เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep2-2

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep2-2

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep2-2 คนบ้าหน้าหล่อ นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep2-2

ข่าวการเดินทางกลับเมืองไทยของค็อกเทล! หรือ นายณนนท์ สวัสดิ์พากร บุตรชายคนเดียวของ ดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากร รองนายกรัฐมนตรี กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง เพจข่าวหลายสำนักถึงกับหยิบประวัติช่วงที่ดำมืดเมื่อหลายปีก่อนขึ้นมาเขียนบทความโจมตีรัฐบาล นักข่าวต่างควานหาตัวชายผู้สร้างตำนานทุกเรื่องจ้าละหวั่น เพียงต้องการจะสัมภาษณ์ไม่กี่นาทีหรืออาจะหลายนาทีอันนี้ไม่ชัวร์ จะบอกว่าเขาเนื้อหอมมันก็ใช่ เนื้อเหม็นฉาวโฉ่ก็ไม่เชิง โดยเฉพาะนักข่าวสายกอสซิปด้วยแล้วยกประเด็นนี้นำเสนอเป็นเมนหลักติดต่อกันหลายวัน กระนั้นฮ่อมก็ยังไม่หนักใจเท่ากับหนังสือที่กำลังถืออยู่ในมือ การจะหยิบมันขึ้นมาอ่านบนรถเมล์หรือรถไฟฟ้าเช่นที่เคยทำ ผู้คนรอบตัวจะมองว่าเขาเป็นตัวตลกหรือไม่ หากเรื่องราวของค็อกเทล! ยังคงเป็นข่าวด้านลบอยู่แบบนี้ บุคคลซึ่งเป็นไอดอลอาจล้มละลายทางความน่าเชื่อถือสำหรับตัวเขาเอง ไม่เพียงหนังสือเข็มทิศชีวิตจะรอเวลาชั่งกิโลขายเท่านั้น ชีวิตทั้งชีวิตที่ฝากไว้กับมันก็ต้องมีอันเป็น เวลานี้ภาพไร่กะหล่ำปลี ไร่ข้าวโพด ไร่ผักกาดบนดอยภูคาชัดเจนขึ้นในหัวเป็นลำดับ หรือว่าแท้จริงแล้วสุดปลายทางเข็มทิศชีวิตคือสิ่งที่เขาคลุกคลีมาทั้งชีวิต

ฮ่อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องดูขณะมีสายเรียกเข้า “หวัดดีคุณเฟี้ยทซ์”

#เฮีย เย็นนี้เจอกันที่สนามเทนนิสไนติงเกลนะ#

“กกท.หรือรามอินทรา” ฮ่อมถาม

#กกท.นั้นแหละเฮียจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล ประมาณหกโมงถึงทุ่ม ไม่เกิน#

“OK. แต่วันนี้เฮียลงคอร์ทไม่ได้นะสายเอ็นขาดยังไม่มีเวลาไปเปลี่ยนเลย”

#ไม่เป็นไรเฟี้ยทซ์น็อกบอร์ดคนเดียวได้ วิ่งจบก็ไปนั่งรอที่เดิมนั้นแหละ อยากคุยด้วยเฉยๆ แล้วเจอกัน#

เวลา 17.00น. พนักงาน SCN. สาขาหัวหมากกำลังทยอยออกจากออฟฟิต ฮ่อมเดินขึ้นบันไดคอนกรีตสู่ห้องพักชั้น 4 และใช้เวลาเปลี่ยนชุดสั้นๆ ก่อนจะเดินกลับลงมาซึ่งเวลานั้นเหลือเพียงอโนทัยสถาปนิกอวุโสเพียงคนเดียวเพราะปัญหาเรื่องหัวเข่าเขาจึงรอแฟนที่ทำงานบนถนนเพชรบุรีแวะมารับเป็นปกติ

“นัดใครไว้ในสนามกีฬาหรือเปล่าเนี้ย!” อโนทัยแซวกึ่งถามตามมารยาท

“ไอ้คุณเฟี้ยทซ์นะพี่ ไม่รู้มีเรื่องอะไร?”

