เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep10-2 ความลับของอาม่า นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep10-2
#เข็มทิศชีวิต บทที่ 10 ถนนที่จะนำไปสู่เป้าหมายย่อมเต็มไปด้วยอุปสรรค์บวกเวลาคูณ100ระยะทาง เคล็ดลับการไปให้ถึงเป้าหมายที่ทุกคนทำได้นั้นก็คือ
- 1. อย่ามองเป้าหมายด้วยสายตา แต่จงมองด้วยหัวใจ
- อุปสรรค์ที่เข้ามาระหว่างทางให้ถือว่าเป็นข้อสอบกลางภาคเรียน สางให้จบผ่านให้ไว
- ก้มหน้ามองความสำเร็จไปที่ละก้าว เสริมกำลังใจด้วยการฉลองแช่มอยู่เสมอแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆก็ต้องฉลอง หากทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เป้าหมายที่เห็นไกลลิบก็จะอยู่แค่ก้าวถัดไปเท่านั้นเอง#
“เป็นไงบ้าง เตรียมของครบยัง” ค็อกเทล!สวมกางเกงขาสั้นสีขาวเปลือยอกนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียงภายในห้องนอนชั้น 2 อันเป็นห้องเดิมของคนที่กำลังคุยด้วยในเวลานี้
#น่าจะครบแล้วละ…เห็นผู้การบอกเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวไม่ต้องขนไป เพราะเขาจะอยู่อเมริกาอีกไม่ถึง 3 เดือน#
“ได้ไง….เสื้อผ้ากูเต็มตู้ ของกูก็เหมือนของมึง” ค็อกเทล! แจะปากไม่พอใจ “บอกไอ้ผู้การขนไปทิ้งเลยนะ ไม่ต้องเอื้ออาทรขอเลย”
#แล้วถ้าเป็นของผู้กองละ#
“…………….” ค็อกเทล! เงียบ “อย่าหาเรื่องทะเลาะได้เปล่า…เรื่องมันก็ผ่านมาเป็นชาติแล้ว”
#หึ หึ….มันก็แฟร์ดีไม่ใช่รึไง….#
“แฟร์อะไรของมึง….”
#กูอยู่อเมริกากับผู้กองส่านผู้การก็กลับไทย….#
“มึง ไอ้ฮ่อม มึงจะทำให้กูเสียคนอีกรอบรึไง?….เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจตามไปเฝ้าถึงซานฟรานฯซะหรอก”
#เฝ้า เฟิ้ล เหี้ยไร….กูกับมึงเป็นแค่เพื่อนกันนะโว้ย!….มึงมีสิทธิ์จะมีใครก็ได้ชายหรือหญิงก็จัดไปตามใจของมึง ส่วนกูก็เช่นกัน” ฮ่อมกระแทกเสียงจริงจัง จนได้ยินอีกคนแจะปากไปหลายที
“กูกำลังจีบมึงอยู่นี้ไง?…” เขาใช้นิ้วเคาะหัวเตียงดังก๊อกๆ “กูกำลังจีบมึง ถ้าไอ้หน้าไหนกล้า ซานฟรานฯก็แค่ปากซอย”
#มึงมันสมกับฉายาผู้สร้างตำนานทุกเรื่องจริงๆ….เออถามหน่อย เห็นไอ้ผู้การเล่าให้ฟังตอนที่มึงพักอยู่กับมัน 2 ต่อ2 บนเกาะพีพี….เป็นไงวะ#
“เกือบโดนชกอะดิ!….”
#ฮ้า ฮ่า ฮ้า….#
“คนพี่เป็นเกย์แฝดน้องก็น่าสงสัยไม่ใช่เหรอวะ…มึงอย่าเล่าเรื่องนี้ให้ไอ้ผู้กองฟังนะ ไม่อย่างนั้นกูโดนเล่นแน่”
#เข้าใจ…ถ้าเป็นกูนะ จะเปิดหนังโป๊ปั่นให้เคลิ้มก่อนค่อยลงมือ….ฮ่า ฮ่า ฮ่า#
“กูเกือบจะเสียมึงเพราะยัยเค้ก! แท้ๆ”
#ถ้าเล่าให้ฟังแต่ทีแรก…สถานะคงไม่ถูกลด…แต่ก็ดี 4 ปีจะได้เป็นบททดสอบระหว่างเราไปในตัว…#
“มึงหมายถึง ระหว่างความรักกับความใคร่ใช่ไหม?….” ค็อกเทล! หายใจแรงๆให้ได้ยิน
#หื่น! อีกละ…#
“ความใคร่นำมาซึ่งความรัก มึงเป็นคนสอนกูเองนะ”
#อื้อๆ….วางสายเถอะเดี๋ยวจะเลยเถิดเกินเพื่อน….#
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้บ้า มึงคิดว่ากูจะสำเร็จความใคร่ผ่านโทรศัพท์รึไง?”
