เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep7-5 สำเร็จในวันสูญเสีย นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO
เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep7-5
ทันทีที่ฝ้ายเรียนจบเธอก็ย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯกับพี่ชายทันที ค็อกเทล! ให้เธอไปพักอยู่บ้านเสรีกับอาม่า อีกคนเฟี้ยทซ์ขอร้องพ่อตัวเองรับเธอเข้าทำงานแผนกบุคคลของ SCN. ประจำสำนักงานใหญ่ ระหว่างนั้นเค้ก! น้องสาวค็อกเทล! ที่มีอายุเท่ากันกลับเมืองไทยมาทำธุระพอดี ทั้งคู่จึงคล้ายจะเข้ากันได้แทบทุกเรื่อง ถ้าเห็นฝ้ายที่ไหนก็จะเห็นเค้ก!ที่นั้น แม้กระทั่งบนชั้น 16 อาคารฟอร์ลั่ม บนถนนรัชดาภิเษก… ฝ่ายฮ่อมดูคล้ายจะไม่ค่อยสบายใจนักเมื่อเธอกับเฟี้ยทซ์ถูกผู้ใหญ่ในบริษัทหลายคนจับตามอง นี่ถ้าเค้ก! กลับอเมริกาเขายังเดาไม่ออกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฝ้ายบ้าง และเย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียนเฟี้ยทซ์ก็แวะมารับฝ้ายเป็นปกติ
“คุณเฟี้ยทซ์สวัสดีค่ะ มารับน้องฝ้ายเหรอค่ะ” เจนนี่ถามจากด้านในเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“ประมาณนั้นอะเจ้…กลัวหลงทาง ฮิ ฮิ ฮิ” เฟี้ยทซ์หัวเราะเดินผ่านไปเฉยๆ
“คุณเฟี้ยทซ์ค่ะ คือเจ้! จะบอกว่า น้องฟางพึ่งมารับน้องฝ้ายกับน้องเค้ก! ออกไปเมื่อครู่นี้เองค่ะ”
เฟี้ยทซ์หันขวับเดินถอยหลังในท่ามูนวอล์ก “เจ้ฟาง!…นั้นนะ”
“ค้า!….เห็นว่าจะพาน้องฝ้ายไปเทสหน้ากล้องนะค่ะ” เจนนี่รายงาน
“เทสหน้ากล้อง….นี่ๆ เจ้!ฟางเอาจริงเหรอ”
“ก็น้องฝ้ายสวยซะขนาดนั้น ถ้ายังอยู่ในวงการจะเจ้!…ขอเป็นผู้จัดการน้องฝ้ายทันทีเลยแหละเอาซิ!”
“ผู้จัดการ!…..เอ่อ!….เป็นอาชีพน่าสน ขอบคุณมากเจ็!ไปละเดี๋ยวไม่ทัน”
“คุณเฟี้ยทซ์ คะ คุณเฟี้ยทซ์ คือ….”
“ลงลิฟต์ไปแล้ว….” พรนภาที่สวนทางมาลงเวลาบอก
“ตายละ คุณศุภวัชกำชับตั้งแต่บ่ายโมงให้คุณเฟี้ยทซ์รับกลับ เพราะคนขับรถไม่สบาย ทำไงดี….”
“โทรตามก็ไม่น่าทันแล้ว….ฮ่า ฮ่า ฮ่า ระหว่างพ่อกับ ฟ. แ. น. แฟนอะนะ”
“คงจะต้องเป็นเจ้! อีกตามเคย” เจนนี่บ่นหน้ามุ่ย
“เอาน่า ปีนี้ได้พนักงานดีเด่นอีกปีแน่นอน…ไปนะค่ะ บาย!”
*******************
เช้าวันต่อมา ดร.ชัยนนท์แวะมาทำธุระที่บ้านเสรีด้วยท่าทางไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว จนทำให้อาม่าต้องถือกาน้ำชาเดินตามหลัง….เธอเห็นลูกชายยืนจ้องรูปบรรพบุรุษที่เรียงกันบนผนังในห้องทำงานจึงยืนรอที่ประตูทางเข้า 10 นาทีผ่านไป ดร.ชัยนนท์ก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับ
“อึ! อื้อ!” เธอจึงแกล้งกระแอม จนเห็นเขาค่อยๆพาใบหน้าจมเครียดมาหา
“ม๊า!…..”
