ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินแล้วไม่อ้วน

ความเชื่อผิดๆที่คิดว่ากินแล้วอ้วน

ผอม เด็ก ดูดี ตอน ความเชื่อผิดๆที่คิดว่ากินแล้วอ้วน

ความเชื่อผิดๆที่คิดว่ากินแล้วอ้วน

บทความชุดความเชื่อผิดๆ ผมจะแบ่งออกเป็น 2 ตอนดังนี้นะครับ ตอนที่ 10 ที่ผ่านมา-ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินแล้วไม่อ้วน กับตอนที่ 11 ปัจจุบัน-ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินแล้วจะอ้วน…..ไม่อ้วนกับจะอ้วน อย่าสับสนนะครับ เพราะผมมองว่าหากปล่อยความเชื่อผิดๆ เหล่านี้ผ่านไป การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่ตื่นนอนกระทั้งหลับก็จะสูญเปล่า ฉะนั้นก่อนจะถึงสูตรลดน้ำหนักที่ถือว่าไฮโซฯ จึงต้องสลายความเชื่อผิดๆ เหล่านี้ให้หมดไปจากสมองกันก่อน…พูดไม่ทันขาดคำนั้นๆ…ยัยออมสินเขี่ยของดีทิ้งอีกละ….ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินแล้วไม่อ้วน

“เฮ้ย!…แกเขี่ยเนื้อติดมันกับไข่พะโล้ทิ้งทำไม” ผมกระแซะเบาๆ เพราะกลัวมันจะอาย แต่…

“แกไม่รู้รึไงว่าของพวกนี้กินเข้าไปแล้วจะทำให้น้ำหนักฉันเพิ่ม” มันเล่นตะคอกใส่หน้าเสียงดังขณะข้าวยังเต็มปาก (ยัยบ้าเอ้ย!…น่าจะปล่อยอ้วนซะให้เข็ด ปานนี้ไอ้หนูจอมขยันคงดีใจกระโดดโลดเต้นรอกลูโคสแล้วมั่ง)

“เดี๋ยวๆ….ฟังฉันก่อน….” ผมกระซิบอีก มันวางช้อนแล้วจ้องหน้า “นี้มันมื้อที่ 2 ของแก ข้าวแป้งน้ำตาลควรลดลงเหลือครึ่งหนึ่งของมื้อแรก…สิ่งที่แกควรจะกินมากที่สุดคือสิ่งที่แกเพิ่งจะเขี่ยทิ้ง เนื้อ-เนื้อติดมัน ไข่พะโล้ของดีทั้งนั้น”

“อ้าว!…เหรอ เออ…ฉัน ฉัน….ลืมวะ”

“สำหรับตอนที่แล้วฉันเล่าให้แกฟังเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆที่คิดว่ากินแล้วไม่อ้วนแล้วใช่ไหม สำหรับตอนที่ 11 ฉันจะเล่าความเชื่ออีกด้านให้ฟัง”

“อะไรเหรอแก….”

ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินแล้วจะอ้วน

“กินแล้วจะอ้วน….เออวะน่าสน….”

“ก่อนอื่นแกต้องยัดเนื้อ-มัน-ไข่ให้หมดซะก่อน”

“ฉันขอฟังก่อนละกัน ถ้ามีเหตุมีผล…ชลิตาจะกวาดเรียบแม้กระทั้งยอดคะน้า-ผักกวางตุ้งเลยเอา”

“แบบนั้นก็ได้….”

โอเคร!…ไม่เยิ่นเย้อนอกประเด็นแล้วนะครับ ขยับเข้ามาสุมหัว-ฟัง-วิเคราะห์เกี่ยวกับ ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินแล้วจะอ้วน กันเลย…

