เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-2

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-2

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-2 ทำไมต้องเป็นเธอ นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep8-2

“ฝ้าย!……”

“คือพึ่งกลับจากไปส่งเค้ก!ที่สนามบินสุวรรณภูมินะคะ” ฝ้ายรายงานพี่ชายขณะเวลาล่วงเลยเกือบเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว

“คุณเค้ก! เธอกลับอเมริกาเหรอ”

“คะพี่ฮ่อม เที่ยงคืน 45 นาที”

วันต่อมา….#ฮัลโหลที่รัก….คือว่า….# เกือบ 3 ทุ่มค็อกเทล!โทรหา ฮ่อมปล่อยให้เขาพูดค้างโดยไม่โต้ตอบ  #คืออาทิตย์หน้ายัยเค็ก! จะกลับอเมริกาแล้ว เธออยากไปเที่ยวอ่าวมาหยาสัก 2-3 วัน หนีเที่ยวคงไม่ว่ากันนะ…#

(ฝ้ายพึ่งบอกไปส่งคุณเค้ก! เมื่อคืน) เขามีสิทธิ์คิด ใช่! ค็อกเทล! กำลังโกหก ทำไมต้องโกหก ถ้ายังคิดวนหรือถามตรงๆก็คล้ายจะหาเรื่องทะเลาะ  “ครับ….ช่วงนี้งานยุ่งแค่นี้ก่อนนะต้องทำหนังสือเสนอราคา นัดลูกค้าพรุ่งนี้เช้า” เป็นโกหกครั้งแรกตั้งแต่ตกลงคบกันและเขาก็ไม่ใช่คนเริ่มก่อน ทันทีที่วางสายภาพเดิมๆก็วนเข้าจู่โจมจนต้องทิ้งตัวลงนอนทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ…

“บ้าเอ้ย!”

อีก 2 วันถัดมาเป็นวันอังคาร เขาเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองไปต่อสายสีน้ำเงินที่ฝังตัวใต้ดินเพื่อไปสำนักงานใหญ่ถนนรัชดาภิเษก 07.35 น.บนชั้น 16 มีพนักงานเพียงไม่กี่คนที่ขึ้นมาตอกบัตรลงเวลา เมื่อยศศักดิ์เห็นเข้าจึงยื่นโทรศัพท์มือให้ก่อนเจ้าตัวจะเดินผ่านไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่มีเจนนี่ หน้าจอมือถือแสดงหน้าเพจ IG เป็นภาพผู้ชาย 2 คน และเพจข่าวในช่องทางอื่นต่างนำภาพดังกล่าวไปเล่นต่ออย่างสนุก : ผู้สร้างตำนานทุกเรื่องกลับมาพร้อมคู่จิ้นหน้าหวานคนเดิม : ผลทำให้ภาพๆเดียวติดเทรนทวิตเตอร์เอ็กซ์อย่างรวดเร็ว สมองที่ชาจนคิดเรื่องอื่นไม่ออกตั้งแต่เมื่อคืนกำลังจมดิ่งสู่สีดำที่ไม่รู้จัก เขาไม่ได้ยินเสียงยศศักดิ์ในระยะประชิด กระทั่งมือถือถูกดึงไปแล้วและก็เป็นเจนนี่เข้ามาทุบหลังแรงๆ

“ฮ่อม ฮ่อม เป็นไรเปล่า” ปลายเสียงเป็นยศศักดิ์ถาม เมื่อเจนนี่เห็นเพจข่าวที่ว่า เธอก็ลากแขนห้องเตรียมอาหารที่ยังไร้ผู้คน

“ตั้งสติฮ่อม…ได้ยินพี่ไหม?” เจนนี่พยายามสักพักฮ่อมจึงพยักหน้า  “………” เธอจ้องหน้าเขาสักพักก่อนจะดึงเข้ามากอด…. “ไม่เป็นไรนะ โอเครนะ”

