อนุชาย2 บทที่20

อนุชาย2 บทที่20

อ่าน อนุชาย2 บทที่20 ปาร์ตี้

อนุชาย2 บทที่20 ปาร์ตี้

บ้านพักอาศัย 2 ชั้นขนาดเล็กบนถนนสายหนึ่ง…

หลังจบอาหารค่ำ ทันทีที่ สตีป เจมส์มาร์คอร์ พาสาวน้อยเบลและรินรี่ขึ้นห้องนอนไปแล้ว แขไข อนุชาและแครรายก็ได้โอกาสนั่งปรึกษากันเพียงลำพัง

“พี่หญิง พี่หญิงรู้ใช่ไหมว่าเรา 2 คนต่างเป็นเหยื่อความอยุติธรรมด้วยกันทั้งคู่” อนุชา เชาว์ เปิดประเด็น เขาเงียบอยู่ในสายตาผู้หญิง 2 คน “อั๊ว!…รู้ตัวว่าเป็นคนดื้อรั้นหัวอ่อนมาตั้งแต่เด็ก จนถูกอาเฮียชาญปั่นง่ายๆ….แต่เวลานี้อั๊ว! ได้คิดได้สติ เป็นตัวของตัวเอง รู้ผิดชอบชั่วดีมากกว่าแต่ก่อนเยอะ”

“อาชาคะ….เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วนะคะ” แครรายพยายามจะปลอบ แต่แววตาที่ลุกเป็นประกายวาบ! ก็จ้องเธอ

“แคร….มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก” อนุชา เชาว์ บอกเป็นความนัย….เล่นเอาแขไขและแครรายที่นั่งติดกันสะดุ้งจนเห็นโซฟาขยับ

“อา อา หมายความว่าอย่างไรคะ”

“ฉันเองก็คิดไม่ตก….อันที่จริงอยู่ในคุกน่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอกเสียอีก” แขไขแทรกไม่กึ่งสนับสนุน แต่เธอก็ผิวปากปล่อยสายตาลอยๆ ไปทั่วบ้าน

“นี่หมายความว่าเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลมาจากอาชาญคนเดียวเหรอคะ….” แครรายก้มถามเบาๆ สีหน้าตื่นตระหนกไล่จับทั้ง 2 คนสลับกันไปมา “แล้วคุณพ่อ-พี่ปกรณ์กับอนุชัย….”

“คิดว่า 3 คนนั้นรู้เรื่องนี้ดี อาจจะมีข้อมูลดีกว่าเราเสียอีกโดยเฉพาะอาเฮียชาติ….” อนุชาบีบน้ำเสียงต่ำแต่ชัดเจน…. “แครไม่สังเกตุพินัยกรรมเหรอทำไมอาเฮียชาติต้องทุบกงสีบ้านตระกูลเชาว์และยังวางทนายความเพื่อช่วยเหลือนานขนาดนี้….”

“มิน่าละถึงได้กันอาชา คุณแม่ให้ห่างจากบ้านตระกูลเชาว์ตั้งแต่ออกจากเรือนจำ” แครรายพูดจบก็ยกมือปิดปากด้วยท่าทีตกใจ

“พี่หญิงครับ ปกรณ์พูดถูก…บ้านหลังนี้จะต้องเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของพี่หญิงเอง”

“เธอหมายความว่าอย่างไรอนุชา” แขไขถามกลับ

อนุชาจ้องหน้าเธอตรง ๆ “ฟังอั๊ว! ให้ดีๆ นะ” อนุชาสูดลมเข้าปอดก่อนจะปล่อยทิ้ง… “เวลานี้อั๊ว! คือตัวอันตราย หากอั๊ว! อยู่กับพี่หญิง พี่หญิงเองนั้นแหละจะพลอยไม่ปลอดภัยไปด้วย”

“อาชา!….” แครรายอุทานคล้ายจะคิดทัน

อนุชาพยักหน้า “แคร…อาอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้….”