#ไม่รู้อะ….กูไม่ไว้ใจตัวเอง แค่นี้นะ ก่อนบินจะโทรหา#
“ฮ่อม นิดหนึ่งไม่ได้เหรอ….”
#เหี้ยละ ไอ้ควายเผือก#
“มึงเป็นเอามากนะไอ้ ไอ้ ควายดำ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ค็อกเทล! หัวเราะเมื่อเสียงโทรศัพท์เงียบ รูปถ่ายกับหมอนข้างจึงทำหน้าที่แทน “กูโคตรคิดถึงมึงเลยวะไอ้ควายดำ”
*******************
ค็อกเทล! กำลังเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสือ
เขาต้องสอบเข้ารับราชการกลมอุทยานแห่งชาติดอยภูคาให้ได้ ยังดีหน่อยที่ 3-4 วันมานี้อาม่ากับอึ่มหงส์มาอยู่เป็นเพื่อน ป้าบัวตองกับลุงชมสามีที่เคยไปๆมาๆ จึงทิ้งระยะห่างได้หลายวัน ทันทีที่อึ่มหงส์เสริฟกาแฟแก้วสุดท้ายตอนบ่าย 3 โมง เธอกับอาม่าก็คล้ายจะเป็นอิสระ กิจกรรมก่อนตะวันลับเหลี่ยมเขาก็คือการได้เดินเล่นไปตามถนนลูกรังเล็กๆ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเธอเดินได้นาน เพิ่มระยะทางหลายกิโลเมตรนั้นก็คือบรรยากาศทุ่งผักกาดสลับแปลงข้าวโพดสุดลูกหูลูกตา พวกเธอมักจะเดินจูงมือคุยกัน แวะกลุ่มแม่บ้านพ่อบ้านที่กำลังเก็บผักกาดสำหรับส่งโรงงาน คุยกับป้าๆวัยใกล้เคียงที่กำลังเก็บข้าวโพด แปลงนั้นแปลงนี้ กว่าจะกลับถึงบ้านก็หลังหกโมงไปแล้วและเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะได้ผักบ้าง ข้าวโพดบ้างติดมือทำอาหารเย็นเป็นประจำ…..
และขณะที่แดดสุดท้ายสีครีมกำลังยืดเงาพวกเธอยาวเกินครึ่งคันนา อึ่มหงส์ที่กำลังกุมมืออาม่าก็พูดขึ้น “คิดถึงหมู่บ้านจั่วมู่หลางของเราจัง”
อาม่าชายตายิ้มให้เธอเห็น “อาเฟยเฟิ่ง….”
“จริงๆนะเจียวฟาง….ที่ตรงนี้คล้ายกับหลังหมู่บ้านที่เตียวจิวจนคิดว่าเป็นที่เดียวกัน” อึ่มหงส์พูดสายตาก็นำไปที่เทือกเขาสีเขียวจมดำทางทิศตะวันออก
“อั๊ว!เองก็คิดเช่นนั้น” อาม่าบีบมืออึ่มหงส์สลับลูบวนไม่หยุด “อาเฟยเฟิ่ง….”
อึ่มหงส์เปิดดวงตาที่กำลังสะท้อนแสงสุดท้ายไปจบที่ใบหน้าย่นๆ “…..หึ!”
