคุยกันให้จบ” ดร.ชวนนท์เปิดประเด็นขณะคุณหญิงพวงพรกำลังนั่งถักนิตติ้งไม่ใช่หมวกก็ถุงมือไว้ให้หลานอยู่ภายในห้องรับแขก
“คะ…” เธอตอบรับสั้นๆ ขณะสายตาไม่ยอมเสียเวลากับงานตรงหน้า “คุณคะ…ว่าไง”
“คุณเลือกใช้ไหมพรมสีฟ้า แสดงว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าจะได้หลานชาย…คุณหญิง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน คุณหญิงไม่เคยโกหกหรือมีความลับเพราะฉะนั้นบอกผมมาตามตรงเถอะ”
คุณหญิงพวงพรถอนหายใจทิ้งยาวๆ เธอวางงานลงบนตักก่อนจะหันมาทิ้งสายตาเบื่อหน่ายให้สามีเห็น “คุณคะ….ดิฉันเป็นหมอนะคะทำไมจะดูไม่ออก”
“แต่ผมว่ามันต้องมีอะไรที่ลึกกว่านั้น ที่คุณเลือกไหมพรมสีฟ้าแทนที่จะเป็นสีชมพู….ตกลงคุณไม่ได้เป็นหมอหลอดเลือดอย่างเดียวแต่คุณเป็นหมอดูด้วยใช่ไหม”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….” คุณหญิงพวงพรหัวเราะยาวก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบล้างคอบางๆ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แต่เธอก็ยังหัวเราะต่ออีกหลายนาที กระทั้งดร.ชวนนท์ขยับเข้าไปนั่งจนเกือบชิด
“ตาชายเคยหลับนอนกับหนูกิ้งตั้งแต่เมื่อไรกัน….วันๆ ไม่ออกไปกับเพื่อนก็หมกตัวอยู่กับขวดเหล้า พูดตามตรงนะที่หนูกิ้งท้องได้ 2 เดือน ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะเป็นลูกตาชายหรือเปล่า”
คุณหญิงพวงพรเหมือนจะตกใจนิดๆ สุดท้ายเธอก็สารภาพและเล่าทุกอย่างให้สามีฟัง ดร.ชวนนท์หน้าเคร่งแดงซ่านมือสั่นจนต้องเดินหลบเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนจะเปิดประตูเรียกแม่บ้านเสียงดัง จนทำให้คุณหญิงพวงพรพลอยตกใจไปด้วย
“เตย เตย”
“ขา คุณชายใหญ่มีอะไรเหรอคะ”
“ตามตาชายมาพบฉันในห้อง….ตอนนี้” แล้วประตูไม้สักที่แกะสลักเป็นรูปมังกรตัวใหญ่ก็ถูกปิดลงอย่างแรง….ปัง!
“คะๆ…..”
“ตายแล้วเตย ฉันพลาดอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย….โอ้ย! ทำไงดี” คุณหญิงพวงพรลุกเดินกุลีกุจอเข้ามาจับมือเตยเขย่าแรงๆ….
“ใจเย็นๆ คะคุณหญิง ปกติคุณชายใหญ่เป็นคนมีเหตุผล ครั้งนี้ 2 พ่อลูกก็คงจะใช้เหตุผลคุยกันอีกเช่นเคยละคะ”
“โอ้ย! ฉันนะฉัน แก่แล้วพูดอะไรไม่ทันคิด…ไปๆ รีบๆไปตามตาชายมาเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วละ”
ที่ห้องทำงานในบ้านสายสกุล
ก็อกๆ….. “เข้ามา”
ทันทีที่พ่อลูกอยู่ภายในห้องทำงานที่มิดชิด ดร.ชวนนท์ที่นั่งตัวตรงๆ อยู่กับเก้าอี้หนังสีดำก็ล้มตัวลงพิงกับพนักพร้อมกับเคาะปากกาลงบนโต๊ะแบบคนคิดไม่ตก “นั่งลง” เขาพูดห้วนๆ จนชานนท์เริ่มจับสัญญาณไปในทางร้าย
“ชายทำแบบนี้ทำไมละลูก”
“คุณพ่อหมายความถึงอะไรครับ ชายตามไม่ทัน”
“ความรักที่ลูกมีให้นุ จริงๆ พ่อก็ต่อต้านและอยากจะต่อต้านแบบคนเป็นพ่อควรกระทำ แต่…..”