“อนุชา…แล้ว แล้ว….” แขไขจะพูดแต่ก็ไปต่อไม่เป็น กระทั้งอนุชาแทรก

“พี่หญิงกับแครไม่ต้องเป็นห่วง” อนุชาหันไปจ้องแครรายอีก “อาเป็นผู้ชาย อาพอมีเงินอยู่บ้างและปกรณ์ก็ได้จัดหาที่พักไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”

“อาคะ….แล้ว แล้ว”

“พี่หญิงไม่โดดเดียวหรอกแคร อาไม่ได้ไปไหนไกล ปกรณ์วางแผนณ์ทั้งหมดค่อนข้างรอบครอบ” อนุชาบอกพลางพยักหน้าให้ทั้งคู่มั่นใจ “พี่หญิงอยู่คนเดียวปลอดภัยมากกว่าจะมีเป้ากระสุนอย่างอาอยู่ด้วย”

“ทำไมเรื่องมันถึงได้แย่ลงไปเรื่อยๆ ละคะ”

“แครรี่….” แขไขเรียกสติลูกสาวพลางจับใบหน้าเธอให้มองที่ตัวเอง “…..เรื่องทั้งหมดมันไม่ได้แย่ลงเรื่อยๆ หรอกลูก แต่มันแย่มาตั้งแต่เริ่มต้น….ไม่อย่างนั้นแม่คงไม่หนีไปซื้อบ้านที่ เซอร์แจ๊คสันต์ หรอก”

“แครสบายใจได้….ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หญิงแขเพราะทำเลบ้านหลังนี้ จะให้อาเฮียชาญจ้างนักสืบอย่างไรก็ไม่มีทางเจอ ในเมืองไทยนอกจากทนายอำพลแล้วก็มีอากับปกรณ์เท่านั้นที่รู้….” อนุชาพยักหน้าแน่นๆ

“แล้ว…..”

“อั๊ว! ต้องไปคืนนี้เลย ยังมีหลายอย่างต้องสะสาง”

“อาชา….” แครรายพยายามจะทัดทาน

“อาต้องไปคืนนี้แครและไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องพี่หญิงทั้งนั้น อากับปกรณ์จะดูแลให้เอง” อนุชาย้ำ

“แม่อยู่คนเดียวได้แครรี่…” และแขไขก็ย้ำกับลูกสาวอีกคน

“ค่ะ….เมื่ออาชาและพี่ปกรณ์รับปากแครก็สบายใจแล้วละค่ะ”

line1 for timmy

ก่อนคืนปาร์ตี้….

หลังจากเลยเวลาอาหารเย็นมา 2 ชั่วโมง ทั้งอนุชัยและดร.ชานนท์ก็ยังนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น ไฟดาวไรท์ทั่วโถงเพดานสูง 28 ดวง ถูกเปิดใช้งานในบริเวณแคบๆ สีวะนิลาฉาบใบหน้าหมองๆ ของทั้งคู่ขณะกำลังลงเสียงต่ำปรึกษาราวกับมดแดง 2 ตัวใช้หนวดสื่อสารกันไปมาเงียบๆ…

“ฉันเห็นสายตาของอาตี้จ้องนายก่อนไปบ้านสายสกุลอดกังวลว่าจะรู้เรื่องไม่ได้” อนุชัยพูดลอยๆ พลางซี๊ด!ปากต่อ…เขาเดาะลิ้นราวกับคนคิดไม่ตกจนดร.ชานนท์ขยับโอบไหล่

“ฉันว่านายน่าจะคิดมากไปเอง….เอานะปาตี้ก็จัดภายในบ้าน Loft Love ฉันรู้จักทุกซอกทุกมุมนั้นแหละ”

“อย่ามั่นใจเกินไป…อาตี้คือลูกชายนายนะ อย่างไรซิกเซ็นต์ก็มากกว่าคนอื่นๆ….ฉันว่า…..”

