เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep11-3 เข็มทิศสะกิดรัก นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep11-3
บ่ายๆวันทำงาน อยู่ๆรถตู้สีบลอนเลขทะเบียนบอกเป็นรถมาจากบ้านสวัสดิ์พากรก็แล่นตามถนนลาดยางเล็กๆภายในพื้นที่ส่วนบุคคลที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด เข้าไปจอดเทียบใกล้ๆบ้านชั้นเดียวที่มีเฉลียงกลางแจ้งใต้ต้นมะม่วง 3 ต้นเรียงกันทางทิศตะวันตก ไม่นานหญิงวัย 60 ต้นๆก็เปิดประตูบ้านเดินลงจากเฉลียงเข้าไปรับมือหญิงวัยใกล้เคียงกันลงจากรถ
“แม่สุนีย์เราไปนั่งคุยกันใต้ร่มมะม่วงเถอะ ท่าจะเย็นสบายดี” ท่านผู้หญิงโฉมศิริกัลยา มาด้วยทรงผมและเสื้อผ้าลายทางสีครีมสลับน้ำตาลเข้มจมดำ มันให้เธอยังดูสาวและสวยราวกับพึ่งจะย่างเข้า 40 ต้นๆ
“ท่านผู้หญิงจะรับเครื่องดื่มอะไร?ดีคะ…” สุนีย์ถามแต่เธอก็คล้ายจะนึกบางอย่างได้กะทันหัน “เมื่อเช้าดิฉันได้ทับทิมในสวนมาหลายลูกเลยให้แม่แตงคั้นน้ำเก็บไว้รอนะค่ะ”
“อุ้ย! ดีเลย ใช่ต้นมุมทิศใต้ไหม?” ท่านผู้หญิงโฉมถามขณะนั่งลงเก้าอี้ไม้กระด้างๆมีเบาะสีขาวรองรับด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ใช่ค่ะ แม่แตงยังเก็บใส่ถุงไว้ให้ด้วยนะคะ” สุนีย์พูดไม่ทันจบ แตงก็ยกเครื่องดื่มเป็นน้ำทับทิมสีแดงเข้มเข้ามาเสิร์ฟคนละแก้ว เมื่อทุกอย่างเข้าที่ “ท่านผู้หญิงมาถึงบ้านสวนมีอะไรสำคัญหรือเปล่าคะ”
ท่านผู้หญิงโฉมจ้องหน้าสุนีย์ราวจะสำรวจ สุดท้ายเธอก็เม้นริมฝีปากเป็นเส้นตรงคว้ามือสุนีย์มากุม “เรียกเดี้ยนว่าโฉมเฉยก็ได้แม่สุนีย์”
“อุ้ย!….จะเหมาะหรือคะดิฉันถนัดเรียกชื่อนี้มาค่อนชีวิต อยู่ๆจะให้เปลี่ยนปุ๊บปั๊บ! ปรับตัวไม่ทันนะค่ะ” สุนีย์เกือบหลุดหัวเราะ “ว่าแต่….เอ่อ คุณโฉม….”
“นั้นไง….ดีแล้วละเดี้ยนจะได้รู้สึกว่ามีเพื่อนเหมือนคนอื่นๆกับเค้าบ้าง…” ท่านผู้หญิงโฉมปิดปากหัวเราะ ก่อนจะรวบ 2 มือมากองรวมกันอีก “คือเดี้ยนจะมาคุยเรื่องหนูเค้ก! กับผู้การนะ เห็บคบกันก็หลายปี เราเป็นฝ่ายหญิงปล่อยนานกว่านี้จะไม่งาม แม่สุนีย์ว่าไง?”
สุนีย์จ้องหน้าท่านผู้หญิงโฉมไม่กระพริบ “………..”
