เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep3-3 ตำนานทุกเรื่อง นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep3-3
อีก 20 นาที 4 ทุ่ม ค็อกเทล! หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าด้านในเสื้อสูทมาส่อง “พ่อกูอยากคุย…ไปโว้ย!มึง!”
#หากปล่อยชีวิตให้กับพรหมเป็นผู้ลิขิต พรหมก็เป็นได้แค่ด้ายเส้นหนึ่ง การเอาทั้งชีวิตไปแขวนบนเส้นด้ายก็หมายถึง “ความไม่แน่นอน” ตนเป็นที่พึ่งแห่งสุดท้ายของตนฉันใด ไม่มีพรหมในโลกากำหนดโชคชะตาตัวเรานอกจากตัวเราเป็นผู้กำหนดเข็มทิศชีวิตของตัวเอง… #
ภายในห้องแกรนส์ศุภาลัย งานเลี้ยงเวลานี้ก็ยังดำเนินอยู่และไม่มีท่าทียุติง่ายๆ แสงไฟหลากสีที่แขวนบนฝ้าเพดานโหมสาดไปที่พิธีกรกับพนักงาน ผู้บริหารที่ได้รับรางวัลสาขาต่างๆ บนเวที ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเจนนี่รวมอยู่ด้วย เธอสวยเสมอต้นเสมอปลาย โดดเด่นยามเมื่อแสงแฟลชวูบวาบรอบๆ ตัว ฮ่อมกับค็อกเทล! ปรบมือพร้อมกับโบกมือสุดแขนจนเห็นเธอยิ้มกว้างๆ มาทางพวกเขา และเมื่อทั้งคู่เดินหลบมุมกระทั่งถึงหน้าห้อง VIP-4 นายตำรวจติดตามที่ยืนเป็นรูปปั้นหน้าประตูกระจกเปลือยที่เห็น ดร.ชัยนนท์นั่งจิบไวน์อยู่กับบอร์ดบริหาร 3-4 คนอยู่ภายในก็เอ่ยขึ้น…
“ท่านรองต้องการคุยกับคุณนุกุลเพียงลำพัง คุณค็อกเทล! กรุณารอด้านนอกก่อนนะครับ”
“อะไรวะ!…..” ค็อกเทล! หลุดอุทานเสียงดังและไม่ทันจบประโยค
“ค็อก!…” ฮ่อมดันอกห้ามเอาไว้ เขาขยิบตาก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
“เรื่องหุ้นในบริษัทท่านไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ เมื่อสภาฯ เรียกสอบ บอร์ดบริษัทจะจัดการให้”
“อื้อ ขอบใจ อ้าว! ฮ่อมมาพอดี”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวนะครับท่านรอง”
“ฮื้อ! ฝากด้วยนะผมไม่อยากมีปัญหา”
“ครับท่าน”
เมื่อภายในห้องมีแค่หนุ่มลัวะกับรองนายกรัฐมนตรีเพียงลำพัง บทสนทนาแรกจึงเริ่มต้น
“จุดประสงค์ที่ผมเขียนหนังสือเข็มทิศชีวิตมันอยู่ในคำนำหน้า 5 ใช่! ผมเขียนหนังสือเล่มนี้ให้เจ้าค็อกเทล! ลูกชายของผม ผมวางหนังสือไว้ทุกมุมบ้านที่เค้าน่าจะเห็น แต่ก็ไม่ได้ผล แต่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเห็นเค้าอ่านมันแบบเอาเป็นเอาตาย บอกตรงๆ ผมทั้งดีใจและสงสัยไปพร้อมกัน…นุกุล!” ดร.ชัยนนท์เงยหน้าตั้งใจจะเรียกชื่อเขาชัดๆ
“ครับ…เรียกผมว่าฮ่อมเฉยๆ ก็ได้ครับ” ฮ่อมตอบกลับน้ำเสียงเรียบๆ
“คุณเห็นผมเป็นไอดอล” ดร.ชัยนนท์พูดพร้อมกับระบายยิ้ม “ผมเพียงอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีอิทธิพลกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ครับ….” ฮ่อมตอบคำเดียวสั้นๆ แล้วนิ่งคล้ายคนกำลังคิด ดร.ชัยนนท์เองก็รอประโยคสำคัญ “ครอบครัวผมอยู่บนดอยภูคา ทำไร่กะหล่ำ ข้าวโพดและผักกาดดองตามฤดู พ่อผมนำกำไรจากขายผักไปซื้อหนังสือที่คิดว่ามีบางอย่างพ่อไม่สามารถสอนได้ พอผมได้อ่าน เข็มทิศชีวิตที่คิดว่าไม่เคยมีมาก่อน กลับชัดเจนขึ้น กระทั่งมันนำผมมานั่งต่อหน้าท่านในวันนี้ครับ”
ดร.ชัยนนท์จ้องหนุ่มลัวะตรงๆ จนคล้ายกับคนไม่เคยเห็น “เห็นเจ้าค็อก! บอกว่าคุณต้องการให้ผมเซ็นหนังสือให้ด้วยไม่ใช่รึ!”