“เออน่า!…อย่าคิดเยอะ ฉันรับรองว่าฉันเล่นบทคนตาดีได้เนียนกว่าคนตาดีอย่างนายซะอีก” ดร.ชานนท์พยายาม “ว่าแต่นายเถอะ อย่าเผลอมีพิรุธให้ลูกเห็นก็แล้วกัน”

“คุณ….” อนุชัยเรียกชื่อและจ้องเขาตรง ๆ…. “นายนี่นะเล่นเนียน ขนาดฉันยังดูออกเลยแล้วทำไมอาตี้ถึงจะดูไม่ออก”

“เออๆ….ไว้ใจฉันเถอะ….ว่าแต่นายคืนนี้มีงานไหม”

“ทำไม….” อนุชัยถามและซี๊ด! ปากแบบคนกำลังใช้ความคิดต่อเนื่อง

“คิดมากแบบนี้มีทางเดียวที่จะรักษา” ดร.ชานนท์พูดยิ้มๆ

“นายจะรักษาฉันอย่างไรไม่ทราบ”

“ไม่ต้องขึ้นเสียงสูงข่มฉันเลย…ปะ ขึ้นห้องกัน เดี๋ยวหมอจะฉีดยาให้….”

“ชานนท์”

“เออ…รับรองหายขาด ชัวร์!”

“……………” อนุชัยจ้องเขาไม่กระพริบ จนความเงียบครอบงำเกิน 10 นาที “ตาบอดแล้วยังหื่นไม่เลิก”

“เอ้!….ตาบอดแล้วเกี่ยวอะไรกับ……”

“พอๆ….จะให้ฉันจูงขึ้นห้องไหม” อนุชัยว่าให้ ดร.ชานนท์ยิ้มเกือบจะหลุดหัวเราะ สุดท้ายเขาก็ชะโงกกระซิบเสียเอง….

“ถ้าร่านนัก เราเปลี่ยนบรรยากาศตรงนี้กันเลยไหม”

อนุชัยสับกะโหลกเสียงดังก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องนอนดื้อๆ… “ปิดไฟด้วย”

“จ้า……ฮ่า ฮ่า ฮ่า เปลี่ยนบรรยากาศมั่งก็ไม่ได้”

line1 for timmy

บ่ายแก่ๆ

รถตู้จากบ้านสายสกุลก็แล่นผ่านประตูรั้วไม้สักสีดำเข้ามาจอดภายในบริเวณลานปูนกว้างๆ หน้าป้อมยาม ไม่นานรถตู้อีกคันก็ตามเข้ามา เตยและสมใจรวมทั้งคุณหญิงพวงพรกำลังวุ่นอยู่ในครัวไทยและเคาน์เตอร์ครัวฝรั่งภายในโถงรวมเพดานสูง อาหารเย็นสำหรับงานปาร์ตี้ย่อมๆ กำลังเริ่มต้น สตีปกับคุณหมอแครรายที่ลงรถก็หิ้วอาหารจากโรงแรมหลายกล่องเข้าไปสมทบ ขณะที่เด็กๆ รวมทั้งดร.ชวนนท์กำลังวุ่นวายอย่างหนักกับเกมแปลกๆ ที่เบลและรินรี่คิดขึ้นจนได้ยินเสียหัวเราะไม่ขาดสาย อนุชัยให้ดร.ชานนท์คอยสังเกตการณ์เฉพาะภายในบ้านที่ชำนาญ ส่วนตัวเองก็วิ่งเข้าวิ่งออกจนกระทั้งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหญิงรัดดาจึงเดินแจกหมวกกระดาษทรงสูงแหลมให้ทุกคนสวมจนคล้ายจะเป็นงานปาร์ตี้วันคริสต์มาสกลายๆ…จนกระทั้งคุณหมอแครรายเคาะแก้วน้ำส่งสัญญาณขณะที่หญิงรัดดาขึ้นไปยืนบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว

กริ่งๆ…. “อ้าว!….ทุกคนๆ คะ ฟังทางนี้คะ….” แครรายตะโกนจนในห้องเงียบกริบ “เชิญน้องหญิงคะ….เธอมีเซอร์ไพรส์ ใครพลาดถือว่าน่าเสียดายมาก ๆ….”