“เวลานี้เรา 2 คนกำลังเดินอยู่บนถนนหลังหมู่บ้านจั่วมู่หลางแล้วละ” อาม่าจ้องอึ่มหงส์ไม่กระพริบ ก่อนจะค่อยๆนั่งลงกลางดงดอกหญ้า เธอใช้มือเหี่ยวๆเด็ดดอกนั้นทีดอกนี้ทีร้อยก้านยาวๆเข้าด้วยกัน อึ่มหงส์มองกิริยาจนคล้ายเห็นเจียวฟางในวัย 15 กำลังนั่งร้อยมงกุฎอยู่ที่ที่คุ้นเคย เธอหลับตาเชิดใบหน้าบังคับไม่ไห้น้ำตาล้นนอกเบ้า เมื่อดึงอากาศเข้าสู่ปอดจนอิ่ม
“ลึ! ยังร้อยมงกุฎดอกหญ้าได้ดีเหมือนเดิมเลยนะเจียวฟาง” และในที่สุดเธอก็พ่ายแพ้ น้ำตารื่นๆไหลอาบแก้มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่อาม่าเจียวฟางก็ยังไม่หยุดมือ…..กระทั้งมันเป็นรูปเป็นร่างและใหญ่พอ
“พยุงอั๊ว!ทีเฟยเฟิ่ง” เมื่ออาม่ายืนได้นิ่งและมั่นคง แดดสุดท้ายก็รวมเงาทั้งคู่เข้าด้วยกัน “หันไปทางเทือกเขาภูคาก่อนซิ” อาม่าสั่ง อึ่มหงส์ใช้ปลายนิ้วซับน้ำตานิดๆก่อนจะทำตามไม่อิดออด “หลับตาด้วย….นั้นแหละ” อาม่าค่อยๆสวมมงกุฎดอกหญ้าที่บรรจงร้อยบนศีรษะพร้อมกับจัดระเบียบด้วยความเข้าใจก่อนจะไล้ปลายนิ้วจากติ่งหูอ้อมสู่ด้านหน้า เธอจัดมงกุฎให้สมดุลอีกครั้ง ก่อนจะพยายามเขย่งเท้าขึ้นจุมพิต เธอยิ้มอีกคนถึงกับยกฝ่ามือปิดปากสะอื้นจนแผ่นหลังสะท้านราวกับแผ่นดินเตี่ยจิวทั้งจังหวัดสั่นไหว
“เจียวฟาง ลึ!กำลังทำให้อั๊ว!ร้องไห้นะ รู้ตัวไหม”
“ถ้ามันทำให้ลึ!มีความสุขก็ร้องออกมา….”
“เจียวฟาง….ฮื้อๆ เจียวฟางคนเดียวของอั๊ว!” แล้วอึ่งหงส์ก็ร้องไห้จนตัวโคลง
“เฟยเฟิ่ง….เรากลับจั่วมู่หลางบ้านเราแล้วละดูนั้นซิ!….” อาม่าชี้นำสายตาไปที่แผ่นป้ายสีขาวเขียนด้วยอักษรภาษาไทยสีแดงว่า “ขายด่วน!” อึ่งหงส์เงยหน้าจากซอกบ่า เธออ้าปากค้างจนตัวสั่นอีกรอบ
“เจียวฟาง….หมายความว่า”
“อั๊ว! ชอบที่นี้ ชอบความหมายของอำเภอนี้”
“มันคืออะไร?….อั๊ว!ตามไม่ทัน”
“เคยได้ยินอาฮ่อมคุยกับอาค็อก! อีบอกว่า ปัว! เป็นภาษาเหนือแปลว่ารักษา เฟยเฟิ่งความรักของเราจำเป็นต้องถูกบำบัดที่อำเภอปัว ลึ! เข้าใจแล้วใช่ไหม”
“อำเภอปัว!….”
“อาม่าพยักหน้า…บ้านหลังสุดท้ายของเราก็จะอยู่ที่นี้”
“เจียวฟาง ลึยังจำได้”
อาม่าพยักหน้า “อั๊ว!ไม่เคยลืม”
“เจียวฟาง….”
“หยุดขี้แยได้แล้ว เราเดินไปดูที่ดินแปลงนั้นกันเถอะ….” แล้วอาม่าก็ลากแขนอึ่มหงส์เดินสำรวจที่ดินไปรอบๆ อึ่มหงส์ยังสะลัดภาพในอดีตไม่หลุด วันสุดท้ายที่พ่อกับแม่ลากเจียวฟางลงเรือพร้อมกับสินค้า วันนั้นหัวใจเธอแทบแหลกสลาย และไม่เคยนึกว่าจะได้กลับมากุมมือเธอในวันนี้
********* ท่าเรือของหมู่บ้านจั่วมู่หลาง ปี 1954*********
“ฝากอีด้วยนะอาฟง ถึงเมืองไทยให้อาชัยเขียนจดหมายบอกอั๊ว!ด้วย ถ้าขายสวนเรียบร้อย อั๊ว!กับอาเมยจะรีบตามไปให้เร็ว”
“อื้อ!…ไม่ต้องเป็นกังวล”
“เฟยเฟิง…ช่วยด้วย เฟยเฟิ่ง”
หญิงสาววัย 15 อีกคนที่กำลังร้องไห้ดิ้นเร่าๆในวงแขนของชายสูงวัย “อาเจียวฟางอย่าทิ้งอั๊ว อย่าทิ้งเฟยเฟิ่งของลึ!”