“อาตี๋! ลึเป็นอะไร? ท่าทางไม่ดีเลย งานที่สภาฯหนักเหรอ หรือว่า….นั่งๆจิบน้ำชาก่อนค่อยพูดเดี๋ยวเย็นซะก่อน” เธอดันหลังลูกชายไปที่โซฟา น้ำชาสีอำพันค่อยๆ รินลงสู่ถ้วยศิลาดลเล็กๆ 5 ใบเรียงเป็นวงกลม “ไหนกำลังคิดอะไร? บอกม๊า! ซิ” เธอหย่อนก้นนั่งฝั่งหน้าต่าง ลมเช้าๆปลายฤดูหนาวกำลังเย็นสบาย แดดสีเบจอ้อมทิศใต้จึงยังไม่ผ่านเข้ามาถึง ดร.ชัยนนท์ซี๊ด!ปากนำหลายรอบก่อนจะเป่าลมทิ้งทางปากแรงๆ
“การที่อั๊ว!ปล่อยพวกอีซึ่งเป็นผู้ชายคบกัน อั๊ว!ไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือไม่” เขาดึงอากาศเข้าสู่ปอดก่อนจะพ่นทิ้งทางปากอีก อาม่าจ้องใบหน้าลูกชายขณะยื่นมือเหี่ยวตบเข้าที่ไหล่
“อาตี๋!…ม๊า!ต้องขอโทษ”
ทันทีที่ประโยคนั้นหลุดให้ได้ยิน “ขอโทษอั๊ว!ขอโทษเรื่องอะ…..”
เขาพูดไม่ทันจบ อาม่าก็โพล่งตัดหน้า “ขอโทษที่เวลานั้น ม๊า! ไม่กล้าพอจะออกหน้าห้ามเตี่ยลึ!”
“ม๊า!…..”
“ถ้าอั๊ว! เป็นแม่ที่ดีและเข้มแข็ง ชีวิตลึน่าจะมีความสุขกว่านี้….”
“หมายความว่า”
“ถ้าวันนั้นลึ! ไม่ถูกจับแต่งงานกับลูกสาวหม่อมบ้านใหญ่ ป่านนี้ชีวิตลึ!ก็คงมีปัญญาเรียนจบแค่ปริญญาตรี เป็นแค่วิศวกรบริษัท เป็นพ่อบ้านธรรมดาๆ มีภรรยาชื่อสุนีย์ อาจจะมีลูกชาย ลูกสาว เป็นครอบครัว พ่อแม่ลูกเล็กๆ ธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่งไม่ได้เป็นรองนายกฯเหมือนปัจจุบัน” อาม่าจ้องหน้าเขา “หรือว่าม๊า! เข้าใจผิดไปเองว่าชีวิตลึ! ปัจจุบันไม่มีความสุขดี”
ดร.ชัยนนท์ถึงกับนิ่งเพราะสิ่งที่เธอพูดคือปัญหาที่เขากำลังแก้ไม่ตก “ม๊า! ลึ!กำลังจะบอกอะไร?….”
“เปล่า! ก็แค่คนแก่ขี้บ่น…” และเธอก็ท้าวหัวเข่าลุก เมื่อทรงตัวได้ ก็หันไปพูดอีก “ลึ! เป็นคนเขียนหนังสือเข็มทิศชีวิตและตั้งใจเขียนให้อี….วันนี้ยังจะมาลังเลเรื่องอะไร?”
“………”
อาม่าเดินห่างไป 3-4 ก้าว “ชีวิตเป็นของอีนะอาชัยนนท์ อีจะชอบใคร อีจะรักใคร? ชายหรือหญิง มันก็เป็นเรื่องของอี…ที่โดนเตี่ยบังคับแต่งงาน….ถามจริงๆลึ! ชอบไหม?ละ….นั้นแหละคือคำตอบ”
“ม๊า!….”