“คะ….ขอบคุณพี่หมอคะ….คืออย่างนี้นะคะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นคุณพ่อ-คุณปู่ของอาตี้หรือคุณตาของเบลและรินรี่ใจป้ำมอบเงินสดๆ ให้หญิงเมื่อคืน 1 ล้านบาท” เธอชูซองหลากสีในมือให้ทุกคนเห็น

#วู้!-วาว!….# ทุกคนตาโตไปตามๆ กัน….

“หญิงเลยให้พี่ชายชานนท์จัดเงินสดใส่ซองมีทั้งหมด เอ่อ…..” หญิงรัดดาไม่มั่นใจเลยนับซองในมือตัวเองอีกที “คะมีทั้งหมด 24 ซอง….”

“โอ้!…..คุณปู่ฮะ….หมายความว่า…” อาตี้ตะโกน

“ในแต่ละซองจะมีจำนวนเงินไม่เท่ากัน ซองเล็ก ซองใหญ่ งานนี้ไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินนะคะ ใครเลือกซองใหญ่ๆ เผลอๆ อาจจะได้นั่งนับแบงก์ 100 บาทจนเมื่อยมือก็เป็นไปได้นะคะ….ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ครับ….ทุกคนจะได้รับซองคนละซอง เรามาวัดดวงกันดีกว่า….ว่าใครจะเป็นเจ้าของเงินสูงสุด….”

อาตี้!….ชะงัก! นิดๆ…ก่อนจะปรับสีหน้ากลับสู่ความรื่นเริงและ “คุณพ่อฮะ….กระซิบบอกอาตี้หน่อย”

“โน โน โน….เราทุกคนต้องเท่าเทียมกันใช่ไหมคะคุณพ่อ” หญิงรัดดาชูซองในมือสูงๆ พลางตะโกนข้ามไปยังห้องรับแขก

ดร.ชวนนท์ยิ้มไม่หุบก่อนจะพยักหน้าราวกับแป๊ะยิ้มข้างๆ รินรี่ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า….เริ่มจากคนอายุมากที่สุดก่อนเป็นไง…..”

“ไม่ได้นะฮะคุณปู่….ต้องเริ่มจากคนอายุน้อยที่สุดก่อน….ใช่ไหมฮะคุณพ่อ”

“อ้าวๆ…..เริ่มจากคนอายุน้อยที่สุดก่อนจ้า!….หนูรินรี่จ๋าจะเลือกซองสีอะไรดีจ้ะ”

สาวน้อยวัย 14 ปี ออกอาการตื่นเต้นเป็นพิเศษ….เธอหันไปมองหน้าแครรายแบบวัดใจสักพัก “คุณอาขากระซิบก็ได้คะ”

แต่เสียงทุกคนในห้องก็กลบเสียงเธอจนหมดสิ้น #รินรี่ รินรี่ รินรี่#

“รินรี่สีน้ำเงินซองใหญ่ๆ ไปเลย” อาตี้กระซิบ หญิงรัดดาใช้นิ้วจุ! ปากส่งสัญญาณ

“สี…สีน้ำเงินคะ” และในที่สุดเธอก็เลือกสีนั้นจริง ๆ

“เอาไปเลย แต่ห้ามแกะก่อนนะจ้ะ!….”