“คือเดี้ยนได้เข้าไปคุยกับพลเอกอลงกฎมาแล้ว เด็กๆเองก็พร้อม เหลือแต่แม่สุนีย์นี้แหละ….ถ้าเดี้ยนจะตัดสินใจมันก็ไม่น่ารักว่าไหม?” ท่านผู้หญิงโฉมจ้องเข้าไปในดวงตาที่กำลังเอิบอิ่ม “แม่สุนีย์เป็นแม่แท้ๆ ต้องเป็นคนตัดสินใจไม่ใช่เดี้ยน”
สุนีย์กลืนน้ำลายยากกว่าทุกครั้ง เธอชักมือไปซับหางตาต่อหน้า “ท่านผู้หญิง…”
“เอ้! บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกเดี้ยนแบบนั้น” เธอปิดปากหัวเราะอีก
“คุณโฉมกับดอกเตอร์เห็นควรอย่างไร? ดิฉันก็เห็นดีตามนั้นแหละค่ะ” สุนีย์ยิ้ม เธอพึ่งเห็นอีกด้านของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเมียถูกต้องตามกฎหมายของสามีก็วันนี้เอง
“อ้าวๆ ถ้าเป็นแบบนี้แม่สุนีย์ก็เตรียมตัวไว้เลยเดี้ยนจะให้ช่างเข้ามาวัดตัว”
“คุณโฉมคะ….”
“แม่สุนีย์…” ท่านผู้หญิงโฉมตบหลังมือเบาๆ “ต้องสวยไม่น้อยหน้าใคร” ทั้งคู่จ้องหน้ากันราวกับปลากัด “ที่ผ่านมาเดี้ยนขอโทษ พอเรียนจบจากอังกฤษหม่อมก็จับแต่งงานโดยไม่เคยรู้จักด็อกเตอร์มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่าด็อกเตอร์มีแม่สุนีย์อยู่แล้ว ยังไงเดี้ยนก็ไม่ยอมแต่งงานด้วยเด็ดขาด….” เธอยิ้มอิ่มๆ “ขอบคุณนะที่อยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่ยอมเป็นแม่ครรภ์ของลูกชายคนพิการอย่างเดี้ยน เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะอย่าลืมซิ!”
*****************
ในที่สุดงานแต่ง 2 คู่ของ 2 หนุ่มกับ 2 สาวก็ได้ฤกษ์จัดขึ้นพร้อมกัน งานฉลองช่วงกลางคืนรวมเป็นงานเดียวกัน โรงแรมเดียวกันและวันเดียวกัน แน่นอนถึงดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากร ปัจจุบันถึงจะเป็นเพียงอดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่บารมีก็ยังเหลือล้น ฉะนั้นแขกที่ได้รับเชิญนอกจากนักการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาลแล้วก็ยังมีบรรดาเหล่าไฮโซเซเลบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยอีกด้วย ช่วงเช้าสำหรับงานแต่งของ ฝ้าย&เฟี้ยทซ์ จัดขึ้นที่บ้านซื่อวารินทร์สวนหลวง อีกคู่ เค้ก&ผู้การ จัดที่บ้านเสรีหลังราม ช่วงเย็นจึงจะเป็นเลี้ยงค็อกเทลที่โรงแรมห้าดาวอันดับต้นๆของกรุงเทพฯบนถนนวิทยุ
เวลา 18.00 น. ประตูบานใหญ่สูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตรของแกรนส์ศุภาลัยฮอลล์ 1 และ 2 ก็ถึงเวลาเปิดต้อนรับ บันไดโค้งเวียนจากล็อบบี้ชั้น G ถูกประดับประดาด้วยกุหลาบหลากสีเลื้อยตามราวจับลามขึ้นสู่ฝ้าเพดานเวียนโค้งสู่ชั้น 2 หน้าฮอลล์ไปจบซุ้มทางเข้าที่มีป้ายชื่อคู่บ่าวสาว 2 คู่เรียงกันเป็นเส้นตรง ฝ้าย&เฟี้ยทซ์ – เค้ก&ผู้การ และทั้ง 4 