“ขืนอยู่ด้วยกันต่อไปฟ้าดินจะลงโทษ ไปได้แล้วอาฟง!”
“เจียวฟาง อย่างทิ้งเฟยเฟิ่ง เตีย เตีย ปล่อยอั๊ว! อั๊วจะไปกับเจียวฟาง”
“อาเฟยเฟิงงงงงงงง……”
********และภาพก็ตัดมาที่แผ่นหลังของหญิงชราที่เดินนำไม่หยุด*********
“ 5 ไร่ 3 งาน เชียวนะเฟยเฟิ่ง ชอบไหม?…”
“มีลึ! อยู่ด้วย….โอ้ย!….” และอึ่งหงส์ก็สะบัดแขนไปกุมท้องตัวเอง เธอค่อยๆทรุดลงนั่งด้วยใบหน้าสุดทรมาน….
ค็อกเทล! ที่แอบตามมาได้ยินได้เห็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตของทั้งคู่จนกระจ่าง เขาเผลอหลับตายิ้มให้กับความลับที่งดงามจนสัมผัสความสุขจริงๆที่พวกเธอโหยหามาทั้งชีวิต กระทั้งลืมตาอีกครั้งก็เห็นอึ่มหงส์ทรุดกุมท้องอยู่กับพื้นแล้ว
“อึ่มหงส์ เป็นอะไร?” เขาเผยตัวเองจากมะม่วงพุ่มเต้ยวิ่งเข้าไปถามหน้าตื่น
อาม่าไล่ลูบใบหน้าอึ่มหงส์ด้วยแววตาตระหนกคล้ายไปทางเลวร้าย “อีแค่ปวดท้องนะอาค็อก!”
“แน่นะ ไหวแน่นะอึ่ม…”
“อาค็อก!…อึ่มก็แค่ปวดท้องนั่งแป๊บเดี่ยวก็หาย” อึ่มหงส์พยักหน้ายืนยัน
“เออ! อาค็อก! ถ้าอาม่าจะซื้อที่ดินแปลงนี้….” อาม่าคล้ายอยากเบี่ยงประเด็น
“อาม่าจะมาอยู่ที่นี้เหรอ”
อาม่ามองอึ่มหงส์! นิดๆ “อาจจะ….”
“อั๊ว! อยากมาอยู่ที่นี้เจียวฟาง….”
“ถ้าอาเฟยเฟิ่งอีชอบ อั๊ว!ก็จะซื้อ….” เธอหันไปมองหน้าหลานชายจริงๆจังๆ…. “อาค็อก! ลึ ช่วยติดต่อเจ้าของให้ที”
“อาม่าจะมาทำอะไร…ไกลโรงพยาบาลนะ”
“ก็ทีนี้อยู่ในอำเภอปัว! ไม่ใช่รึไง? อั๊ว! อยากทำรีสอร์ทเล็กๆกับอาเฟยเฟิ่ง”
ค็อกเทล! หันไปมองหน้าอึ่มหงส์ที่ยืนได้แล้ว “เฟยเฟิ่งแปลว่าหงส์เหรออาม่า”
“ใช่! แปลว่าหงส์ทะยานฟ้า”
“แล้วลึ! อยากรู้ไหม? อาค็อก! ว่าเจียวฟางชื่อจีนของอาม่าลึหมายถึงอะไร?” อึ่ม!หงส์ถามกลับขณะแจะปากเจ็บท้องจี๊ดๆ กระนั้นเธอยังฝืนยิ้มให้หลานชายเห็น “เจียวฟางแปลว่าห้องพักที่น่ารัก…ของอึ่มเอง”
ค็อกเทล! มองหญิงชรา 2 คนสลับกันไปมา “ทำไม? อาม่ากับอึ่มหงส์ถึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่แรก” ค็อกเทล! ขมวดคิ้วถาม “คือเรื่องที่อาม่าและอึ่มหงส์รักกันนะ” ค็อก! รับมงกุฎดอกหญ้าจากมืออึ่มหงส์ที่ส่งให้ไปพิจารณา
“ลึ!กับอาฮ่อมโชคดีกว่าอาม่ากับอึ่งมาก สมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกัน…ทำโน้นก็ไม่ได้ อันนี้ฟ้าดินก็จะลงโทษ…อาค็อก!” อาม่าเงยหน้าจ้องด้วยแววตาจริงจัง “เก็บความโชคดีของยุคสมัยเอาไว้ให้ดีๆ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะอยู่สถานะไหนก็ยังสวยงามเสมอ”