“คุณพ่อยิ่งพูดชายก็ยิ่งไม่เข้าใจ…”
ดร.ชวนนท์ยันตัวเองนั่งตรงๆ ตามแบบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์….เขาจ้องหน้าลูกชาย และสำรวจเขากระทั้ง “ทำไมต้องเป็นลูกของอนุชัย”
“พ่อ…..” ชานนท์ตื่นตัวเกือบๆ จะสะดุ้ง
“พ่อถามว่าทำไมต้องเป็นลูกของอนุชัย ทำไมต้องลากบ้านตระกูเชาว์เข้ามาเกี่ยวข้องไม่รู้จบรู้สิ้น”
“คุณพ่อ….”
“พ่อเพียงแต่ต้องการฟังเหตุผลจากปาก…ในหัวชายกำลังคิดอะไรอยู่” ดร.ชวนนท์ย้ำทุกทาง เขานิ่งจ้องชานนท์ และใช้สายตาบอกว่ากำลังรอให้อีกคนเห็น
ชานนท์จิปากพร้อมกับเบือนสายตาสู้กับแสงดาวไล้ท์กลางห้อง….สักครู่… “คุณพ่อครับ นุคือชีวิตของชายและชายก็มีความสุขที่มีเขา”
“ถ้าอนุชัยรักชาย ทำไมต้องทิ้งชายไปด้วย” ดร.ชวนนท์ขึ้นเสียงดัง
ชานนท์เงียบก่อนจะยืดตัวขยับเก้าอี้ให้เข้าที่ก่อนจะวาง 2 มือลงบนโต๊ะแบบคนต้องการความน่าเชื่อถือ “คุณพ่อครับ ที่นุหนีไปก็เพราะว่านุต้องการให้ชายเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว เปิดทางให้ชายได้เป็นสามี เป็นพ่อคน มีชีวิตในแบบปกติ มีครอบครัว สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เขาไม่เคยได้รับ….” ชานนท์ปล่อยให้เวลาและความเงียบไหลผ่าน กระทั้ง “…ถ้าจะบอกว่านุยอมเสียสละเพื่อชายก็ไม่น่าจะผิด แต่คุณพ่อครับ….ชายเองก็ต้องการสร้างครอบครัวในแบบของชายและเวลานี้ชายก็กำลังจะมีลูกกับนุ เรากำลังจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ คุณพ่อครับ ชายอยากขอร้องให้คุณพ่อพยายามเข้าใจมิติรักที่ซับซ้อนเพื่อชาย เพื่ออนาคตของชายสักครั้ง ชายขอร้องครับคุณพ่อ”
“ชายกลับตัวไม่ทันแล้วใช่ไหมลูก”
“ชายเป็นเกย์ตั้งแต่เกิดแล้วครับ….ชายขอโทษ”
“ชาย….” ดร.ชวนนท์แตะที่หลังมือเขาเบาๆ “เพื่อเป็นการลงโทษในฐานะที่ไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อตั้งแต่แรก….ชายกลับขึ้นห้องไปแพ็คกระเป๋าเดินทาง…แล้วกลับไปเรียนต่อที่บริติชโคลัมเบีย ถ้าไม่จบปริญญาเอกไม่ต้องกลับมา”
“คุณพ่อ….”