“ใช่เราจะแกะซองพร้อมๆ กันหลังอาหารค่ำ…..” ดร.ชานนท์เสริม “ต่อจากรินรี่ก็เป็นอาตี้ใช่ไหม” เสียงดร.ชานนท์ดังขึ้นอีก

อาตี้ชะงักกับท่าทีแปลกๆ ของพ่อตัวเอง แต่ก็ปรับเข้าสู่โหมดรื่นเริงได้อีกวาระ “ฮะ….คุณพ่อ….”

“โน โน อาตี้….ห้ามเอาเปรียบคนอื่น….”

“ถ้าอย่างนั้น…..อาตี้คิดว่าคุณพ่อต้องเป็นสมการผกผันแน่นอน….อื้อ!….” อาตี้จ้องซองในมือหญิงรัดดาไม่กระพริบ

“สมการผกผันเหรอ….สีเทาเป็นไงอาตี้ซองเล็ก ๆ แฟ่บ ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”

#อาตี้ อาตี้ อาตี้…..#

“ฮะ ซองสีเทาเล็ก ๆ นั้นละ”

ทุกคนในงานเฮลั่นบ้าน

กระทั้งซองในมือหญิงรัดดาถูกแจกจ่ายไปอยู่ในมือของทุกคน ไม่เว้นกระทั้งเตย สมใจ ลุงเย็น และคนขับรถพร้อมกับบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกรั้ว ใบหน้าแช่มชื่นมีรอยยิ้มฉาบไปทั่วทุกตัวคน เสียงหัวเราะต่อกระซิบดังไม่จบ แต่อาตี้กลับชะงักค้าง ชะงักค้าง และชะงักค้าง….กระทั้งจบจากอาหารค่ำ เสียงเพลงงานปาร์ตี้สนุกสนานก็ดังขึ้นจากปลายนิ้วของเขา หญิงรัดดานำหลานสาวเต้นเกาะไหล่วนไปรอบๆ เปียโน สตีป เจมส์มาร์ทคอร์ กระโจนเข้าเกาะหลังเบล อนุชัยจึงขยับพร้อมกับชานนท์ เสียงเปียโนชะงักนิดๆ สุดท้ายก็กลับเข้าสู่โหมดเดิม แครราย เตย สมใจ คุณหญิงพวงพรกระทั้งสุดท้ายเป็นดร.ชวนนท์จนเกิดงานเต้นรำรูปวงกลมอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงหัวเราะกินเวลายาวนานกว่าปกติ  เสียงเปียโนในท่วงทำนองสนุกสนานก็วนไปมาหลายรอบ กระทั้งปลายนิ้วของอาตี้ไล่ตัวโน้ตสู่เพลงระดับซึ้งๆ ต่ำๆ ทุกคนจึงแยกย้ายกลับเข้าประจำตำแหน่ง แสงโคมสีวะนิลาสว่างไสว  ปลายนิ้วของอาตี้กำลังสร้างคำถามขึ้นในใจ กระทั้งเสียงเพลง “พ่อ” ดังโหยหวนออกมาจากปาก น้ำตาของเด็กหนุ่มวัย 15 จะย่าง 16 ปีก็ไหลพรากๆ

……….พ่อจ๋าพ่อ พ่อจ๋า พ่อจ๋าพ่อ……….

………ทำไมหนอ อกหนูจึง ถึงหวั่นไหว……….

………เห็นอาการ พ่อเพ้อเพ้อ ละเมอไกล……….

………สายตาใย หมางเมิน ไม่เหมือนเคย………

……….หนูอยู่นี่ พ่อจ๋าโปรดมอง จ้องทางนี้………

………หนูแอบมี แอบซื้อของกะ จะเซอร์ไพรส์……….

………แทนสัญญา แทนทั้งหมด จากหัวใจ………

……….เหตไฉน พ่อถึงเมิน เหมือนไม่แคร์……….

……….หรือว่าหนู เป็นแค่ลม โถมละล่อง………

……..เป็นเพียงสิ่ง ของบางอย่าง พลางวูบหาย……….