  1. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินอาหารมันๆ แล้วจะอ้วน สำหรับข้อนี้สูตรลดน้ำหนักที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษและเรียก-เขียนเป็นภาษไทยทับศัพท์ว่า คีโตเจนิค ไดเอท การันตีแล้วนะครับว่าการกินของมัน-กินน้ำมัน ไม่ได้ทำให้อ้วน หนำซ้ำหากลดปริมาณ ข้าวแป้งน้ำตาลลงตามสูตรยังช่วยลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นไขมันกินได้….แต่ 1 วันไม่ควรเกิน 7-8 ช้อนชา หรือถ้าเป็นก้อนสำหรับผู้หญิง 3-4 นิ้วโป้ง ผู้ชาย 4-5 นิ้วโป้ง ซึ่งลักษณะการใช้ชีวิตปกติ ไม่ว่าไลฟ์สไตล์จะเป็นแบบไหน ไม่มีใครตั้งหน้าตั้งตาซดไขมันเพรียวๆ แน่นอนถูกต้องไหมครับ ด้วยเหตุนี้ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินของมันแล้วจะอ้วน จึงเป็นความเชื่อที่ผิด
  2. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินไข่ แล้วจะอ้วน ข้อมูลก่อนหน้านี้หลายๆ ท่านอาจจะยังฝังหัว-กังวลเรื่องคอเลสเตอรอลในใข่แดงพอสมควร สำหรับปัจจุบันจากงานวิจัยหลายสำนักทั่วโลกชี้ตรงกันแล้วว่า คอเลสเตอรอลในไข่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลในเลือดน้อยถึงน้อยมากๆ เมื่อเป็นเช่นนี้…ไข่คือแหล่งโปรตีนราคาถูก-ไม่ทำให้อ้วน…ซ้ำยังเข้าไปช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ นั้นก็หมายถึงโปรตีนจากไข่สามารถคืนความเป็นเด็ก คืนความเป็นหนุ่ม-เป็นสาวได้อีก แล้วทำไมจึงไม่ตัดความเชื่อผิดๆ ข้อนี้ทิ้ง….ตลอดเวลาลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนผมจะกินไข่ ทั้งไข่แดงและไข่ขาววันละไม่น้อยกว่า 4 ฟอง น้ำหนักไม่เพิ่มซ้ำผิวพรรณ ใบหน้า กระดูกที่เคยโผล่หลังลดน้ำหนักก็หายไป…น้ำหนักลดลงสู่จุดที่พอใจแต่ไม่โทรมเหมือนคราวก่อนก็เพราะว่าได้โปรตีนจากไข่เป็นตัวเสริม…สรุปไข่ไม่ทำให้อ้วน-คอเลสเตอรอลไม่พุ่ง และยังสามารถคืนความเป็นเด็กได้อีกด้วย ใครไม่กินหรือยังมีความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินไข่แล้วจะอ้วนจึงควรกลับไปทบทวนให้ไว
  3. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินเนื้อ แล้วจะอ้วน ข้อนี้ก็รวมอยู่ในข้อ 2 แล้วนะครับ ผมจะไม่อธิบายมาก ขอสรุปเลยว่าความเชื่อผิดๆ ข้อนี้เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างแน่นอน
  4. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินมาก แล้วจะอ้วน ความเชื่อนี้ไม่เชิงผิดนะครับ การกินมาก-กินน้อย-อิ่มมาก-อิ่มน้อย ไม่ได้มีผลโดยตรงทำให้อ้วนหรือผอม แต่ปรากฎการณ์อ้วน-ผอมขึ้นอยู่กับชนิด-ประเภท-คุณภาพและช่วงเวลาที่กินอาหารต่างหาก ยกตัวอย่างถ้ามื้อแรกก่อนกิจกรรมประจำวัน-กินข้าวแป้งน้ำตาลในสัดส่วนมากหรือเรียกว่าอิ่ม แต่มื้อที่ 2 และมื้อสุดท้ายลดปริมาณข้าวแป้งน้ำตาลลงแล้วเลือกกินโปรตีนกับผักแทนจนร่างกายบอกว่าอิ่มเท่ากัน-คุณจะไม่มีทางอ้วนขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณกินข้าวแป้งน้ำตาลครบทั้ง 3 มื้อ เรียกว่ากินข้าวเป็นอาหารหลัก การกินมากจนอิ่มในข้อนี้จึงทำให้อ้วนขึ้น