“ครับ….” เขาพูดคำเดียวก่อนจะผละจากเธอขึ้นชั้น 17 เพื่อตั้งหน้าตั้งตาอ่านรายงานที่รับผิดชอบให้จบๆ กระนั้นเจนนี่ก็ยังหอบเอกสารตามเข้ามาหาอีก เขาพยักหน้าให้เธอราวจะบอกว่ายังไหว….ก่อนเดินกลับเธอแวะไปยืนด้านหลังแล้วใช้ระดับเสียงต่ำพูด

“ถ้ายื้อต่ออาจจะเจ็บกว่านี้….” เธอตบไหล่ 2 ทีและผลักประตูออกจากห้องไปจริงๆ

“คงถึงเวลาที่กูต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดแล้วละ….” ฮ่อมพึมพำขณะหยิบมือถือขึ้นมาใช้งาน

“สวัสดีครับ…ผมนุกุล ภูลมบลจาก SCN.นะครับ——-คือผมอยากติดต่อกับดอกเตอร์ชัยนนท์ไม่ทราบว่าท่านว่างสักกี่โมงครับ———อ๋อ!ไม่ใช่เรื่องบ้านแต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ท่านเคยคุยกับผมเมื่อหลายเดือนก่อน——–ครับๆ ผมคิดว่าท่านน่าพอจะจำได้——–ขอบคุณครับ——-วันปกติก็ได้ครับ——–ครับ ครับขอบพระคุณมากครับ” เขากดวางสายก่อนจะเดินบ่ายหน้าไปยืนติดผนังกระจกด้านทิศตะวันออก “กูไม่สำคัญถึงขนาดที่ต้องคุยกับมึงก่อนแล้วละ”

“อ้าว! ฮ่อมมาถึงเช้าจัง” เสียงผู้จัดการสาขาลำลูกกาดังขึ้นด้านหลัง เขาปรับจูนความรู้สึกให้เข้าที่เร็วๆ

“สวัสดีพี่ใหญ่…นั่งรถไฟฟ้ามานะครับ”

“ดีจัง พี่นะกว่าจะฝ่ารถติดมาได้แทบแย่ นี้ๆจิบกาแฟรึยัง” พี่ใหญ่ชวน เขาจึงพยักหน้าและเดินนำออกประตูลงลิฟต์ไปชั้น 14 “สาขาหัวหมากเป็นไงบ้าง ยอดขายกระเตื้องไหม?”

“เงียบมากพี่…แล้วลำลูกกาละครับ”

“งานโครงการนะ…เรื่อยๆ แต่กำไรน้อย ก็ว่ากันไป”

*******************

อีกคู่…ฝ้ายกับลูกชายคนเดียวของประธาน SCN. ตั้งแต่คุณหญิงณ.รัตนาเข้ามาในบริษัทในวันนั้น ก็คล้ายจะเป็นจุดเริ่มต้นของเสียงซุบซิบนินทาสารพัดเรื่อง สายตาและมุมปากของพนักงานหลายคนขยับขึ้นลงให้ฝ้ายและเจนนี่เห็นบ่อยขึ้น ขนาดเจนนี่ซึ่งปกติเธอเป็นคนร่าเริง สร้างบรรยากาศภายในบริษัทได้น่าอภิรมย์ที่สุดคนหนึ่ง พอเจอเรื่องแบบนี้เข้ากับตัวถึงกับตีกรอบขังตัวเองทั้งวันไว้ในที่แคบๆ  นานครั้งเธอก็จะชายหางตามองฝ้ายที่นั่งอยู่หลังพรนภา  เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อน เจนนี่จึงกลับมาทบทวนเรื่องของตัวเองกับประธานบริษัทที่ยังเคลียร์ไม่จบซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนอยู่แบบนั้น

(ทำไม? นะ ทำไม?….ทำไม?ต้องเป็นฉัน)

“เจ้!….เหม่ออยู่นั้นแหละ รับสายหน่อย” พรนภาเดินเข้ามาทุบเคาน์เตอร์จนเธอสะดุ้ง “รับโทรศัพท์ด้วย เสียงเรียกเข้านานแล้วนะเจ้!”