ฮ่อมยืดอกมองตาดร.ชัยนนท์แบบไม่กลัวและหันกลับมองค็อกเทล! สั้นๆ “ค็อก! มันคงจะบอกท่าน….”
“ใช่! ที่ผมเรียกคุณเข้ามาคุยก็เพราะผมประทับใจคุณเรื่องนี้แหละ”
“ท่านเขียนหนังสือให้มัน เอ่อ!….ขอโทษครับที่ผมใช้คำไม่สุภาพ ผมหมายถึงค็อกเทล!”
“ไม่เป็นไรผมชินกับไอ้ลูกคนนี้ละ ตามสบาย”
“มันคือ….” ฮ่อมพูดไม่ทันจบ ดร.ชัยนนท์ก็แทรกอีก
“ตราประทับรับรอง”
ฮ่อมผงกหัว “ผมขอโทษนะครับที่ต้องพูดความจริง”
“คุณตีความหมายของหนังสือเล่มนี้ได้แตกกระจุย แต่ผมอยากขอคุณสักข้อ หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต ผมไม่ได้เป็นพระพรหมที่จะลิขิตหรือนำทางเข็มทิศชีวิตให้ใครได้ ผมแค่คนธรรมดาฮ่อม!” ดร.ชัยนนท์รี่ตาก้มศีรษะ “ผมเห็นความทะเยอทะยานในตัวคุณ แล้วผมก็อยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆกับค็อกเทล! ลูกชายของผม”
ฮ่อมหลับตาสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด “ท่านครับ….” เขาเอ่ยแบบคนเจียมตัว จนดร.ชัยนนท์ยืดตัวตั้งท่ารับ “ท่านเพิ่งบอกผมเมื่อสักครู่ว่าท่านไม่ได้เป็นพระพรหมและไม่สามารถลิขิตชีวิตใครได้”
คำพูดของฮ่อม…แทงใจดำเล่นงานดร.ชัยนนท์เข้าอย่างจัง เขาเป่าลมออกจากปากแล้วนิ่งเบิกตารออีก
“ผมพอมองเห็นทิศทางเข็มทิศชีวิตของไอ้ค็อก! แล้วครับ ถ้าท่านกับท่านผู้หญิงกล้าปล่อยมือ ผมมั่นใจว่าไอ้หมอนี้ไม่ธรรมดา”
“หมายความว่า….”
“มันอยากเรียนเกษตรครับและมันก็คำนวณหน่วยกิตที่จะโอนจากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรไว้แล้วด้วย ท่าน คิด เห็น…..”
ดร.ชัยนนท์ยกมือเบรกแบบคนต้องการเวลาทบทวน เขาแจะปากเสียงดังหลายทีก่อนจะมองผ่านไปที่ลูกชายตัวเองด้านนอก “เจ้าค็อก! ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังเลย”
“มันเพิ่งบอกตอนไปลองชุดสูทเช่นกันครับท่าน”
ดร.ชัยนนท์หน้าบึ้งก่อนจะปรากฏรอยยิ้มบางๆ “แค่เค้ายอมเรียนผมก็ดีใจแล้ว” พูดจบก็เขี่ยโทรศัพท์ในมือไปมาสักครู่ค็อกเทล! ก็ถลาเข้ามานั่งแมะข้างๆ
“เตี่ย!….”
“ถ้าแกอยากเรียนเกษตรจริงๆ ก็ทำเรื่องโอนหน่วยกิตให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องมหาวิทยาลัยเกษตรเตี่ย! จะคุยกับอธิการบดีให้”
“มึงพูดอะไร? กับเตี่ย!กู” ค็อกเทลหันหน้าตึงๆ ไปตกที่ฮ่อม
“กูบอกมึงแล้วไงว่าหนังสือเข็มทิศชีวิตเล่มนี้มีค่ากับกูมากแค่ไหน? ถ้ามึงสู้ กูก็มีแรงตะเกียกตะกายต่อ แต่ถ้ามึงยอมแพ้ กูก็ต้องกลับไปทำไร่ข้าวโพดบนดอยภูคาแบบเดียวกับพ่อกู”
“มึงนะมึง…เตี่ย!….ค็อก! เกรงว่าท่านผู้หญิงเธอจะ….”
ดร.ชัยนนท์ยกมือเบรกลูกชาย “ไม่ควรมีใครกำหนดทิศทางเข็มทิศชีวิตให้ใคร เตี่ย! กับท่านผู้หญิงเธอก็เช่นกัน เห็นทีที่จะต้องคุยเรื่องนี้ให้เด็ดขาดแล้วละ”
“เตี่ย!….”