“ถ้าไม่จบปริญญาเอก อย่ากลับประเทศไทยเป็นอันขาด” ดร.ชวนนท์ลุกยืนถลึงตาพร้อมกับตบโต๊ะเสียงดังด้วยอารมณ์ร้อนล้วนๆ…. “ถ้าชายทำได้พ่อจะช่วยตามหา-ส่งเสริมอนุชัยและสนับสนุนครอบครัวของชายด้วยซ้ำ”
“คุณพ่อ…”
“ถ้าชายเลือกจะใช้ชีวิตแบบที่ชายฝันในประเทศนี้ ชายต้องกลับไปเรียนให้จบ ไม่มีข้อแม้ นี่คือคำสั่ง”
“คุณพ่อครับ….”
“ไป ไปแพ็คกระเป๋าเดินทางซะ งานนี้พ่อยอมชายไม่ได้อีกแล้ว”
“คุณพ่อ…”
“ออกไป….”
ชานนท์หลับตาซี๊ดปาก ความเครียดความกังวลมหาศาลกำลังวิ่งพล่านในสมอง… “คุณพ่อ…คุณพ่อครับ”…ในที่สุดเขาก็ล้มพับลงกับโต๊ะ….. “ชาย ชาย คุณหญิง คุณหญิง….” ดร.ชวนนท์ตะโกนเสียงดังลั่นห้อง “คุณ คุณหญิง”
นาทีเดียวกันประตูบานใหญ่ก็ถูกผลักเข้ามา “ชาย ชายเป็นอะไรลูก คุณหญิงพวงพรถลาเข้าไปเช็คอาการแบบคนร้อนใจ สักพักสายตาอาฆาตก็มาตกที่สามี “คุณพูดอะไรกับตาชาย คุณคะ คุณพูดอะไรกับตาชายคะ…”
“คุณหญิง”
“ตาชายแค่สลบ คุณคะ คุณพูดอะไรกับลูก”
“คุณหญิง…ตาชายได้เลือกชีวิตของเขาแล้ว หากเขากับอนุชัยจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ พ่อ พ่อ และลูก….เขาจะต้องกลับไปเรียนต่อให้จบ….ไม่อย่างนั้นสังคมไทยจะไม่มีวันยอมรับ ผม ผมเพียงแต่หวังดีเท่านั้น….”
คุณหญิงพวงพรซับน้ำตาทีละข้าง เธอยังนิ่งและเมื่อเตยกับสมานวิ่งเข้ามาสมทบ
“สมานไปตามสมนึกกับวิเชียรมาช่วยกันอุ้มตาชายขึ้นห้องนอนที เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป”
“ครับคุณหญิง”
หลังจากคนทั้งหมดอุ้มชานนท์ขึ้นห้องนอนไปแล้ว ขณะที่คุณหญิงพวงพรกำลังจะเดินตามเตยที่หิ้วกระเป๋ายาล่วงหน้าไปก่อน เสียงดร.ชวนนท์ก็ดังขึ้นด้านหลัง
“คุณหญิง ผมตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม”
คุณหญิงพวงพรผงกหัว เธอซับน้ำตาบางๆ อีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นบันไดหายไป….