………พ่อไม่มอง หรือไม่เห็น หรือจงใจ………

……..หนูร้องไห้ ให้เพลงสื่อ ถึงเสียงครวญ………

………พ่อจ๋าพ่อ มองที่หนู หนูอยู่นี่………

………จ้องที่นี่ คอของหนู พ่อเห็นไหม……….

………เห็นแหวนเงิน 3 วงล้อม ด้วยเพชรทราย………

………กะมอบให้ พ่อ 2 คน และหนูเอง……….

………เป็นแหวนเงิน จากน้ำพัก น้ำแรงสร้าง……….

……….เป็นค่าจ้าง เงินก้อนแรกที่ ชีวิตหา……….

………พ่อโปรดมอง ได้โปรดเห็น เป็นประจักษ์ตา……….

……….หนูอุตส่าห์ หามอบให้ จากใจจริง……….

ดร.ชานนท์ชะงักค้าง ทุกคนก็ชะงักไปตามๆ กัน กระทั้งเสียงเพลงเศร้าๆ จบลง เสียงอนุชัยกับดร.ชานนท์จึงได้ดังขึ้นพร้อมกัน

#อาตี้!…..#

“พ่อครับ พ่อเป็นอะไร พ่อเป็นอะไร พ่อมองไม่เห็นอาตี้เหรอ พ่อครับ”

ทั้งดร.ชวนนท์กับคุณหญิงพวงพรยกมือขึ้นปิดปากอย่างคนตกใจสุดขีด ดร.ชานนท์พุ่งกอดรวบอากาศ….ความว่างเปล่าบอกว่าเขาพลาด อนุชัยจึงดึงร่างโซเซของเขามารวมกันจนอาตี้ที่จ้องอยู่ก่อนแล้วถึงกับสะดุ้งโหยง หญิงรัดดากับแครรายเองก็ลุกยืนด้วยอาการตกใจสุดขีดเมื่อทุกคนต่างช็อก โถงรวมเพดานสูงจึงเงียบ….10 นาทีแสงโคมสีวะนิลาได้ทำหน้าที่เต็มๆ กระทั้งเสียงคร่ำครวญของอาตี้ดังให้ได้ยินอีก

“พ่อครับ พ่อชายครับ พ่อเป็นอะไร….พ่อ พ่อ พ่อครับ ฮื้อๆ” อาตี้สะอื้น แขนทั้ง 2 ข้างสั่นราวกับไม่มีวันจบ “พ่อนุ…พ่อชายเป็นอะไร”

ขณะที่ 3 ร่างกำลังกอดกันกลม หญิงรัดดากับแครายก็ลุกเดินเข้ามารวมกับดร.ชวนนท์และคุณหญิงพวงพรที่ร้องไห้สะอื้นจนตัวโคลง

“คุณแม่คะ….พี่ชาย พี่ชาย….เป็นอะไรคะ” หญิงรัดดาถามเสียงสั่นโดยมีแครายคอยปลอบอยู่ด้านหลัง

“พี่หมอละคะพออธิบายได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายกันแน่…..ฮื้อๆ”

และเมื่อเวลาทำให้ทุกคนนิ่งได้ระดับหนึ่ง เสียงคุณหญิงพวงพรจึงดังขึ้น

“ทุกๆ คนฟังแม่ให้ดีๆ….อาตี้ด้วย….” เธอลุกเดินเข้าไปคว้าหลานชายที่แยกกับอนุชัยกับชานนท์มากอด

“คุณย่า เกิดอะไรกับคุณพ่อกันแน่ฮะ….คุณย่า” อาตี้ยังไม่นิ่ง และเธอเองก็ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ คุณหญิงพวงพรลูบหัวหลานชายปิดสะอื้นพักใหญ่ๆ