เวลานี้ก็อยู่ในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวสากลโทนขาวยืนเรียงหน้ากระดานพร้อมกับบรรดาเพื่อนๆเกือบ 50 ชีวิต มองเผินๆพวกเขาและเธอราวกับหมู่มวลเทพบุตรเทพธิดายืนพนมมือไหว้รับแขกที่ต่างขนเครื่องประดับหรูหราเสื้อผ้าหน้าผมมาประชันกันครบองค์ แสงแฟลชวูบวาบราวกับแสงดาวไม่รู้จักเวลาหลับกระพริบต่อเนื่องตั้งแต่งานยังไม่เริ่มและอาจจะยาวถึงเช้าของอีกวันตามความเชื่อ เสียงบรรเลงเปียโนจากนักเปียโนที่มีชื่อเสียงคลอขับกล่อมคอยสร้างบรรยากาศที่กำลังดำเนินให้น่าอภิรมย์ขึ้นไปอีกระดับ
และหลังจากพิธีกรดำเนินงานช่วงแรกผ่านไปเรียบร้อยแล้ว เกือบ 2 ทุ่มพิธีเปิดตัวเจ้าบ่าว เจ้าสาวก็ได้ฤกษ์เปิดตัว โดยทีมงานให้เจ้าบ่าวคู่เดินออกมาจากมุมหนึ่ง เจ้าสาวคู่ก็เดินออกมาจากอีกมุมคล้ายงานแต่งคู่จิ้น LGBTQ+ จนเกิดเสียงฮือฮาล้นออกไปข้างนอก ไฟสปอร์ตไลท์สีขาวยิงนำพวกเขาและพวกเธอคลอด้วยเสียงเพลงบรรเลงมารวมกันบนเวทียกสูงกลางฮอลล์ ก่อนพิธีกรจะเล่นเกมเลือกคู่จนได้ยินเสียงฮือฮาดังต่อเนื่องยาวๆ แก้วไวน์แดงไวน์ขาวแชมเปญและเครื่องดื่มนานาบนถาดที่เสริฟโดยพนักงานในชุดเฉพาะกว่า 400 คน เวียนสลับเข้าออกราวกับมีให้ไม่จำกัด เมื่อ 2 คู่บ่าวสาวเลือกคู่ของตัวเองเรียบร้อย ภาพยนตร์สั้นนำเสนอเรื่องราวความรักจึงถูกยิงขึ้นสู่จอแอลอีดีหลังเวที
โดยเริ่มต้นจากความรักของเค้ก!&ผู้การภาพพรีเวดดิ้งสลับตัวระหว่างผู้กองกับผู้การทำให้หลายคนในฮอลล์ถึงกับอ้าปากค้าง โดยเค้ก! จะเป็นคนชี้ว่าใครคือเจ้าบ่าวตัวจริงตัวปลอม แขกผู้มีเกียติพากันหัวเราะฮาแตกเมื่อเห็นภาพเจ้าสาวทำท่ายั่วยวนสองพี่น้องให้แยกออกจากกัน ในที่สุดเค้ก!ก็เลือกฉุดมือผู้การวิ่งหายลงทะเล เสียงปรบมือเสียงดังกึกก้องยาวนาน
พอถึงคิวของฝ้าย&เฟี้ยทซ์ พวกเค้านำเสนอเป็นภาพยนตร์แนวพีเรียดย้อนยุค โดยให้เฟี้ยทซ์แต่งตัวเป็นนักเรียนมัธยมปลายในมือถือปิ่นโตกับกระเป๋าหนังสีดำเดินออกจากร้านขายอะไหล่รถยนต์ นาทีนั้นคุณศุภวัชและกลุ่มคุณหญิงณ.รัตนาที่ยืนรวมอยู่วงในกลางฮอลล์ถึงกับช็อก! หัวเราะไม่ออกไปหลายนาทีก่อนจะฮาแตกหลบหน้าไปคนละมุม ในภาพยนตร์สั้นเฟี้ยทซ์เดินไปตามถนนที่เป็นบ้านเดิมของอาม่าแถวๆแยกพงษ์เพชร กระทั่งหยุดเดินออกอาการโลเลหันซ้ายแลขวาหน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่ สักพักเขาก็ตัดสินใจย่างสามขุมไปส่องช่องประตูรั้วไม้สักแบบคนมีเจตนาไม่สู้ดี แต่ขณะที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่นั้น ฝ้ายที่มาด้วยชุดคุณหนูโบว์แดงจนคล้ายกับด.ญ.มานีน้องสาวด.ช.มานะก็เดินเข้าไปสะกิดหลัง ทันทีที่หันมาเจอเข้า เฟี้ยทซ์ก็ออกอาการผวาช็อก! ลนลานวิ่งหนีจนเสียหลักล้มกลิ้งไปกับพื้นถนน ปิ่นโตที่หิ้วมาด้วยแยกกระจายเผยปลาทูเค็มกับขาวสวยให้คุณหนูบ้านใหญ่เห็น คุณศุภวัชกับคุณหญิงณ.รัตนาหัวเราะจนเกือบสลบหลายรอบกับฉากๆนี้