“ชาย….พ่อทำดีที่สุดแล้วลูก”
อีก 7 เดือนต่อมา
หญิงรัดดากับคุณหมอแครายที่กลับมาทำคลอดให้ดาริกาที่เมืองไทยก็ส่งสัญญาณวิดีโอคลอสดๆ ไปให้ชานนท์ที่แวนคูเวอร์ประเทศแคนาดา ภาพเริ่มตั้งแต่อนุชาติที่นั่งรถเข็นยิ้มโบกมือให้กล้อง ต่อมาก็เป็นสมรและศักดิ์ดา—[หญิงรัดดา] พี่ชายคะ ดูคุณพ่อซิคะเป็นอะไรของเขาเดินไปเดินมาไม่หยุด…เออหญิงเกิดอาการ dizzy มากๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า—–[ชานนท์] ใครเป็นหมอทำคลอดคะน้องหญิง—–[หญิงรัดดา] แหมจะเป็นใครไปได้คะก็คุณหมอแครรี่น้องสาวคนเก่งของพี่ชายนั้นแหละคะ แต่งานนี้คุณแม่ขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย หญิงเลยต้องรออยู่ด้านนอก—- [ชานนท์] น้องหญิงคะพี่ชายอยากเห็นภาพแรกของอาตี้ น้องหญิงเข้าไปถ่ายในห้องคลอดเลยได้ไหมคะ—–[หญิงรัดดา] ไม่เอาคะพี่ชายหญิงไม่เหมาะกับเลือดแต่พี่ชายใจเย็นๆ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน นั่นๆ สัญญาณภาพจากคุณหมอป๊อบมาแล้วเดี๋ยวหญิงส่งต่อเลย—–(แล้วภาพก็ตัดเข้าไปในห้อง) พี่ชายคะ พี่ชายอาตี้โผ่หัวออกมาแล้วคะ พี่ชายเห็นไหม อ๊าก อ๊าก พี่ชายคะ พี่ชายคะ อาตี้……อุแว่! อุแว่! อุแว่!…พี่ชายได้ยินเสียงอาตี้ไหมคะ พี่ชาย พี่ชายยัง Call กับหญิงอยู่ไหม—- [ชานนท์] คะ….คะ….พี่ชายยังอยู่—– [หญิงรัดดา] พี่ชายคะตาเขาสวยมากๆ นั่นๆ พี่แครรี่อุ้มโชว์ให้เห็น พี่ชายเห็นชัดไหมคะ….ปีใหม่หลานย่า…อาตี้คะคุณแม่….ปีใหม่หลานย่า แม่ไม่ชอบชื่อฝรั่ง เขาเกิดปีใหม่ก็ต้องชื่อปีใหม่ใช่ไหมแครราย….ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่ชายคะ 3250 กรัมคะหลานปีใหม่ของอาแคร….—– [หญิงรัดดา] โน โน โนคะเจ้…ต้องเป็นหลานอาตี้ของอาหญิงรัดดาต่างหาก—–
ชานนท์นั่งมอนิเตอร์อยู่อีกซีกโลกเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลไม่หยุด กระนั้นในภาพที่หญิงรัดดาเห็นก็ยังมีหนุ่มฝรั่งหน้าหล่อตัวสูงคอยยื่นกระดาษซับน้ำตาอยู่ข้างๆ—- [หนุ่มฝรั่ง] Congratulations Oh! Happy Baby, don’t cry,Happy Happy and Happy New year Chanoon——[หญิงรัดดา] โอ้!…พี่ชายคะ พี่ชายนั้นใครคะหล่อจังเขาชื่ออะไรหญิงอยากรู้จัก Hi…. [หนุ่มฝรั่ง] Hi How are you—- [หญิงรัดดา] Hi is a good day Ha Ha Ha พี่ชายคะ พี่ชายน้าสมรจะคุยด้วยนะ —-[สมร] สวัสดีจ้าชาย ลูกชายเหมือนกับ….