อโนทัยเอามือค้ำคางกระแจะปาก “ไอ้เฟี้ยทซ์นี้ก็แปลก อยู่ๆ ลุกขึ้นมาเล่นกีฬาได้ไงวะ เมื่อก่อนแค่จะลงสนามยังต้องเข็นเลย…”

“ขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“โอ้ย! ประวัติมันแสบกว่าไอ้ค็อกเทล! หลายเท่าแต่ก่อนคู่นี้ตัวติดกันยังกับปาท่องโก๋”

“ชั่งเถอะ อาจจะโตขึ้นเลยอยากดูหล่อก็ได้มั่ง”

“เอ่อ! ขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ…ว่าแต่ไปวิ่งไม่ใช่เหรอถือหนังสือไปด้วยทำไมอะ”

“ไอ้คุณเฟี้ยทซ์มันชอบเลทนะพี่ กะเอาไปฆ่าเวลาเจอกันพรุ่งนี้ครับ”

หลังจากวิ่งในสวนสุขภาพครบตามโปรแกรมประจำวัน

ผนังอลูมิเนียมคอมโพสิตสีทองแดงที่หุ้มอาคารสำนักงานสูง 26 ชั้นเมื่อจัดวางคู่กับกระจกเปลือยเคลือบปรอท มันจึงดูลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งทางทิศตะวันตกที่กำลังสะท้อนแสงอาทิตย์สีเบจจางๆ ผสานเข้ากับสีทองแดงของผนัง มันยิ่งดูเนียนตาจนเผลอนึกว่า สิ่งก่อสร้างนี้คือประติมากรรมสายมู (มูเตลู) ไม่ใช่อาคารสำนักงานการกีฬาของประเทศอย่างที่เป็นอยู่

นักกีฬาคนทั่วไปรวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่อยู่ติดกันกระจายอยู่เต็มทุกสนาม จะหนาตาหน่อยก็สนามฟุตบอลกลางแจ้งข้างอาคารสำนักงานหลังที่ว่า ส่วนสนามราชมังคลากีฬาสถานและอินดอร์สเตเดี้ยมกำลังปิดปรับปรุง จึงเห็นทิวผ้าสแลนสีเขียวอ่อนปลิวไสวท้าแดดอยู่ริบๆ เกือบจะถึงเวลานัดกับไอ้คุณเฟี้ยทซ์แล้ว ฮ่อมจึงเร่งฝีเท้าข้ามสนามฟุตบอลที่มีเด็กกลุ่มใหญ่กำลังส่งเสียงตะโกนโห่ร้องตามประสา จนเขาอดยืนยิ้มให้กิริยาน่ารักน่าเอ็นดูเหล่านั้นไม่ได้

ภายในคอร์ทสนามเทนนิสไนติงเกล มีผู้คนมาใช้บริการเต็มทั้ง 12 คอร์ท เขาพยายามมองหาใครสักคนที่อาจจะเป็นไอ้คุณเฟี้ยทซ์แต่ก็ไม่ใกล้เคียง ที่ผนังคอนกรีตสูงสำหรับน็อกบอร์ดก็มีเพียงเด็กกับผู้ปกครองไม่กี่คน

(สายอีกตามเคย) ฮ่อมคิดก่อนจะเดินเลียบขอบสนามตรงไปนั่งรอบนอัฒจันทร์ที่ที่เคยใช้งานเป็นประจำ แดดสีเบจกำลังจมเข้าสู่เฉดสีครีมข้น แสงประดิษฐ์จึงค่อยๆ สว่างสีขาวขึ้นมาทดแทน หนังสือเข็มทิศชีวิตเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ใช้ฆ่าเวลาได้ดีตามที่คาดเอาไว้ตั้งแต่แรก