“ใครเป็นคนพอร์ตเรื่องวะ”คุณศุภวัชตะโกนถามแข่งกับเสียงหัวเราะ
“ไอ้เฟี้ยทซ์ค่ะคุณลุง เฮียฟางเลยต้องจัดเต็ม ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เฟิร์นที่ยืนอยู่ข้างคุณหญิงนฤนาทโก่งคอตอบ
“คุณหญิงขา! ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่ามนต์รักปลาทูเค็มจะสนุกแบบนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คุณหญิงนฤนาทกระซิบ
“คุณพี่ก็….ไอ้เจ้าเฟี้ยทซ์ก็ทำดิฉันได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่ก็ใช่แบบนั้นเลยจริงๆแหละคะ”
“ผมซิ! น่าอายจัง” คุณศุภวัชหลบหลังภรรยาหัวเราะต่อไม่หยุด
“แหมคุณ ถ้าดิฉันไม่เห็นปลาทูเค็ม ป่านนี้อาจจะไม่ได้แต่งงานกับคุณก็ได้นะคะ”
ในที่สุดช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง พิธีกรที่ฟางจัดให้เป็นพิเศษกล่าวเชิญผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญขึ้นกล่าวอวยพร กระทั้งถึงคิวสุดท้าย…..
“ลำดับต่อไปขอเรียนเชิญด็อกเตอร์นุกุล ภูลมบลและว่าที่ด็อกเตอร์ณนนท์ สวัสดิ์พากรขึ้นบนเวทีเพื่ออวยพรคู่บ่าวสาวเรียนเชิญครับ”
ผู้คนในฮอลล์ปรบมือส่งเชียร์อัฟหนุ่มแพ็คคู่ที่มาด้วยชุดทักซิโด้คล้ายกันยังกับแฝดคนละฝา ดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากรท่านผู้หญิงโฉมศิริกัลยารวมถึงคุณสุนีย์ที่มาด้วยชุดผ้าไหมสีน้ำตาลทอลายขิตสลับผ้าซีฟองสีโอโรสปรบมือยิ้มไม่หุบข้างเวที
“ขอบคุณนะแม่สุนีย์ที่แนะนำให้ด็อกเตอร์เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิต จนเรากำลังจะได้ด็อกแตอร์ป้ายแดงมาประดับบ้านอีกคนแล้ว” ท่านผู้หญิงโฉมเอียงคอข้ามหน้าอกดร.ชัยนนท์พูด
“ต้องขอบคุณด็อกเตอร์นุกุลเค้าที่ชี้นำเข็มทิศชีวิตให้ว่าที่ด็อกเตอร์ลูกชายเราถึงจะถูก” ดร.ชัยนนท์บอกพร้อมกับรวบพวกเธอเข้าหาตัวเอง
“ค่ะ….ดิฉันมีความสุขที่สุด”
“พวกเขาคือลูกๆ ของเรา” ท่านผู้หญิงโฉมสมทบก่อนจะนำหอมแก้มสามีคนละข้าง
“ขอบคุณโฉม ขอบคุณสุนีย์ที่อยู่ข้างผมมาโดยตลอด ขอบคุณมากๆ” ดร.ชัยนนท์เสียงเบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้สาวๆวัยดึกยิ้มไม่หุบ
บรรยากาศบนเวที…..#ว่าไงครับด็อกเตอร์ใครจะเริ่มอวยก่อนดี(ฮ่อมเกริ่นนำ)—-ท่านผู้มีเกียติในฮอลล์หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบนะครับว่าเรา 2 คนเป็นญาติฝ่ายไหนของคู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้(ค็อกเทล!สบตาฮ่อมสั้นๆ)—-(ฮ่อมยิ้มรับบานๆแล้วพูดต่อ) พี่ชายครับ พวกเราเป็นพี่ชายของเจ้าสาวตัวแสบ(หัวเราะ)—เค้กน้องสาวผมเองครับส่วนฝ้ายน้องสาวด็อกเตอร์นุกุลเค้า…พวกเธอเกือบทำให้เราสองคนเกือบเลิกกัน(ค็อกเทล!