เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep9-1

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep9-1

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep9-1 ยิ่งไกลยิ่งใกล้ นิยายอ่านดี มีคติสอนใจ เขียนโดย TIMMY BUTO

เข็มทิศชีวิตลิขิตรัก ep9-1

เวลา 19.16 น.พายุฤดูร้อนลากเมฆสีดำทะมึนไล่กลืนฟ้ามาจากทางทิศใต้ จนส่งผลให้กรุงเทพมหานครในเวลานี้มืดเร็วกว่าปกติ รถเบนซ์สปอร์ตสีดำแทรกซ้ายแซงขวาหาช่องว่างทะลุทะลวงฝ่ารถติดบนถนนสุขุมวิทแล่นด้วยความเร็วสูงเป็นจังหวะๆ ทันทีที่เลี้ยวเข้าซอยและมีช่องว่างพอมันก็เร่งความเร็วเพิ่มเป็น 2 เท่าราวต้องการจะตามเครื่องบินไอพ่นให้ทัน และนาทีที่ไฟสูงหน้ารถถูกเปิดสาดแสงสีขาวนำไปข้างหน้าราวจะเบิกขอทางกับรถหลายคันมันก็ปะทะเข้าใบกับหน้าคนคุ้นเคยที่บังเอิญเดินสวนทางออกมาได้จังหวะพอดิบพอดี

(ฮ่อม) สมองประมวลบอกว่าเป็นเขา ใช่! ใช่เขาจริงๆ  “ฮ่อมๆๆๆๆๆๆๆ” ค็อกเทล! เลื่อนกระจกข้างแหกปากตะโกนลั่นพร้อมเสียงเบรกลากล้อดังสนั่นหวั่นไหว นาทีเดียวกันร่างที่ไม่ค่อยสมดุลก็กระโจนออกจากรถวิ่งกลับไปหา “ฮ่อม ฮ่อม ฮ่อม” แต่แท็กซี่ก็จอดรับและวิ่งออกปากซอยไปก่อนแล้ว “บ้าเอ้ย! ฮ่อม ฮ่อม…นายจะหนีฉันไปไม่ได้ ฮ่อม ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ….”

ม่อฮ่อม : ตะวันตกดินไปแล้วครับคุณณนนท์ อย่าพยายามอีกเลย ลาก่อน!

ฮ่อมเปิดโทรศัพท์ส่งไลน์สันๆก่อนจะปิดเครื่องยัดเข้ากระเป๋าแบบเดิม เขาไม่ฟูมฟายเพราะรู้ดีว่าไม่เหลือใครคอยตบหลัง วิธีบีบริมฝีปากแน่นๆจึงเป็นแค่ทางออกเดียวที่พอทำได้….

“อ๊ากๆๆๆๆๆๆ ฮ่อม ฮ่อม ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” ค็อกเทล! กรีดร้องนั่งฟุบอยู่บนถนน กระทั่งเริ่มเป็นจุดสนใจ เขาจึงค่อยๆยันตัวลุกเดินกลับไปยังรถที่ยังติดเครื่องค้างอยู่….

…ที่บ้านสวัสดิ์พากร

“เดี้ยนพึ่งเคยเจอ…เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ใจเด็ดมากๆคนหนึ่งเลยนะคุณ” ท่านผู้หญิงโฉมศิริกัลยาพูดกับสามีที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับตั้งแต่ต้น

“ผมว่าผมมองคนไม่ผิด…” ดร.ชัยนนท์พูดลอยๆขณะสายตายังหาจุดตกไม่เจอ กระทั้งท่านผู้หญิงโฉมเดินกลับไปนั่งแมะใช้นิ้วเรียวๆประดับเพชรเท่าไข่ห่านเขี่ยติ่งหูลามไปจนถึงลำคอหนาๆของเขา

“แต่ก่อนอย่าว่าแต่จะรักเลย เดี้ยนไม่เคยคิดจะชอบคุณด้วยซ้ำ…..” เธอเว้นจังหวะให้สายตามีเวลาสำรวจ “แต่วันนี้คุณทำในสิ่งที่เดี้ยนทึ่ง…คุณน่าทึ่งมากๆรู้ตัวไหม?ค่ะด็อกเตอร์” แล้วท่านผู้หญิงโฉมก็จุมพิตเข้าที่ซอกคอสามี กระทั้งเสียงฝีเท้ากระแทกพื้นหินแกรนิตดังมาหยุดทางเข้าห้องนั่งเล่น…