  5. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินผิดเวลา แล้วจะอ้วน ตามความเชื่อโบราณตามที่ผมได้เขียนในหลายๆ ตอน หากสมองยังตัดไม่ขาดจากความเชื่อที่ว่า มื้อแรกคือมื้อเช้า มื้อที่ 2 คือมื้อกลางวัน และมื้อที่ 3 คือมื้อเย็น ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่ากินผิดเวลาแล้วจะทำให้อ้วน ก็มีส่วนถูก ผมจะบอกแบบนี้ครับ ปัจจุบันเป็นยุคไอที ยุคสื่อสารไร้ขีดจำกัด ได้โปรดตัดความเชื่อเรื่องมื้ออาหารที่ถูกกำหนดโดยดวงอาทิตย์ทิ้ง-ลบความเชื่อเหล่านี้ออกจากสมองให้ไว แล้วย้อนกลับไปอ่านบทความ ผอม-เด็ก-ดูดี-เริ่มต้นที่สมอง ตอนที่ 8 IF-ที่รัก ไลฟ์สไตล์คุณเป็นแบบไหนก็ควรยึด-เชื่อมั่นตามนั้น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางแทนดวงอาทิตย์ แล้วการลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนของคุณจะได้ผลและเห็นผลในระยะยาว
  6. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินดึก แล้วจะอ้วน ข้อนี้ก็เกี่ยวพันกับข้อที่ 5 และไม่เชิงเป็นความเชื่อที่ผิด หากมื้อสุดท้ายเลือกกินอาหารตามสูตร IF ถึงกินจนอิ่มคุณก็จะไม่มีทางอ้วนทราบแล้วเปลี่ยน
  7. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินทุเรียน แล้วจะอ้วน บอกตามตรงนะถ้ามีผลไม้ให้เลือกระหว่าง มะม่วงสุก-แตงโม-ทุเรียน ผมจะเลือกกินทุเรียนเป็นอย่างแรก….เพราะอะไรก็เพราะว่าในปริมาณเท่ากันทุเรียนจะมีฟรุกโตสหรือน้ำตาลที่ได้จากผลไม้น้อยกว่าผลไม้ 2 อย่างที่ยกขึ้นมาเทียบ แต่ต้องบอกและย้ำอีกสักรอบแบบนี้ครับ ผลไม้สำหรับคนลดน้ำหนัก-ลดสัดส่วนไม่ใช่ว่าจะกินไม่ได้ กินได้ทุกอย่างทุกประเภทแต่ขอให้กินพร้อมกับมื้ออาหารในปริมาณ 1 กำปั้นต่อมื้อ ห้ามกินในเวลา Fasting เด็ดขาด จะหมัก-ดอง-อบแห้งก็ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นน้ำเปล่า-ชาเขียวโนครีมโนน้ำตาล-น้ำขิงโนน้ำตาล-น้ำมะนาวบวกน้ำอุ่น-กาแฟดำ อันนี้ตามสะดวก
  8. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินของทอด แล้วจะอ้วน ข้อนี้ก็ไม่เชิงเป็นความเชื่อที่ผิด แต่กินของทอดจะผิดหรือไม่ผิดขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันที่ใช้ และช่วงเวลาในการกิน หากของทอดๆ จากน้ำมันดี ไขมันดี-คุณภาพสูง กินพร้อมกับมื้ออาหารจะไม่ทำให้อ้วน แต่ถ้าเมื่อไหร่ของทอดๆ จากน้ำมันมือ 2 อุณภูมิสูงจนเห็นควัน…ซ้ำยังกินในเวลา Fasting หรือช่วงอดด้วยแล้วถือว่าผิดมหันต์ อ้วนขึ้นแน่นอน-แถมเพื่อนตายหรือร่างกายอาจเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอีกด้วย ต้องระวังเพราะ 1 ชีวิตประกอบไปด้วย จิตใจกับร่างกายหรือเพื่อนตาย ถ้าจิตใจเข้มแข็งแต่เพื่อนตายไม่ไหว 1 ชีวิตก็ไปไม่รอด แต่ถ้าเพื่อนตายแข็งแรงซะอย่าง…จิตใจสามารถเข้มแข็งขึ้นมาได้เอง เชื่อผมดิ!
  9. ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า กินวิตามินเสริมสำเร็จรูป แล้วจะอ้วน พูดตรงๆ ตัววิตามินจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่ไม่ได้พลังงาน ใครยังสงสัยให้กลับไปอ่านในตอนที่ 5 วิธีนับมื้ออาหาร ผมขอขยายความเพิ่มเติมดังนี้ครับ ตัววิตามินเองไม่ทำให้อ้วนแต่ตัวยาหรือสารกระตุนอื่นๆ ที่ผสมมาในอาหารเสริมอาจจะมีส่วนทำให้หิวหรือกินอาหารได้มาก เพราะฉะนั้นเมื่อใครก็ตามที่กำลังกินวิตามินเสริมสำเร็จรูปก็ควรควบคุม-ตระหนักถึงประเภท-ชนิด-คุณภาพ-เวลาและปริมาณของอาหารในแต่ละมื้ออย่างเคร่งครัดนะครับ