ทำให้คนทั้งฮอลล์เฮลั่น)—-ด็อกเตอร์ณนนท์ครับเรายืนอยู่บนเวทีเวลานี้เพราะว่าเป็นงานแต่งงานของน้องสาวเรา 2 คนนะครับ เรื่องส่วนตัวเอาไว้ว่าเคลียร์ทีบ้าน…อ้าวๆ เชิญด็อกเตอร์ก่อนเลย อย่างน้อยก็ถือว่าทั้งน้องเค้กและน้องฝ้ายได้ทดสอบความรักของเราไปในตัว(ฮ่อมปิดปากหัวเราะหน้าแดงหลบหลังค็อกเทล!อีกรอบ)—-ใช่ครับด็อกเตอร์นุกุลพูดถูก ถ้าไม่มีพวกเธอ ความรักของเรา 2 คนคงเดินทางมาไม่ถึงวันนี้(ค็อกเทล! พูดจริงจัง จนเฟี้ยทซ์ที่ยืนคู่กับฝ้ายทนไม่ไหวต้องขยับไปที่ไมล์เสียเอง)—-เฮียค็อก เฮียฮ่อมครับ ตกลงคืนนี้เป็นงานแต่งของใครกันแน่ฮะ เฟี้ยทซ์แต่งชุดมาผิดงานหรือเปล่า(เสียงหัวเราะกระหึ่มพร้อมๆกันอีก)…ด่วนเลยเฮียเจ้าสาวอยากเข้าเรือนหอจะแย่แล้วฮะ—-ฮา ฮา ฮ่า ฮ้า—-ใจเย็นด็อกเตอร์(ฮ่อมตบหลังค็อกเทล! ที่กำลังถลึงตาใส่ไอ้ตัวแสบ)—-ไอ้คุณธนาวัช(ชื่อจริงเฟี้ยทซ์)—-เอาน่าถึงงานแต่งเราค่อยเอาคืน(ฮ่อมพูดหน้าตายทำเอาค็อกเทล!ถึงกับลงคลุกเข่าพร้อมกับควักแหวนออกจากกระเป๋า)—–นั้นๆ….เฮีย หมายความว่า….(เฟี้ยทซ์แหกปากดังกว่าคนอื่น ส่วนฮ่อมยืนหน้าซีดงงทำอะไรไม่ถูกไปหลายนาที จนผู้การเค้กและฝ้ายต้องเดินเข้าไปเขย่าตัวเรียก)—-แต่งงานกับผมนะครับด็อกเตอร์(เสียงกรี๊ดแหลมๆดังข้างเวที เป็นเสียงเจนนี่ยืนรวมอยู่กับสาวๆ SCN. พร้อมกับตะโกนนำ—แต่ง แต่ง แต่ง) แต่งงานกับผมนะครับ (ค็อกเทล! ยังไม่หยุด)—-เฮียฮ่อม ผู้สร้างตำนานทุกเรื่องขอแต่งงานว่าไง(เฟี้ยทซ์พูดผ่านไมล์)—-(ฮ่อมน้ำตาไหลพราก)—-(เขาพยักหน้าพร้อมกับดึงค็อกเทลขึ้นมากอด)รอด็อกเตอร์ขอนานแล้ว แต่งครับแต่ง(ค็อกเทลเฮลั่นพร้อมกับแขกที่เขาถือว่าเป็นสักขีพยานปรบมือให้ไม่หยุด)—-เฟี้ยทซ์เคยเตือนเฮียแล้วว่าอย่าท้าทายผู้สร้างตำนาน เป้นไงละโดนเลย(เฟี้ยทซ์เขย่าหัวเราะจนหน้าแดง)—–ไอ้เฟี้ยทซ์เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันหลายเรื่อง (ค็อกเทล! พูดขณะหันไปทางเจ้าสาว 2 คน) ยัยเค้ก น้องฝ้ายที่พี่ขอด็อกเตอร์นุกุลแต่งงานบนเวทีในงานคืนนี้ไม่ใช่เพราะพวกเธอ 2 คนท้าทายขอเป็นของขวัญวันแต่งงานในคืนนี้หรอกนะ แต่เป็นเพราะผู้ชายคนนี้คือเข็มทิศชีวิตของพี่และต่อจากนี้เป็นต้นไปพี่พร้อมจะเดินไปกับเขา—-(เค้กกับฝ้ายวิ่งเข้าไปกอดค็อกเทล! คนละข้าง)ขอบคุณค่ะ(เค้กพูดเสียงสั่น) ถ้าอย่างนั้นดอกไม้ในมือเราจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก (ฝ้ายพูดก่อนเค้กจะเหลือกตาไปทางฮ่อม)—-จริงด้วย ด็อกเตอร์นุกุลคะ พร้อมไหม?เอ้ย (ผู้กองกับเฟี้ยทซ์ถอยห่างจากฮ่อมพร้อมกับปรบมือเชียร์หัวเราะไม่หยุด)—-พร้อมนะพี่ด็อกเตอร์ 1 2 3—–# และดอกไม้ 2 ช่อจากมือเค้กและฝ้ายลอยขึ้นสู่อากาศก่อนจะหล่นไปอยู่ในมือฮ่อมอย่างพอเหมาะพอดี ค็อกเทล! ที่ยืนลุ้นอยู่กับ 2 สาวถึงกับวิ่งเข้าไปสวมกอดพร้อมกับสวมแหวนให้ท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์สาดกระจายทั่วงานอย่างไม่บันยะบันยัง เฟี้ยทซ์มองหน้าพี่ชายคู่ที่บังเอิญมองมาที่เขาพอดี (ควายเผือก&ควายดำ) แล้วหัวเราะจนหน้าแดงราวกับมีอะไรซ่อนอยู่