#เมื่อเห็นบุคคลเก่งกว่า มีคุณวุฒิเหนือกว่า แต่งตัวดีกว่า อย่าตัดสินว่าตัวเองด้อยกว่า เพราะโดยปกติแล้วธรรมชาติสร้างมนุษย์ที่เกิดบนโลกเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ใช่ว่าดอกเตอร์จะทำนาเก่งกว่าชาวนา ใช่ว่านายพลจะยิงปืนแม่นกว่าพลทหาร และใช่ว่าผม ดร.ชัยนนท์ สวัสดิ์พากร จะรอบรู้ทุกเรื่อง เพราะหากเป็นเช่นนั้นที่ปรึกษาส่วนตัวร่วม 20 ท่าน 20 สายอาชีพคงไม่จำเป็นต้องมี ครับ สำหรับพารากราฟนี้ ผมเพียงอยากบอกว่า ทุกคนเก่งเท่ากัน เพียงแต่เก่งคนละด้าน เก่งคนละแบบ ฉะนั้นจงเชื่อมั่นในตัวเองแล้วเข็มทิศชีวิตจะนำสู่เป้าหมายด้วยตัวของมันเอง#

เวลาเดียวกันข้อความไลน์จากไอ้คุณเฟี้ยทซ์ก็เด้งเข้ามาในโทรศัพท์… “อะไร? ของมันวะพิมพ์ซะยาวเฟื้อยเป็นบทความ” เขาแจะปากถอนหายใจแรงๆ

Fitz  : ไม่รู้ลิ้งค์สัญญาณจากดาวดวงไหนดลใจ เฟี้ยทซ์อยากให้เฮียค็อก! กับเฮียฮ่อมรู้จักกัน เอาจริงๆนะ เฮียค็อก! นะเหี้ยยยยย!มากตรงข้ามกับเฮียฮ่อมโดยสิ้นเชิง แต่ชีวิตของพวกเฮียต้องมีจุด จุดหนึ่ง ขอเรียกจุดนั้นว่า “จุดสมดุล” เฟี้ยทซ์กำลังจะบอกว่า จุดสมดุลคือจุดที่เฮีย 2 คนจะต้องค้นหาไปด้วยกัน ถึงแม้เข็มทิศชีวิตจะสวนทางกัน แต่จงเชื่อว่า…ในเอกภพต้องมีจุดตัดของ 2 เส้นและจุดนั้นก็คือจุดสมดุลที่เฟี้ยทซ์หมายถึง แม้ว่าเฮียค็อก! จะเหี้ยในสายตาหลายคนแต่เฮียก็เป็นคนที่เหี้ยน้อยที่สุดที่เฟี้ยทซ์รู้จัก…ฝากเฮียค็อก!ด้วยนะเฮียฮ่อม…

….อีกคนค็อกเทล! สวมหมวกแก๊ปแว่นตากันแดดสีดำราวต้องการใช้มันพลางตัวเอง กระนั้นชุดเทนนิสสีขาวกลับทำให้เขาดูโดดเด่นจนหลายคนอดเหลือบมองไม่ได้ ปกติแล้วเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัวมักจะเรียกเขาว่า ค็อก! สั้นๆง่ายๆ แต่อันที่จริงแล้วชื่อเล่นแบบเต็มยศก็คือ “ค็อกเทล” ตามรสนิยมส่วนตัวของผู้เป็นแม่นั้นก็คือท่านผู้หญิงโฉมศิริกัลยา สวัสดิ์พากร เขาเดินเนิบๆ เข้าไปภายในสนามเทนนิส พร้อมกับอ่านข้อความไลน์จากไอ้คุณเฟี้ยทซ์ที่ทะลึ่งส่งเข้ามือถือ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน เมื่ออ่านจบตัวเขาก็เกือบถึงอัฒจันทร์ที่มีใครคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือนิ่งนานในท่าเดิมจนเผลอคิดว่าเป็นหุ่นปั้น ค็อกเทล! หยุดสายตาที่เขา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเผยให้เห็นลำแข้งเหนือถุงเท้าที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามหนาๆ เซ็กส์แอปพิวล์ของชายผู้นี้น่าหลงใหลและมันก็เล่นงานเข้าแล้วอย่างจัง  เขาเผลอเสียมารยาทลากสายตาลามขึ้นไปแทะโลมต้นขาขาวๆ สู่หัวไหล่นอกเสื้อกล้ามก่อนจะเลื้อยไปจบที่ซอกคอวีลึกเกือบเห็นหน้าอก ไม่ต้องพูดถึงวงหน้าเข้ารูปยิ่งกว่าประติมากรรมด้วยซ้ำ