สุดท้าย ผมมีสาระดีๆ จากคุณหมอที่พูดถึงน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้และในน้ำผึ้งมาฝาก หลายคนอาจจะมีปัญหาไตรกลีเชอไรด์ในเลือดสูงทั้งๆ ที่ไม่ได้กินอาหารทอดหรืออาหารมัน ถ้าสอบประวัติการกินหากไม่พบสิ่งที่กล่าวมา น้ำตาลฟรุกโตสที่ได้จากผลไม้และน้ำผึ้งนี้แหละคือผู้ร้ายตัวจริง เพราะร่างกายหรือเพื่อนตายสามารถดูดซึมฟรุกโตสจากผลไม้เข้าสู่กระแสเลือดได้สูงถึง 80% เมื่อไอ้หนูอินซูลินนำส่งฟรุกโตสสู่เซลล์ได้ไม่ทัน อันเนื่องมาจากงานที่ทำไม่ได้ขยับเขยื้อนหรือเจ้าตัวไม่ได้ออกกำลังกายก็แล้วแต่ ฟรุกโตสจากผลไม้จะถูกตับอ่อนเปลี่ยนเป็นไตกลีเซอไรด์ในเลือดอัตโนมัติ ยิ่งนวัตกรรมหรือเครื่องประดิษฐ์ในปัจจุบันมีการแยกกาก-แยกน้ำผลไม้พร้อมดื่มได้อีก น้ำผลไม้เพรียวๆ จึงก่อให้เกิดผลเสียในเรื่องนี้มากกว่าจะเกิดผลดี ฉะนั้นหากจะกินผลไม้ให้กินพร้อมกากหรือเนื้อ-อันนี้สำคัญ ไม่ควรซื้อน้ำผลไม้สำเร็จรูปมาดื่มเข้าใจแล้วนะครับ

“ตัวอง….”

“คราวนี้จะแดกเนื้อติดมันกับไข่พะโล้งของแกได้รึยัง”

“ฉันกินข้าวเข้าไปซะเยอะ….ทำไงดีละ โอ้ย!….ไม่น่าเลย ฉันไปล้วงคออ๊วกก่อนนะ”

“หยุดเลย นั่งลง….”

“แต่…”

“เออนะ นั่งลงแล้วกินให้หมด Fast แตก เป็นเรื่องปกติ พรุ่งนี้ค่อยเริ่มต้นใหม่ แต่การไปล้วงคออ๊วกเป็นการสร้างลักษณะนิสัยไม่เหมาะสม หากทำจนเพื่อนตายคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อนาคตชีวิตของแกแย่แน่ๆ”

“แกนะ…”

“กินเข้าไปเถอะ ของดีต้องรู้จักนำเข้าร่าง แล้วเพื่อนตายจะกลับคืนสู่ความเป็นเด็ก-ดูดี เป็นสาว-สวยเร็วขึ้น”

“โอเคร!…ขอบใจมากๆ นะ”

line1 for timmy

(Visited 11 times, 1 visits today)