“ทำอะไรลงไป…ท่านผู้หญิง-เตี่ย!…” แล้วค็อกเทล! ก็สะอึกสะอื้นให้ทั้งคู่เห็น

“ฉันต้องถามแกมากกว่า….” ท่านผู้หญิงโฉมลุกเดินเข้าไปหาลูกชาย “ทำอะไรลงไปค็อกเทล!”เธอนิ่งรอคำตอบ กระนั้นแรงสะอื้นก็ไม่มีท่าว่าจะสงบลงง่ายๆ…

“ท่านผู้หญิงครับ…” เขาโผกอดจนท่านผู้หญิงโฉมสะดุ้งกับพฤติกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้น เธอชั่งใจสักพักก่อนจะกอดรวบตัวเขาเอาไว้แนบอก

“เกิดอะไรขึ้นค็อกเทล!….”

“คนหนึ่งเข้ามาทำให้ชีวิตแกดีขึ้น กับอีกคนกระชากลงเหว แกยังจะ….”

“ด็อกเตอร์ค่ะ….จุๆๆๆๆ” ท่านผู้หญิงโฉมหันไปข่มสามีพร้อมภาษากาย

ค็อกเทล! ผละจากอกท่านผู้หญิงโฉมตรงเข้านั่งลงข้างๆดร.ชัยนนท์ “เตี่ย! ทุกคนเข้าใจผิดแม้กระทั่งฮ่อม….”

“แล้วเรื่องเป็นยังไง?” ท่านผู้หญิงโฉมตรงดิ่งเข้าไปนั่งประกบถาม “ว่าไงละ เล่าได้ยัง”

ค็อกเทล! มองหน้าดร.ชัยนนท์สลับท่านผู้หญิงโฉมไปมา “คือผู้การน้องไอ้ผู้กอง….เค้า….เค้า…” ค็อกเทล! เป่าลมอึดอัดทิ้ง “ไอ้ผู้การมันชอบยัยเค้ก! และ…”

ท่านผู้หญิงโฉมตกใจสุดขีด เธอสะบัดผมขยับถอยหนีย้ายไปนั่งฝั่งตรงข้าม “ว่าไงนะ…แกเลยอาสา….”

“ค็อก! รู้จักไอ้ผู้กองดี แต่ไอ้ผู้การ ค็อก! ไม่เคยสุงสิงด้วยเลย พอยัยเค้ก! ขอร้องให้ช่วย”

“ยัยเค้ก! ชอบผู้การ” ดร.ชัยนนท์เริ่มหัวเสียอีกคน “จะมากไปแล้วนะแฝดพี่เล่นงานแกเกือบเอาตัวไม่รอด ยังต้องมาเจอแฝดคนน้องอีก…มันเวรกรรมอะไรของผมเนี้ย!”

“ตาค็อก! ว่าแต่ยัยเค้ก! มีท่าทีกับผู้การไหม?” ท่านผู้หญิงขยับถามจริงจัง เธอจ้องตาลูกชายไม่กระพริบ

ค็อกเทล! พยักหน้าบอก ทำให้ท่านผู้หญิงโฉมถึงกับหมดแรงทิ้งตัวกับพนักพิงอีกรอบ…. “คุณค่ะ ไม่ได้แล้วนะจะให้ครอบครัวพลเอกอลงกฎทำร้ายครอบครัวเราทั้งพี่ทั้งน้องแบบนี้เดี้ยนรับไม่ไหวจริงๆ….ขอร้องละค่ะทำอะไรสักอย่าง”

“แต่ท่านผู้หญิงครับ เท่าที่เห็นตลอด 2 อาทิตย์ ค็อก! ว่าไอ้ผู้การไม่เหมือนผู้กองเลยสักนิด…”

“แล้ว!…” เธอยกตัวจ้องเข้าไปในดวงตาลูกชายอีก “จะให้ปล่อยผ่านรึไง?…ยัยเค้ก! น้องแกคือลูกสาวคนเดียวของฉัน ด็อกเตอร์ค่ะ พูดอะไร?สักอย่างซิ…”

“ค็อก! เชื่อใจยัยเค้ก! ครับท่านผู้หญิง”

“อย่าให้พลาดเหมือนแกแล้วกัน….” ดร.ชัยนนท์พูด ทำเอาท่านผู้หญิงโฉมหันขวับ

“ด็อกเตอร์ยอมแต่เดี้ยนจะไม่มีวันยอม….ด็อกเตอร์ไม่ลุยเดี้ยนลุยเอง…รอดูผลงานแล้วกัน” พูดจบเธอก็เร่งเดินเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวและก่อนประตูไม้สักจะปิดตามหลัง “ส่วนแกตาค็อก! ฉันทำใจได้นะถ้าจะคบกับผู้ชายจริงๆจังๆ แต่ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นฮ่อม ไม่ใช่ผู้กองหรือผู้การเข้าใจไหม?”