“เข็มทิศชีวิตของค็อก! ลูกต้องกำหนดเอง….” ดร.ชัยนนท์เชิดปลายคางลูกชายให้มองตัวเอง “ค็อกเทล! ลูกต้องกล้าหาญ กล้าที่จะสร้างตำนานดีๆ เป็นของขวัญให้เตี่ย! กับแม่สุนีย์ …ทำได้ไหม”
ฮ่อมสะดุดกับชื่อแม่อีกคนของค็อกเทล! แต่ก็ยังไม่กล้าแทรกถาม เขานั่งนิ่ง กระทั้ง…..
“อยากเรียนสาขาไหน คิดไว้หรือยัง” ดร.ชัยนนท์ถาม
“วนศาสตร์ครับเตี่ย!” ค็อกตอบแบบไม่ลังเล
“อื้อ!…” ดร.ชัยนนท์ผงกหัวและหันมาทางฮ่อมอีก “เตี่ย! ต้องขอบใจเพื่อนลูกมากๆ ว่าแต่ฮ่อมจะให้ผมเซ็นหนังสือวันนี้เลยไหม? ติดรถมาแจกในงานหลายเล่มเดี๋ยวจะให้คนไปหยิบมาให้”
ฮ่อมหันไปยิ้มให้ค็อกเทล! “ผมยังไม่รู้จักไอ้หมอนี่ดีพอครับท่าน”
“ก็ ก็ พยายามแล้วนะโว้ย! ไอ้ห่า!”
“คงต้องรอให้ผมกับมันเรียนจบก่อนครับ ลายเซ็นของท่านถึงจะมีมัน!” ฮ่อมจ้องค็อกเทล! อีก “เป็นตราประทับว่าเนื้อหาข้างในสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงๆ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมชักจะชอบคุณแบบจริงๆ จังๆ ขึ้นมาแล้วซิ” ดร.ชัยนนท์หัวเราะร่วนๆ “มิน่า! ศุภวัชถึงชมคุณให้ฟังไม่ขาดปาก…แล้วอาร์แบคฯ เปิดเทอมเมื่อไร?”
“อาทิตย์หน้าครับท่าน”
“จะบ้าเหรอ ทำไมมึงไม่บอกกูเรื่องนี้เลยละ เรียนด้วยทำงานไปด้วยนี้นะ” ค็อกเทล! แจะปากแบบคนอารมณ์เสีย “เตี่ย! มึงไม่มีตังส่งเรียนรึไง?….จะเรียนก็เรียนอย่างเดียว ทำงานก็ทำอย่างเดียว มึงเลือกสักอย่างดิวะ” ค็อกเทล! ซี๊ด! ปากหันไปมองดร.ชัยนนท์ “เรียนด้วย ทำงานด้วยจะเอาเวลาที่ไหน? ใช่ไหมเตี่ย!”
“พ่อกูไม่รวยเหมือนพ่อมินี่หว่า….” ฮ่อมกระซิบ กระนั้นก็ยังหันไปค้อมศีรษะให้ ดร.ชัยนนท์ “ขอโทษครับท่าน”
“ฮ่อมเขาสามารถทำ 2 อย่างได้ในเวลาเดียว สำหรับค็อก! เตี่ย!ขอให้เรียนอย่างเดียวพอ” ……ทั้ง 3 เงียบ ดร.ชัยนนท์ลุกเดินอ้อมมานั่งข้างๆ ค็อกเทล! เขาโอบไหล่ลูกชายแล้วดึงเข้าไปกอดดื้อๆ “สร้างตำนานบทนี้ให้สำเร็จ เพื่อตัวเองและเพื่อฮ่อมเพื่อนของลูกนะ…”
ฮ่อมเบิกตาคล้ายกับโดนเซอร์ไพรส์ เขาชี้นิ้วไปที่ตัวเอง จน ดร.ชัยนนท์ขำที่หัวไหล่ค็อกเทล! “ก็บอกผมเองไม่ใช่เหรอว่า ค็อกเทล!คือตราประทับรับรอง ถ้าเข็มทิศชีวิตพาเจ้าค็อก!ถึงเป้าหมาย ชีวิตคุณก็จะถึงเป้าหมายไปด้วย” เขามองเด็กหนุ่ม 2 คนสลับกันไปมา “คืนนี้ผมมีความสุขที่สุด ขอบใจมากนะฮ่อม”
#แสงเรืองรองที่ขอบฟ้า ไม่ใช่ความสวยงามที่จีรังอะไร? เพราะในไม่ช้า ฟ้าก็จะสว่างหรือไม่ก็มืดสนิท มันคือความงามปลอมๆ หลอกให้เฟ้อไปเรื่อย สุดท้ายคนที่ลุ่มหลงก็หลงทางก่อนจะถึงเป้าหมายในชีวิตจริง#
********************
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***