“อ๋อ! โอเคร!….” เธอเงยหน้างงๆ “ค่ะ—ค่ะ—-ได้คะ—-เย็นนี้เจนไม่ว่างค่ะ เดี๋ยวให้น้องหลินไปแทนก็แล้วกันนะคะ—-ค่ะ ค่ะ เรียบร้อยคะเดี๋ยวเจนจะฝากหลินเอาขึ้นไปให้พร้อมกัน ค่ะสวัสดีค่ะ”

“อะไรกันค่ะเจ้! ปกติงานแบบนี้เจ้ไม่เคยปฏิเสธคุณศุภวัชเลยนี่ ยิ่งต้องเข้าพบรัฐมนตรีด้วยแล้ว ไม่ว่างยังไงก็ต้องว่างไม่ใช่เหรอ” พรนภาพูดเสียงดัง เมื่อเจอสายตาบอกอารมณ์ไม่ค่อยดีให้เห็น “โอเครๆ เรื่องบางเรื่องมันก็พูดยากหนูเข้าใจ”

อีกคน…….

Fitz : เย็นนี้ไปรับนะ (อิโมจิยิ้ม)

                                ฝ้าย : สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ อย่าเลย แค่นี้ก็อยู่ลำบากจะแย่

                                Fitz : อยากเจออะ ทำไงดี (อิโมจิรูปหัวใจ)

                                ฝ้าย : …(อิโมจิหัวเราะ)…

                                Fitz : ไม่รู้ละถ้าบนดินเจอกันไม่ได้ก็ลงใต้ดิน สถานีห้วยขวางหลังเลิกงาน

                                ฝ้าย : พนักงานหลายคนก็ไปที่นั้น

                                Fitz : พระราม 9 เดี๋ยวเลี้ยงซูชิ OK

                                ฝ้าย : (อิโมจิคิดหนัก)…

                                Fitz : ไม่รู้ละ…ไม่ไปก็จะรอ

                                ฝ้าย 🙁 อิโมจิยิ้ม…และสารพัดสัตว์)

ร้านอาหารญี่ปุ่นภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม 9 เวลา 18.00 น.บนสายพานลำเลียง อาหารญี่ปุ่นหน้าตาแปลกๆราวกับมีให้ไม่จำกัดเวียนเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เฟี้ยทซ์กับฝ้ายนั่งนิ่งคู่กันราวกับรูปปั้น เธอกับเขามีแค่น้ำเปล่ากับซูชิไม่กี่ก้อนที่ยังไม่ได้แตะ…ทันทีที่เฟี้ยทซ์เป่าลมออกจากปากดังๆ

“เฟี้ยทซ์กับเฟิร์นเป็นได้แค่เพื่อนกัน…” เขาชายตาสำรวจอากัปกิริยา เมื่ออีกคนยังไม่แสดงท่าที “พี่กับเฟิร์นเป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ เพราะอะไรรู้ไหม?”

ฝ้ายหันมายิ้มขำๆ อันที่จริงเกือบจะหลุดหัวเราะมากกว่า….

“อะไร?….”

“เปล่าคะ ดูพี่เฟี้ยทซ์ร้อนตัวยังไง?ไม่รู้” ฝ้ายพูดราวกับไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด

“ฝ้ายไม่รู้สึกอะไร? บ้างเลยเหรอ” เฟี้ยทซ์ชักสีหน้าจนเห็นรอยหยักเหนือหน้าผากถาม

กระนั้นฝ้ายก็ยิ้ม “ฝ้ายอยากรู้จักคุณหญิงแม่มากกว่าค่ะ” เธอเลิกคิ้วสูงรอ “คะ….เล่าให้ฟังหน่อย….คือฝ้ายกำลังสงสัยนะค่ะว่า….ท่านประธานเป็นคนจีนแต่คุณหญิงแม่มาจากตระกูลมีเชื่อมีสาย ฝ้ายคิดว่าก่อนท่านประธานกับคุณหญิงแม่จะได้แต่งงานกันคงโดนมากกว่าฝ้ายหลายร้อยเท่า”

เฟี้ยทซ์ขำจนเกือบหลุดหัวเราะ “รู้ตัวไหม? ว่าฝ้ายเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมากๆเลยนะ” เขาค้ำศอกมองหน้าเธอแบบเอาเป็นเอาตาย

“ยังไง?ค่ะ….”