“สมการนี้ใครเป็นคนผูก คนนั้นก็ต้องแก้เอง….” ดร.ชัยนนท์ลุกหนีอีกคนและก่อนจะถึงประตูเข้าห้องทำงาน “ฮ่อมจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยเดิมของแกเร็วๆนี้…เตี่ย! ช่วยได้แค่นี้”

“เตี่ย!….”

*******************

เวลาต่อมา….“ฮัลโหล ไอ้เฟี้ยทซ์”

#……………………….#

“ฮัลโหล มึงได้ยินกูไหมเนี้ย….ไอ้เฟี้ยทซ์ ไอ้เฟี้ยทซ์โว้ย กูรู้นะว่ามึงฟังกูอยู่ พูดกับกูซิ เงียบทำบ้าอะไร?…ไอ้เฟี้ยทซ์ ไอ้ห่าเฟี้ยทซ์”

#….ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…#

“โถ้โว้ย!……เป็นบ้าอะไรกันไปหมดวะ…..”

…วันต่อมาที่บริษัท SCN. แอทโซซิเอท ชั้น 18 อาคารฟอร์ลั่ม ถนนรัชดาภิเษก เวลา 08.35 น. ค็อกเทลบุกห้องทำงานส่วนตัวของเฟี้ยทซ์ที่พึ่งเข้ามาทำงานไม่กี่วัน เสียงโวยวายของเขาดังลั่นไปทั้งชั้น

“ก็เฮียไปทำเหี้ย! อะไรเอาไว้ละ” เฟี้ยทซ์เหลืออดที่อีกฝ่ายเอาแต่โวยวายใส่อยู่ข้างเดียว

“กูถามแค่ว่าฮ่อมไปไหน…สาขาหัวหมากก็ไม่เข้า สำนักงานใหญ่ก็ไม่มา…นี่ฝ้ายก็ยังย้ายออกจากบ้านเสรีโดยไม่มีใครบอกกูเลยสักคน”

“ค็อกเทล! นั่งก่อน….” คุณศุภวัชที่พึ่งผลักประตูกระจกเข้ามาสมทบออกคำสั่ง ค็อกเทล! เป่าลมทิ้งโยนตัวไปยังเก้าอี้ใกล้ๆ….

“มันอะไร? กันครับคุณอา”

คุณศุภวัชวนไปดึ่งเก้าอี้อีกตัวมานั่งจ้องหน้าในระยะประชิด… “ฟังนะ…ฮ่อมกับน้องสาวยื่นหนังสือลาออกเป็นอาทิตย์แล้ว”

“รวมทั้งเฮียเจ๋ง!กับเฮียอั๊ด! วิศวกรมือหนึ่งของบริษัทด้วย” เฟี้ยทซ์เสริม ทำเอาค็อกเทล! แทบหล่นจากเก้าอี้

“อะ อะ ไร?นะ…ลาออก…ลาออกได้ไง? ผม ผม ยังไม่อนุมัติเลยด้วยซ้ำ คุณอา ไอ้เฟี้ยทซ์”

“เจ๋ง! กับอั๊ด ! ออกไปตั้งบริษัทใหม่แถวๆเกษตร แต่สำหรับนุกุล ชัยนนท์พ่อคุณให้ทุนไปเรียนต่ออเมริกา….” คุณศุภวัชพูดช้าๆ ค็อกเทล! จึงหันไปเล่นงานเฟี้ยทซ์ต่อ

“ไอ้เฟี้ยทซ์ แต่มึงต้องรู้…”

เฟี้ยทซ์เป่าลมทิ้งแล้วเดินหนีไปยืนชิดผนังกระจกทางทิศตะวันตก “ฝ้ายขอไว้นะเฮีย…”

