เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep11-4 เข็มทิศสะกิดรัก นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep11-4
“นายแพทย์เจ้าของคนไข้ที่กรุงเทพฯระบุในประวัติว่าคุณยายปฏิเสธการรักษาด้วยคีโมบำบัดตั้งแต่แรก จึงส่งผลให้มะเร็งลุกลามไปหลายจุด แต่อาจจะเป็นเพราะอากาศของที่นี้จึงยืดเวลาให้คุณยายนะครับ นี้ก็ 5 ปีกว่าเข้าไปแล้ว หมอแสดงความเสียใจด้วย มันคือโค้งสุดท้ายในชีวิตของแกแล้วจริงๆครับดอกเตอร์” นายแพทย์หนุ่มหน้าตาดีประจำโรงพยาบาลจังหวัดพูดภายในห้องตรวจ
“อยากให้อึ่มอยู่ต่อจนกว่าจะเรียนจบ” ค็อกเทล!พูดก้มหน้าจนฮ่อมต้องตบหลังมือปลอบ
“เอาน่า จาก 6 เดือนอึ่งยังยื้อได้เกิน 5 ปีตั้งหลายเดือน กะอีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ทำไมอึ้มหงส์จะทำไม่ได้ เชื่อดิ!”
ค็อกเทล! เงยใบหน้าหมองจมดำจ้องเข้าไปในดวงตาฮ่อมก่อนจะหันไปพูดกับนายแพทย์หนุ่มอีก… “คุณหมอครับพอจะมีทาง….”
ไม่ทันจบประโยค…“หมอเองก็ไม่ใช่พระเจ้านะครับ ว่าแต่….” คุณหมอยิ้ม “คุณยายอยู่อำเภอปัว!ใช่หรือเปล่าครับดอกเตอร์”
“ย่า&ยายรีสอร์ท หลังหมู่บ้านดอนสวายนะครับ” ค็อกเทลบอกพิกัด แต่ฮ่อมก็แทรกต่อเร็วๆ
“คุณหมออยากบอกว่า ปัว!หมายถึง รักษา…” เขาโอบไหล่ค็อกเทล!เขย่าจนเห็นคุณหมอพยักหน้ายิ้ม
“ประมาณนั้นครับ….ขออนุญาตนอกเรื่องหน่อยได้ข่าวแว่วๆว่าดอกเตอร์เตรียมตัวลงสมัครสส.สมัยหน้า ไม่ทราบว่าเตรียมตัวไปถึงไหนแล้วครับ” คุณหมอเบี่ยงประเด็นทำให้ค็อกเทล!ยืดตัวได้ตรงขึ้น
“กำลังเคลียร์งานที่อุทยานฯส่งต่อให้คนอื่นดูแลแทนบ้างแล้วครับ คุณหมอก็อย่าลืมเชียร์ผมด้วยนะ….ถือโอกาสหาคะแนนเสียงซะเลย”
“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ แล้วด็อกเตอร์นุกุลละครับเห็นว่าพึ่งกลับมาจากอเมริกา วางแผนจะกลับมาช่วยด็อกเตอร์ณนนท์หรือเปล่าครับ” คุณหมอหันไปถาม
“ก็ประมาณนั้นแต่ไม่รู้จะมีเวลาแค่ไหน เพราะกำลังยื่นเรื่องสมัครเข้าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในตัวจังหวัดน่านนี้แหละครับ” ฮ่อมบีบริมฝีปากเป็นเส้นตรงมองหน้าค็อกเทล “และต้องดูแลรีสอร์ทแทนเค้าอีก….อาจจะพอมีเวลา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เห็นว่าลงพื้นที่ต่อเนื่องมานานพอสมควร ชาวบ้านเองก็พูดถึงด็อกเตอร์ให้หมอฟังบ่อย หมอมั่นใจว่าไม่น่าพลาด…ถ้าว่างเมื่อไรจะแวะไปพักย่า&ยายรีสอร์ทนะครับจะได้ช่วยดูสุขภาพของอาม่ากับคุณยายด้วย”
“ยินดีและขอบคุณมากครับคุณหมอ….”