“เป็นคนอื่นไม่ฟูมฟายก็อาจหนีไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เฟี้ยทซ์หัวเราะยาว “ฟังนะฝ้าย…อันที่จริงคุณแม่เป็นคนน่าสงสารมากๆ โวยวายไปงั้นๆ แต่เวลาดี เธอก็ดีใจหาย”

“เล่าให้ฟังหน่อยพี่เฟี้ยทซ์ คือฝ้ายอยากเข้าใจและอยากรู้จักคุณหญิงแม่ให้มากกว่านี้ ที่สำคัญฝ้ายอยากเก่งเหมือนท่านด้วย จริงๆนะ”

เฟี้ยทซ์ยิ้มหน้าบาน “คุณแม่เป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูล ณ.______ ง่ายๆคือตระกูลผู้ดีเก่า เธอโดนครอบครัวและคนรอบข้างกดดันมาตั้งแต่เด็ก ต้องอย่างโน้น ต้องอย่างนี้ อย่าทำแบบนั้น ห้าม ห้าม และห้ามสารพัด พอขึ้นมัธยมปลายคุณแม่เจอกับป๊า!ที่ห้างอะไรนะ…เดี๋ยวคิดก่อน ได ไดมารู อะไรทำนองนี้แหละ แรกๆคุณแม่ไม่มองป๊า! ด้วยซ้ำ ประมาณปล่อยให้ป๊า! ละเมอเฟ้อหาอยู่ข้างเดียว…แต่ด้วยความที่ป๊า! ต้องเดินผ่านหน้าบ้านคุณยายเพื่อจะไปรอขึ้น 2 แถวไปโรงเรียนทุกวัน อารมณ์หลงเสน่ห์คุณหนูลูกสาวผู้ดีอย่างแรง อยากเห็นหน้าเธอเช้ากลางวันเย็น จึงทำให้ป๊า! อดใจเป็นถ่ำมองส่องลอดรอยแยกรั้วไม้หน้าบ้านคุณยายไม่ได้”

“อิ อิ อิ ท่านประธานน่ารักจัง” ฝ้ายปิดปากหัวเราะ

“ต่อมาวันหนึ่ง….อ๋อ! เดี๋ยวๆ ขอเสริมรายละเอียดเกี่ยวกับลูกคนจีนสมัยนั้นให้ฟังก่อน คือลูกคนจีนแทบทุกคนเวลาจะไปโรงเรียนม๊า! หรือแม่จะทำปิ่นโตอาหารเที่ยงให้ถือไปโรงเรียนด้วย ฉะนั้นตอนเช้าๆนอกจากกระเป๋านักเรียนสีดำแล้วก็ยังมีปิ่นโตอีก 1 เถา….และวันที่โชคร้ายของป๊า! แต่คุณแม่ถือว่าเป็นวันมงคลสำหรับคุณหญิงก็มาถึง ขณะที่ป๊า! กำลังก้มๆเงยๆเป็นนักเลงถ่ำมองที่รอยแยกของรั้วไม้อยู่นั้น คุณแม่ที่พึ่งกลับจากตลาดก็ดันมาเจอเข้าพอดี นาทีที่ป๊า! หันมาเจอเข้า มันจึงกลายเป็นนาทีหายนะ ป๊า!ใส่เกียร์สุนัขวิ่ง แต่ แต่ แต่ก็เป็นสุนัขขาเป๋ล้มกลิ้งไปกับถนน ปิ่นโตกี่เกาต่อกี่เถา ทั้งข้าวและปลาทูเค็ม คุณแม่เห็นหมด….ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งคู่ปิดปากหัวเราะ