ฮื้อๆ….. [หญิงรัดดา] โอ้โอ๋ ไม่ร้องไม่ร้องคะน้า—–[สมร] น้าจำดวงตาของอนุชัยตอนเป็นเด็กไม่เคยลืม เขาเหมือนพ่อเขายังกับพิมพ์เดียวกัน…ตาชายรีบๆ เรียนให้จบนะลูกน้าจะมาเลี้ยงปีใหม่รอไม่ต้องเป็นห่วง—–[หญิงรัดดา] คะพี่ชายคะคุณอาอนุชาติก็มานะคะ…. [ชานนท์] สวัสดีครับคุณอา—- [อนุชาติ] หวัดดีชาย แวนคูเวอร์กำลังหนาวเลยซิ อายินดีด้วยนะพวกเธอได้ลูกชาย หน้าเหมือนพ่อเขาตอนเป็นเด็กไม่ผิดเพี้ยน….—– [หญิงรัดดา] คุณแม่คะ คุณแม่มีอะไรจะ Call กับพี่ชายไหมคะ—-[คุณหญิงพวงพร] ตาชาย ตาปีใหม่ได้พ่อเขามาเกือบ 100% รวมทั้งกรุ๊ปเลือดก็ยังเป็น AB RH- แม่ดีใจด้วยนะ พ่อเองก็ดีใจและตื่นเต้นเอามากๆ รวมทั้งท่านนายกและคุณหญิงก็มา—– [ชานนท์] คะคุณแม่ขอบคุณมากๆ คะแต่ขอชายได้เห็นหน้าลูกใกล้ๆ อยากเห็นหน้าอาตี้ตรงๆ—-[คุณหญิงพวงพร] ต้องรอสักครู่นั่นแหละเพราะอาแครรายกำลังพาไปอาบน้ำเดี๋ยวแม่จะให้ หญิงรัดดาส่งไปให้ดูเรื่อยๆนะ ชายสบายดีนะคะลูก—–[ชานนท์] คะคุณแม่—-[หนุ่มฝรั่ง] Sawat Dee Khub Mama—- [คุณหญิงพวงพร] Hi สวัสดีคะ How are you—–[หนุ่มฝรั่ง] good day —[คุณหญิงพวงพร] ชายนั้นเพื่อนลูกใช่ไหม—-[ชานนท์] คะเป็นรูมเมทชายมาตั้งแต่ซานฟรานซิสโกแล้วละคะ—- [หญิงรัดดา] พี่ชายคะงั้นแค่นี้ก่อนนะมีไรดีๆหญิงจะอัพเดทส่งไปให้ OK นะ ฝากจูจุ๊บรูมเมทพี่ชายด้วย—[ชานนท์] เกินไปแล้วคะน้องหญิง—-[หญิงรัดดา] ฮ่า ฮ่า ฮ่า บ้าย บาย จุ๊บ จุ๊บ ไปแล้วค้า—-
เมื่อดาริกาฟื้นตัว เธอก็บินกลับอังกฤษทันที….บทเรียนในครั้งนี้ 2 ครอบครัวจึงได้รับรู้ความเจ็บปวด-ยินดี ปะปนกันไปจนแยกไม่ออก
“ชีวิตของเด็กสมัยนี้เข้าใจยากจริงๆ ดอกเตอร์ว่าไหม” นายกรัฐมนตรีทักพงษ์พูดกับดร.ชวนนท์ขณะทั้งคู่กำลังยืนดูหลานที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นภายในห้องกระจก
“พูดตรงๆ ผมตามพวกเขาไม่ทันครับท่านนายก”
“เฮ้ย!….สงสัยอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้าเราต้องออกแบบกฎหมายใหม่ทั้งหมดแล้วละ ประชุมครั้งหน้าคงต้องหาคนมาทำงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ….ไม่ทันสมัยเราก็จะโยนต่อสมัยหน้าคุณว่าไหม”
“ผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับท่าน”
“ตกลงไอ้ตัวเล็กมีชื่อรึยัง เห็นหนูหญิงรัดดาเรียกอาตี้-ปีใหม่…ผมเลยไม่แน่ใจ”
“ชื่อจริงๆ พ่อ พ่อกับแม่เขาตั้งเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ เขาชื่อ อานนท์ แต่ชื่อเล่นผมกับคุณหญิงตกลงกันว่าจะเรียก ปีใหม่ คล่องปากมากกว่า หรือท่านนายกว่าไงครับ”
“ผมชอบทั้ง 2 ชื่อนะ แต่ขอเรียกว่าปีใหม่เหมือนกับดอกเตอร์นั้นแหละ คนรุ่นเรามักจะชอบชื่อไทยไทยไทยว่าไหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
จบ อนุชาย2 บทที่2 กำเนิดอาตี้