******************
2 อาทิตย์ต่อมางานวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของว่าที่ด็อกเตอร์ณนนท์ก็ประกาศผล ดร.ชัยนนท์ ท่านผู้หญิงโฉมศิริกัลยาและสุนีย์จึงถือโอกาสมาพักผ่อนที่อำเภอปัว….ข่าวดีที่เกิดขึ้นทำให้ ย่า&ยายรีสอร์ทถูกประดับประดาด้วยไฟกระพริบระยิบระยับลามไปถึงต้นไม้หลายต้น ภายในงานเลี้ยงอึ่มหงส์ต้องใช้อ็อกซิเจนจ่อจมูกช่วยหายใจยิ้มข้างๆอาม่า สุนีย์ยุ่งอยู่ในครัว มีเพียงท่านผู้หญิงโฉมกับดร.ชัยนนท์เท่านั้นกำลังสุมหัวคุยเงียบๆภายในศาลาเปิดโล่ง
“เจียวฟาง!….” อึ่มหงส์เรียกอาม่าที่กำลังตักไข่ขาวน้ำแบ่งใส่ถ้วยศิลาดลสีเขียวขี้ม้าลายขาวให้เธอ
“มีอะไรรึเฟยเฟิ่ง….” อาม่าชักคิ้วถามใกล้
“ลึ! จำวันสุดท้ายที่หมู่บ้านจั่วมู่หลางได้ไหม?——–และภาพก็ย้อนกลับสู่วันสุดท้ายของเจียวฟางและเฟยเฟิ่งในวัย 15 ปีอีกวาระ
#….เฟยเฟิ่ง เฟยเฟิ่ง(เจียวฟางตะโกนลั่นขณะชายวัยกลางคนพร้อมห่อผ้าพาดหลังกำลังลากแขนเธอลงเรือเล็กเพื่อจะไปขึ้นเรือสินค้าที่ปากอ่าว)——เจียวฟางเดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งไป เจียวฟาง เตี่ยปล่อยอั๊ว!(ในมือถือถุงผ้าดิบสีน้ำตาลไม่ยอมปล่อยจนสุดท้ายเมื่อรู้ถึงความสิ้นหวังเธอจึงคว้างถุงผ้านั้นหวังจะให้ถึง) เจียวฟาง…เจียวฟางเก็บมันเอาไว้ให้ดี เฟยเฟิ่งรักเจียวฟาง (แต่ชายวัยกลางคนก็ลากเธอลงเรือไปก่อนแล้ว)
“อั๊ว! จำได้ ในถุงนั้นมีอะไร?” อาม่าถาม เมื่ออีกคนพยักหน้า “อาตี๋!….” อาม่าจึงหันไปเรียกดร.ชัยนนท์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
“อึ้ม!….” ดร.ชัยนนท์หันมาพยักหน้า
“เรียกอาค็อกอีให้ที….”
ดร.ชัยนนท์จึงกวักมือเรียกลูกชายที่กำลังยืนคุยกับฮ่อมที่มุมต้นมะพร้าว เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“อาค็อก! ไปหยิบถุงผ้าในกล่องเหล็กสีน้ำตาลในตู้เสื้อผ้าให้อึ่มที” อึ่มหงส์สั่ง
อาม่าหันเลิ่กลั่กถาม “เฟยเฟิ่ง…มันคืออะไร?”