“อย่างพยายามเบี่ยงเบนเข็มทิศชีวิตคนอื่น เพราะสุดท้ายแล้ว ลึ! เองนั้นแหละจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต” แล้วเธอก็เดินงกๆเงิ้นๆออกประตูปล่อยให้ดร.ชัยนนท์นั่งทบทวนตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว
“นั้นซินะ…เข็มทิศชีวิตของตาค็อก อนาคตก็เป็นของเขา” ดร.ชัยนนท์ค่อยๆฉายยิ้มก่อนจะลุกเดินตัวปลิวตรงไปยังรถไวไว
“อาตี๋ ไม่อยู่รอทานข้าวเที่ยงรึไง?” เสียงอึ่มหงส์ดังออกมาจากห้องอาหารที่อยู่ติดกัน
“ตามสบายอึ่ม! อั๊ว!รีบ”
*******************
วันหนึ่งหลังเลิกงาน ฮ่อมมีปัญหากับค็อกเทล! นิดหน่อยทันทีที่วางโทรศัพท์จากชายผู้สร้างตำนานทุกเรื่องเขาก็ตรงดิ่งไปยังคอมพิวเตอร์แล้วคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ พร้อมกับป้อนพาร์ทเวิร์ดตามที่ได้จากดร.ชัยนนท์ด้วยความอยากรู้และเรื่องราวของเขาก็อยู่ในนั้นทั้งหมด…
“ค็อก!…นายเป็นใครกันแน่”
และก็เป็นเพราะ 2 วันที่ค็อกเทล! ไม่ได้มาหา ซึ่งอันที่จริงตอนเช้าก่อนทำงานเค้าก็โทรบอกช่วงนี้ติดธุระโน้น นี้ นั้น สารพัดจะอ้าง กระนั้นฮ่อมก็ได้ใส่ใจจนกระทั่งหลัง 18.00 น.เขาต้องนำโน้ตบุ๊กส่งซ่อมที่ฟอร์จูนทาวน์ ขณะกำลังเดินออกจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 ก็บังเอิญเห็นค็อกเทล! เดินคู่หนุ่มหล่อหน้าตาดีออกมาจากตู้โดยสารด้านหน้า เขาหลับตาประมวลภาพจากคนที่เห็นในเว็บไซต์ขึ้นมาเทียบเคียง แต่ก็ไม่มีเวลาพอ ทั้งคู่ตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังฝั่งตรงข้าม ด้วยความสงสัยและอยากกระจ่างจึงยอมเสียมารยาทเดินตามไปห่างๆ และเมื่อทั้งคู่เข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นด้วยท่าทีเป็นมากกว่าเพื่อน ภาพบาดตาบาดใจก็ทำให้เขาถึงกับแขนขาสั่นจนโน้ตบุ๊กในมือเกือบเผลอหลุดกระแทกพื้น ฮ่อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งานขณะสบตากับหนุ่มหล่อของเขาที่เวลานั้นค็อกเทล!หันหลังให้พอดี
“ฮัลโหล ค็อก! นายอยู่ไหน” ฮ่อมพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติ อีกฝ่ายอึกอัก แผ่นหลังขยับไปมา เสียงจากด้านนอกไม่มีทางผ่านผนังกระจกสูงเข้าไปในร้านได้ ฉะนั้นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อจากนี้จึงสุ่มพร้อมเสี่ยงเป็นดาบ 2 คนหรือดินปืนพร้อมจุดระเบิดได้ทุกเมื่อ
#อ้อ! เอ่อ….แบบว่า….อยู่บ้านกับแม่สุนีย์ที่นนทบุรี นายมีอะไร?หรือเปล่า#