“ชานนท์ ถึงเวลาต้องเปิดเผยให้ทุกคนรู้ความจริงแล้วนะลูก….” เธอหันไปคล้ายจะขอความเห็น ดร.ชานนท์ที่ถูกอนุชัยโอบไหล่ไว้หลวมๆ พยักหน้าในทิศทางที่เกือบจะเป็นเธอ…..เสียงคุณหญิงพวงพรจึงดังขึ้นจริงๆ จังๆ…. “ทุกคนฟังแม่ ฟังยาย ฟังย่าให้ดีๆ เวลานี้ดวงตาทั้ง 2 ข้างของชานนท์บอดสนิท”

“หา!….คุณย่า”

“คุณแม่…..”

“….นี่คือความจริง และความจริงอีกข้อที่ทุกคนจะต้องรับรู้และช่วยกันภาวนานั้นก็คือประสาทตาของชานนท์ยังไม่ถูกทำลาย เพียงแต่ก้อนเนื้อในสมองขยายกดทับไว้เท่านั้นเอง”

“คุณหญิงป้าหมายความว่าหากผ่าตัดเอาก้อนเนื้อที่ว่าออกได้สำเร็จ พี่ชายก็จะกลับมามองเห็นอีกครั้ง แครเข้าใจถูกต้องไหมคะ” แครรายถาม….

“ใช่!….แต่การผ่าตัดเปิดสมองเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงเอามากๆ….ถ้าตาชายฟื้นก็อาจจะเป็นได้หลายทาง เจ้าชายนิทรา1 ไม่สมบูรณ์2 เปอร์เซ็นต์จะปกติ 100 เปอร์เซ็นต์มีน้อยเหลือเกิน”

“คุณหญิงป้าครับ พอแล้วครับ พอแล้ว”

“ถึงเวลาที่ตาชายจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงแล้วตานุ….ตาชายต้องรับรู้และเตรียมตัวสู่งานผ่าตัดใหญ่….ป้าต้องบอกให้เขารู้ทุกๆ เรื่อง”

“ไม่เป็นไรนุ ฉันพร้อมแล้วละ”

“คุณพ่อ….คุณพ่อครับ….” อาตี้โผกลับมากอดดร.ชานนท์อีกครั้ง

“ไหนเอาแหวนเงินล้อมเพชรทรายที่ว่าสวมให้พ่อหน่อย…..ดูซิว่าอาตี้จะซื้อมาได้พอดีหรือเปล่า” ดร.ชานนท์ต้องการจะเบรกความเศร้า เขาควานไปที่คอลูกชายจนสัมผัสกับแหวนเงิน 3 วงจริงๆ อนุชัยปิดปากตัวเองอีก เมื่ออาตี้ถอดสร้อยคอสวมแหวนเงินที่นิ้วนางให้ทั้งคู่ มันพอดีอย่างไม่น่าเชื่อ อนุชัยจ้องไม่กระพริบ ขณะที่ดร.ชานนท์ยกมันขึ้นมาจูบบางๆ….

“แล้วไหนของลูกละ เอามาพ่อจะสวมให้” ดร.ชานนท์แบมือรอ อาตี้จึงยัดมันใส่จนสัมผัสถึงความเย็นได้ชัดเจน ดร.ชานนท์สวมมันให้ลูกชายอย่างไม่ผิดนิ้ว ก่อนจะพูดตามขึ้นอีก “เห็นไหม พ่อสวมให้ลูกได้ถูกต้อง พ่อเห็นมัน พ่อมองเห็นลูก พ่อมองเห็นบ้าน Loft Love ในหัวของพ่อ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรต้องคิดมาก….” ดร.ชานนท์ลูบหัวอนุชัย พร้อมกับดึงอาตี้เข้ามาแนบอก “คุณแม่คะ…..ช่วยบอกอาตี้ น้องหญิง น้องแครและทุกๆ คนด้วยซิคะว่าเวลานี้ชายต้องการอะไรมากที่สุด”

