เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep1-4 เขาชื่อฮ่อม นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep1-4
#วิธีตั้งเป้าหมายนำชีวิต ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็จะประมาณอยากได้รถสักคัน บางคนอยากได้รถมอเตอร์ไซด์ บางคนอยากได้กระบะ รถเก๋ง BMW หรือเบนซ์ก็ว่ากันไป…คุณเชื่อไหม? แรงตะเกียกตะกายเพื่อจะให้ได้มาไม่เท่ากัน คนที่อยากได้รถมอเตอร์ไซด์แรงตะเกียกตะกายก็จะระดับหนึ่งถึงเป้าหมายได้ง่ายและเร็วกว่า อยากได้เบนซ์แรงตะเกียกตะกายอาจต้องคูณ 100 ถึงเป้าหมายยาก ถ้าสมมุติแรงตะเกียกตะกายพาไปได้แค่ครึ่งทาง ครึ่งทางของเบนซ์อาจจะเป็นแคมรี่ ฟอร์จูนเนอร์ ซีอาร์วีหรือเรนเจอร์….วิธีตั้งเป้าหมายนำชีวิตก็จะประมาณนั้น#
ขณะที่เฟี้ยทซ์กำลังเดินเนิบไปตามโถงทางเดินภายในมหาวิทยาลัย โทรศัพท์มือถือก็ถูกงัดขึ้นมาใช้งาน
“เฮีย! เฮียค็อก! กลับถึงเมืองไทยกี่วันละ”
#………..# ปลายสายเงียบ….สักพัก #ไอ้สัด!เฟี้ยทซ์ ไอ้เหี้ย!น้องเลิฟ….เบอร์ใหม่มึงปะ!#
“อะห๊ะ! เมมท์เลย ว่าแต่กลับมาได้กี่วันละ” เฟี้ยทซ์ถามย้ำ
#อื้อ! 3 วันเป็นไงสบายดี มีแฟนกี่คนละ! จับไม้สั้นไม้ยาวไม่นับนะโว้ย!#
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮียก็ยังเหี้ย! คงเส้นคงวาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน….” เฟี้ยทซ์เกือบหัวเราะอีก “เรื่อยๆ เรียน-กลับบ้าน ส่วนเรื่องฟงเรื่องแฟนยังไม่ปิ้ง!ใครเลย…ว่าแต่เฮียเถอะ ได้ข่าวว่าล่าแต้มทั่วซานฟรานฯ แล้วไม่ใช่เหรอ”
#มึงก็รู้เกิ้น!….ถ้าเป็นข้อสอบคงได้เต็มไปแล้วมั่ง! ไอ้สัด!#
“มีพรายกระซิบนะเฮีย หญิงก็ได้ชายก็ดี ได้หมดถ้าสดชื่น ฮา ฮ่า ฮ้า” เฟี้ยทซ์ยังเล่นแรงไม่ลดละ
#พรายที่ว่า…หมายถึงยัยเค้ก!ใช่ไหม?#
“เปลี่ยนเรื่องๆ เย็นนี้เฮียว่างปะ!…เอาจริงๆ แบบว่ามีคนอยากแนะนำให้รู้จัก”…..เงียบ….. “เฟี้ยทซ์ว่าเค้าคนนี้น่าจะเป็นเข็มทิศนำชีวิตให้เฮียได้เลยนา!”