คำตอบที่ได้ยินมันยิ่งกว่าคนรักกำลังใช้มือกดศีรษะของเขาจมดิ่งสู่มหาสมุทรที่เย็นเฉียบ ฮ่อมกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หายใจไม่ออก โน้ตบุ๊กในมือน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายกิโลฯ
“อ๋อ!….ครับๆ ไม่ ไม่มีอะไร? แค่นี้นะ” เขากดสายทิ้งแล้วหันหลังเร่งหนีลงชั้นใต้ดิน (นายโกหกฉัน นายทำกับฉันได้ไงค็อกเทล!)และเรื่องราวของเขาที่เจนนี่เคยเล่าให้ฟังก็แทรกขึ้นในกะโหลก
#เจ้! จะเล่าให้ฟัง ผู้สร้างตำนานทุกเรื่องเคยเป็นคู้จิ้นกับลูกชายนายพลซึ่งมีน้องชายฝาแฝดเหมือนกันมากๆคนหนึ่ง รู้สึกว่าจะชื่อ….เอ้! อะไร?นะ….อ๋อนึกออกละ ชื่อว่า น้องผู้กองกับน้องผู้การ…นี้ไงๆ รูปที่เคยเป็นข่าวด้วยกัน (เจนนี่โชว์มือถือแสดงภาพเพจข่าวสำนักหนึ่งในยูทูปให้เห็น) หล่อมากๆต้นสังกัดเดิมของเจ้! ยังเคยติดต่อเป็นนายแบบเล้ย! ว่ากันว่า แฝดพี่กับคุณค็อก! รักกันมากถึงขั้นขอพ่อบินตามไปเรียนอเมริกาเลยละ…คิดจะคบกับคนระดับนี้ เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะฮ่อม เกิดอะไร? ขึ้นจะได้เจ็บน้อยหน่อย#
“เขาชื่อผู้กอง…หึ หึ ขนาดชื่อเล่นยังมียศ แล้วมึงละไอ้ม่อฮ่อม คนลัวะบนดอยภูคามีอะไรไปสู้เขา” ฮ่อมกลืนน้ำตาลงคงคอจนเห็นกระเดือกเลื่อนขึ้นลงหลายที กระจกห้องน้ำภายในห้างฟอร์จูนทาวน์สะท้อนตัวตนกระจ่างชัด “มึงนะคนลัวะ แต่เขาคือลูกชายรองนายกรัฐมนตรีกับลูกชายนายพล ไอ้ฮ่อม! ไอ้ม่อฮ่อม! มึง มึงกำลังเป็นบ้าอะไร?…พอได้แล้ว ตื่นซะที….บ้าเอ้ย!ทำไม?ความสำเร็จในชีวิตจึงต้องแลกกับความสูญเสียทุกอย่างด้วยวะ” เขาตบหน้าตัวเองจนชา ก่อนจะล้างความรู้สึกออกลวกๆแล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้างไป…
(สำเร็จในวันสูญเสีย…พอได้แล้ว หยุดเฟ้อได้แล้วไอ้ม่อฮ่อม มึง มึง พอซะที หยุดคิดเดี๋ยวนี้ เหี้ย! ไอ้เหี้ย!ค็อก! คูจิ้นมึงโคตรดีเลยวะ…มึงเหมาะสมกับเขา ใช่! ลูกชายรองนายกฯกับลูกชายนายพล กิ่งทองกับใบหยก….หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดคิดเดี๋ยวนี้) ฮ่อมคิดวนพอๆกับรถไฟฟ้าใต้ดินในเวลาเดียวกัน
“ไหนบอกว่ากูยังเหลือมึงไง…กูต้องจบก่อนจะไม่เหลืออะไร?…ไอ้ค็อก! ไอ้เหี้ยค็อก! ไอ้บ้าค็อก! แล้วกูเป็นบ้าอะไร?กับมัน กูคนป่าคนลัวะ! เป็นบ้าอะไร?กับลูกชายรองนายกฯ จบ จบ จบ! อ๊ากกกกกกกกกก…ท่านครับ ด็อกเตอร์ชัยนนท์ครับผม ผมเข้าใจแล้วครับ ผมรู้แล้วครับว่าท่านต้องการจะบอกอะไร?”
คำตอบส่งท้าย : คืนที่หนาวสุดในชีวิตหมายถึงคืนที่เหลือแค่ตัวเอง… “อย่างน้อยๆมึงก็ยังรับรู้ว่าคืนนี้มันหนาวที่สุด ตื่นได้แล้วไอ้ม่อฮ่อม ตื่นก่อนที่มึงจะไม่เหลือชีวิตให้รู้สึก”
***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***