“ถ้าฝ้ายเดาไม่ผิด ตั้งแต่วันนั้น คุณหญิงแม่จึงหลงรักอาตี๋ร้านขายอะไหล่แบบโงหัวไม่ขึ้น”

“ก่อนที่พวกท่านจะได้แต่งงานกัน….มันไม่ง่ายเลยนะฝ้าย ป๊า! โดนเยอะกว่าเราหลายเท่าอย่างที่ฝ้ายเข้าใจนั้นแหละ”

“เยอะกว่าเรา….อะไร? กันพี่เฟี้ยทซ์ ใช้คำว่าเราไม่ได้ เรายังไม่เป็นอะไรกันเลย…” ฝ้ายปิดปากหัวเราะแต่ก็หน้าแดงไปแล้ว

“เออน่า….สักวันก็ต้องเป็น พี่เฟี้ยทซ์ไม่ยอมปล่อยฝ้ายไปไหนแน่ๆ….”

“….กินเลย นั่งในร้านเค้าตั้งนาน แค่อย่างเดียวก็ยังไม่หมด….” ฝ้ายใช้ตะเกียบคีบซูชิแอบใส่วาซาบิก้อนใหญ่ป้อนเข้าปากทำเอาเฟี้ยทซ์ถึงกับจี๊ด!!!!! ขึ้นสมอง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“เล่นทีเผลอ….ได้!”

หลังจบอาหารญี่ปุ่นก็เกือบๆ 2 ทุ่ม….

“ฝ้ายจะสู้ไปพร้อมกับพี่ไหม?” ฝ้ายมองหน้าเฟี้ยทซ์จริงจัง เธอไม่หลุดคำใดๆให้ได้ยิน มีเพียงความมั่นใจที่อ่านได้จากแววตาเท่านั้นทำให้เฟี้ยทซ์ยิ้มไม่หุบ….

“อดทนไปด้วยกันนะครับฝ้าย”

“……………………………………….”

Fang : เตือนแรงๆ อย่าริอาจแตะต้องผู้หญิงของฉัน

อยู่ๆข้อความจากไลน์ของเฟี้ยทซ์ก็ดังขึ้น เขาเปิดอ่านยิ้มเกือบจะหัวเราะและส่งต่อให้ฝ้ายอ่านอีกคน

“อย่าบอกฝ้ายนะว่า…..”

“เมื่อวานซืนที่ไปงานกับคุณหญิงแกล้งเจ้ฟางเอาไว้ สงสัยเฟิร์นเล่นต่อ….เดี๋ยวนะๆ….” เฟี้ยทซ์ส่งข้อความกลับแกล้งซะให้เข็ด

                Fitz : ผู้หญิงของเจ้เป็นใครไม่ทราบ (อิโมจิคนหน้าโง่)

                                Fang : อย่าเหลี่ยมกับฉันไอ้เฟี้ยทซ์ อย่าลืมนะฉันมีน้องฝ้ายสุดเลิฟของแกอยู่ในมือ ถ้าแตะผู้หญิงของฉันความลับของแกถูกเปิดโปงแน่…(อิโมจิโกรธ)

                                Fitz : ชื่ออะไร?ก็บอกมาดิ….(อิโมจิยิ้มบานๆ)

                                Fang : แถไม่หยุดแสดงว่าอยากเจอดี….(อิโมจิโมโหอย่างแรง 3 ตัวเรียงกัน)

                                Fitz : เจ้ก็บอกซะที จะได้ถอยให้

                                Fang : น้องเฟิร์นของฉัน น้องฝ้ายของแก อย่าล้ำเส้น เข้าใจ้!…(.อิโมจิรูปกำปั้น)

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอได้แล้วพี่เฟี้ยทซ์ไปแกล้งเฮียฟางเค้า เดี๋ยวก็โดนเล่นจริงๆหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

******************

***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***

(Visited 5 times, 1 visits today)