คุณหญิงพวงพรปาดน้ำตาทิ้งเร็วๆ ก่อนจะฉายรอยยิ้มสาดไปทั่ว “ทุกคน….เวลานี้ชานนท์ต้องการให้เราเป็นเอ็นโดรฟินให้เขา เรามาสร้างความสุขกันเถอะ อย่ามัวเสียน้ำตาอยู่เลย”

“เฮ!….” เสียงดร.ชานนท์ดังขึ้นก่อนคนอื่น “ชายต้องการเอ็นโดรฟิน ได้ยินกันแล้วใช่ไหม…” ทุกคนในห้องพยักหน้าในขณะที่เจ้าตัวต้องจินตนาการ “ถ้าอย่างนั้นก็ถึงเวลาระทึกใจแล้วละ…”

“พี่ชายคะ….”

“โน โน หญิงรัดดาหยุดเลย….อย่าเพิ่งเข้ามากอดจนกว่าจะ…จะ….เปิดซองนับเงินให้จบ”

#เฮๆ…..# เสียงทุกคนดังขึ้นก่อนจะเงียบ….ได้ยินเพียงเสียงแกะซองกระดาษดัง ก๊อบแกล๊บ ๆ

“คุณพ่อฮะ….อาตี้ได้เป็นเช็คเงินสด 400,000 บาท”

“ของฉันซองใหญ่กว่าชาวบ้านทำไมได้แค่นี้ละ…..”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใครได้เท่าไรแจ้งด้วย” ดร.ชานนท์หัวเราะร่า  ใบหน้าเบิกบานก็ยังเบิกบานให้แสงดาวไร้ท์เปิดเผย

“หญิงได้แค่ 50,000 บาท”

“แครก็ 50,000 คะ”

“หนู 100,000 บาทคะ” เสียงเบลดังไกลจากห้องรับแขก

“หนู 150,000 บาท…เฮๆ”

“Oh! My god….ของ ไอ  20,000 บาทเท่านั้น เอง” สตีป เจมส์มาร์ทคอร์ ตบท้าย

# ฮ่า ฮ่า ฮ่า# และเสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับสารเอ็นโดรฟินก็เกิดขึ้นจนดร.ชานนท์เผลอหลั่งน้ำตาแห่งความสุขทิ้งๆ ขว้างๆ…. “ฮ่า ฮ่า ฮ่า….นุฉันได้เท่าไร”

“นายนะได้แค่หมื่นเดียว….เป็นคนแพ็คเองแท้ๆ ยังเลือกไม่ถูกซองอีก”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไรนะครับคุณพ่อ อาตี้จะสมทบคืนให้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”………..

ในที่สุดงานปาร์ตี้ย่อมๆ ก็จบลง อาตี้กับหญิงรัดดาขอค้างที่บ้าน Loft Love  ดร.ชวนนท์จึงเพิ่มบอดี้การ์ดที่หน้าบ้านอีก 2 คน เอ็นโดรฟินสร้างฝันดีในคืนที่ยาวนานแก่ทุกคนโดยเฉพาะชายตาบอดที่นอนโอบลูกชายยิ้มไม่หุบทั้งคืน จนกระทั้ง

“คุณพ่อครับ เช้าแล้ว…ตื่นเถอะ”

“เรียกแม่เค้าด้วยซิลูก….”

“แม่กะผีนายนะซิ!…..”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อาตี้ไม่อยากกลับอเมริกาแล้วละทำไงดีละฮะ”

#อาตี้!….โลกไม่หยุดรอเราคนเดียวนะลูก# และเสียงของดร.ชานนท์และอนุชัยก็ดังขึ้นพร้อมกัน…. # ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า #…ทั้ง 3 คนหัวเราะลั่นห้อง…บ้าน Loft Love จึงถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาอีกวันหนึ่ง…

จบ อนุชาย2 บทที่20 ปาร์ตี้