อึ่มหงส์ยกมือที่แทบไม่มีแรงลูบหัวก่อนจะโน้มเธอเข้ามาจูบ “เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเตี่ยกับม๊า อี 2 คนอยากให้เราเก็บไว้คนละชิ้น แต่ก็ไม่มีโอกาส”
“พวกเขายอมรับเราเหรออาเฟยเฟิ่ง….” อาม่าลนลานถาม
อึ่มหงส์พยักหน้า…. “พวกอียอมรับความรักของเรา เตี่ยกับม๊า! ลึก็เช่นกัน แต่จารีตโบราณต่างหากที่แยกเราไม่ใช่พวกอี” อึ่มหงส์บอกพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆ ท่านผู้หญิงโฉมดร.ชัยนนท์และสุนีย์ที่พึ่งเดินเข้ามาสมทบต่างตกใจไปคนละกิริยา ทันทีที่ค็อกเทล! เดินถือถุงผ้าเก่าๆยื่นให้ เธอจึงยื่นมันต่อให้อาม่า
“เปิดดูเองซิ!เจียวฟาง” อึ่มหงส์บอก ทันทีที่อาม่าสัมผัสบางสิ่ง แกก็ต้องยกมืออีกข้างทาบหน้าอก “ปี่เซียะคู่”
“ใช่! อีขายข้าวฟ่างเพื่อแลกกับมัน หวังจะให้ลึ!กับอั๊ว!ติดตัว เผื่อวันข้างหน้าปี่เซียะคู่จะได้พาเราอยู่ด้วยกัน….” อึ่มหงส์ไอไม่มีเสียงเมื่อกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ “เจียวฟาง อภัยให้เตี่ยกับม๊า!เถอะนะ”
อาม่าก้มหน้าร้องไห้จนแผ่นหลังสั่น ผ้าเช็ดหน้าผืนเก่าสีน้ำตาลแดงเปียกแล้วเปียกอีก ในที่สุดเธอก็ยืดตัวและพยักหน้ายิ้มให้ “แค่เตี่ยกับม๊า! เห็นด้วย อั๊ว!ก็ตายตาหลับแล้วละเฟยเฟิ่ง”
“มันเป็นของลึ!….” อึ่มหงส์บอก แต่สายตาอาม่ากลับไปตกที่ค็อกเทล!กับฮ่อม
และในที่สุดเธอก็ส่งปี่เซียะให้ค็อกเทล! ตัวหนึ่ง ฮ่อมอีกตัวหนึ่ง “เก็บมันไว้เป็นคู่เพื่อพวกลึ! 2 คนจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ถือว่าสิ่งนี้คือคำอวยพรจากอาม่าก็แล้วกัน”
“มีความสุขแทนอึ่ม! ด้วยนะอาค็อก! อาฮ่อม….” และเธอก็โก่งคอไอจนสายอ๊อกซิเจนหลุดจมูก “อั๊ว!อยากหลับแล้วละ เจียวฟาง….” อาม่าปิดหน้าร้องไห้คล้ายจะรู้บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น “เจียวฟางที่รัก…ถึงไม่มีอั๊ว! แต่ลึ! ยังเห็นความรักของพวกอี” อึ่มหงส์ มองฮ่อมสลับค็อกเทลไปมา “ความรักของพวกอี จะช่วยให้ลึ!อยู่ต่อโดยไม่มีอั๊ว! เชื่อซิ!”
อาม่าพยักหน้างึกๆ เธอชั่งใจจนมือสั่น “อาฮ่อมอาค็อกพาอึ่มหงส์เข้าห้องได้แล้ว…ถึงเวลาที่อีต้องหลับจริงๆสักที” เธอมองหน้าดร.ชัยนนท์ที่ทำอะไรไม่ถูก “ม๊า!ขอโทษนะอาตี๋ แต่เฟยเฟิ่งเป็นคนรักคนเดียวของม๊า!จริงๆ”
ดร.ชัยนนท์หลับตาทบทวนภาพอดีตหลายปีก่อนเตี่ยจะเสียชีวิต อาม่าคนนี้ไม่นั่งอยู่ในครัวก็ห้องนอนเท่านั้น “อั๊ว! เข้าใจ…” เขาเบนสายตาไปที่ฮ่อมกับค็อกเทล “ถึงเวลาอึ่มต้องหลับแล้วอาตี๋….”
“ครับเตี่ย!…..”