“ค็อก! โชคดีมากเลยใช่ไหม?อาม่า ที่เตี่ยกับท่านผู้หญิงรับได้”
“ใช่!…จงรักษาความโชคดีที่ได้รับแล้วสร้างมันให้เกิดประโยชน์” อาม่าพูด อึ่มหงส์ร่วมตบไหล่แบบนักเลงและค้างฝ่ามือไว้ตรงนั้น
“เวลาที่หายไปมันทรมานมากๆเลยนะอาค็อก!” และอึ่มหงส์ก็บอก เธอพยักหน้ายืนยัน
“แต่เวลาที่หายไปก็เป็นเครื่องพิสูจน์รักแท้ได้เช่นกัน อาม่าหมายถึงลึ!กับอาฮ่อมอีนะ…ไปๆกลับบ้านได้แล้วอั๊ว!ยังไม่เตรียมอาหารเย็นเลย อาเฟยเฟิ่ง เดินไหวไหม? ถ้าไม่ไหวก็ขี่หลังอาค็อก! อี”
คอกเทล! ค่อยๆสวมมงกุฎดอกหญ้ากลับคืนให้อึ่มหงส์ช้าๆ แววตาอิ่มๆบอกว่าเธอกำลังมีความสุขทั้งๆที่ร่างกายกำลังไปต่อไม่ไหว…. “มาอึ่มขึ้นหลังเถอะ”
“เจียวฟาง…”
“อื้อ! อียังหนุ่มยังแน่นขึ้นหลังอีไปนั้นแหละกลางคืนจะได้ไม่ต้องบ่นปวดขา” อาม่าบอก พร้อมกับดันร่างเล็กขึ้นหลังค็อกเทล! จนสำเร็จ
“รู้ไหม? อาค็อก สมัยอึ่ม! ยังอยู่จั่วมู่หลาง อาม่าลึ! เคยร้อยมงกุฎดอกหญ้าแบบเดียวกับวันนี้ให้อึ่ม! ด้วยนะ”
“แล้วลึ! ยังเก็บมันไว้ไหม?”
“เตี่ยจางเผามันทิ้ง ในวันที่ส่งลึ!ลงเรื่อไปพร้อมกับกู๋ฟงนั้นแหละ”
“อาเฟยเฟิ่ง…”
“อย่าสวิทให้มากได้ปะ…ค็อก! เริ่มจะคิดถึงฮ่อมแล้วเนี้ย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อึ่มหงส์ที่อยู่บนหลังค็อกเทล! หัวเราะเสียงดังพลอยทำให้อาม่าที่เดินข้างๆหัวเราะตามไปด้วย
******************
คืนนั้น…แสงจันทร์ที่กระจ่างไปทั้งทุ่งกำลังแทรกแสงสีขาวผ่านขอบผ้าม่านที่ไม่สนิทเข้าไปถึงมงกุฎดอกหญ้าของอึ่งหงส์ที่วางอยู่หัวเตียง สีเหลืองสลับขาวชมพูที่ยังไม่เหี่ยวชวนให้บรรยากาศในห้องนอนชั้นล่างน่าอภิรมย์มากกว่าหลายๆคืน….
“เฟยเฟิ่ง ลึเอายามาด้วยหรือเปล่า”
“อั๊ว!ยังไม่ตายง่ายๆหรอกเจียวฟาง ถ้าจะให้กลับไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ อั๊ว!ไม่ไปแล้วนะ ขออยู่ปัว!ที่นี้แหละ”
“ถ้าอย่างนั้นจะได้ให้อาค็อก! อีรีบไปเจรจาเรื่องที่ดินให้ไว….อยากให้ลึ!ได้อยู่บ้านของเรา”
“อย่าลืมทำฮวงซุ้ยไว้หลังบ้านด้วยละ อั๊ว!ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว”
หญิงชรายันตัวเองจ้องใบหน้าย่นๆ เธอก้มจุมพิตที่หน้าผากราวกับไม่ต้องการให้มันเพิ่มรอยย่นขึ้นไปอีก
“เฟยเฟิ่ง”
อาม่าจ้องเข้าไปในดวงตาที่กำลังพล่ามัว (สัญญา) เธอไม่พูดแต่อีกคนยิ้มรับคล้ายกับรับรู้…
“เจียวฟาง อั๊ว! มีความสุขเหลือเกิน”
*****************
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***