“แต่กูเป็นแฟนไอ้ฮ่อมนะ…กูรักมันไอ้เฟี้ยทซ์ กูรักฮ่อม มึงเข้าใจกูไหม? ” แล้วค็อกเทล! ก็ร้องไห้ออกมาจริงๆจนคุณศุภวัชต้องลุกเดินเข้าไปตบหลัง “ไอ้เฟี้ยทซ์ บอกกูเถอะ….ขอร้องละ”

เฟี้ยทซ์หันใบหน้าค็อกเทล! แบบคนต้องการคาดโทษ “คนหนึ่งยืนมือฉุดเฮียจนพ้นจากขุมนรก แต่เฮียก็ยังเลือกนรก ถามจริงๆนะเฮีย! ปิศาจมันเร้าใจกว่าเทวดาขนาดนั้นเลยเหรอ…” เฟี้ยทซ์ย่างสามขุมเข้ามาดึงคอเสื้อค็อกเทล!เชิดใบหน้าเข้ามาหาใกล้ๆ “เฮียมันเลวสมควรแล้วที่ถูกทิ้ง” แล้วเฟี้ยทซ์ก็ผลักเขาล้มลงต่อหน้า

“ไอ้เฟี้ยทซ์….มึงๆ” ค็อกเทลลุกกระโจนเข้ากระชากคอเสื้อ สุดท้ายก็ร้องไห้ปล่อยให้ตัวหมดแรงทรุดนั่งเองอีกรอบ….

“เฮ้ย!….” คุณศุภวัชตกใจ “คุยกันดีๆซิวะ”

เฟี้ยทซ์ผ่อนลมหายใจเข้าออกยาวๆปล่อยเวลาผ่านไปจนกระทั้งหลายอย่างหลายๆอารมณ์กำลังกลับเข้าสู่โหมดเริ่มต้น เขาจึงคลุกเข่าเชิดใบหน้าค็อกเทล! ให้สบตาตรงๆ “เฮียเคยถามเฮียฮ่อมเองไม่ใช่เหรอว่า….ปัว! หมายถึงอะไร?”

“ปัว! หมายความว่า….”

“รักษา….ใช่!ปัว! แปลว่ารักษา…เข้าใจตรงกันนะว่าเฟี้ยทซ์ไม่ได้บอก”

“ไอ้เฟี้ยทซ์ ขอบใจ ขอบใจไอ้น้องรัก…ผมต้องไปแล้วครับคุณอา” ค็อกเทล!บอกลา เขาใช้หลังมือปาดความเศร้าทิ้งเร็วๆก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปทันที

“ค็อก! เฮ้ย! ไอ้ค็อก!…”

“ป๊า!…เป็นเรื่องของเฮียเค้า…”

คุณศุภวัชเงียบคิดไปพักใหญ่ ก่อนจะเบนหน้าไปถามลูกชาย “แล้วหนูฝ้ายละ…”

เฟี้ยทซ์ยิ้มแบบคนมีเลศนัย “เจ้ฟางเค้ารู้ดี….ออกไปได้แล้วเฟี้ยทซ์ทำงาน 2 ตำแหน่งโคตรยุ่งเลย เป็นทั้งรองประธานบริษัท เป็นทั้งผู้จัดการนางแบบ”

“อะ อะไร? นะ ผู้จัดการนางแบบ…ใคร ใครเป็นนางแบบ”

“ไม่ใช่เจ้เจนนี่ก็แล้วกัน….ไปได้แล้วเฟี้ยทซ์ต้องติดต่อสตูดิโอหลายที่ สงสัยอะไรโทรหาลูกชายคนโตของป๊า!โน้น ไป ไป”

“ไอ้ฟางนั้นนะ”

“จะใครซะอีก…ออกไปได้แล้วป๊า!…”

“แล้วเรื่องไอ้ค็อกละ….เกิดมันบ้าดีเดือดขับรถไปอำเภอปัว! คนเดียวททำไง”

“ป๊า! เฮียค็อก! ไม่ใช่เด็กแล้วนะ เฟี้ยทซ์ก็ด้วย โตแล้วเป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดเป็น โอเคร ออกไปๆ จะทำงาน”

*********************

***โปรดติดตาม EP. ต่อไปเร็วๆนี้ ต้องการเป็นกำลังใจให้นักเขียน (พร้อมเพย์ : 092-2697869) ขอบคุณครับ***

(Visited 14 times, 1 visits today)