{….(ไอ้คุณเฟี้ยทซ์) ฮ่อมรนกดรับสายจนมือสั่น “ดิ่ง ดิง ดิ้ง—ฮัล……” พูดไม่ทันจบคำ เฟี้ยทซ์ก็แทรกด้วยน้ำเสียงอธิบายยาก
#เฮีย….เฮียฮ่อม….คือ คือว่า……#
“…………….ไอ้ค็อก! ไอ้ควายเผือก กูรักมึง กูรักมึง………………”
#เฮียฮ่อม เฮียฮ่อมนี้เฟี้ยทซ์เอง ไม่ใช่เฮียค็อก! ซะหน่อย#
“ไอ้ ไอ้ คุณเฟี้ยทซ์”
#ครับเฟี้ยทซี่เอง จะปรึกษาเรื่องโรงแรมนะ ตกลงเป็นพลาซ่าแอทฯ วิทยุนะ….แต่…เอ้!ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นแล้ว แล้วไอ้ควายเผือกที่ว่าเป็นใครครับเฮีย#
“อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เลย ติดต่อค็อกเทล! ให้หน่อยนะนะ”
#เกิดอะไรขึ้นตั้งสติก่อน เฟี้ยทซ์พึ่งวางสายกับเฮียค็อกตอนบ่ายนี้เอง#
“คือเมื่อครู่…….(ฮ่อมจึงเล่าเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นให้ฟัง)”
#ใจเย็นๆนะเฮีย เดี๋ยวเฟี้ยทซ์เช็คให้#
หลังจากวางสาย ไอ้คุณเฟี้ยทซ์จึงโทรเข้ามือถือค็อกเทล! แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ไม่รับสาย จนต้องโทรเข้ามือถือของอาม่าหลังจากเวลาผ่านไปแล้วร่วม 3 ชั่วโมง…และทุกสิ่งทุกอย่างจึงกระจ่าง
“เฮียค็อก! จริงจังนะ ชื่อเล่น ควายเผือกเหรอ”
#ใครบอกมึง ไอ้ความดำใช่ไหม?#
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮีย 2 คนเหมาะสมกันจังเลยเนาะ….รีบจัดการกับมือถือแล้วโทรกลับสุดที่รักของเฮียด่วนเลย ปานนี้เป็นบ้าไปแล้วมั่ง….เออ! เดี๋ยวๆ วันแต่งงานเค้กกับฝ้ายอยากเห็นควายเผือกขอควายดำแต่งงานบนเวทีอะ….แต่ผ่านๆเถอะ เฟี้ยทซ์มั่นใจว่าไอ้ควายเผือกตาขาวไม่กล้าแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”}
และทันทีที่ด็อกเตอร์แพ็คคู่อวยพรจบ เครื่องดื่มนานาชนิดในมือก็ชูขึ้นพร้อมกับส่งเสียงอวยพรลั่นฮอลล์
#รักกันตลอดไป รักกันตลอดไป รักกันตลอดไป#
….ต่อมาที่ข้างเวทีผู้กองกับแฟนบอยหนุ่มเม็กซิโกก็มาดักรอพบ
“พวกมึงเล่นบ้าอะไรกันวะ” ผู้กองโก่งคอถามจนหน้าแดง
“นายก็น่าจะรู้จักผู้สร้างตำนานดีไม่ใช่เหรอไง? เราเองก็แทบตกเวที” ฮ่อมบอก
“กูไม่ได้หมายถึงเรื่องไอ้ค็อก! ขอมึงแต่งงาน แต่กูหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่ซานฟรานฯ” ผู้กองพูดพร้อมกับกระแซะค็อกเทลใกล้ๆ “มึงนะมึง….เหี้ยจริงๆ”
“อ้อ!…อุบัติเหตุนะ…” ค็อกเทล!บอก
“เรื่องนั้นผมเองก็แทบแย่” ฮ่อมพูดขณะเหลือบที่ค็อกเทล!