#มึงก็ให้กูได้พักบ้างเถอะ…ว่าแต่เค้าที่มึงว่าเป็นใครกันวะ#
“พนักงานใหม่บริษัทป๊า! มาจากอำเภอปัว จังหวัดน่าน เฟี้ยทซ์ไม่รู้หรอกว่าอยู่มุมไหนบนแผนที่โลก”
#ดอยภูคา….กูรู้!…เออ!ชักน่าสนใจ ส่งรูปมาก่อนดิ!#
“เฮียเค้าเป็นคนมุ่งมั่นสุดๆ… ป๊า!รักมากถึงกับหาที่เรียนต่อแถมยังเปิดชั้น 4 สาขาหัวหมากให้พักฟรีๆ อีก” เฟี้ยทซ์แจะปาก “เดี๋ยวๆ…เฟี้ยทซ์แอบถ่ายรูป…อ๋อ! นี้ไง….(เงียบ)….อะ!….ส่งแล้วนะ เช็คเลย แต่เฟี้ยทซ์ย้ำนะ คนนี้ห้ามเล่น ไม่อย่างนั้นจบเห่! แน่”
เสียงปลายสายเงียบ สักครู่ #เออวะ! งานดีอย่างที่มึงว่าจริง#
“สัก 2 ทุ่มที่อาร์.ซี.เอ. เป็นไงหรือจะส—”
ค็อกเทล!แทรก #—น้อยๆ หน่อยเดี๋ยวก็เป็นข่าวเกิดประเด็นให้เตี่ย! กูเข่งกระบานอีก เปลี่ยนเป็นร้านอาหารเงียบๆ ดูเป็นผู้ดีสักวันเถอะ เดี๋ยวกูเลือกจะส่งพิกัดไปให้#
“OK ตกลงตามนั้น ก่อนทุ่มนะเฮียเผื่อเดินทางเพราะเฟี้ยทซ์ต้องแวะรับเฮียฮ่อมที่บริษัทก่อน”
#มึงบอกว่ามันชื่ออะไรนะ ออม อ๋อม อ้อม#
“เขาชื่อฮ่อม”
#คนเหี้ยไรวะ! หน้าตาก็ดีเสือกชื่อฮ่อม#
“เฮียเค้าเลือกหนังสือเข็มทิศชีวิตของอาชัยนนท์ให้เฟี้ยทซ์อ่านด้วยนะ—-”
#—–เขาชื่อฮ่อม ดอยภูคา# ค็อกเทล! คล้ายจะผ่อนลมหายใจได้ยาวกว่าปกติ #—–หนังสือเข็มทิศชีวิตที่กูไม่เคยคิดจะเปิดอ่านเนี้ยนะ…#
“ถ้าธรรมดา เฟี้ยทซ์ไม่มีทางแนะนำให้เฮียแน่นอน เชื่อดิ!”
******************
…ที่บริษัท SCN.แอทโซซิเอท สาขาหัวหมาก เวลา 17.00 น. พนักงานบางส่วนเริ่มเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้างแล้ว แสงไฟจากห้องบัญชีค่อยๆ ดับพรึบทีละดวง เหลือเพียงแผนกออกแบบและวิศวกรรมเท่านั้นที่ยังไม่ขยับ สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ครับพี่เจ๋ง!”
#เดี๋ยวพี่แวะรับไปทานข้าวนะครับ#
ฮ่อมอึกอัก รี่ตาแจะปาก “คือ คือว่าผมรับปากกับไอ้คุณเฟี้ยทซ์ไว้แล้วนี่ดิ!” เวลาเดียวกันเสียงตะโกนจากประตูทางเข้าก็แทรกแบบไม่ให้ตั้งตัว
“เฮียฮ่อมพร้อมยังไปกันได้แล้ว”
“ตามนั้นเลยครับพี่ พูดถึงก็มาพอดี”
เกือบ 2 ทุ่ม ที่สวนอาหารริมบึง ถนนเกษตรนวมินทร์ รถ BMW. สีดำเลี้ยวตามสัญญาณมือเข้าไปจอดด้านในสุด ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดเกือบ 3 ชั่วโมงมาแล้ว แต่แสงไฟจากโคมสนามที่กระจายทั่วบริเวณก็ยังดันสีแดงของใบต้นหูกวางยามใกล้ร่วงโดดออกจากเงาพื้นสีดำรอบๆ ชัดเจน เฟี้ยทซ์รับสายจากใครบางคน 2 ครั้งก่อนจะเดินนำไปตามทางเดินแคบๆ กระทั่งมองเห็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่มีอาคารกระจกขนาดย่อมกระจายจนสุดแนวโค้ง
“ถึงแล้วเฮีย”
“เลี้ยงเนื่องในวันสำคัญอะไรไม่ทราบ” ฮ่อมกระซิบ “บอกได้ไหม? ถ้าเป็นวันเกิดจะได้เตรียมร้องเพลง HAPPY BIRTHDAY”
“เอ่อน่า เฟี้ยทซ์แค่อยากมีเพื่อนทานข้าวและ….เอ่อ….” เฟี้ยทซ์หยุดคิด “เฮีย! คือถ้าเฟี้ยทซ์บอกบางอย่าง เฮียจะโกรธไหม?” น้ำเสียงไม่ได้แผ่วลง เขายังไม่ทันตอบพนักงานสาวก็เดินเข้ามาตัดบทซะก่อน
“สวัสดีคะ จองไว้แล้วนะคะ…” เฟี้ยทซ์โชว์หมายเลขในโทรศัพท์ให้เธอเห็น “เชิญทางนี้คะ”
ฮ่อมเกร็งกับสัญญาณไม่ปกติของไอ้คุณเฟี้ยทซ์ จนไม่อยากทำให้บรรยากาศอึดอัดเกินขอบเขต “ไปๆ ทานข้าวก่อน มีอะไรค่อยคุยทีหลัง” ทั้งคู่เร่งฝีเท้าตามพนักงานสาวข้ามสะพานไม้ไปยังเรือนรับรองรูป 8 เหลี่ยมกลางบึง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ อาหารพร้อม เสียงโทรศัพท์มือถือของเฟี้ยทซ์ก็ดังขึ้นอีก
“……อื้อๆ…..OK OK ได้ ได้” พูดจบเฟี้ยทซ์ก็ขยับเข้าใกล้จนเกือบชิด แสงดาวไล้ท์บนฝ้าเพดานสว่างพอๆ กับแสงโคมที่กระจายอยู่รอบระเบียง “เฮียครับ เอ่อ! เฟี้ยทซ์ เฟี้ยทซ์มีเรื่องจะสารภาพ….”