งานศพอึ่มหงส์เป็นไปอย่างเรียบง่าย เพราะขณะสร้างย่า&ยายรีสอร์ทพวกเธอได้สร้างฮวงซุ้ยคู่เตรียมไว้แล้ว แสงไฟจากรีสอร์ทกลางทุ่งโล่งหลังหมู่บ้านดอนสวาย แข่งกับแสงดาวดารดาษเต็มฟ้าในยามนี้ ชั่งสดใสและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ปี่เซียะคู่ถูกจัดวางไว้บนหัวเตียงบนห้องนอนชั้น 2 โอกาสที่พวกมันจะพลัดพรากเหมือนจะไม่มีอีกแล้ว เพราะไม่ถึงเดือนต่อจากนั้นมหาวิทยาลัยประจำจังหวัดน่านก็ตอบรับใบสมัครเข้าเป็นอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมของดร.นุกุล ภูลมบลและอีก 2 เดือนต่อจากนั้นคณะรัฐมนตรีก็ประกาศหมดวาระพร้อมกับยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ ค็อกเทล!ลาออกจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาเมื่อ 3 เดือนก่อนจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรประจำอำเภอปัว ช่วงหาเสียงอาม่านั่งรถเข็นไปช่วยแทบทุกที่และในที่สุด เข็มทิศชีวิตก็บอกทิศทางชัดเจนมากขึ้น เมื่อ ดร.ณนนท์ สวัสดิ์พากรได้รับเลือกเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรประจำอำเภอปัว! ด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น
เย็นค่ำๆ กลางทุ่งผักสลับแปลงข้าวโพดไกลสุดสายตาที่มีเทือกเขาสีคล้ำเขียวจมดำได้ปรากฏชาย 2 คนกำลังเดินจูงมือกันไปตามถนนลูกรังที่รถพอจะผ่านไปได้ทีละคัน ทั้งคู่ยิ้มไม่มีเสียงพูดคุยกระทั้ง
“สัญญากับผมนะครับด็อกเตอร์ว่าจะผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมออกมาบังคับใช้ให้ได้” เสียงฮ่อมลอยมาตามสายลมถึงย่า&ยายรีสอร์ท
“จะพยายาม…ว่าแต่เข็มทิศชีวิตสถานีต่อไปของนายคืออะไร?…ใช่! บุรุษข้างกายหมายเลข 1 ของผมหรือเปล่า”
สายลมพาเสียงใบมะม่วงแทรกเข้ามารบกวน กระนั้นสำเนียงคุ้นเคยก็ยังชัดเจน “นายทำได้ด็อกเตอร์ ฉันเชื่อว่านายเป็นนายกรัฐมนตรีได้และฉันก็พร้อมที่จะเป็นบุรุษข้างกายของนายลอดไป”
…อาม่ายิ้มไม่หุบบนรถเข็นหน้าป้ายชื่อย่า&ยายรีสอร์ท “อั๊ว!รู้เฟยเฟิ่งว่าลึ!กำลังรอ….อั๊ว! พร้อมจะไปกับลึ! แล้วละ” แล้วเธอก็สะดุ้งเมื่อค็อกเทล! ตะโกนจนทุ่งหลังบ้านดอนสวายกระเพื่อมไปสุดตีนเขา 2 ลูกของหมู่บ้าน
“ไอ้ควายดำกูรักมึงงงงงงงงงงงงง”
เธอยิ้มตาลอยๆ “อาเฟยเฟิ่ง ลึ! อยู่ไหน?” สายลมกระชากวูบวาบพาปลายต้นไม้ไหวเอน ไม่นานไอหมอกรางๆคล้ายกับภาพสะท้อนตัวตนของอาม่าและอึ้มหงส์ก็ค่อยลอยออกจากย่า&ยายรีสอร์ทไปทางทิศเหนือ
#เจียวฟางกลับจั่วมู่หลางไปขอบคุณเตี่ยกับม๊า!กันเถอะ#
#แต่…..# อาม่าในไอหมอกจ้องไปที่คน 2 คนกำลังยืนคู่กันหันหน้าสู่เทือกเขาภูคาทิศตรงข้าม
#อย่าห่วงไปเลย ปี่เซียะจะคุ้มครองพวกอี#
#ขอบใจมากนะเฟยเฟิ่งที่ไม่ทิ้งอั๊ว#
#อั๊ว! รักลึ! เจียวฟาง#
“กูก็รักมึงไอ้ควายเผือกกกกกกกกก”
*****************อวสาน*****************
ปล : “บุรุษข้างกายหมายเลข 1” คือภาคต่อของ “เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก” ถ้าชอบก็บอกต่อและหากต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***