(ถึงอยู่บนดาวอังคาร กูก็จะพุ่งตรงมาหามึง!…ไอ้บ้าเอ้ย!…ดูเวลามึงยิ้มสิ เหี้ย! ละซิ! หัวใจกู…. มึงนี้น่า….แม่ง! ยิ้มโคตรหวานยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก)  ค็อกเทล! เหม่อจ้องแช่หนุ่มลัวะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือบนอัฒจันทร์ราวกับไม่มีวันเบื่อ นานแค่ไหน? นั้นนะซิ เวลานี้แดดสีครีมข้นๆ กำลังจมเข้าสู่เงารัตติกาลอยู่รอมมะร่อ (มึง!ไม่รู้ตัว กูก็จะมองอยู่แบบคนบ้านี้ละ เหี้ย!จริงๆ กูต้องบ้าแน่ๆ) จนกระทั้ง 19.00น.

“เฮ้ยมึง!” ค็อกเทล!ตะโกนใส่แบบไม่รู้จะเลือกใช้คำไหนดี ฮ่อมมองลอดสันหนังสือไปตกที่คนๆ เดียวที่กำลังยืนยิ้มเป็นคนบ้าหน้าหล่ออยู่ด้านล่าง “มึง! มึง!นั้นแหละ”

ฮ่อมเกิดอาการเหรอหรามองซ้ายทีขวาที เมื่อไม่มีคนอื่นรัศมี 5 เมตร เขาจึงเลิกคิ้วละสายตาชี้นิ้วจิ่มหน้าอกตัวเอง

“เออ! กูเรียกมึงนั้นแหละ” ค็อกขึ้นเสียงสูง

“กู!….มึง!” ฮ่อมชักสีหน้าเป็นลูกเป็ดหลงแม่

“เอ่อ!…. กูจ้องมึงเป็นชั่วโมงแล้วเนี้ย! ไม่รู้ตัวเลยไง?”

“กู-กูรู้จักมึงเหรอ หรือว่ามึงเป็น….กู” ฮ่อมพยายามทำความเข้าใจกับชายหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง  สักพักค็อกเทล! ก็ถอดแว่นตากันแดดเงยใบหน้าเรียวๆ ให้เห็น แววตาแวบแรกที่ฮ่อมสัมผัสได้มันยากจะสรุปว่าเขาเป็นคนในรูปที่ไอ้คุณเฟี้ยทซ์เคยส่งมาให้ดู แต่จะว่าไปแล้วถ้าชายผู้นี้ยืนนิ่งๆ ไม่พูดจาหยาบคลายแบบเมื่อครู่ เขาจะดูหล่อเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า  “มึง รู้ จัก กู….”

“ไม่จำเป็น กู กู….” ค็อกเทล! พยายามลดน้ำเสียงให้นุ่มนวลขึ้น เมื่อฮ่อมจ้องแบบคนตั้งการ์ด “คือ คือ กูแค่ ง….” ค็อกเทลพูดไม่ทันจบประโยคก็ปีนอัฒจันทร์ขึ้นไปนั่งลงข้างๆ…. “….มึงอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยเหรอ”

“เดี๋ยวก่อนนะ เราต้องเคลียร์กันก่อน ผมเป็นเพื่อนสนิทคุณตั้งแต่เมื่อไร? ถึงมาเรียกผมว่า มึง แถมยังใช้คำแทนตัวเองว่า กู”