ฮ่อมเหรอหราแบบคนไม่รู้จุดประสงค์และขณะที่เฟี้ยทซ์กำลังจะขยับเข้ากระซิบ เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น
“ฮ่อม พี่มีเรื่องต้องคุยด้วย” เป็นเสียงเจ๋ง! ทั้งคู่แยกออกจากกันอัตโนมัติ
“พี่เจ๋ง…”
“ขอโทษนะครับคุณเฟี้ยทซ์ ผมมีธุระด่วนต้องคุยกับฮ่อมเค้าจริงๆ” แล้วเจ๋ง! ก็ลากแขนออกจากเรือนรับรองดื้อๆ
“พี่เจ๋ง! เดี๋ยว เดี๋ยว มีเรื่องอะไรครับพี่…” ฮ่อมถามขณะถูกลากกลับไปตามทางเดิม “พี่เดี๋ยว พี่เจ๋ง!” และ…มันก็เกิดเรื่อง เมื่อแรงเหวี่ยงมุมผนังทำให้เขาหลุดโค้งไปอยู่ในอ้อมกอดใครบางคนที่กำลังเร่งฝีเท้าสวนทางมาพอดี เสี่ยวนาทีที่ใบหน้าสัมผัสกับใบหน้ามีบางอย่างที่เร้าใจเกิดขึ้น ใช่อาจจะเป็นริมฝีปากกับกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัว….
“โอ้ย!….แม่ง!สัด….เอ้!….” คำสบถหลุดให้ได้ยินตามหลัง เมื่อฮ่อมไม่มีเวลาขอโทษ ดีที่สุดในเวลานั้นคือผงกหัวในระยะที่ห่างออกไปไกลแล้ว “ขอโทษกูสักคำเป็นไหม? ไอ้…คุ้น…ใครวะ เออ! ชั่งแม่ง สัด”
ในที่สุดรถเบนซ์สีบลอนเงินก็เร่งความเร็วพาออกจากพื้นที่ลานจอด ระหว่างอยู่บนถนนเกือบถึงแยกนวมินทร์คนที่นั่งหลังพวงมาลัยก็สะอึกสะอื้นขึ้นมาเฉยๆ ฮ่อมกะจะสอบถาม แต่เมื่อเห็นชายที่ดูฉลาดอยู่ในสภาพที่เห็น เขาถึงกับพูดไม่ออกพักใหญ่ๆ
“พี่ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป” ไฟแดงค้างนานฮ่อมจึงเอื้อมมือข้ามเกียร์หวังจะปลอบ แต่เจ๋ง! ก็โผเข้าจู่โจมไซ้ด์ซอกคอลามลงปลดกระดุม 2 เม็ดเผยหน้าอกให้เจ๋ง! ลากลิ้นต่ำลงไปอีก
“พี่ พี่ เดี๋ยวๆ” ฮ่อมพยามผลักแต่ริมฝีปากก็ขึ้นมาบดขยี้แทรกปลายลิ้นเข้าสู่โพลงปากราวกับงูเรียบร้อยแล้ว
“พี่ พี่ขอโทษ…..” เจ๋ง! ตะกุกตะกักขณะขับรถข้ามแยก กระทั่งผ่านปั้มน้ำมันในระยะ 200 เมตร ความอดทนจึงสิ้นสุดลง
“ผมขอลงข้างหน้า” แต่เจ๋ง! ก็ยังไม่ตอบ “ส่งผมลงป้ายรถเมล์แล้วเรื่องเมื่อครู่จะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น” จริงแล้วเขาก็ปรารถนาชายผู้นี้ แต่การกระทำเข้าขั้นไม่ปกติเมื่อครู่ เอาจริงๆ เขาเริ่มหวาดกลัว จนต้องขยับหลังชนประตูเตรียมตัวหนีถ้ามีโอกาส
“พี่ขอโทษ….” เจ๋ง! ยังวนลูปกับคำพูดเดิมๆ… “พี่ พี่ไปส่งที่บริษัทนะ อย่าลงโทษพี่เลยนะฮ่อม นะครับ” ผิวน้ำที่กระจกตาสะท้อนแสงไฟข้างทางวูบวาบเผยตัวตนให้เห็น เขาใช้เวลากับแสงไฟข้างถนนกระทั่งเกือบถึงแยกบางกะปิ