“กว่าจะถึงบ้าน กว่าเปลี่ยนซิมการ์ด เปลี่ยนโทรศัพท์ก็ 3- 4 ชั่วโมงเข้าไปแล้ว” ค็อกเทล! พูดไปขำไป
“ทีหน้าทีหลังก็หัดไว้ใจแฟนตัวเองซะมั่ง!…” ผู้กองยังแสดงสีหน้าไม่พอใจให้เห็น
“ผมส่งฮ่อมเข้านอนทุกคืน ทำไมจะไม่ไว้ใจ คุณต่างหากละครับไอ้เหี้ย!…คุณมึงก็แสบใช่ย่อย” ค็อกเทล! ชายตาไปที่หนุ่มแม็กซิโกยืนยิ้มไม่หุบข้างๆ “Joseph Take care of your boyfriend, he’s very flirtatious”
โจเซฟหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ เป็น ไร? ขอบคุณมากๆ”
“แล้วเรื่องที่พวกมึงจะแต่งงานมีแพลนหรือยัง กูจะได้จัดเวลากลับมาร่วมงาน” ผู้กองยกคิ้วสูงถาม เมื่อฮ่อมส่ายหน้า ค็อกเทล! จึงพูดแทน
“ถ้าได้เข้าสภาฯสมัยที่จะถึง อยากผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมออกมาบังคับใช้ก่อน อยากเป็นคู่แรกในประเทศไทยนะ”
“หมายความว่ามึงจะลาออกจากงานอุทยานฯมาสมัครผู้แทนฯเหรอวะเพื่อน”
“เออ!….ไปอยู่ต่างจังหวัดหลายปีเลยอยากเป็นปากเป็นเสียงให้คนอำเภอปัว” ค็อกเทล! พูดยิ้มให้ฮ่อม
“กูยอมใจมึงเลยวะ ขยันสร้างตำนานจริงๆ เออมีอะไรบอก ปีนี้กูเองก็จะจบโทละ มีเวลาจะกลับมาช่วยหาเสียงใช่ไหมโจ”….ผู้กองพูดและหันไปพยักหน้ากับแฟนบอยจนค็อกเทล! ชักสีหน้างงให้เห็น “อะไรวะฮ่อม มึงไม่ได้บอกมันเหรอ”
“บอกอะไร?วะ”
ฮ่อมแจะปากส่ายหน้า “แค่เรื่องสอนภาษาไทยให้โจเซฟต้องรายงานด้วยเหรอ”
ค็อกเทล! หันไปทางฮ่อมเร็วๆ “นี้ นี้….”
“ก็แค่สอนภาษาไทย….จะหึงทำไมเนี้ย”
ค็อกเทลดึงแขนฮ่อมเข้าหาตัวแล้วกัดฟันพูด “ไม่ได้หึง แต่คุณกับไอ้ผู้กองกำลังทำให้ผมหน้าแหก….”
“ไม่ เปน ไร คับ ผม ไม้ ถือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โจเซฟพูดช้าๆทีละคำ จนคนทั้ง 4 หัวเราะขึ้นพร้อมกันอีก
“บ้าเอ้ย!….ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
*******************
ย้อนกลับไปคืนเกิดเหตุอีกครั้ง…..การเปลี่ยนไพท์บินกะทันหันโดยต้องแลกกับเงินหลายหมื่นทำเอาด็อกเตอร์ป้ายแดงจากอเมริกาถึง………ขณะนั่งรอขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก….