“กูชิน ถ้ามึงไม่โอ กูขอโทษ” ค็อกเทล! พูดพร้อมถือวิสาสะดึงหนังสือจากมือมาส่องดูใกล้ๆ “มึงเชื่อไหม? หนังสือเล่มนี้ที่บ้านกูมีทุกซอกทุกมุม แต่กูก็ไม่คิดจะหยิบมันขึ้นมาอ่านเลยให้ตายเถอะ” เขาหายใจทิ้งแรงๆ “….แบบว่ากูเห็นมึงอ่านไปยิ้มไปเลยอยากรู้จักเท่านั้นเอง โอเครไหม?” พูดจบค็อกเทล! ก็วางหนังสือลงบนตักตรงกับเป้ากางเกงพร้อมกับทิ้งมือตัวเองไว้ตรงนั้น จนฮ่อมหายใจลำบาก เขามีอิทธิพลมากกว่าเจ๋ง! หลายเท่า ประกอบกับแววตาที่กำลังจ้อง…มันกำลังทำให้เขาแทบจะหมดแรง

ค็อกเทล! ลากมือไปตามต้นขายาวๆ ในเวลานี้เด็กในสนามเทนนิสกลับกันเกือบหมดแล้ว เหลือผู้ใหญ่ไม่กี่คนกำลังโต้ลูกเทนนิสในคอร์ทที่ไกลออกไป จุดนี้จึงเป็นจุดที่เงาต้นหูกระจงอำพรางเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ กระนั้นเขาเองก็ควรลุกหนี แต่….โอ้!ไม่นะ….รู้สึกตัวอีกทีริมฝีปากก็แทรกสัมผัสต้นคอใกล้เข้ามาแล้ว…พระเจ้า!

“ทำอะไร?…”

ค็อกเทล! หน้าถอดสี แต่ก็ยังทำเป็นดื้อตาใส “ก็กูชอบมึงและกูก็อยากรู้จักมึงให้มากขึ้น” เขาแทรกฝ่ามือล้วงลึกเข้าไปในกางเกงแบบคนเถื่อนถ่อยจนฮ่อมลุกพรวดก้าวลงไปยืนสเตบที่อยู่ต่ำกว่า

“มึงบอกว่า…อยากรู้จักกูให้มากขึ้น ถามหน่อย มึงรู้จักชื่อกูรึยัง” ฮ่อมกัดฟันถามขณะยื่นมือไปเชิดปีกหมวกแก๊ปลงเสียงต่ำใกล้ๆ “หน้าหล่อๆ ผู้ดีจ๋า!แบบมึงไม่มีในสาระบบเพื่อนกู”

“ใช่! กูรู้จักมึงและตอนนี้กูก็ชอบมึงแล้วด้วย” ค็อกเทล! โต้กลับ ขณะเดียวกันก็ยื่นริมฝีปากเข้าจู่โจมจนฮ่อมต้องกระโจนลงไปยืนกับพื้น

“บ้าหรือเปล่ามึงอะ”

“ถึงบ้าแต่กูก็หน้าหล่อไม่ใช่หรือไง?”

ฮ่อมกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก เขาลังเลสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินหนี แต่ในระยะทางที่ค่อยๆห่าง เสียงตะโกนแบบคนไม่สนโลกก็ไล่ตามหลัง

“มึงชื่อฮ่อม มาจากอำเภอปัว จังหวัดน่าน แค่นี้พอไหม?…และที่สำคัญมึงก็ลืมหนังสือเข็มทิศชีวิต…ลิ-ขิต-รัก” ประโยคสุดท้ายค็อกเทล! แต่งขึ้นและพูดช้าๆทีละคำราวกับให้สะกิดใจ ซึ่งมันก็ได้ผล…ฮ่อมชะงักทันที…