“ส่งหน้าอิ้นเคป! ฝั่งตรงข้ามก็พอ”
ทันทีที่เบนซ์ชะลอจอดหน้าป้ายรถเมล์หน้าบริษัทอิ้นเคปประเทศไทย ฮ่อมก็เปิดประตูรถกระโจนหนีทันที
“ฮ่อม!” เสียงเรียกไล่มาตามหลัง แต่ไม่มีอะไรหยุดเขาได้แล้ว…ความมืดไล่กลืนจมแผ่นหลังหายเข้าไปในเงามืด กระทั้งเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นและกำลังไกลออกไปเรื่อยๆ
“พี่เจ๋ง! คิดเหมือนเราเหรอ…เราชอบพี่เจ๋ง! เหรอ ทำไม? ในหัวถึงมีแต่คำว่า แต่ แต่ แต่…”
*******************
…..กลับมาที่เรือนรับรองรูป 8 เหลี่ยมภายในสวนอาหารริมบึงอีกครั้ง
“ไอ้เฟี้ยทซ์ ไง? นั่งซึมเป็นลูกหมาถูกปล่อยวัด ไหนละคนชื่อฮ่อมของมึง” ค็อกเทล!มาถึงก็วนไปนั่งฝั่งตรงข้าม “โทษทีอาม่าให้กูสอนแซทไลน์เลยมาช้าหน่อย” เมื่อไอ้คุณเฟี้ยทซ์ยังไม่ขยับ “เฮ้ย! มึงป่วยรึเปล่าเนี้ย! ไอ้เฟี้ยทซ์ ไอ้เหี้ยเฟี้ยทซ์โว้ย!” ค็อกเทล!ตะคอกจนเฟี้ยทซ์ผวา….
“คือคือว่า….เมื่อครู่….เอ้ เฮียเจ๋ง….อะไร?” ไอ้คุณเฟี้ยทซ์สะบัดหัวไปมาหลายรอบ “คือว่า…เฮียเมื่อครู่เฟี้ยทซ์กำลังจะสารภาพผิดที่หลอกเฮียฮ่อมมา จู่ๆเฮียเจ๋งสถาปนิกบริษัทไม่รู้มาจากไหนกระชากแขนเฮียฮ่อมออกไปหน้าตาเฉยเลย”
ค็อกเทล! คิดตาม เขากำลังทบทวนภาพในหัวที่เพิ่งเกิดขึ้นทีละช็อตที่ละเฟรม ใบหน้า แววตา และกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้เขาเคลิ้มชั่วขณะดันรอยยิ้มแปลกๆ ให้ไอ้คุณเฟี้ยทซ์เห็น…. “ต้องเป็นมันแน่ๆ”
“เฮีย…”
ค็อกเทล! แสยะยิ้มนานกว่าปกติก่อนจะหันกลับไปจ้องไอ้คุณเฟี้ยทซ์ตรงๆ “คืนนี้มึงปลุกไฟในตัวกูให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้ง”
“ไม่โกรธเฟี้ยทซ์นะ”
“จะโกรธมึงเพื่อ?….” แล้วค็อกเทล! คล้ายคนหลงภวังค์ “เขาชื่อฮ่อม งานดีจนกูอยากได้มันจริงๆ จังๆ แล้วละไอ้เฟี้ยทซ์”
“เฮีย!..”
“ต้องเป็นมันแน่ๆ” ค็อกเทล! พึมพำ “ริมฝีปากแม่ง! หวานชะมัด…ไอ้เฟี้ยทซ์มึงไม่ต้องละ…งานนี้กูลุยต่อเอง”
“หมายความว่า….”
“ก็หมายความตามนั้น…แค่ยิงเบอร์โทรมาก็พอ….”
“เอาแบบนั้นเลยเหรอ…”
“ม่อฮ่อม : 092-XXXX-XXX….ขอบใจมากไอ้น้องชาย…มึงเสร็จกูแน่ไอ้ฮ่อม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
********************
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***