“ค็อก!….” ฮ่อมอุทาน เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อเขาจากสายเรียกเข้า
#เออ! เราเอง…#
“นี้ นี้…เป็นอะไร? เกิดอะไร?ขึ้น เจ็บไหม? อยู่โรงบาลหรือใครช่วย หรือว่า….”
#เดี๋ยวๆ ใจเย็น….#
“อ้าว! แล้ว แล้ว…”
#เอารถจิ๊ปอุทยานฯไปทำธุระที่บ่อเกลือน้อย…มันไม่มีกระจกข้าง พอได้ยินเสียงไอ้เหี้ย! ผู้กองเลยตกใจนิดหน่อย#
“แล้วยังไงต่อ” แต่ปลายสายก็ยังเงียบ “ค็อก!…”
#โทรศัพท์หล่นจากรถอะดิ โชคดีที่ซิมการ์ดยังใช้ได้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นวันพรุ่งนี้#
“บ้าเอ้ย! ไอ้เราก็นึกว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย”
#ประวัติศาสตร์อะไร?….# คอกเทล!ถามเสียงสูง
“จำวันที่พ่อกับแม่เกิดอุบัติเหตุได้ไหม? นั้นนะเป็นวันจบปริญญาตรีแถมยังสอบใบประกอบวิชาชีพผ่านแล้วด้วย”
#สำเร็จในวันสูญเสียอะนะ อื้อ! ถ้าเชื่อแบบนั้นเราก็ไม่เสียดายไอโพนแล้วละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า#
“ยังจะหัวเราะอีก….”
#ถือว่าฟาดเคราะห์…แล้วนี้ ทำไมได้ยินเสียงแปลกๆ ไม่เหมือนอยู่….#
ฮ่อมสวนกลับ “…..เพราะนายไงเลยต้องเลื่อนตั๋วกลับ อีกครึ่งชั่วโมงจะขึ้นเครื่องแล้วเนี้ย…”
#อ้าว!…..แต่ก็ไม่เป็นไร อยู่ใกล้จะปลอบขวัญสักจุ๊บ#
“ตลกละ…แล้ววิทยานิพนธ์เป็นไงบ้าง โอเคร! ไหม?” ฮ่อมถามเมื่อหายใจได้โล่งขึ้น…
#เดือนหน้า ไม่สิงหาคมก็ต้นกันยายน…แล้วนายละจะเอาไงต่อ#
ฮ่อมคิดไม่นาน “ฉันตัดสินใจละจะไปอยู่กับนายที่ปัว!…”
#หา! จริงดิ!….เมียคนเดียวเลี้ยงได้ ดีเลยอาม่าต้องการลูกมือพอดี นักท่องเที่ยวตอนนี้ก็เยอะเอาเรื่อง#
“อยากเป็นอาจารย์นะ ไม่ปัว! ก็ที่ตัวจังหวัดน่าน”
#ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีใจจัง เนื้อเต้นแล้วเนี้ย!…ถึงกรุงเทพฯไปรอที่บ้านเสรีแล้วกัน เดี๋ยวจะไปรับ คือจะไปทำธุระให้เตี่ยกับแม่แม่ด้วยนะ#
“เป็นห่วงจัง…ออกตอนเช้าห้ามขับรถเกินร้อยนะ…ขอเลย”
#ก่อนโทรศัพท์จะหล่นจากมือ เราได้ยิน…เอ่อ!….คืออยากฟังซ้ำนะ#
ฮ่อมยิ้ม “เออกูรักมึง พอใจรึยัง”
#ไม่เอาภาษาเพื่อนดิ….ใช้ภาษาคนรักกันนะนะ#
ฮ่อมยิ้มจนเห็นผิวกระจกตาสะท้อนแสงดาวไลน์เพดานวิบวับ “ผมรักคุณครับด็อกเตอร์ณนนท์”
อีกคนปล่อยให้เสียงสายลมจากทุ่งข้าวโพดเข้าไปในสาย……..
#รักคุณเช่นกันครับบุรุษข้างกายหมายเลข 1 ของผม#
*****************
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***