ในแสงประดิษฐ์ เผยบอกว่าเขาออกอาการเดาทางไม่ถูก แค้นก็ระดับหนึ่ง แต่ไอ้คนบ้าหน้าหล่อที่กำลังนั่งยิ้มกลายเป็นคำถามตัวเท่าช้างที่แกะไม่หลุดจากหัว (มันเป็นใครกันวะ!) นาทีตัดสินใจ เขาจึงเดินกลับหวังจะคว้าหนังสือแล้วหนีให้เร็ว แต่ก็โดนคนบ้าหน้าหล่อรวบโน้มคอเข้าไปจูบฝัง มันเป็นจูบแบบไม่มีลิ้นแทรกเข้าในโพรงปากให้สะอิดสะเอียน แต่ทำไมมวลท้องกลับวิ่งวนเป็นลูกข่าง สมองเองก็หยุดทำงาน ขณะที่หัวใจเต้นโครมครามจนกลัวว่าจะหลุดออกมาข้างนอก “บ้าเอ้ย!….” เขาสบถดังๆ ก่อนจะคว้าหนังสือแล้วเร่งฝีเท้าหนี

“นี่ นี่ มึง มึง….อะ….มึง กู ไอ้เหี้ยเอ้ย แม่ง!” ปลายเสียงหยาบๆ คายๆ ดังตามหลังไม่หยุดกระทั้งพ้นประตูสนามกีฬา เขาจึงลดความเร็วลงเป็นเดินทอดน่องไปตามฟุตบาท ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั้งรถเบนซ์สปอร์ตสีดำเลี้ยวปาดหน้าก่อนจะถึงลานจอดรถของบริษัทไม่กี่เมตร

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณฮ่อม”

ฮ่อมชะงักอีก ไม่นึกว่าไอ้บ้าหน้าหล่อจะกล้าตามมาถึงที่นี้ (บ้าเอ้ย…..) เขาสบถในใจ

“กูอยากรู้จักมึง กูจะจีบมึง ตามจีบมึงไปทุกที่จนกว่ามึงจะยอมเป็นแฟนกู” ค็อกเทล! ตะโกนใส่พร้อมกับถอดหมวกถอดแว่นตายิ้มกว้างๆ ให้เห็น…. “ฝันดีนะครับคุณนุกุล ผมชอบดอกชมพูภูคาบ้านคุณเอามากๆ ว่างๆ ไปเที่ยวกันนะครับ”

“เฮ้ย! มึง…” ฮ่อมพูดได้ 2 คำ รถเบนซ์สปอร์ตก็แล่นห่างออกไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงแววตาที่ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองและก่อนที่จะก้าวขาเข้าบริษัทเสียงเรียกจากโทรศัพท์ในกระเป๋าคาดเอวก็ดังขึ้น

“#เฮียฮ่อมขอโทษทีเฟี้ยทซ์ติดธุระกะทันหัน เสร็จก็รีบบึ่งรถมาเลย อยู่ไหนละ#

“กลับแล้ว เจอคนบ้านะ คนอะไรเหี้ย! เกินต้าน”

#อะ อะไรนะ….# เฟี้ยทซ์เงียบไปครู่หนึ่ง #เขาเป็นคนยังไงอธิบายหน่อยดิ คือเฟี้ยทซ์หมายถึงรูปร่างหน้าตา#

“ก็หล่ออยู่หรอก แต่หยาบคายสุดๆ”

#เขาคนนั้นควรจะเรียกว่า ผู้สร้างตำนานทุกเรื่องได้ไหมเฮีย ฮ่า ฮ่า ฮ่า# เฟียทซ์พูดไปหัวเราะไปไม่หยุด

(ตำนานทุกเรื่อง….) ….กระทั่ง…. “มิน่าละ….ไอ้คุณเฟี้ยทซ์”

#ที่เฟี้ยทซ์อยากคุยด้วยก็ประมาณนี้แหละ ฮ่า ฮ่า ฮ้า ฝันดีนะครับเฮียฮ่อมสุดหล่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า#

*****************

***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***

(Visited 49 times, 1 visits today)